หลังจากที่กีฬากาบัดดี้ (Kabaddi) ได้รับการบรรจุเข้าแข่งขันชิงเหรียญทองใน Asian Games มาตั้งแต่ปี 1990 ที่ปักกิ่ง ทีมชาติอินเดียก็คว้าเหรียญทองมาได้โดยตลอดทุกครั้ง และเมื่อมีการบรรจุประเภทหญิงเข้าในการแข่งขันตั้งแต่ปี 2010 ที่กว่างโจว อินเดียก็ยังตามไปผูกขาดเหรียญทองได้เช่นเคย

อิหร่านประเทศที่ถนัดกีฬาต่อสู้และใช้แรงปะทะเป็นพิเศษ ได้เริ่มส่งทีมกาบัดดี้ชายเข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรกในปี 2006 ที่โดฮาและสามารถทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ แม้จะไม่ได้รับเหรีญรางวัลใดๆแต่อิหร่านก็เริ่มเล็งเห็นแล้วว่าชนชาติตนเหมาะกับกีฬาชนิดนี้ ต่อมาในปี 2010 อิหร่านสามารถล้มปากีสถานรองแชมป์เก่าได้ในรอบรองชนะเลิศ แต่ก็ต้องพ่ายให้กับแชมป์ตลอดกาลอย่างอินเดียที่แข็งแกร่งเกินไปอย่างขาดลอยในรอบชิง ในปี 2014 อิหร่านโค่นปากีสถานลงได้อีกครั้งในรอบรองและไปเจอกับยักษ์ใหญ่อย่างอินเดียในรอบชิงอีกหน คราวนี้อิหร่านต่อสู้ได้อย่างสูสีและแพ้ไปในรอบชิงอย่างหวุดหวิด 25-27 ได้เหรียญเงินไปอีกหนึ่งสมัย

เมื่อ Asian Games 2018 ที่จาการ์ต้าเวียนมาถึง ทีมชาติอิหร่านสามารถคว้าแชมป์กลุ่มในรอบรอบแรกด้วยการเอาชนะปากีสถานที่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเค้าอีกต่อไปได้อย่างสบายๆ เข้ารอบรองชนะเลิศไปเจอกับอินเดียคู่แค้นที่ตกเป็นอันดับสองของอีกกลุ่มเนื่องจากแพ้เกาหลีใต้ฉิวเฉียดในรอบแรก แต่คราวนี้อิหร่านไม่ใช่เด็กน้อยที่เพิ่งหัดเล่นกาบัดดี้อีกต่อไป พวกเค้าต้อนเอาชนะอินเดียไปได้อย่างง่ายดาย 27-18 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับเกาหลีใต้ที่เฉือนชนะปากีสถานมา และในที่สุดอิหร่านก็โค่นเกาหลีใต้ลงได้อย่างราบคาบ คว้าเหรียญทองกาบัดดี้ Asian Games สมัยแรกไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่

ขณะที่ทีมหญืงอิหร่านส่งเข้าแข่งครั้งแรกปี 2010 ได้เหรียญทองแดง คราวที่แล้ว 2014 ขยับขึ้นมาได้เหรียญเงินโดยแพ้แชมป์เก่าอินเดีย มาคราวนี้ทีมหญิงของอิหร่านผ่านเข้ารอบชิงได้อีกครั้งและก็สามารถลบแค้นอินเดียลงได้อย่างสะใจ 27-24 คว้าเหรียญทองได้เป็นสมัยแรกเช่นกัน

ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณว่ายุคทองแห่งความยิ่งใหญ่ในกีฬากาบัดดี้ของอินเดียกำลังจะจบลง เมื่อชาติอย่างอิหร่านจริงจังและพัฒนาได้อย่างรวดเร็วจนเปลี่ยนร่างจากเด็กหัดเล่นกลายมาเป็นราชาแห่งกาบัดดี้ได้สำเร็จ