นี่ชีวิตจริงๆหรอ?

นานาเสียใจ เรื่องของเรายาวมาก ถ้าขยันอ่านก็ขอบคุณค่ะ
คือมันเป็นเรื่องของเราเองนี่แหละ เราเป็นเด็กบ้านนอก(เป็นโรคหัวใจรั่วแต่กำเนิด) ตั้งแต่โตมาก็เรียนรร.แถวบ้านมาตลอด เป็นรร.เล็กๆเลยทำให้ครูใส่ใจกับนักเรียนและจำนักเรียนได้ทุกคนด้วยมั้งเลยทำให้ตั้งแต่ป.1 ถึง ม.3 เราไม่เคยหนีเรียนเลย ถ้าไม่ป่วยจริงๆก็จะไม่ขาดเรียน และที่สำคัญ เราไม่เคยมีแฟนเลย... เพื่อนๆเขาก็มีแฟนกันบ้างแต่ก็ส่วนน้อยไม่รู้ทำไม (หน้าตาเราก็ไม่ได้น่าเกลียดนะ) ที่จะบอกก็คือเวลา 9 ปี ที่เรียนกับเพื่อนๆที่รร.นี้มันสนุกมาก และทุกคนในห้องรักกันดีมาก ไม่ทะเลาะกันเลย จนพวกเราจบ ม.ต้น ทุกคนก็ไปเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ ทั้งวิทย์คณิต ศิลป์ภาษา ช่างยนต์ บัญชี เราเลือกที่จะเรียนวิทย์คณิต เพราะไม่รู้จะเรียนอะไร ในวันปฐมนิเทศก็มีครูมาแนะแนวว่า ปีนี้มีหลักสูตร ทวิศึกษา ที่จะทำให้เราสามารถเรียนจบม.6 แล้วได้วุฒิ ปวช.ด้วย ซึ่งมันก็แลกมากับการเรียนที่หนักและต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าเดิม ซึ่งคนที่ยังไม่รู้อนาคตแบบเราเลยเลือกทางที่สามารถเลือกอนาคตได้หลายทาง ใช่!! เราเรียนทวิศึกษา และหลังจากนั้นมันทำให้เราได้เจอกับเพื่อนใหม่ๆทั้งรร. ที่เลือกเรียนและเพื่อนต่างรร.ที่เรียนทวิศึกษาเหมือนกัน มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ นอกจากว่าเพื่อนที่รร.ของฉันจะเกเร TT  พวกเขาจะโดดเรียนและหนีเรียนบ่อยๆ มันทำให้ฉันต้องไปเรียนทวิ*คนเดียวเพราะเวลาโดดเรียนเราจะรู้สึกผิด คงเป็นเพราะตอนเด็กไม่เคยโดดเลยมั้ง (ทวิศึกษาจะให้นักเรียนไปเรียนเทคนิคในสาขาที่อยากเรียน เราเลือกเรียนคอมพิวเตอร์ธุรกิจ) นั้นแหละเลยทำให้เพื่อนต่างรร.เข้ามาคุยมาเล่นกับเราคงเพราะสงสารมั้งแต่เราก็ดีใจนะ>< และก็มีเพื่อนคนนึงที่ดูร่าเริง ยิ้มและดูมีความสุขตลอดเวลา เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆผมยาว (ตอนนี้ผมสั้นแล้ว) เหมือนเธอจะเรียนไม่ค่อยทันเท่าไหร่ เราเลยต้องเข้าไปช่วยบ่อยๆ และเริ่มสนิทขึ้นเรื่อยๆ เธอมีปัญหาอะไรก็จะโทรมาปรึกษาเราและเราก็ปรึกษาเธอเรื่องที่มีคนมาจีบ(เพราะไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร) จนมีช่วงนึงที่เราโทรคุยกันทุกวัน บางวันก็ค้างสายกัน (ถ้าคิดว่าเราคบกันบอกเลยว่าไม่) ไม่รู้ทำไมถึงไว้ใจเธอขนาดนี้ เราคุยเรื่องเรียน เรื่องไร้สาระ คุยเรื่องทั่วๆไป และคุยเรื่องแฟน เธอบอกเราทุกอย่างว่าเธอคบกับใครชื่ออะไร นิสัยเขาเป็นยังไง และคุยอะไรกันบ้าง มันทำให้เรารู้สึกว่าเราก็ไม่ควรมีความลับกับเธอ เวลาผ่านไปหลายเดือนแฟนเธอก็เลือกที่จะกลับไปหาแฟนเก่าทำให้เธอเสียใจมากเราก็ทำได้แค่ปลอบเธอ แต่คงเพราะเราไม่เคยคบใครเราเลยไม่รู้จะปลอบยังไงมันเลยไม่ค่อยจะช่วยเธอเท่าไหร่ แต่เราอยู่คุยกับเธอตั้งแต่เศร้ามากๆจนหายเศร้าและมีคนใหม่เข้ามาจีบ เป็นเวลาหลายเดือนอ่ะ คือเราไม่คิดว่าเราจะสนิทกับคนๆนึงได้ขนาดนี้ ถ้าเทียบกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันตั้งแต่เด็กๆแล้วเรารู้สึกว่าสนิทกันคนนี้มากกว่า แล้วอยู่ๆชีวิตเราก็ต้องเปลี่ยนเพราะแม่บอกว่าแม่ต้องไปทำงานที่อีกจังหวัดนึง ให้เราย้ายรร.ตามไป เราบอกเธอคนนั้นเธอตกใจมากและถามอะไรเยอะแยะไปหมดเธอไม่อยากให้เราไป เราก็ไม่อยากไปเหมือนกัน แต่แม่สั่งก็ต้องทำ ก่อนที่จะย้ายเรากับเธอคนนั้นก็ไปเที่ยวที่ต่างๆและถ่ายรูปเก็บไว้เต็มโทรศัพท์ เป็นวันที่สนุกมากจริงๆ แล้วเพื่อนๆที่รร.ก็จัดงานเลี้ยงส่งให้เรา เราก็เลยชวนเธอมาด้วย บ้านเธออยู่ไกลจากที่ๆจะเลี้ยงส่งไกลมากๆๆๆเลย แต่เธอก็ยังมา(เลี้ยงส่งตอนกลางคืน) เราดีใจมากเลยจริงๆ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนมากโดยเฉพาะเธอคนนั้นที่ให้ความสำคัญเราขนาดนี้  เราต้องย้ายรร.ตอนม.5 เทอม2 พอย้ายมาเลยมีเพื่อนแค่ไม่กี่คนที่คุยด้วย แต่เราก็ไม่เหงาเพราะเธอคอยทักมาถามอยู่บ่อยๆเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆบางช่วงเราก็ทำเธอคนนั้นโกรธแต่สุดท้ายเราก็ง้อจนเธอหายโกรธ แต่เราไม่เคยโกรธเธอได้นานเลย แค่เธอง้อนิดเดียวไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำเราก็หายโกรธแล้ว จนไม่กี่เดือนที่แล้วเธอถามเราว่า "คิดว่าตอนนี้เราห่างกันมั้ย" เราเลยตอบว่า "ถ้าระยะทางก็ห่างนะ แต่มันก็ไม่ได้ไกลจนเราไปหาเธอไม่ได้ นั่งรถแค่ไม่กี่ชม.ก็ถึงแล้ว" แล้วเธอก็บอกว่า "แล้วถ้าฉันต้องย้ายรร.ล่ะ" คือตอนนี้มันม.6 เทอม1 แล้วอีกแค่เทอมเดียวก็จะเรียนจบแล้วทำไมถึงต้องรีบย้ายขนาดนั้นทำไมหล่ะ "จะย้ายไปอยู่กับใคร" "จะย้ายไปอยู่กับแม่กับปู่กับย่า ฉันอยู่ที่นี่ฉันเหนื่อยฉันทนไม่ไหวแล้ว"เธอโดนตากับป้าใช้งานหนักมากแล้วยังด่าเธอบ่อยๆจนตอนนี้เธอไม่กินข้าวเย็นที่บ้านเลย ถ้าไม่กินจากข้างนอกก็จะไม่กินเลย เราก็เลยตอบได้แต่ว่า "เธอทนมามากพอแล้ว ทนได้ขนาดนี้เราว่าเธอเข้มแข็งมากเลยนะ ถ้าทนไม่ได้แล้วก็ย้ายเถอะย้ายไปอยู่ที่ๆจะทำให้เธอสบายใจ เราไม่อยากให้เธอเก็บกด " "แม่ฉันก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน" "ใจนึงเราก็ไม่อยากให้เธอไปแต่อีกใจก็ไม่อยากให้เธอต้องทนกับอะไรแบบนั้นแล้ว ....เดี๋ยวเราไปเข้ามหาลัยเดียวกันกับเธอก็ได้" "เราจะไม่เรียนมหาลัย" อมยิ้ม24 "แล้วจะเรียนไหน" "ฉันจะเรียนไปเทคนิคจะได้ทำงานหาเงินช่วยแม่เร็วๆไม่อยากให้แม่ทำงานเหนื่อยนานๆ" แล้วเราก็ไปค้นหามหาลัที่อยู่ใกล้เทคนิคนั้น สรุป ไม่มี มีแต่ราชภัฎ "งั้นเราจะไปเรียนราชภัฎ" "พูดอะไรออกมาถามแม่ก่อนมั้ย" "เรื่องเรียนแม่แล้วแต่เรา" "ที่พูดมาคิดดีแล้วใช่มั้ย ไม่ใช่พูดเพราะอารมณ์ชั่ววูบนะ" "เราคิดดีแล้ว ที่ผ่านมาถึงเราจะอยู่คนละจังหวัดแต่ช่วงหยุดยาวเราก็ได้กลับบ้านแล้วก็ได้ไปหาเธอ แต่ถ้าเธอย้ายไปที่นั่น เธอคงไม่กลับมาบ้านหลังนั้นอีก เราก็จะไม่ได้เจอกันเลย" "ทำไมถึงอยากเจอฉันขนาดนั้นหล่ะ" "เพราะเราไม่อยากให้เธอหายไปจากชีวิตเราไง ไม่ว่าจะยังไงห้ามหายไปจากชีวิตเราเข้าใจมั้ย" "หืยย" นั่นแหละตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันและตอนนี่ก็ถึงช่วงที่จะเตรียมตัวสอบเข้าที่นั่นแล้ว คนอ่านอาจคิดว่าเราติดเพื่อน ใช่เราติดเพื่อน แต่เพื่อนเราคนนี้เขาเจออะไรมาเยอะ เรื่องที่เราไม่ได้เล่าไว้ในนี้ แต่ที่บอกได้คือเธอบอบช้ำมากจนเราไม่กล้าปล่อยให้เธอไปไกลๆคนเดียว....
.
.
อ่านแล้วคิดยังไงบ้าง
ไม่รู้จะอ่านจบกันรึป่าวนะ5555
อาจจะไร้สาระไปหน่อยต้องขอโทษที่ทำให้เสียเวลาอ่านนะนานาเสียใจ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่