เรื่องสั้นเรื่องที่สองและเป็นเรื่องสุดท้าย ส่งท้ายวีคนี้และเดือนนี้ เกี่ยวกับโซเชียลแอพที่ทุกคนรู้จักกันดีครับ..LINE
คุณจะทำไงถ้านัดเที่ยวกับใครสักคนซึ่งรู้จักกันทางไลน์แล้ว พอถึงเวลาไปเจอตัว พบว่า คนที่เจอซึ่งบอกว่าเขาคือคนที่คุยด้วยทางไลน์นั่นแหละ พูดและทำอะไรแปลกไป ไม่เหมือนคนในไลน์นั้นเลย แต่ที่ทำให้งงเป็นไก่ตาแตกแทบหงายท้อง คือจู่ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้ไลน์ทักเข้ามา
แล้วพอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นชื่อคนที่คุยกันเป็นประจำและนัดมาเจอกันนั้น!!! แล้วไอ้บ้าคนตรงหน้านี่เป็นใคร ???
ไปติดตามเรื่องราวกันครับ อ่านจบแล้วใส่เกรดและชี้เป้าคนเขียนเลยจ้า....


<แพนด้าหน้าใส> : คุยถูกคอดีจัง เราเจอกันไหม
<เจ้าหมีน้อย> : ได้ ที่ไหนล่ะ ฉันว่าเราไปดูหนังกันไหม
<แพนด้าหน้าใส> : ดีเลย งั้นเจอกันห้าโมงที่หน้าแม็คนะ
<เจ้าหมีน้อย> : อือ ฉันจะใส่เสื้อขาวลายจุดดำไปนะ
**********************************************************
“วันนี้จะไปเจอเพื่อนทางไลน์หรือ” เพื่อนร่วมห้องของฉันเอ่ยถาม
ฉันพยักหน้ารับ ตอนนี้ฉันและเพื่อนกำลังเดินออกจากโรงเรียน แล้วเพื่อนคนนี้ของฉันก็พูดต่อว่า “ใช่ คนที่เธอบอกว่ายังไม่เห็นรูปนั่นน่ะหรือ”
“อืม.. เค้าใช้ชื่อว่า แพนด้าหน้าใส น่ะ เรานัดกันห้าโมงเย็นที่หน้าแม็คที่ห้าง”
“นี่ ฟ้า แบบนั้นมันไม่อันตรายไปหน่อยหรือ” เพื่อนฉันถามอีก
ฉันมองเพื่อนร่วมห้องคนวูบหนึ่ง แล้วหันหน้ามองไปยังทางออกของโรงเรียน พูดแบบไม่ใส่เพื่อนคนนี้ว่า
“ไม่เป็นไรหรอก เค้าเองก็ไม่รู้จักหน้าตาฉัน ชื่อนามสกุลจริงฉัน รวมทั้งโรงเรียนด้วย มีอะไรฉันไหวตัวทันน่า”
“แต่ว่า... ถ้าอยากดูหนัง ดูกับพวกเราไม่ดีกว่าเหรอ” เพื่อนอีกคนที่เดินมาด้วยกันพูดขึ้นบ้าง
“ฉันไปก่อนนะ” ฉันพูดต่อโดยไม่สนใจพวกเธอนัก “ไว้เจอกันพรุ่งนี้”
แล้วก็เดินออกจากโรงเรียนไป
*******************************************************************
สำหรับฉันแล้ว มีปัญหาเรื่องการเผชิญหน้ากับคนในชีวิตประจำวันมาก ๆ ค่อนข้างเบื่อพวกเขา แต่ฉันก็สามารถหนีจากเพื่อนเรื่องมากพวกนี้ และครอบครัวที่วุ่นวายได้โดยการใช้ชื่อ เจ้าหมีน้อย
ฉันใช้ชื่อ เจ้าหมีน้อย เป็นชื่อสำหรับ LINE ของฉัน การโพสหาเพื่อนคุยทางนี้ ทำให้ฉันสบายใจมากที่สุด
ใช้เวลาไม่นานฉันก็เดินทางมาถึงยังห้างที่นัดหมายกับแพนด้าหน้าใส ซึ่งฉันมาถึงก่อนเวลาสักเล็กน้อย โดยตอนนี้ฉันได้เปลี่ยนเสื้อผ้า สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวหลายจุดไว้แล้ว แต่ได้ใช้เสื้อคลุม คลุมปิดบังกันไว้ก่อน
แล้วฉันก็ยืนแอบอยู่ที่มุมหนึ่งที่สามารถมองเห็นด้านหน้าร้านแม็คได้ เพื่อสังเกตผู้ที่ฉันนัดไว้ว่าเป็นอย่างไร
เพราะถ้าเห็นว่าแพนด้าหน้าใส ดูไม่น่าไว้วางใจ ฉันก็จะหนีไปก่อนเลย
ฉันยืนแอบมองอยู่สักพักก็ยังไม่มีใครมา
แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลังฉัน
“เธอคือ เจ้าหมีน้อย เหรอ”
ฉันค่อย ๆ หน้ากลับไปตามเสียงนั้น แล้วบอกว่า
“แพนด้าหน้าใส?”
เขายังไม่ได้ตอบ แต่ผู้ที่มาหาฉันนี้ก็หน้าตาดีทีเดียว หน้าใสสมชื่อ เขาใส่หมวกสีน้ำเงินมาด้วย เรียกว่าดูดีกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ
“ยินดีที่รู้จักค่ะ” ฉันบอกเขา
แต่ว่าเขากลับไม่ได้บอกอะไรฉัน รีบคว้าแขนฉัน แล้วพาวิ่งออกจากที่นี่โดยเร็ว
นี่มันอะไรกันเนี่ย...
“เดี๋ยวสิแพนด้า ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้นี่นา ยังไงก็ดูหนังทัน” ฉันพยายามบอกเขา ตอนนี้เราวิ่งออกจากที่นั่นได้ระยะหนึ่ง
แพนด้าหน้าใสหันขวับมามองหน้าฉัน “ขอโทษ...” เขาพูดแค่นี้แล้วทิ้งช่วงไป ค่อยบอกว่า “เดี๋ยวฉันขอพักหน่อยนะ”
เขาเอามือกุมหัวตัวเอง ทำท่าเหมือนปวดหัว
“นายเป็นอะไร”
แพนด้าหน้าใสสีหน้าไม่ดี เขาทรุดตัวลงนั่ง แล้วพูดบอกฉันว่า “คงเพราะเมื่อกี้รีบวิ่งไปหน่อย ผมเลยรู้สึกมึนหัวน่ะ ออกแรงมากไม่ได้เลย”
ฉันมองเขา นึกถึงสิ่งที่เราเคยคุยกันทาง LINE
<แพนด้าหน้าใส> : ผมเป็นคนรักสุขภาพ เข้าฟิตเนทออกกำลังกายทุกวัน
“นายเข้าฟิตเนททุกวันไม่ใช่หรือ” ฉันถาม
“เอ๋..” เขาหน้ามองฉันเล็กน้อย
“เปล่า คือ ผมไม่ได้..”
ที่คุยมาโกหกหรือ..
แต่ดู ๆ ไปหุ่นของเขาก็ไม่ให้เหมือนกัน
“เอาเถอะ จริง ๆ จะเป็นยังไงก็ช่างมัน ฉันก็ไม่ได้เชื่อทุกอย่างที่คุยอยู่แล้ว ไม่อยากรู้ความจริงด้วย ฉันไม่ถามอะไรต่อละกัน …ขอให้นายคุยกับฉันได้สนุกเหมือนตอนคุยทาง LINE ก็เป็นพอ”
พอฉันพูดจบ เขามองฉันด้วยสายตาแปลก ๆ
แต่ก็นั่นแหละ
เพราะฉันตอนนี้เป็นแค่ “เจ้าหมีน้อย” ที่นายก็ไม่รู้จักฉันจริง ๆ เหมือนกัน
ฉันมองดูชายหนุ่มที่ใช้ชื่อว่า แพนด้าหน้าใส ที่ตอนนี้กำลังนั่งพักอยู่
ดูท่าจะโกหกไม่เก่ง
คงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรหรอกมั้ง
สักพักเขาก็เหมือนจะดีขึ้น สีหน้าเริ่มมีสีสัน เขาเงยหน้ามองฉัน แล้วพูดว่า “เราจะไปดูหนังกันไหม”
ฉันยังไม่ตอบเขา จ้องมองเขาเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งฉันสังเกตเห็นสิ่งที่แปลก ๆ ของเขาได้อย่างหนึ่ง
ชายผู้นี้ชอบหรี่ตาเวลาจ้องอะไรนาน ๆ เกือบทุกครั้ง
ไม่รู้ว่าเหตุใด
“ก็ได้” แล้วฉันก็ตอบเขา “แต่ว่าตานายเป็นอะไรหรือ ทำไมต้องหรี่ตาตอนมองด้วย”
เขาคลี่ยิ้ม “พอดีผมลืมใส่คอนแทคเลนท์มาน่ะ แว่นก็ไม่ได้เอามาด้วย”
สิ้นคำพูดเขา ฉันนึกถึงสิ่งที่เคยพูดคุยกันอีกครั้ง
<แพนด้าหน้าใส> : ผมสายตาดี ไม่จำเป็นต้องใส่แว่นครับ
โกหกอีกแล้วหรือ...
“อ้าว แล้วอย่างนี้จะดูหนังได้หรือ” ฉันถาม
แพนด้าหน้าใสฉีกยิ้มขึ้นอีก “ไม่เป็นไรหรอก เธออยากดูหนังไม่ใช่หรือ”
“เอ๋..”
ไม่เหมือนอีกแล้ว
.
<เจ้าหมีน้อย> : ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมาใส่ใจฉันสักเท่าไรนะ
<แพนด้าหน้าใส> : เหมือนกัน ผมเองก็ไม่ชอบเอาใจคนอื่นเลย
ท่าทางไม่เหมือนที่เคยคุยทาง LINE จริง ๆ
“นี่นาย... ใส่ใจเราเกินไปหน่อยไหม พวกเรายังไม่รู้จักกันดีเลย พูดตรง ๆ นะถ้ารู้สึกไม่ถูกคอเหมือนที่เคยคุยทาง LINE ก็ไม่ต้องไปต่อก็ได้นะ” ฉันบอกเขา
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง สักพักก็พูดขึ้นว่า
“เข้าใจแล้ว”
จากนั้นเขาก็หันมายิ้มให้ฉัน แล้วพูดต่อว่า
“ยินดีที่รู้จักนะ”
ฉันงงเลยกับการกระทำของหนุ่มสวมหมวกสีน้ำเงินคนนี้ แต่การกระทำนี้ของเขาก็ดูบริสุทธิ์ใจมาก ผิดจากหลายอย่างที่เขาโกหกฉันมากทีเดียว
เอาเถอะ ถ้าเขาดูบริสุทธิ์ใจอย่างนี้ ฉันจะทิ้งเรื่องที่เป็นใครมาจากไหนไปก็แล้วกัน
“งั้นไม่ต้องไปดูหนังหรอก ไปเดินเที่ยวกัน” ฉันบอกเขา
เขายิ้ม แล้วเราสองคนก็เดินเที่ยวตามห้างกัน
เราเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นเราก็พูดคุยกันไป ซึ่งยิ่งพูดคุย ก็ทำให้ฉันรู้ว่าเขายังโกหกฉันตอนคุย LINE อีกหลายเรื่อง
แต่ที่ฉันยังเดินเล่นกับเขาได้ เพราะสิ่งที่เขาแสดงออกมาตอนนี้ มันดูจริงใจยิ่งกว่าตัวหนังสือที่เราเคยพูดคุยกันมาเสียอีก
ฉันจึงไม่สนใจหากเขาทำอะไรแล้วไม่ตรงกับที่เคยคุยกัน
เราสองคนเดินเล่นกันเป็นชั่วโมงก็เริ่มเหนื่อย ฉันชวนเขานั่งพักทานอาหารที่ร้านอาหารหนึ่งในห้างนั้น
ขณะที่เราสองคนกำลังทานอาหารกัน เขาก็เอ่ยพูดขึ้นว่า
“เธอไม่มีเพื่อนสนิทเหรอ ถึงได้ชวนคนที่คุยกันทาง LINE แทน”
ฉันมองหน้าเขา “จะว่าไงดีล่ะ ก็มีล่ะมั้ง ฉันเองก็ไม่ได้น่าเกลียดถึงขนาดไม่มีใครคบหรอก แต่ว่าถ้าฉันสนิทกับเค้าเกินไปบางทีก็ลำบากใจ อยากพูดตรง ๆ ก็ไม่ได้ พอทะเลาะกันก็ยังต้องเจอหน้ากันอีก พอคิดแบบนี้ฉันก็เลยอึดอัด ยิ่งที่โรงเรียนฉันไม่สนิทกับใครหรอก เพื่อนในห้องยังจำหน้าไม่ได้ตั้งหลายคนเลย”
“แบบว่าคนนั่งหน้าหน้าตาเป็นไงก็จำไม่ได้หรือ” เขาถาม
ฉันนิ่ง ซึ่งฉันก็จำหน้าและชื่อของเขาไม่ได้จริง ๆ สิ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับเพื่อนร่วมห้องที่นั่งด้านหน้าฉันคือ…
“เด็กแว่น.. ฉันรู้แค่ว่าเขาเป็นผู้ชายใส่แว่นเท่านั้นแหละ หน้าตาก็จำไม่ได้แล้ว”
“โห ขนาดนั้นเลยหรือนี่”
“ก็รอให้เรียนจบ ๆ ไปนั่นแหละจะได้ไม่ต้องเจอกันแล้ว สนิทกันมากไปน่ารำคาญออก เกิดไม่ชอบหน้าขึ้นมาก็ลบทิ้งแบบทาง LINE ก็ไม่ได้ อย่างคุยทาง LINE ถ้าไม่พอใจก็ลบทิ้งบล็อคได้เลย”
เขามองหน้าฉัน คลี่ยิ้มให้ แล้วฉันก็พูดต่อว่า “ฉันว่า ถ้าสามารถตัดขาดกับคนอื่นได้ง่าย ๆ แบบลบหรืออบล็อคใน LINE นี่ก็ดีนะ”
พอฉันพูดจบ เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไร เพียงนั่งมองหน้าฉัน จนฉันเองก็ต้องถามเขา
“มีอะไรหรือ เห็นนั่งมองฉันไม่พูดต่อเลย”
“อ้อ ไม่มีอะไรหรอก ผมว่าเธอก็น่ารักและอ่อนโยนนะ เธอคงไม่อยากให้ผมลำบากล่ะสิ เพราะรู้ว่าผมไม่ได้ใส่คอนแทคเลนท์มา ถ้าไปดูหนังกันแล้วผมจะมองไม่ค่อยเห็น เลยชวนผมไปเดินเที่ยวแทน”
ฉันนึกถึงสิ่งที่เขาว่า ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เขาบอก เพราะฉันเห็นว่าเขาไม่ได้ใส่คอนแทคเลนท์มา ดูหนังอาจจะมองได้ไม่ชัดเจน จึงเปลี่ยนใจไม่ไปดูหนัง เปลี่ยนเป็นเดินเที่ยวแทน
หนุ่มใส่หมวกผู้นี้พูดต่อว่า “เพื่อนของเธอต้องชอบเธอแน่ ๆ ผมว่าถ้าเธอตัดเพื่อนไป แล้วจะมาขอโทษทีหลัง มันอาจไม่ทันการณ์ก็ได้ คนเป็นเพื่อนกันต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เธออย่าไปคิดแบบนั้นเลยนะ”
เรื่องเขาพูดมามันก็ถูก แต่ยังไงฉันก็ยังเห็นเพื่อนเป็นไปตามที่ฉันบอก ไมได้เชื่อเขาหรอก แต่ว่าฉันได้แอบมองหน้าเขาเวลาที่พูด ใบหน้าของเขาตอนที่พูดนี้ดูจริงใจและบริสุทธิ์ใจจริง ๆ
แต่ว่าสิ่งที่พูดมานั้น...
..มันไม่เหมือนที่เคยคุยกันเลย
ทว่าขณะนั้น โทรศัพท์มือถือฉันก็ร้องขึ้นมา เป็นเสียงสัญญาณที่บอกว่ามีคนติดต่อมาทาง LINE
“มีคน LINE มาหรือ” ฉันพูด แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูว่าใครเป็นคน LINE มา ซึ่งนอกจากแพนด้าหน้าใสคนนี้ ฉันยังมีเพื่อนที่ติดต่อกันทาง LINE อีกหลายคน
แต่ว่าพอฉันเห็นชื่อผู้ติดต่อมาก็ตกใจ ตั้งใจดูให้แน่ใจว่าดูไม่ผิด จากนั้นฉันก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองชายใส่หมวกตรงหน้าฉัน มองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
เพราะผู้ที่ติดต่อมาคือ แพนด้าหน้าใส คนที่ฉันนัดวันนี้นั่นเอง
ชายใส่หมวกผู้นี้ไม่ใช่แพนด้าหน้าใสตัวจริงหรือ...
เขาคือใคร ?
<แพนด้าหน้าใส> : นี่เธอ ทำไมวันนี้ไม่มีตามนัด
“นายเป็นใคร”
ฉันถามชายใส่หมวกที่ฝั่งนั่งตรงข้าม ตอนนี้แพนด้าหน้าใสตัวจริงกำลังติดต่อฉันทาง LINE อยู่ ทำให้ฉันรู้ว่าชายผู้นี้ต้องไม่ใช่แพนด้าหน้าใสแน่ ๆ
แต่ชายคนนั้นไม่ตอบตรงคำถามฉัน กลับบอกว่า
“จากตัวจริงหรือ...”
“นายไม่ใช่แพนด้าหน้าใสเหรอ นายเป็นใคร” ฉันถามอีก
เขายังนิ่งไม่ตอบคำถามฉัน แต่สักพักเขาก็ค่อย ๆ พูดขึ้นมาว่า
“ใจเย็น ๆ ก่อนสิ เธอเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือว่าจะเป็นใครก็ช่าง”
พอได้ยินอย่างนี้ฉันหวนนึกที่ฉันเคยพูดทันที
...ตัวจริงจะเป็นยังไงก็ช่าง
...ขอให้คุยสนุกก็เป็นพอ
ตอนนี้ฉันไม่รู้จะทำไง คน ๆ นี้ปลอมเป็นแพนด้าหน้าใสมาหลอกฉัน ท่าทางคงไม่ได้หวังดีกับฉันเป็นแน่
ฉันเลยตัดสินใจลุกพรวดขึ้น แล้วออกวิ่งหนีไปทันที
หมายความว่าไง?
เขาโกหกฉันหมดเลยหรือ
เขาต้องการอะไรถึงได้มาทำแบบนี้
แต่จริงสิ เขายังไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นแพนด้าหน้าใสเลย เขาแค่ถามฉันว่า ‘เธอใช่เจ้าหมีน้อยหรือเปล่า’
แล้วทำไมเขาถึงรู้ว่าฉันคือ เจ้าหมีน้อย ล่ะ?
(มีต่อครับ)
📜🎧🎆THE WEEKLY GLOVES ไตรมาสสุดท้าย วีคที่ 35 เรื่องสั้น#77 "LINE" โดย "ถุงมือจาง"🎆🎧📜
เรื่องสั้นเรื่องที่สองและเป็นเรื่องสุดท้าย ส่งท้ายวีคนี้และเดือนนี้ เกี่ยวกับโซเชียลแอพที่ทุกคนรู้จักกันดีครับ..LINE
คุณจะทำไงถ้านัดเที่ยวกับใครสักคนซึ่งรู้จักกันทางไลน์แล้ว พอถึงเวลาไปเจอตัว พบว่า คนที่เจอซึ่งบอกว่าเขาคือคนที่คุยด้วยทางไลน์นั่นแหละ พูดและทำอะไรแปลกไป ไม่เหมือนคนในไลน์นั้นเลย แต่ที่ทำให้งงเป็นไก่ตาแตกแทบหงายท้อง คือจู่ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้ไลน์ทักเข้ามา แล้วพอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นชื่อคนที่คุยกันเป็นประจำและนัดมาเจอกันนั้น!!! แล้วไอ้บ้าคนตรงหน้านี่เป็นใคร ???
ไปติดตามเรื่องราวกันครับ อ่านจบแล้วใส่เกรดและชี้เป้าคนเขียนเลยจ้า....
<แพนด้าหน้าใส> : คุยถูกคอดีจัง เราเจอกันไหม
<เจ้าหมีน้อย> : ได้ ที่ไหนล่ะ ฉันว่าเราไปดูหนังกันไหม
<แพนด้าหน้าใส> : ดีเลย งั้นเจอกันห้าโมงที่หน้าแม็คนะ
<เจ้าหมีน้อย> : อือ ฉันจะใส่เสื้อขาวลายจุดดำไปนะ
“วันนี้จะไปเจอเพื่อนทางไลน์หรือ” เพื่อนร่วมห้องของฉันเอ่ยถาม
ฉันพยักหน้ารับ ตอนนี้ฉันและเพื่อนกำลังเดินออกจากโรงเรียน แล้วเพื่อนคนนี้ของฉันก็พูดต่อว่า “ใช่ คนที่เธอบอกว่ายังไม่เห็นรูปนั่นน่ะหรือ”
“อืม.. เค้าใช้ชื่อว่า แพนด้าหน้าใส น่ะ เรานัดกันห้าโมงเย็นที่หน้าแม็คที่ห้าง”
“นี่ ฟ้า แบบนั้นมันไม่อันตรายไปหน่อยหรือ” เพื่อนฉันถามอีก
ฉันมองเพื่อนร่วมห้องคนวูบหนึ่ง แล้วหันหน้ามองไปยังทางออกของโรงเรียน พูดแบบไม่ใส่เพื่อนคนนี้ว่า
“ไม่เป็นไรหรอก เค้าเองก็ไม่รู้จักหน้าตาฉัน ชื่อนามสกุลจริงฉัน รวมทั้งโรงเรียนด้วย มีอะไรฉันไหวตัวทันน่า”
“แต่ว่า... ถ้าอยากดูหนัง ดูกับพวกเราไม่ดีกว่าเหรอ” เพื่อนอีกคนที่เดินมาด้วยกันพูดขึ้นบ้าง
“ฉันไปก่อนนะ” ฉันพูดต่อโดยไม่สนใจพวกเธอนัก “ไว้เจอกันพรุ่งนี้”
แล้วก็เดินออกจากโรงเรียนไป
สำหรับฉันแล้ว มีปัญหาเรื่องการเผชิญหน้ากับคนในชีวิตประจำวันมาก ๆ ค่อนข้างเบื่อพวกเขา แต่ฉันก็สามารถหนีจากเพื่อนเรื่องมากพวกนี้ และครอบครัวที่วุ่นวายได้โดยการใช้ชื่อ เจ้าหมีน้อย
ฉันใช้ชื่อ เจ้าหมีน้อย เป็นชื่อสำหรับ LINE ของฉัน การโพสหาเพื่อนคุยทางนี้ ทำให้ฉันสบายใจมากที่สุด
ใช้เวลาไม่นานฉันก็เดินทางมาถึงยังห้างที่นัดหมายกับแพนด้าหน้าใส ซึ่งฉันมาถึงก่อนเวลาสักเล็กน้อย โดยตอนนี้ฉันได้เปลี่ยนเสื้อผ้า สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวหลายจุดไว้แล้ว แต่ได้ใช้เสื้อคลุม คลุมปิดบังกันไว้ก่อน
แล้วฉันก็ยืนแอบอยู่ที่มุมหนึ่งที่สามารถมองเห็นด้านหน้าร้านแม็คได้ เพื่อสังเกตผู้ที่ฉันนัดไว้ว่าเป็นอย่างไร
เพราะถ้าเห็นว่าแพนด้าหน้าใส ดูไม่น่าไว้วางใจ ฉันก็จะหนีไปก่อนเลย
ฉันยืนแอบมองอยู่สักพักก็ยังไม่มีใครมา
แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลังฉัน
“เธอคือ เจ้าหมีน้อย เหรอ”
ฉันค่อย ๆ หน้ากลับไปตามเสียงนั้น แล้วบอกว่า
“แพนด้าหน้าใส?”
เขายังไม่ได้ตอบ แต่ผู้ที่มาหาฉันนี้ก็หน้าตาดีทีเดียว หน้าใสสมชื่อ เขาใส่หมวกสีน้ำเงินมาด้วย เรียกว่าดูดีกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ
“ยินดีที่รู้จักค่ะ” ฉันบอกเขา
แต่ว่าเขากลับไม่ได้บอกอะไรฉัน รีบคว้าแขนฉัน แล้วพาวิ่งออกจากที่นี่โดยเร็ว
นี่มันอะไรกันเนี่ย...
“เดี๋ยวสิแพนด้า ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้นี่นา ยังไงก็ดูหนังทัน” ฉันพยายามบอกเขา ตอนนี้เราวิ่งออกจากที่นั่นได้ระยะหนึ่ง
แพนด้าหน้าใสหันขวับมามองหน้าฉัน “ขอโทษ...” เขาพูดแค่นี้แล้วทิ้งช่วงไป ค่อยบอกว่า “เดี๋ยวฉันขอพักหน่อยนะ”
เขาเอามือกุมหัวตัวเอง ทำท่าเหมือนปวดหัว
“นายเป็นอะไร”
แพนด้าหน้าใสสีหน้าไม่ดี เขาทรุดตัวลงนั่ง แล้วพูดบอกฉันว่า “คงเพราะเมื่อกี้รีบวิ่งไปหน่อย ผมเลยรู้สึกมึนหัวน่ะ ออกแรงมากไม่ได้เลย”
ฉันมองเขา นึกถึงสิ่งที่เราเคยคุยกันทาง LINE
<แพนด้าหน้าใส> : ผมเป็นคนรักสุขภาพ เข้าฟิตเนทออกกำลังกายทุกวัน
“นายเข้าฟิตเนททุกวันไม่ใช่หรือ” ฉันถาม
“เอ๋..” เขาหน้ามองฉันเล็กน้อย “เปล่า คือ ผมไม่ได้..”
ที่คุยมาโกหกหรือ..
แต่ดู ๆ ไปหุ่นของเขาก็ไม่ให้เหมือนกัน
“เอาเถอะ จริง ๆ จะเป็นยังไงก็ช่างมัน ฉันก็ไม่ได้เชื่อทุกอย่างที่คุยอยู่แล้ว ไม่อยากรู้ความจริงด้วย ฉันไม่ถามอะไรต่อละกัน …ขอให้นายคุยกับฉันได้สนุกเหมือนตอนคุยทาง LINE ก็เป็นพอ”
พอฉันพูดจบ เขามองฉันด้วยสายตาแปลก ๆ
แต่ก็นั่นแหละ เพราะฉันตอนนี้เป็นแค่ “เจ้าหมีน้อย” ที่นายก็ไม่รู้จักฉันจริง ๆ เหมือนกัน
ฉันมองดูชายหนุ่มที่ใช้ชื่อว่า แพนด้าหน้าใส ที่ตอนนี้กำลังนั่งพักอยู่
ดูท่าจะโกหกไม่เก่ง
คงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรหรอกมั้ง
สักพักเขาก็เหมือนจะดีขึ้น สีหน้าเริ่มมีสีสัน เขาเงยหน้ามองฉัน แล้วพูดว่า “เราจะไปดูหนังกันไหม”
ฉันยังไม่ตอบเขา จ้องมองเขาเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งฉันสังเกตเห็นสิ่งที่แปลก ๆ ของเขาได้อย่างหนึ่ง ชายผู้นี้ชอบหรี่ตาเวลาจ้องอะไรนาน ๆ เกือบทุกครั้ง
ไม่รู้ว่าเหตุใด
“ก็ได้” แล้วฉันก็ตอบเขา “แต่ว่าตานายเป็นอะไรหรือ ทำไมต้องหรี่ตาตอนมองด้วย”
เขาคลี่ยิ้ม “พอดีผมลืมใส่คอนแทคเลนท์มาน่ะ แว่นก็ไม่ได้เอามาด้วย”
สิ้นคำพูดเขา ฉันนึกถึงสิ่งที่เคยพูดคุยกันอีกครั้ง
<แพนด้าหน้าใส> : ผมสายตาดี ไม่จำเป็นต้องใส่แว่นครับ
โกหกอีกแล้วหรือ...
“อ้าว แล้วอย่างนี้จะดูหนังได้หรือ” ฉันถาม
แพนด้าหน้าใสฉีกยิ้มขึ้นอีก “ไม่เป็นไรหรอก เธออยากดูหนังไม่ใช่หรือ”
“เอ๋..”
ไม่เหมือนอีกแล้ว
.
<เจ้าหมีน้อย> : ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมาใส่ใจฉันสักเท่าไรนะ
<แพนด้าหน้าใส> : เหมือนกัน ผมเองก็ไม่ชอบเอาใจคนอื่นเลย
ท่าทางไม่เหมือนที่เคยคุยทาง LINE จริง ๆ
“นี่นาย... ใส่ใจเราเกินไปหน่อยไหม พวกเรายังไม่รู้จักกันดีเลย พูดตรง ๆ นะถ้ารู้สึกไม่ถูกคอเหมือนที่เคยคุยทาง LINE ก็ไม่ต้องไปต่อก็ได้นะ” ฉันบอกเขา
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง สักพักก็พูดขึ้นว่า
“เข้าใจแล้ว”
จากนั้นเขาก็หันมายิ้มให้ฉัน แล้วพูดต่อว่า “ยินดีที่รู้จักนะ”
ฉันงงเลยกับการกระทำของหนุ่มสวมหมวกสีน้ำเงินคนนี้ แต่การกระทำนี้ของเขาก็ดูบริสุทธิ์ใจมาก ผิดจากหลายอย่างที่เขาโกหกฉันมากทีเดียว
เอาเถอะ ถ้าเขาดูบริสุทธิ์ใจอย่างนี้ ฉันจะทิ้งเรื่องที่เป็นใครมาจากไหนไปก็แล้วกัน
“งั้นไม่ต้องไปดูหนังหรอก ไปเดินเที่ยวกัน” ฉันบอกเขา
เขายิ้ม แล้วเราสองคนก็เดินเที่ยวตามห้างกัน
เราเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นเราก็พูดคุยกันไป ซึ่งยิ่งพูดคุย ก็ทำให้ฉันรู้ว่าเขายังโกหกฉันตอนคุย LINE อีกหลายเรื่อง
แต่ที่ฉันยังเดินเล่นกับเขาได้ เพราะสิ่งที่เขาแสดงออกมาตอนนี้ มันดูจริงใจยิ่งกว่าตัวหนังสือที่เราเคยพูดคุยกันมาเสียอีก
ฉันจึงไม่สนใจหากเขาทำอะไรแล้วไม่ตรงกับที่เคยคุยกัน
เราสองคนเดินเล่นกันเป็นชั่วโมงก็เริ่มเหนื่อย ฉันชวนเขานั่งพักทานอาหารที่ร้านอาหารหนึ่งในห้างนั้น
ขณะที่เราสองคนกำลังทานอาหารกัน เขาก็เอ่ยพูดขึ้นว่า
“เธอไม่มีเพื่อนสนิทเหรอ ถึงได้ชวนคนที่คุยกันทาง LINE แทน”
ฉันมองหน้าเขา “จะว่าไงดีล่ะ ก็มีล่ะมั้ง ฉันเองก็ไม่ได้น่าเกลียดถึงขนาดไม่มีใครคบหรอก แต่ว่าถ้าฉันสนิทกับเค้าเกินไปบางทีก็ลำบากใจ อยากพูดตรง ๆ ก็ไม่ได้ พอทะเลาะกันก็ยังต้องเจอหน้ากันอีก พอคิดแบบนี้ฉันก็เลยอึดอัด ยิ่งที่โรงเรียนฉันไม่สนิทกับใครหรอก เพื่อนในห้องยังจำหน้าไม่ได้ตั้งหลายคนเลย”
“แบบว่าคนนั่งหน้าหน้าตาเป็นไงก็จำไม่ได้หรือ” เขาถาม
ฉันนิ่ง ซึ่งฉันก็จำหน้าและชื่อของเขาไม่ได้จริง ๆ สิ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับเพื่อนร่วมห้องที่นั่งด้านหน้าฉันคือ…
“เด็กแว่น.. ฉันรู้แค่ว่าเขาเป็นผู้ชายใส่แว่นเท่านั้นแหละ หน้าตาก็จำไม่ได้แล้ว”
“โห ขนาดนั้นเลยหรือนี่”
“ก็รอให้เรียนจบ ๆ ไปนั่นแหละจะได้ไม่ต้องเจอกันแล้ว สนิทกันมากไปน่ารำคาญออก เกิดไม่ชอบหน้าขึ้นมาก็ลบทิ้งแบบทาง LINE ก็ไม่ได้ อย่างคุยทาง LINE ถ้าไม่พอใจก็ลบทิ้งบล็อคได้เลย”
เขามองหน้าฉัน คลี่ยิ้มให้ แล้วฉันก็พูดต่อว่า “ฉันว่า ถ้าสามารถตัดขาดกับคนอื่นได้ง่าย ๆ แบบลบหรืออบล็อคใน LINE นี่ก็ดีนะ”
พอฉันพูดจบ เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไร เพียงนั่งมองหน้าฉัน จนฉันเองก็ต้องถามเขา
“มีอะไรหรือ เห็นนั่งมองฉันไม่พูดต่อเลย”
“อ้อ ไม่มีอะไรหรอก ผมว่าเธอก็น่ารักและอ่อนโยนนะ เธอคงไม่อยากให้ผมลำบากล่ะสิ เพราะรู้ว่าผมไม่ได้ใส่คอนแทคเลนท์มา ถ้าไปดูหนังกันแล้วผมจะมองไม่ค่อยเห็น เลยชวนผมไปเดินเที่ยวแทน”
ฉันนึกถึงสิ่งที่เขาว่า ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เขาบอก เพราะฉันเห็นว่าเขาไม่ได้ใส่คอนแทคเลนท์มา ดูหนังอาจจะมองได้ไม่ชัดเจน จึงเปลี่ยนใจไม่ไปดูหนัง เปลี่ยนเป็นเดินเที่ยวแทน
หนุ่มใส่หมวกผู้นี้พูดต่อว่า “เพื่อนของเธอต้องชอบเธอแน่ ๆ ผมว่าถ้าเธอตัดเพื่อนไป แล้วจะมาขอโทษทีหลัง มันอาจไม่ทันการณ์ก็ได้ คนเป็นเพื่อนกันต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เธออย่าไปคิดแบบนั้นเลยนะ”
เรื่องเขาพูดมามันก็ถูก แต่ยังไงฉันก็ยังเห็นเพื่อนเป็นไปตามที่ฉันบอก ไมได้เชื่อเขาหรอก แต่ว่าฉันได้แอบมองหน้าเขาเวลาที่พูด ใบหน้าของเขาตอนที่พูดนี้ดูจริงใจและบริสุทธิ์ใจจริง ๆ
แต่ว่าสิ่งที่พูดมานั้น...
..มันไม่เหมือนที่เคยคุยกันเลย
ทว่าขณะนั้น โทรศัพท์มือถือฉันก็ร้องขึ้นมา เป็นเสียงสัญญาณที่บอกว่ามีคนติดต่อมาทาง LINE
“มีคน LINE มาหรือ” ฉันพูด แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูว่าใครเป็นคน LINE มา ซึ่งนอกจากแพนด้าหน้าใสคนนี้ ฉันยังมีเพื่อนที่ติดต่อกันทาง LINE อีกหลายคน
แต่ว่าพอฉันเห็นชื่อผู้ติดต่อมาก็ตกใจ ตั้งใจดูให้แน่ใจว่าดูไม่ผิด จากนั้นฉันก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองชายใส่หมวกตรงหน้าฉัน มองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
เพราะผู้ที่ติดต่อมาคือ แพนด้าหน้าใส คนที่ฉันนัดวันนี้นั่นเอง
ชายใส่หมวกผู้นี้ไม่ใช่แพนด้าหน้าใสตัวจริงหรือ...
เขาคือใคร ?
<แพนด้าหน้าใส> : นี่เธอ ทำไมวันนี้ไม่มีตามนัด
“นายเป็นใคร”
ฉันถามชายใส่หมวกที่ฝั่งนั่งตรงข้าม ตอนนี้แพนด้าหน้าใสตัวจริงกำลังติดต่อฉันทาง LINE อยู่ ทำให้ฉันรู้ว่าชายผู้นี้ต้องไม่ใช่แพนด้าหน้าใสแน่ ๆ
แต่ชายคนนั้นไม่ตอบตรงคำถามฉัน กลับบอกว่า
“จากตัวจริงหรือ...”
“นายไม่ใช่แพนด้าหน้าใสเหรอ นายเป็นใคร” ฉันถามอีก
เขายังนิ่งไม่ตอบคำถามฉัน แต่สักพักเขาก็ค่อย ๆ พูดขึ้นมาว่า
“ใจเย็น ๆ ก่อนสิ เธอเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือว่าจะเป็นใครก็ช่าง”
พอได้ยินอย่างนี้ฉันหวนนึกที่ฉันเคยพูดทันที
...ตัวจริงจะเป็นยังไงก็ช่าง
...ขอให้คุยสนุกก็เป็นพอ
ตอนนี้ฉันไม่รู้จะทำไง คน ๆ นี้ปลอมเป็นแพนด้าหน้าใสมาหลอกฉัน ท่าทางคงไม่ได้หวังดีกับฉันเป็นแน่
ฉันเลยตัดสินใจลุกพรวดขึ้น แล้วออกวิ่งหนีไปทันที
หมายความว่าไง?
เขาโกหกฉันหมดเลยหรือ
เขาต้องการอะไรถึงได้มาทำแบบนี้
แต่จริงสิ เขายังไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นแพนด้าหน้าใสเลย เขาแค่ถามฉันว่า ‘เธอใช่เจ้าหมีน้อยหรือเปล่า’
แล้วทำไมเขาถึงรู้ว่าฉันคือ เจ้าหมีน้อย ล่ะ?
(มีต่อครับ)