#หนังKewlๆ
American History X
Director:Tony Kaye
เนื้อเรื่อง/การนำเสนอ...5/5
เดเรค (Edward Norton) หัวหน้าใหญ่แห่งแก๊ง neo-Nazi ผู้รับความคิดว่าชนชาติตนเองนั้นยิ่งใหญ่เหนือใครมาจากอดอล์ฟ ฮิตเลอร์แทบจะโดยตรง
และแน่นอนเขามองชนชาติอื่นๆต่ำต้อยด้อยค่ากว่ามากโดยเฉพาะพวกผิวสี ทั้งเรื่องที่อยู่ หรือ แย่งงานจากพวกผิวขาว หรือจะเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องไม่ดีก็โทษพวก

ให้หมดนั่นล่ะ...
ดีเรค ไม่มีท่าทีประณีประนอมแต่อย่างใด เขาตอบโต้และนำการต่อต้านพวกนี้อย่างสุดโต่ง จนกลายเป็นวีรบุรุษของกลุ่มก็ไม่ปาน โดยรวมไปถึงน้องชายของเขาอย่าง แดนนี่(Edward Furlong) ด้วย ซึ่งเขามองพี่ชายของเขาดั่งไอดอล เเละยังมีคาเมรอน(Stacy Keach )นักเขียนที่ชอบเสี้ยมความเกลียดชังนี้อยู่เบื้องหลัง
วันนึงจุดเปลี่ยนของชีวิตก็มาถึง เมื่อเดเรคเกิดฆ่าหนึ่งในพวกแก๊งผิวสีตาย(และ

โหดสัสติดตามาก) เป็นเหตุให้ต้องกระเด็นเข้าคุกไปโดยมีพวกผิวสีอยู่เพียบ และเมื่อรอดคุกออกมา เดเรค ก็ต้องหาทางทำทุกอย่างให้น้องชายของเขาเลิกยุ่งกับ neo-Nazi เพราะเขาได้บรรลุอย่างสุดลิ่มประตูแล้วในคุกนั่นเอง
การนำเสนอเรื่องราวจะสลับไปมาระหว่างปัจจุบันกับอดีตผ่านมุมมองของ แดนนี่ และ เดเรค ซึ่งคนดูก็สามารถประติดประต่อเรื่องราวได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้ภาพขาวดำในฉากที่เป็นอดีต ซึ่งทำออกมาได้ดีและไม่น่าเบื่อทั้งสองเส้นเรื่อง
จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือเนื้อหาที่หนักแน่นมาก ๆ หนังสอนให้เราไม่ได้มองเหรียญเพียงด้านเดียว และการกระทำทุกอย่างย่อมมีผลลัพธ์ทั้งหมด
บท...5/5
หนังเล่นเรื่องการเหยียดผิว และเหตุการ์บ้านเมืองในอเมริกาอย่างถึงพริกถึงขิงในบทพูด ซึ่งประเด็นที่นำเสนอผ่านหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และยากมากในการทำหนังออกมาให้สมดุลที่สุด เพราะไม่ว่าจะเอนเอียงไปฝั่งใดก็ตาม
หนังเรื่องนี้คงไม่ได้ขึ้นหิ้งจนถึงวันนี้...
.
บทพูดของเดเรคกับแดนนี่ สมจริงมากๆ เป็นพี่น้องที่รักกันจริงๆ และกระจายบทได้ทั่วถึง
.
ตัวหนังโดดเด่นอีกอย่างคือแง่คิดในในหนังที่ไม่ได้ยัดเยียดให้คนดู แต่ค่อยๆใช้สถานการณ์บิ้วอารมณ์ของคนดู และอัดเราด้วยบทพูดที่จุกมาก เชื่อว่าหลายๆคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
นักแสดง...5/5
Edward Norton รับบท Derek Vinyard เรียกว่าเป็นหนึ่งในหนังมาสเตอร์พีชของเจ้าตัวจริงๆ เรื่องนี้เฮียโคตรเท่และหล่อมากจริงๆ (เห็นไม่ค่อยบ่อยนะ) และการแสดงที่ทรงพลังเอาอยู่ทุกสถานการณ์ สีหน้าท่าทางก่อนเข้าคุก และออกจากคุกนี่คนละคนเลย ทำให้เราเชื่อจริงๆว่าเรากำลังดูชีวิตของ
เดเรคอยู่จริงๆ
.
Edward Furlong รับบท Danny Vinyard
น้องจอน คอนเนอร์สมัยยังหล่อ เป็นช่วงก่อนโต ซึ่งนับว่าดีแล้ว น่าตกใจที่นักแสดงฝีมือจัดจ้านหาตัวจับยากในวงการถึงได้ตกต่ำได้ขนาดนี้ในปัจจุบัน เพราะแสดงได้ดีมากๆ เรียกว่าทุกคนในเรื่องเล่นสมบทบาทกันหมดและเป็นธรรมชาติมากๆ
สรุป...5/5
ตัวหนังนำเสนอความคลั่งลัทธินาซี เหยียดคนผิวสี มันมีที่มาที่ไปที่สามารถสะท้อนสังคมอเมริกันสมัยนั้น หนังเล่าเรื่องผ่านความคิดของคนผิวขาวที่ให้เหตุผลของการเกิดลัทธินี้ขึ้นมาว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร และยังพาเราดูความคิดของคนผิวดำด้วย ซึ่งเป็นทางออกที่ดีมากๆในการทำหนังแบบนี้ มันส่งเสริมให้คนดูอย่างเราไม่มองสิ่งใดเพียงด้านเดียว เพราะบางครั้งการที่เราอยากรู้ว่าคนนั้นเป็นยังไง เราก็ต้องลองมองในมุมของเขาดูบ้าง
.
อีกทั้งการแสดงระดับพระกาฬของทุกคนในเรื่องและบทพูดที่แซ่บสุดในสามโลกมันส่งเสริมให้หนังเรื่องนี้ไปได้สุดในทางของตนเองจริงๆครับ

"Has anything you've done made your life better?"
-Dr. Bob Sweeney-
American history x(1998)
สามารถติดตามเเฟนเพจได้ที่ :
https://www.facebook.com/KewlEntertain/ ขอบคุณมากๆครับ
[CR] หนังKewlๆ : American History X
American History X
Director:Tony Kaye
เนื้อเรื่อง/การนำเสนอ...5/5
เดเรค (Edward Norton) หัวหน้าใหญ่แห่งแก๊ง neo-Nazi ผู้รับความคิดว่าชนชาติตนเองนั้นยิ่งใหญ่เหนือใครมาจากอดอล์ฟ ฮิตเลอร์แทบจะโดยตรง
และแน่นอนเขามองชนชาติอื่นๆต่ำต้อยด้อยค่ากว่ามากโดยเฉพาะพวกผิวสี ทั้งเรื่องที่อยู่ หรือ แย่งงานจากพวกผิวขาว หรือจะเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องไม่ดีก็โทษพวก
ดีเรค ไม่มีท่าทีประณีประนอมแต่อย่างใด เขาตอบโต้และนำการต่อต้านพวกนี้อย่างสุดโต่ง จนกลายเป็นวีรบุรุษของกลุ่มก็ไม่ปาน โดยรวมไปถึงน้องชายของเขาอย่าง แดนนี่(Edward Furlong) ด้วย ซึ่งเขามองพี่ชายของเขาดั่งไอดอล เเละยังมีคาเมรอน(Stacy Keach )นักเขียนที่ชอบเสี้ยมความเกลียดชังนี้อยู่เบื้องหลัง
วันนึงจุดเปลี่ยนของชีวิตก็มาถึง เมื่อเดเรคเกิดฆ่าหนึ่งในพวกแก๊งผิวสีตาย(และ
การนำเสนอเรื่องราวจะสลับไปมาระหว่างปัจจุบันกับอดีตผ่านมุมมองของ แดนนี่ และ เดเรค ซึ่งคนดูก็สามารถประติดประต่อเรื่องราวได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้ภาพขาวดำในฉากที่เป็นอดีต ซึ่งทำออกมาได้ดีและไม่น่าเบื่อทั้งสองเส้นเรื่อง
จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือเนื้อหาที่หนักแน่นมาก ๆ หนังสอนให้เราไม่ได้มองเหรียญเพียงด้านเดียว และการกระทำทุกอย่างย่อมมีผลลัพธ์ทั้งหมด
บท...5/5
หนังเล่นเรื่องการเหยียดผิว และเหตุการ์บ้านเมืองในอเมริกาอย่างถึงพริกถึงขิงในบทพูด ซึ่งประเด็นที่นำเสนอผ่านหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และยากมากในการทำหนังออกมาให้สมดุลที่สุด เพราะไม่ว่าจะเอนเอียงไปฝั่งใดก็ตาม
หนังเรื่องนี้คงไม่ได้ขึ้นหิ้งจนถึงวันนี้...
.
บทพูดของเดเรคกับแดนนี่ สมจริงมากๆ เป็นพี่น้องที่รักกันจริงๆ และกระจายบทได้ทั่วถึง
.
ตัวหนังโดดเด่นอีกอย่างคือแง่คิดในในหนังที่ไม่ได้ยัดเยียดให้คนดู แต่ค่อยๆใช้สถานการณ์บิ้วอารมณ์ของคนดู และอัดเราด้วยบทพูดที่จุกมาก เชื่อว่าหลายๆคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
นักแสดง...5/5
Edward Norton รับบท Derek Vinyard เรียกว่าเป็นหนึ่งในหนังมาสเตอร์พีชของเจ้าตัวจริงๆ เรื่องนี้เฮียโคตรเท่และหล่อมากจริงๆ (เห็นไม่ค่อยบ่อยนะ) และการแสดงที่ทรงพลังเอาอยู่ทุกสถานการณ์ สีหน้าท่าทางก่อนเข้าคุก และออกจากคุกนี่คนละคนเลย ทำให้เราเชื่อจริงๆว่าเรากำลังดูชีวิตของ
เดเรคอยู่จริงๆ
.
Edward Furlong รับบท Danny Vinyard
น้องจอน คอนเนอร์สมัยยังหล่อ เป็นช่วงก่อนโต ซึ่งนับว่าดีแล้ว น่าตกใจที่นักแสดงฝีมือจัดจ้านหาตัวจับยากในวงการถึงได้ตกต่ำได้ขนาดนี้ในปัจจุบัน เพราะแสดงได้ดีมากๆ เรียกว่าทุกคนในเรื่องเล่นสมบทบาทกันหมดและเป็นธรรมชาติมากๆ
สรุป...5/5
ตัวหนังนำเสนอความคลั่งลัทธินาซี เหยียดคนผิวสี มันมีที่มาที่ไปที่สามารถสะท้อนสังคมอเมริกันสมัยนั้น หนังเล่าเรื่องผ่านความคิดของคนผิวขาวที่ให้เหตุผลของการเกิดลัทธินี้ขึ้นมาว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร และยังพาเราดูความคิดของคนผิวดำด้วย ซึ่งเป็นทางออกที่ดีมากๆในการทำหนังแบบนี้ มันส่งเสริมให้คนดูอย่างเราไม่มองสิ่งใดเพียงด้านเดียว เพราะบางครั้งการที่เราอยากรู้ว่าคนนั้นเป็นยังไง เราก็ต้องลองมองในมุมของเขาดูบ้าง
.
อีกทั้งการแสดงระดับพระกาฬของทุกคนในเรื่องและบทพูดที่แซ่บสุดในสามโลกมันส่งเสริมให้หนังเรื่องนี้ไปได้สุดในทางของตนเองจริงๆครับ
"Has anything you've done made your life better?"
-Dr. Bob Sweeney-
American history x(1998)
สามารถติดตามเเฟนเพจได้ที่ : https://www.facebook.com/KewlEntertain/ ขอบคุณมากๆครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้