
ASUS Zenfone Max Pro (M1) สมาร์ทโฟนที่เหมาะกับการเล่นเกมส์ราคาไม่แพง มีให้เลือกซื้อตั้งแต่ราคา 5,990 - 7990 บาท ตามขนาดหน่วยความจำครับ
สำหรับรุ่นเริ่มต้นราคา 5,990 บาท จะมาพร้อมกับ RAM 3 / ROM 32 จะไปถึงราคา 7,990 บาท จะได้ RAM 6 / 32 ทุกรุ่นจะรองรับหน่วยความจำ microSD card ได้สูงถึง 2TB
ประสิทธิภาพการทำงาน
ถึงจะมีหน่วยความจำที่แตกต่างกันออกไป แต่ปัจจัยสำคัญคือ ชิปประมวลผลครับ ทุกรุ่นจะใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกันนั้นคือ Qualcomm Snapdragon 636 Octa Core ความเร็ว : 1.8 GHz และการ์ดจอสำหรับเล่นเกมส์จะเป็น GPU Adreno 509 ชิปประมวลผลชุดนี้ให้ประสิทธิภาพดีมากๆ เหมาะสำหรับนักเล่นเกมส์ที่งบไม่สูงมากนัก ต่ำกว่าหมื่นบาท ชิปตัวนี้จะโดดเด่นเรื่องการใช้พลังงาน กินไฟน้อยมาก สามารถเล่นได้ยาวต่อเนื่อง ตัวเครื่องไม่ร้อน

สำหรับการเล่นเกมส์ เกมส์ ROV ยังสามารถเปิด High FrameRate 60fps ได้ด้วยนะครับ และ PubG ก็เปิด HD ได้ด้วย สำหรับคนชอบเล่นเกมส์ที่งบจำกัด แนะนำเลยตัวนี้ไม่ผิดหวัง เล่นเกมส์ได้ไหลลื่นที่สุดในเรทนี้ และเล่นได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ที่มากกว่า สวรรค์ของนักเล่นเกมส์ที่แท้จริง

สำหรับหน่วยความจำ เริ่มต้นที่ RAM 3 GB จนไปถึง RAM 6GB ถ้าเน้นความประหยัด แรม 3 GB ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานครับ หรือใครต้องการใช้งานเต็มประสิทธิภาพก็จัดตัว แรม 6GB กันไปเลย ไม่ต้องกังวลเวลาเปิดแอพทิ้งไว้หลายๆหน้า
ทดสอบคะแนนผ่าน ANTUTU ถือว่าทำคะแนนได้ดีมากเลย

หน่วยความจำภายใน จะเริ่มจาก 32-64 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำ microSD card ได้สูงถึง 2TB ถาดซิมแบบสามช่องจะแยกการใช้งานชัดเจน

ตัวเครื่องรองรับ Fullnet com / wifi 802.11 b/g/n, WiFi Direct, WiFi hotspot, GPS, Bluetooth 4.2 การจับสัญญาณ GPS จับได้รวดเร็วและเชื่อถือได้

หน้าจอแสดงผลขนาด 5.99 นิ้ว จอ IPS ความละเอียด Full HD+2160×1080 พิกเซล ความสว่างอยู่ที่ 450 nit Contrast Ratio ที่สูงถึง 1500:1 และอัตราส่วน 18:9 ไม่มีรอยแหว่งนะครับ การแสดงผลของหน้าจอทำได้สวยงามทุกมุมมอง กระจกครอบทับแบบ 2.5D เน้นความโค้งมน ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกมส์ จอสวยก็จะช่วยเพิ่มอรรถรสได้เยอะเลย
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ให้มามากถึง 5,000mAh เรื่องระยะเวลาการใช้งานคงไม่ต้องห่วงครับ ใช้งานได้ยาวนานแน่นอน น่าจะเป็นรุ่นที่ใช้งานได้ยาวนานอันดับต้นๆแล้วในเวลานี้ ไม่เพียงแค่การใช้งานยาวนาน เพราะ ASUS Zenfone Max Pro (M1) ยังสามารถแบ่งปันพลังงานให้กับเครื่องอื่นได้อีก หรือใช้เป็นเพาเวอร์แบงค์ชาร์จแบตให้กับเครื่องอื่นได้นั้นเอง โดยการชาร์จผ่านสาย OTG ที่แถมมาให้ในกล่อง ไม่ต้องลงแอพอะไรเพิ่มเติม แค่เสียบสายก็พร้อมปล่อยพลังงานให้แล้ว สะดวกขึ้นไปอีก

เมื่อแบตมีขนาดใหญ่ เรื่องความปลอดภัยก็ต้องมา Zenfone Max Pro (M1) ไม่ได้อัดแค่จำนวนตัวเลขแบตเตอรี่มาให้ดูเยอะเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค สามารถสอบผ่านความปลอดภัย จากมาตรฐานการทดสอบอุตสาหกรรมถึง 12 มาตรฐาน โดยเฉพาะ JEITA Protection มาตรฐานการจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่จากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้ยากที่สุดอีกด้วย
ระบบปฎิบัติการ
ต้องยอมรับว่า Zenfone รุ่นก่อนๆ รอมเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ชอบยัดแอพที่ไม่จำเป็นมาให้หนักเครื่อง แถมบางแอพก็สั่งปิดแช่แข็งไม่ได้
มาถึงยุคใหม่ Zenfone Max Pro (M1) ได้หันมาให้รอมแบบ Pure Android มีความคลีนของระบบมากขึ้น แทบไม่มีอะไรมาครอบทับ ใช้งานได้ไหลลื่นและปลอดภัยมากขึ้น ตัวเครื่องจะมากับ Android 8.1 (Oreo) นะครับ ใช้งานและปรับตั้งค่าต่างๆยึดแอนดรอยส์เป็นหลัก เพราะไม่มีอะไรครอบทับนั้นเอง ผมถือว่า ASUS มาถูกทางแล้ว
กล้องถ่ายรูป
การใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันขาดไม่ได้เลยเรื่องกล้องถ่ายรูป ถึงจะเป็นสายเกมส์แต่การใช้งานกล้องก็สำคัญไม่แพ้โหมดอื่น
กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f2.2 พร้อมไฟแฟลช Softlight LED มีโหมดบิวตี้มาให้ สามารถเลือกปรับเองหรือให้โปรแกรมคำนวณให้เลยก็ได้ครับ ถ้าปรับเองจะสามารถปรับสีผิว และความเนียนของใบหน้าให้
กล้องหลังแบบคู่ Dual Camera แนวตั้ง ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED แบบทรูโทน พอเป็น Pure Android หน้าตา UI หรืออินเตอร์เฟสจะดุโล้นๆนิดนึง การปรับตั้งค่าจะปรับแต่งได้น้อยไป ก้ต้องเข้าใจหล่ะว่าซีรี่ย์นี้เขาไม่เน้นกล้องเท่าไหร่ จะใช้ auto เป็นส่วนมาก การปรับแต่งต่างๆเลยถูกถอดออกไป
หน้าตาเมนูกล้องหลัง
ภาพจากกล้องหลัง Zenfone Max Pro (M1)

ในงบครึ่งหมื่น กล้องที่ถ่ายออกมาก็สวยพอนำไปใช้งานต่างๆได้ครับ
ระบบรักษาความปลอดภัย
รองรับระบบลายนิ้วมือ (Finger Print) และ ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า (Face Detection)

การออกแบบตัวเครื่อง
ตัวเครื่องเป็น unibody วัสดุฝาหลังจะเป็นอลูมิเนี่ยมขึ้นรูปเน้นความโค้งมนส่วนหัวและท้ายจะเป็นพลาสติกเพื่อรับสัญญาณให้ดียิ่งขึ้น งานประกอบถือว่าดีมากๆครับกับเรทราคานี้

ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ยังอยู่ปกตินะครับ
อุปกรณ์ภายในตัวกล่องจะมีดังนี้
ตัวเครื่อง ASUS Zenfone Max Pro (M1)
อแดปเตอร์ รองรับการชาร์จเร็วที่ 10W (5V 2A)
สาย USB
หูฟังและจุ๊ปสำรอง
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
SPEC ASUS Zenfone Max Pro (M1)
หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.99 นิ้ว สัดส่วน 18:9 ความละเอียด FHD+ 2160×1080 พิกเซล ความสว่างอยู่ที่ 450 nit Contrast Ratio ที่สูงถึง 1500:1
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 636 Octa Core ความเร็ว : 1.8 GHz
GPU Adreno 509
RAM 3 - 6 GB
ROM 32 - 64 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำ microSD card ได้สูงถึง 2TB
wifi 802.11 b/g/n, WiFi Direct, WiFi hotspot, GPS, Bluetooth 4.2
Android 8.1 (Oreo)
กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f2.2 พร้อมไฟแฟลช Softlight LED
กล้องหลังแบบคู่ Dual Camera ความละเอียด 13 + 5 ล้านพิกเซล
รองรับระบบลายนิ้วมือ (Finger Print) และ ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า (Face Detection)
แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็วที่ 10W (5V 2A)
ขนาดตัวเครื่อง 159 × 76 × 8.46 มม. น้ำหนัก 180 กรัม
ราคาเปิดตัว 5,990 - 7,990 บาท
สรุป
ASUS Zenfone Max Pro (M1) วางขายออกมาซักระยะแล้วนะครับ เสียงตอบรับดีมากๆ ช่วงแรกๆของขาดตลาดไปพักหนึ่งทุกวันนี้ก็ยังขายดีเช่นกัน ด้วยสเปคที่ให้มาคุ้มมากเมื่อเทียบกับค่าตัว
ชิปประมวลผลรองรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมส์ได้ดี จอคุณภาพดีเมื่อเทียบกับราคา และสำคัญสุดคือแบตอึดมาก ก็ให้มาตั้ง 5,000mAh
งบจำกัดจัดแรม 3 GB ก็เพียงพอสำหรับการใช้งาน ถ้างบเยอะหน่อยค่อยจัด แรม 6 GB
ราคานี้ยังไงก็คุ้ม
*** อยากได้มือถือเล่นเกมส์ราคาประหยัดจัดไปไม่ผิดหวัง
ข้อพิจารณา
ไม่รองรับ wifi 5.0GHz / กล้องหน้ายังไม่ดีเท่าที่ควร
[SR] รีวิว สมาร์ทโฟนเล่นเกมส์ราคาสุดคุ้ม ASUS Zenfone Max Pro (M1)
ASUS Zenfone Max Pro (M1) สมาร์ทโฟนที่เหมาะกับการเล่นเกมส์ราคาไม่แพง มีให้เลือกซื้อตั้งแต่ราคา 5,990 - 7990 บาท ตามขนาดหน่วยความจำครับ
สำหรับรุ่นเริ่มต้นราคา 5,990 บาท จะมาพร้อมกับ RAM 3 / ROM 32 จะไปถึงราคา 7,990 บาท จะได้ RAM 6 / 32 ทุกรุ่นจะรองรับหน่วยความจำ microSD card ได้สูงถึง 2TB
ถึงจะมีหน่วยความจำที่แตกต่างกันออกไป แต่ปัจจัยสำคัญคือ ชิปประมวลผลครับ ทุกรุ่นจะใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกันนั้นคือ Qualcomm Snapdragon 636 Octa Core ความเร็ว : 1.8 GHz และการ์ดจอสำหรับเล่นเกมส์จะเป็น GPU Adreno 509 ชิปประมวลผลชุดนี้ให้ประสิทธิภาพดีมากๆ เหมาะสำหรับนักเล่นเกมส์ที่งบไม่สูงมากนัก ต่ำกว่าหมื่นบาท ชิปตัวนี้จะโดดเด่นเรื่องการใช้พลังงาน กินไฟน้อยมาก สามารถเล่นได้ยาวต่อเนื่อง ตัวเครื่องไม่ร้อน
สำหรับการเล่นเกมส์ เกมส์ ROV ยังสามารถเปิด High FrameRate 60fps ได้ด้วยนะครับ และ PubG ก็เปิด HD ได้ด้วย สำหรับคนชอบเล่นเกมส์ที่งบจำกัด แนะนำเลยตัวนี้ไม่ผิดหวัง เล่นเกมส์ได้ไหลลื่นที่สุดในเรทนี้ และเล่นได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ที่มากกว่า สวรรค์ของนักเล่นเกมส์ที่แท้จริง
สำหรับหน่วยความจำ เริ่มต้นที่ RAM 3 GB จนไปถึง RAM 6GB ถ้าเน้นความประหยัด แรม 3 GB ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานครับ หรือใครต้องการใช้งานเต็มประสิทธิภาพก็จัดตัว แรม 6GB กันไปเลย ไม่ต้องกังวลเวลาเปิดแอพทิ้งไว้หลายๆหน้า
ทดสอบคะแนนผ่าน ANTUTU ถือว่าทำคะแนนได้ดีมากเลย
หน่วยความจำภายใน จะเริ่มจาก 32-64 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำ microSD card ได้สูงถึง 2TB ถาดซิมแบบสามช่องจะแยกการใช้งานชัดเจน
ตัวเครื่องรองรับ Fullnet com / wifi 802.11 b/g/n, WiFi Direct, WiFi hotspot, GPS, Bluetooth 4.2 การจับสัญญาณ GPS จับได้รวดเร็วและเชื่อถือได้
หน้าจอแสดงผลขนาด 5.99 นิ้ว จอ IPS ความละเอียด Full HD+2160×1080 พิกเซล ความสว่างอยู่ที่ 450 nit Contrast Ratio ที่สูงถึง 1500:1 และอัตราส่วน 18:9 ไม่มีรอยแหว่งนะครับ การแสดงผลของหน้าจอทำได้สวยงามทุกมุมมอง กระจกครอบทับแบบ 2.5D เน้นความโค้งมน ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกมส์ จอสวยก็จะช่วยเพิ่มอรรถรสได้เยอะเลย
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ให้มามากถึง 5,000mAh เรื่องระยะเวลาการใช้งานคงไม่ต้องห่วงครับ ใช้งานได้ยาวนานแน่นอน น่าจะเป็นรุ่นที่ใช้งานได้ยาวนานอันดับต้นๆแล้วในเวลานี้ ไม่เพียงแค่การใช้งานยาวนาน เพราะ ASUS Zenfone Max Pro (M1) ยังสามารถแบ่งปันพลังงานให้กับเครื่องอื่นได้อีก หรือใช้เป็นเพาเวอร์แบงค์ชาร์จแบตให้กับเครื่องอื่นได้นั้นเอง โดยการชาร์จผ่านสาย OTG ที่แถมมาให้ในกล่อง ไม่ต้องลงแอพอะไรเพิ่มเติม แค่เสียบสายก็พร้อมปล่อยพลังงานให้แล้ว สะดวกขึ้นไปอีก
เมื่อแบตมีขนาดใหญ่ เรื่องความปลอดภัยก็ต้องมา Zenfone Max Pro (M1) ไม่ได้อัดแค่จำนวนตัวเลขแบตเตอรี่มาให้ดูเยอะเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค สามารถสอบผ่านความปลอดภัย จากมาตรฐานการทดสอบอุตสาหกรรมถึง 12 มาตรฐาน โดยเฉพาะ JEITA Protection มาตรฐานการจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่จากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้ยากที่สุดอีกด้วย
ต้องยอมรับว่า Zenfone รุ่นก่อนๆ รอมเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ชอบยัดแอพที่ไม่จำเป็นมาให้หนักเครื่อง แถมบางแอพก็สั่งปิดแช่แข็งไม่ได้
มาถึงยุคใหม่ Zenfone Max Pro (M1) ได้หันมาให้รอมแบบ Pure Android มีความคลีนของระบบมากขึ้น แทบไม่มีอะไรมาครอบทับ ใช้งานได้ไหลลื่นและปลอดภัยมากขึ้น ตัวเครื่องจะมากับ Android 8.1 (Oreo) นะครับ ใช้งานและปรับตั้งค่าต่างๆยึดแอนดรอยส์เป็นหลัก เพราะไม่มีอะไรครอบทับนั้นเอง ผมถือว่า ASUS มาถูกทางแล้ว
การใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันขาดไม่ได้เลยเรื่องกล้องถ่ายรูป ถึงจะเป็นสายเกมส์แต่การใช้งานกล้องก็สำคัญไม่แพ้โหมดอื่น
กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f2.2 พร้อมไฟแฟลช Softlight LED มีโหมดบิวตี้มาให้ สามารถเลือกปรับเองหรือให้โปรแกรมคำนวณให้เลยก็ได้ครับ ถ้าปรับเองจะสามารถปรับสีผิว และความเนียนของใบหน้าให้
กล้องหลังแบบคู่ Dual Camera แนวตั้ง ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED แบบทรูโทน พอเป็น Pure Android หน้าตา UI หรืออินเตอร์เฟสจะดุโล้นๆนิดนึง การปรับตั้งค่าจะปรับแต่งได้น้อยไป ก้ต้องเข้าใจหล่ะว่าซีรี่ย์นี้เขาไม่เน้นกล้องเท่าไหร่ จะใช้ auto เป็นส่วนมาก การปรับแต่งต่างๆเลยถูกถอดออกไป
หน้าตาเมนูกล้องหลัง
ภาพจากกล้องหลัง Zenfone Max Pro (M1)
ในงบครึ่งหมื่น กล้องที่ถ่ายออกมาก็สวยพอนำไปใช้งานต่างๆได้ครับ
ระบบรักษาความปลอดภัย
รองรับระบบลายนิ้วมือ (Finger Print) และ ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า (Face Detection)
การออกแบบตัวเครื่อง
ตัวเครื่องเป็น unibody วัสดุฝาหลังจะเป็นอลูมิเนี่ยมขึ้นรูปเน้นความโค้งมนส่วนหัวและท้ายจะเป็นพลาสติกเพื่อรับสัญญาณให้ดียิ่งขึ้น งานประกอบถือว่าดีมากๆครับกับเรทราคานี้
ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ยังอยู่ปกตินะครับ
ตัวเครื่อง ASUS Zenfone Max Pro (M1)
อแดปเตอร์ รองรับการชาร์จเร็วที่ 10W (5V 2A)
สาย USB
หูฟังและจุ๊ปสำรอง
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.99 นิ้ว สัดส่วน 18:9 ความละเอียด FHD+ 2160×1080 พิกเซล ความสว่างอยู่ที่ 450 nit Contrast Ratio ที่สูงถึง 1500:1
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 636 Octa Core ความเร็ว : 1.8 GHz
GPU Adreno 509
RAM 3 - 6 GB
ROM 32 - 64 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำ microSD card ได้สูงถึง 2TB
wifi 802.11 b/g/n, WiFi Direct, WiFi hotspot, GPS, Bluetooth 4.2
Android 8.1 (Oreo)
กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f2.2 พร้อมไฟแฟลช Softlight LED
กล้องหลังแบบคู่ Dual Camera ความละเอียด 13 + 5 ล้านพิกเซล
รองรับระบบลายนิ้วมือ (Finger Print) และ ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า (Face Detection)
แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็วที่ 10W (5V 2A)
ขนาดตัวเครื่อง 159 × 76 × 8.46 มม. น้ำหนัก 180 กรัม
ราคาเปิดตัว 5,990 - 7,990 บาท
สรุป
ASUS Zenfone Max Pro (M1) วางขายออกมาซักระยะแล้วนะครับ เสียงตอบรับดีมากๆ ช่วงแรกๆของขาดตลาดไปพักหนึ่งทุกวันนี้ก็ยังขายดีเช่นกัน ด้วยสเปคที่ให้มาคุ้มมากเมื่อเทียบกับค่าตัว
ชิปประมวลผลรองรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมส์ได้ดี จอคุณภาพดีเมื่อเทียบกับราคา และสำคัญสุดคือแบตอึดมาก ก็ให้มาตั้ง 5,000mAh
งบจำกัดจัดแรม 3 GB ก็เพียงพอสำหรับการใช้งาน ถ้างบเยอะหน่อยค่อยจัด แรม 6 GB
ราคานี้ยังไงก็คุ้ม
*** อยากได้มือถือเล่นเกมส์ราคาประหยัดจัดไปไม่ผิดหวัง
ข้อพิจารณา
ไม่รองรับ wifi 5.0GHz / กล้องหน้ายังไม่ดีเท่าที่ควร
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้