[CR] 10 สุดยอดทะเลหมอกในเมืองไทย

กระทู้รีวิว

ภาพถ่ายทิวทัศน์ เที่ยวไทย เที่ยวภูเขา ภาพถ่าย บันทึกนักเดินทาง

จากประสบการณ์กว่า 6 ปี ที่เราได้เดินทางเพื่อท่องเที่ยวถ่ายภาพ โดยเฉพาะภาพถ่ายแนวแลนด์สเคป(Landscape) ซึ่งเรามีความชื่นชอบมากที่สุด จะว่าเราเป็นสายแลนด์ มันก็ใช่เลยล่ะ แต่ว่าสายอื่นๆก็พอได้นะ 555 ด้วยความชื่นชอบจนเข้าสู่โหมดความหลงใหล เราจึงได้เดินทางไปในหลายจุดหมายปลายทาง เพื่อเก็บภาพถ่ายสายแลนด์ตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในประเทศไทยของเรา ทำให้เราได้เห็นกับตาตัวเองว่า เมืองไทยของเรา ช่างสวยงามเหลือเกิน

โดยสายแลนด์ด้วยกันจะรู้ดีว่า การถ่ายภาพแลนด์สเคปนั้น ปัจจัยหลักๆกว่า 99% เพื่อจะให้ได้ภาพตามที่เราต้องการหรือจินตนาการไว้นั้น คือธรรมชาติ เหมือนดังที่มีกูรูท่านนึงเคยพูดเป็นวลีเด็ดไว้ว่า “ การถ่ายภาพแลนด์สเคปนั้น ธรรมชาติถือหุ้น 99%” เป็นจริงดังว่าเลยล่ะ 555

ดังนั้นกว่าที่เราจะได้ภาพถ่ายแลนด์สเคปดีๆซักใบ เราต้องอาศัยความอดทน ความพยายาม การรู้จักและเข้าใจธรรมชาติ การรู้จักค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาพพื้นที่ จุดถ่ายภาพ ฤดูกาล ทิศทางของแสง เวลาพระอาทิตย์ขึ้น-ตก และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผล และวางแผนการเดินทางเพื่อไปเก็บภาพถ่ายตามที่เราต้องการ และข้อสุดท้ายคือเราต้องอาศัยโชคช่วย(ทำบุญเยอะๆ)

อันนี้เรื่องจริงจ้า 555 เพราะบางทีการที่เราวางแผนไว้เป็นอย่างดี แต่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่กลับมีฝนหลงฤดูมาให้ซะงั้น นกมาเยือนสิจ๊ะ 555

เราจึงต้องอาศัยความพยายามไปที่เดิมซ้ำๆ ไปให้ถูกที่ ถูกเวลา แล้วภาพถ่ายใบนั้นจะเป็นของเรา เพี้ยนแช๊ะ

เย้ๆๆๆ นี่ล่ะ...คือเสน่ห์ของการถ่ายภาพแลนด์สเคป และที่ดีมากๆอีกอย่างก็คือเราจะได้เห็นแต่ละสถานที่ในช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด ด้วยตาของเราเอง นานาเยี่ยม

เพราะเรามาทำหน้าที่เก็บภาพที่สวยงามนั้น ไปให้อีกหลายๆคนที่ยังไม่มีโอกาสได้มาเห็นเหมือนเราได้ชมความสวยงามของธรรมชาติผ่านเลนส์ของเรา “ยิ่งถ่ายแลนด์ ยิ่งรักธรรมชาติ” เป็นเช่นนั้น ออเจ้า 555 พาพันอยากรู้

โม้น้ำลายแตกฟองอีกแล้ว มาเข้าเรื่องกันซักทีเนอะ คือจากประสบการณ์ที่เราได้โม้เอาไว้นั่นล่ะ เราจึงรวบรวมสถานที่ที่เราได้มีโอกาสไปเก็บภาพทะเลหมอกในเมืองไทยเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี และนำมาสรุปเป็น 10 สถานที่ที่ถือได้ว่าเป็น 10 สุดยอดทะเลหมอกในเมืองไทย
ในใจดวงน้อยๆของเรา

มาให้เพื่อนๆได้ชมกันจ้า ซึ่งทุกสถานที่นั้นเราไปซ้ำมาแล้วมากกว่า 1 ครั้ง และบางที่เราก็ไปซ้ำแบบนับครั้งไม่ถ้วนเลยก็มีนะจ๊ะ บางครั้งก็นก บางครั้งก็แห้ว และก็มีครั้งที่สมหวัง ชีวิตก็เป็นแบบนี้ล่ะเนอะ เอาล่ะจ้า ได้เวลานำเสนอ 10 สุดยอดทะเลหมอกในเมืองไทย เชิญรับชมได้แล้วจ้า... ออกทะเล

อันดับ 10. ดอยแม่สลอง ตั้งอยู่ ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง เป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวจีนฮ่อ แห่งกองพล 93 ที่ตั้งหลักแหล่งบนดอยแห่งนี้มานาน ปัจจุบันชุมชนชาวจีนบนดอยแม่สลอง มีชื่อว่า หมู่บ้านสันติคีรี ตั้งอยู่ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล เฉลี่ย 1,200 ม. มีทัศนียภาพที่สวยงามและอากาศ เย็นสบายตลอดปี รายได้หลักมาจากการปลูกชาอู่หลง โดยในหน้าฝนจะมีหมอกฝนสีขาวที่ลอยอยู่ตามหุบเขา ตัดกับไร่ชาสีเขียวขั้นบันได เป็นภาพที่สดชื่นและสวยงาม และยังสามารถชิมชารสดีที่มีชื่อเสียงของดอยแม่สลองพร้อมกับชมวิวหมอกหน้าฝนที่สวยงาม เป็นความประทับใจที่มิรู้ลืมเลยจริงๆ ช่วงชมหมอกหน้าฝนคือระหว่างเดือนมิ.ย. ถึง ก.ย.
พิกัด GPS 20.160649286237316,99.65095281600952

อันดับ 9. จุดชมวิวดอยกิ่วลม อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศอันร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่ได้ชื่อว่ามีทะเลหมอกที่งดงามยิ่งและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย จุดชมวิวบริเวณ ห้วยน้ำดัง ในส่วนดอยกิ่วลม ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง อยู่บริเวณที่ทำการอุทยาน เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก สามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาว สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้ ช่วงชมทะเลหมอกคือระหว่างเดือน ธ.ค. ถึง ก.พ.
พิกัด GPS 19.314059385459462,98.60409736633301

อันดับ 8. วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน อยู่ในเขต อ.เมือง เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่สวยงาม สามารถมองเห็นสนามบินแม่ฮ่องสอน ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และบริเวณพระธาตุดอยกองมู เป็นปูชนียสถาน ประกอบด้วย พระธาตุเจดีย์ ศิลปะไทใหญ่-พม่า จำนวน 2 องค์
* องค์ที่ 1 สร้างในปี พ.ศ. 2403 คหบดีชื่อ จองต่องสู่ ได้สร้างพระเจดีย์องค์ใหญ่ ซึ่งบรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะ พระอัครสาวกเบื้องซ้าย ซึ่งนำมาจากเมืองมะละแหม่ง ประเทศพม่า
* องค์ที่ 2 สร้างในปีพ.ศ. 2417 พญาสิงหนาทราชา เจ้าผู้ ครองแม่ฮ่องสอนคนแรก ได้สร้างพระธาตุเจดีย์องค์เล็ก บรรจุพระธาตุของพระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวา ซึ่งนำมาจากเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
โดยคำว่า "กองมู" เป็นภาษาไทใหญ่แปลว่า "พระเจดีย์"
ช่วงชมทะเลหมอกคือระหว่างเดือน ธ.ค. ถึง ก.พ.
พิกัด GPS 19.300126770960894,97.96053886413574

อันดับ 7. ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตรโดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่นด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ยอดภูชี้ฟ้ามีลักษณะเป็นผาที่มีแหลมยื่นขึ้นไปบนฟ้าจึงเรียกว่า ภูชี้ฟ้า โดยมองเห็นภูเขาชี้ขึ้นไปบนฟ้าที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงทำมุม 45 องศา ซึ่งด้านบนมีพื้นที่ราบให้เดินเที่ยวชมประมาณ 1 กิโลเมตร ด้านหน้าเป็นหน้าผาสูงมองเห็นหมู่บ้านเชียงตองในประเทศลาว ช่วงชมทะเลหมอกคือระหว่างเดือน ธ.ค. ถึง ก.พ.
พิกัด GPS 19.8505892,100.44784879999997

อันดับ 6. กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ จุดชมวิวทะเลหมอกยามเช้าคือกิ่วแม่ปาน ช่วงชมทะเลหมอกคือระหว่างเดือน ธ.ค. ถึง ก.พ.
พิกัด GPS 18.5767944,98.4825085

อันดับ 5. เขาค้อ ตั้งอยู่ที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ สูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 155 เมตร จนถึง จุดสูงสุด 1,593 เมตร โดยจุดชมทะเลหมอกบริเวณเขาค้อคือจุดชมวิวต่างๆรอบอ่างเก็บน้ำรัตนัย และจุดชมวิวทะเลหมอกเขาตะเคียนโงะ ช่วงชมทะเลหมอกคือระหว่างเดือน ธ.ค. ถึง ก.พ.
พิกัด GPS 16.6716796,101.1299282

อันดับ 4. ดอยอ่างขาง อยู่ในเขตหมู่บ้านคุ้ม หมู่ที่ 5 อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,400 เมตร คำว่า “อ่างขาง” ในภาษาเหนือ หมายถึง อ่างรูปสี่เหลี่ยมตามลักษณะของ ดอยอ่างขาง จุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่สวยงามคือ จุดชมวิวม่อนสน บริเวณสวนสตรอเบอรี่ และบริเวณด้านหน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ในช่วง ธ.ค. ถึง ม.ค. จะได้เห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งทั่วทั้งดอยอีกด้วย ช่วงชมทะเลหมอกคือระหว่างเดือน พ.ย. ถึง ก.พ.
พิกัด GPS 19.8471742,99.11241389999998

อันดับ 3. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) ตั้งอยู่ในตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ สะวันนาเมืองไทยพร้อมต้อนรับทุกคนด้วยทัศนียภาพสุดตระการตา โดยเฉพาะในยามเช้าตรู่ เมื่อแสงสีทองค่อย ๆ สาดส่องที่ยอดไม้ ระบายสีสันภายในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) ได้งดงามจับตายิ่งนัก โดยจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าคือศาลาดุสิตา โดยสามารถเดินทางเข้าไปได้โดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ช่วงชมทะเลหมอกคือระหว่างเดือน ธ.ค. ถึง ก.พ.
พิกัด GPS 16.595215,100.95381569999995

อันดับ 2. ดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ที่บ้านผาตั้ง หมู่ที่ 14 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,635 เมตร ห่างจาก ภูชี้ฟ้าประมาณ 35 กม. เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่ง ของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน อยู่ที่ดอยผาตั้งเช่นเดียวกับที่ดอยแม่สลอง ลักษณะเป็นสันเขาคดเคี้ยวมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามจับตา ความสวยงามที่เป็นลักษณะเฉพาะ ของดอยผาตั้ง ถือเป็นจุดชมทะเลหมอกที่งดงามและอลังการในยามเช้า โดยสามารถมองเห็นทะเลหมอก 180 องศาโดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนสวยงามในฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งในช่วงเดือน ธ.ค. ถึง ก.พ. โดยเฉพาะในช่วงกลางเดือน ม.ค. อาจมีโอกาสได้เห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งทั่วทั้งดอยอีกด้วย ช่วงชมทะเลหมอกบนดอยผาตั้งคือระหว่างเดือน พ.ย. ถึง ก.พ.
พิกัด GPS 19.9964005,100.46213660000001

อันดับ 1. ภูทอก อ.เชียงคาน จ.เลย

ภูทอกเป็นภูเขาที่อยู่ในอำเภอเชียงคาน หลังจากเดินเที่ยวชมถนนคนเดินเชียงคานในยามค่ำคืน ในช่วงเช้าตรู่เรายังสามารถขึ้นไปชมทะเลหมอกได้อีกด้วย โดยขับรถไปจอด บริเวณเชิงเขาของภูทอก และต่อจากนั้นจะมีรถบริการขึ้นภูทอกค่าโดยสารคนละประมาณ 50 บาทเวลาในการชมทะเลหมอกยามเช้าคือตีห้าถึง 6 โมงเช้า ในเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคมของทุกปี
จุดเด่นและความสวยงามของทะเลหมอกยามเช้าที่ภูทอกคือเราสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ 360 องศาและมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นมาจากเหลี่ยมเขา ท่ามกลางทะเลหมอกที่อยู่ล้อมรอบโดยมีฉากหลังเป็นทิวเขาที่สวยงามและยังสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงและฝั่งประเทศลาวได้อีกด้วย
พิกัด GPS 17.8759173,101.6271544

ครบ 10 อันดับแล้วนะจ๊ะ เรามีภาพถ่ายทะเลหมอกที่สวยงามจากทั้ง 10 สถานที่ให้ชมอีกมากมายเลยจ้า เพี้ยนแว๊น