ผมโดนดูถูกมาตลอดชีวิต “ยิ่งเขาไม่เห็นความสำคัญ เรายิ่งต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าคิดผิด”
By ชนาธิป สรงกระสินธ์
MAINTERVIEW
“ผมโดนดูถูกมาตลอดชีวิต”
กว่าจะมาเป็น “เมสซี่เจ” อย่างปัจจุบัน ชายร่างเล็กขวัญใจคนไทยคนนี้ผ่านสารพัดการเหยียดหยามจากใครหลายๆ คนมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งคนแถวบ้าน เพื่อน ญาติ หรือแม้แต่ครูและโค้ช โดยมากแล้วคนเหล่านั้นมักพูดไปในทางเดียวกันเรื่องรูปร่างของเขาที่น่าจะไม่มีวันเอาดีได้บนเส้นทางสายลูกหนังที่กำลังเดินอยู่
จอมทัพของคนไทยฝึกซ้อมฟุตบอลมาตั้งแต่เพิ่งตั้งไข่เดินภายใต้การดูแลฝึกสอนจากผู้เป็นพ่อ เสียงค่อนขอดดังเข้าหูพ่อของเขาให้เลิกพยายามทำในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้เสียที แต่พ่อลูกคู่นี้ไม่ฟัง ยังคงแน่วแน่ฝึกซ้อมฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง จวบจนวันที่เดินสายไปคัดตัวเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง
คำตอบที่ได้ก็แทบถอดกันมาคือเจดีไม่พอ สาเหตุเพียงเพราะรูปร่างฉบับกระเป๋าของเขา แม้บางที่จะเปิดโอกาสให้เข้าสู่ทีมแต่ก็ไม่ถูกส่งลงสนาม หน้าที่หลักๆ ของเจจึงหนักไปทางขนน้ำ ทำความสะอาดลูกบอล บางครั้งก็ต้องลงไปเป็นกองหลังและผู้รักษาประตูซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่ถนัด พ่อจุ้ง (พ่อของชนาธิป) เล่าให้ฟังว่า เคยเอาลูกชายตระเวนไปเสนอฝีเท้ายังโรงเรียนต่างๆ ที่แล้วที่เล่าแต่ก็ถูกปฏิเสธ เคยแม้แต่เข้าไปคุยกับโค้ชหลังจากเห็นว่าเจไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนาม บอกโค้ชว่าถ้าไม่ปั้นลูกผมแล้วงั้นผมขอพาลูกชายกลับนะ โค้ชก็ชี้ทางให้ไปเขียนใบลาออกที่ห้องธุรการอย่างไม่มีเยื่อใย พ่อจุ้งขับรถกลับนครปฐมทั้งน้ำตา
“ผมโดนดูถูกมาตลอดชีวิต
ยิ่งเขาไม่เห็นความสำคัญเราก็ยิ่งต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าคิดผิด”
ทุกวันนี้คงพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าชนาธิป สรงกระสินธ์ลบคำสบประมาทและการมองไม่เห็นความสำคัญเพียงเพราะรูปร่างได้อย่างหมดจด เสียงค่อนขอดที่เคยดังวันนี้เงียบหาย เจพูดเสมอว่าคนเราเมื่อมีโอกาสก็ต้องคว้ามันให้ได้ เขาใช้โอกาสคุ้มค่าที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน รวมถึงที่สโมสรบีอีซี เทโรศาสน สถานที่ที่เขาได้รับสัญญานักฟุตบอลอาชีพในวัยสิบเจ็ดย่างสิบแปดปี
“ผมโดนดูถูกมาตลอดชีวิต ยิ่งเขาไม่เห็นความสำคัญเราก็ยิ่งต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าคิดผิด คำดูถูกพวกนั้นจะทำอะไรเราไม่ได้เลยหากเรายังคงตั้งมั่นอยู่บนเส้นทางที่เลือกเดิน” เจ – ชนาธิป สรงกระสินธ์ จอมทัพฟุตบอลทีมชาติไทยคนปัจจุบันพูดไว้ในหนังสือ “สตั๊ดติดฝัน”
ที่มา
http://www.mascoops.com/chanathip-songkrasin/
หวังว่าคงจะเตือนสติน้องๆไม่มากก็น้อยนะครับ ดูรุ่นพี่เป็นตัวอย่าง คิดจะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง ไม่ใช่มานั่งแหกปากชูนิ้วนางใส่แฟนบอล ไม่น่ารักเลยครับ
กองแช่ง กองอวย มารวมตัวกันตรงนี้ครับ ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง ผมโดนดูถูกมาตลอดชีวิต
By ชนาธิป สรงกระสินธ์
MAINTERVIEW
“ผมโดนดูถูกมาตลอดชีวิต”
กว่าจะมาเป็น “เมสซี่เจ” อย่างปัจจุบัน ชายร่างเล็กขวัญใจคนไทยคนนี้ผ่านสารพัดการเหยียดหยามจากใครหลายๆ คนมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งคนแถวบ้าน เพื่อน ญาติ หรือแม้แต่ครูและโค้ช โดยมากแล้วคนเหล่านั้นมักพูดไปในทางเดียวกันเรื่องรูปร่างของเขาที่น่าจะไม่มีวันเอาดีได้บนเส้นทางสายลูกหนังที่กำลังเดินอยู่
จอมทัพของคนไทยฝึกซ้อมฟุตบอลมาตั้งแต่เพิ่งตั้งไข่เดินภายใต้การดูแลฝึกสอนจากผู้เป็นพ่อ เสียงค่อนขอดดังเข้าหูพ่อของเขาให้เลิกพยายามทำในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้เสียที แต่พ่อลูกคู่นี้ไม่ฟัง ยังคงแน่วแน่ฝึกซ้อมฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง จวบจนวันที่เดินสายไปคัดตัวเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง
คำตอบที่ได้ก็แทบถอดกันมาคือเจดีไม่พอ สาเหตุเพียงเพราะรูปร่างฉบับกระเป๋าของเขา แม้บางที่จะเปิดโอกาสให้เข้าสู่ทีมแต่ก็ไม่ถูกส่งลงสนาม หน้าที่หลักๆ ของเจจึงหนักไปทางขนน้ำ ทำความสะอาดลูกบอล บางครั้งก็ต้องลงไปเป็นกองหลังและผู้รักษาประตูซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่ถนัด พ่อจุ้ง (พ่อของชนาธิป) เล่าให้ฟังว่า เคยเอาลูกชายตระเวนไปเสนอฝีเท้ายังโรงเรียนต่างๆ ที่แล้วที่เล่าแต่ก็ถูกปฏิเสธ เคยแม้แต่เข้าไปคุยกับโค้ชหลังจากเห็นว่าเจไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนาม บอกโค้ชว่าถ้าไม่ปั้นลูกผมแล้วงั้นผมขอพาลูกชายกลับนะ โค้ชก็ชี้ทางให้ไปเขียนใบลาออกที่ห้องธุรการอย่างไม่มีเยื่อใย พ่อจุ้งขับรถกลับนครปฐมทั้งน้ำตา
“ผมโดนดูถูกมาตลอดชีวิต
ยิ่งเขาไม่เห็นความสำคัญเราก็ยิ่งต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าคิดผิด”
ทุกวันนี้คงพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าชนาธิป สรงกระสินธ์ลบคำสบประมาทและการมองไม่เห็นความสำคัญเพียงเพราะรูปร่างได้อย่างหมดจด เสียงค่อนขอดที่เคยดังวันนี้เงียบหาย เจพูดเสมอว่าคนเราเมื่อมีโอกาสก็ต้องคว้ามันให้ได้ เขาใช้โอกาสคุ้มค่าที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน รวมถึงที่สโมสรบีอีซี เทโรศาสน สถานที่ที่เขาได้รับสัญญานักฟุตบอลอาชีพในวัยสิบเจ็ดย่างสิบแปดปี
“ผมโดนดูถูกมาตลอดชีวิต ยิ่งเขาไม่เห็นความสำคัญเราก็ยิ่งต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าคิดผิด คำดูถูกพวกนั้นจะทำอะไรเราไม่ได้เลยหากเรายังคงตั้งมั่นอยู่บนเส้นทางที่เลือกเดิน” เจ – ชนาธิป สรงกระสินธ์ จอมทัพฟุตบอลทีมชาติไทยคนปัจจุบันพูดไว้ในหนังสือ “สตั๊ดติดฝัน”
ที่มา http://www.mascoops.com/chanathip-songkrasin/
หวังว่าคงจะเตือนสติน้องๆไม่มากก็น้อยนะครับ ดูรุ่นพี่เป็นตัวอย่าง คิดจะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง ไม่ใช่มานั่งแหกปากชูนิ้วนางใส่แฟนบอล ไม่น่ารักเลยครับ