Omiya Bonsai village


          ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่น คือช่วงปลายเดือน พ.ย. ของทุกปี  ทริปนี้เราไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในปี 2016 เนื่องจากทริปนี้คนที่ไปด้วยชอบบอนไซมากก  ขอไปดูบอนไซที่หมู่บ้านบอนไซของ ญี่ปุ่น  แต่พอหาดูรีวิวไม่ค่อยจะมีคนไป  จึงขอมาเขียนรีวิวเผื่อมีคนสนใจบอนไซหรือคนที่อยากเที่ยวเมืองเล็กๆ สงบๆ ใกล้โตเกียวกันมากขึ้นค่ะ
          เริ่มจากเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ  เดิมกรุงโตเกียวเป็นศูนย์กลางของการเพาะพันธ์บอนไซ แต่เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้น จึงได้มีการย้ายแหล่งเพาะพันธ์บอนไซออกจากโตเกียว มาที่เมือง Omiya แห่งนี้ ซึ่งที่นี่เหมาะแก่การอนุบาลบอนไซ เพราะทั้งอากาศ น้ำ มีคุณภาพเหมาะแก่การฟูมฟักบอนไซมากกก  อันนี้ฟังจากที่เค้าบรรยายอีกที  
          การเดินทางมาที่ Bonsai village แห่งนี้เดินทางมาไม่ยาก  สามารถนั่งรถไฟสาย JR จาก Ueno เรามาลงสถานี Toro(Saitama) ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 30 นาที หลังจากออกจากสถานี ให้เดินไปทางขวาของสถานี  เพื่อไปยังหมู่บ้านโอมิยะ  เรา search google map ไปโดยปักหมุดที่ Omiya Bonsai Art Museum, Saitama สถานที่แรกที่เราไปคือ  Omiya Bonsai Art Museum จะมีทั้งส่วนจัดแสดงด้านใน ซึ่งมีบอนไซราคาแพงมากกกกกก  มาจัดแสดง  เนื่องจากเราไม่มีความรู้เรื่องบอนไซมาก่อน  พอทราบราคาของแต่ละต้นแล้วนั้น  อยากวิ่งยกกระถางกลับบ้านด้วยเลย ^__^   ด้านในที่จัดแสดงไม่สามารถถ่ายภาพได้นะคะ  เลยขอเอารูปสวนด้านนอกมาให้ชมกันค่ะ

ด้านหน้าของ Museum   ที่นี่มีค่าเข้าชมด้วยนะคะ  ประมาณ 300 เยน

บอนไซต้นจิ๋ว ที่แสดงโชว์ตรง Lobby จะมีป้ายบอกว่าต้นนี้สามารถถ่ายรูปได้ค่ะ





เนื่องจากช่วงที่มาเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี  เราเลยได้เห็นต้นไม้เปลี่ยนสีแบบจิ๋วกันด้วยเลย  มีต้นที่ออกผลด้วย  ที่เห็นนี่ของจริงนะ  ไม่ได้เอาลูกปลอมมาเสียบ  

ต้นเมเปิ้ลจิ๋วใบไม้เปลี่ยนสีเป็นแดงทั้งต้น  หยิบลิปแดงขึ้นมาทาจ๊ะ ให้เข้ากับใบไม้ ^__^

ที่ museum มีชั้นสองสามารถเดินขึ้นไปชมวิวสวนบอนไซจากด้านบนได้  มองลงมาก็จะเห็นสวนบอนไซทั้งสวน
  
หลังจากตื่นตาตื่นใจกับราคาบอนไซแต่ละต้นแล้ว  เราก็ได้เวลาออกจาก museum กัน ซึ่งสถานที่ต่อไปที่จะไปนั้นเราไม่ได้วางแผนอะไรมา เพราะหาข้อมูลไม่มี รู้แต่ว่าเกือบทุกบ้านที่นี่จะมีบอนไซ ก็เริ่มได้เวลามั่วกันเลยจ๊า  ออกจาก museum เราเลี้ยวซ้ายเดินต่อเข้าไปยังหมู่บ้าน  หวังว่าจะเจอสวนบอนไซกันซักสวน  บรรยากาศในหมู่บ้านก็จะเงียบสงบประมาณนี้


ในหมู่บ้านระหว่างเดินไปก็จะมีป้ายแผนที่บอกบางจุด  เราเจอทางสว่างแว้วววว  เดินตามแผนที่ไปเลยจ๊า

เดินตามป้ายจนมาเจอหน้าบ้านหลังนึง  อลังการดาวล้านดวงบอนไซมาก  คือแค่หน้าบ้านยังอลังขนาดนี้  ต้องรีบเข้าไปชมสวนด้านในแล้วแหละ


สวนนี้เป็นของเอกชน  ทางเข้ามีป้ายเขียนว่าห้ามถ่ายรูป  เลยอดได้รูปต้นบอนไซสวยๆมาฝากจากสวนนี้  ข้างในคือ อลังกว่าต้นที่อยู่ด้านหน้าอีกจ๊า   ใครสายบอนไซ หรือสายรักษ์ธรรมชาติ มาดูเถอะค่ะ  มันเยอะจริงๆ แถมเยอะแบบมีคุณภาพด้วย

ออกจากสวนนี้ ไปต่อกันค่ะ  เดินตามถนนในหมู่บ้านมาเรื่อยๆ  แบบไม่ได้วางแผนว่าจะไปสวนไหน  เดินไปเจอสวนไหน ก็แวะเข้าไปทุกสวนเลยจ๊ะ


ที่นี่สามารถถ่ายรูปได้บางจุด  ถ้าส่วนไหนเค๊าไม่ให้ถ่ายรูปก็จะมีป้ายเตือนไว้  ที่เห็นนี่คือไม่ใช่ทั้งหมดของสวนนะจ๊ะ  เป็นแค่บางส่วนที่สามารถถ่ายรูปมาได้




เดินชมด้านในก็จะเห็นส่วนที่เค๊ากำลังตัดแต่งต้นไม้อยู่ด้วย  คือที่นี่ไม่ใช่สวนโชว์อย่างเดียวนะคะ  มีตัดแต่งสำหรับขาย  และมีอุปกรณ์สำหรับงานบอนไซขายด้วย



หลังจากดูบอนไซกันครบทุกต้น ก็ได้เวลาไปต่อค่ะ  

ระหว่างทางในหมู่บ้านก็เดินไปถ่ายรูปไป  ไม่รีบนี่เนอะ

สวนต่อมาค่ะ...จำชื่อไม่ได้และไม่ได้ถ่ายรูปหน้าสวนมา  แต่แนะนำว่าเดินมาเรื่อยๆ เจอสวนไหนให้เข้าไปเลยค่ะ สวนเอกชนส่วนมากไม่มีค่าเข้าชม  สวนนี้สามารถถ่ายรูปด้านในสวนได้ตามสบายเลยจ๊ะ  


บอนไซมันคือต้นไม้ย่อส่วน  พอช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแล้วร่วง  ต้นไม้ย่อส่วนมันก็จะร่วงจริงๆค่ะ  สวยงามมากก



สวนนี้ใหญ่พอควร  เดินไปไหนก็ถ่ายรูปได้สบายเลยค่ะ  บอนไซนี่ไม่ต้องพูดเถอะ เยอะอลังการเช่นเดิม

เดินมาเกือบทั้งหมู่บ้าน ใช้เวลาอยู่ที่นี่กันหลายชั่วโมงมาก มองหาร้านอาหารไม่เจอเลย เลยคุยกันว่าเราจะไปหาอะไรทานกันที่สถานีรถไฟและกลับเข้า Tokyo กัน




ระหว่างทางเดินกลับสถานีรถไฟ

ปิดท้ายด้วยต้นไม้จิ๋วเปลี่ยนสี  ให้เข้ากับช่วงใบไม้เปลี่ยนสีกัน


โดยรวมจากคนที่ไม่มีความรู้เรื่องบอนไซ  และไม่ได้คลั่งไคล้บอนไซ แต่พอมาเจอที่นี่ก็รู้สึกชอบและตะลึงอยู่เหมือนกัน  การตัดแต่งบอนไซกว่าจะได้แต่ละต้นนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ  คนที่ทำต้องใจเย็นและละเอียดมากก  บางสวนที่นี่ที่เราเข้าไปดูยังมีคนนั่งตัดแต่งบอนไซกันอยู่  เราจึงเข้าไปชมแบบเงียบๆเพื่อเป็นการรบกวนสมาธิเค๊าน้อยที่สุด
ถ้าใครสนใจไปชมบอนไซที่นี่  หรือใครอยากเปิดมุมมองใหม่ๆ แนะนำให้เผื่อเวลาแวะไปค่ะ จะได้ความรู้สึกทั้ง สงบ สงยงาม เรียบง่ายและธรรมดา แต่รู้สึกอิ่มแบบบอกไม่ถูกเลยค่ะ

ยังมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอีกหลายจุดที่อยากแนะนำ  เอาไว้มีเวลาเขียนรีวิวจะนำมาให้ชมกันอีกนะคะ


ติดตามมากันจนจบ ถ้าใครชอบ ใครถูกใจรีวิว ติดตามเราต่อได้ที่เพจเลยนะคะ
https://www.facebook.com/pauseandforward/

เเละรีวิวก่อนหน้า
Colorful India …. Jaipur (PINK City) - Agra (LOVE City)
https://pantip.com/topic/37292343

สุกี้หมูกระทะบนไร่ชา101 ดอยแม่สลอง กับ 3 คาแฟ่แนะนำในเชียงราย....ที่ควรต้องไปโดน
https://pantip.com/topic/37306411

ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ^__^
Pause and Forward