อุตรคุรุทวีป ดินแดินทางทิศเหนือของเขาพระสุเมรุ เป็นที่อาศัยของมนุษย์อีกเผ่าพันธุ์หนึ่งซึ่งพร้อมด้วยศีลธรรม อายุยืนนับพันปี คิดหวังสิ่งใดก็เกิดได้สมปรารถนาดังใจ และ แน่นอนสิ่งที่ปรารถนาก็อยู่ในศีลในธรรมเช่นกัน บ้านนี้เมืองนี้ไม่มีการแก่งแย่ง มีเพียงความดีที่เสมอเท่าเทียมถ้วนทั่ว ทวีปทั้ง 4 ทวีปรอบเขาพระสุเมรุเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์แต่ละเผ่าพันธุ์และเคยมีช่องทางเชื่อมต่อกันได้มาก่อน แต่ต้องปิดลงไปเพราะความไม่เท่าทันกันในวัตรปฏิบัติของแต่ละทวีป เหมหิรัญญ์ผู้ทำหน้าที่ทวารบาลของอุตรคุรุทวีปก็เคยได้ยิน และ เคยได้มาเยือนดินแดนต่างภพอย่างชมพูทวีปเช่นเดียวกัน ซึ่งเขาก็เห็นจริงอย่างที่ใคร ๆ เคยว่าไว้ ดินแดนแห่งนี้ไม่บริสุทธิ์เอาเสียเลย เต็มไปด้วยพิษภัยอันตรายนานัปการ ตั้งแต่ธรรมชาติไปยันใจคน กระทั่งดอกไม้ยังมีหนาม ส่วนใจคนนั้นหรือสิ่งที่คิดกับสิ่งที่แสดงออก หลายครั้งก็ไม่เหมือนกันเลย
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ก็ไม่พ้นสัญชาตญาณแห่งตน ความตายของหญิงชราคนหนึ่ง ผ้าลูกไม้ชิ้นหนึ่ง และ การปรากฎตัวของหญิงสาวรายหนึ่ง สามารถดึงความสนใจของเหมหิรัญญ์ได้ ในชั้นแรกในฐานtผู้เฝ้าประตูกาล ก็เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องสอดส่องดูแลมิให้ผู้ใดล่วงล้ำเข้าสู่ดินแดนของตนได้ การตายของคุณยายประพิม และ วาระจิตของเขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่หากในชั้นถัดมา ภาพของหญิงสาวหน้ากระจกนั้นจุดความสนใจให้อดเข้าใกล้ไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นหน้าที่ แต่อีกส่วนคือความอยากรู้อยากเห็น อารมณ์นับร้อยนับพันที่ปรากฏบนใบหน้า และ อากัปกิริยาของเธอนั้นช่างน่าสนใจ มันแปลกและแตกต่างจากผู้คนในอุตรคุรุทวีปมากมายนัก
ความแตกต่างมักแปรเปลี่ยนเป็นความดึงดูด แม้ใครหน้าไหนจะเตือนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หรือ แม้กระทั่งจะลงโทษทัณฑ์ เหมหิรัญญ์ก็ไม่อาจฝืนใจตัวเองได้ นับร้อยปีเขาคิดว่าตัวเองเคยชินกับแดนศิวิไลซ์เทียบได้เท่ากับยุคพระศรีอาริย์ ผู้คนในอุตรคุรุทวีปไม่เจ็บไม่ป่วย อยู่ดีกินดี แม้หนีความตายไม่พ้น แต่ด้วยการรักษาศีลที่เท่าถึงกันทั้งดินแดน ตายแล้วไม่มีผู้ใดเสียใจ ทุกคนจะไม่ยึดติด ทุกคนล้วนแล้วแต่ปล่อยวาง ชีวิตหลังความตายจะไม่ไปเกิดในภพภูมิที่ต่ำกว่า มีแต่ความสุขและบริสุทธิ์ผุดผ่อง นั่นเป็นเรื่องราวก่อนที่เหมหิรัญญ์จะได้รู้จักอารมณ์ชนิดหนึ่ง อารมณ์ที่เรียกว่า "ความรัก"
ว่ากันว่าความรัก .... ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกเพศ ไม่เลือกฐานันดร ไม่เลือกอะไรเลย และเพราะการ "ไม่เลือก" นี่แหละ เหมหิรัญญ์เห็นว่าชีวิตชาวชมพูทวีปเต็มไปด้วยความสกปรก อันตราย ผู้คนร้อนร้าย สับปลับ หลอกลวง เทียบไม่ได้กับผู้คนและสถานที่ซึ่งตนเองนั้นจากมา แต่ความสุขความร่มเย็นเหล่านั้นเมื่อปราศจาก "อารมณ์รัก" ก็ไม่ผิดอะไรกับทะเลทรายที่แห้งแล้ง ในบางคราวก็คิดด้วยซ้ำว่า .... เหมหิรัญญ์ในชมพูทวีปดู "มีชีวิต" ยิ่งกว่าตอนอยู่ในอุตรคุรุทวีปเสียอีก
บางครั้งดำรงอยู่ของสิ่งที่แตกต่าง โลกที่มีทั้งดีเลวปะปน การอยู่ในสภาวะแบบนั้นนับเป็นการฝึกจิต และ นับเป็นรสชาติชีวิตชนิดหนึ่ง ว่าจะครองตัวผ่านกระแสเชี่ยวกรากหลาย ๆ ด้านในทวีปแห่งนี้ไปอย่างไร และยิ่งไปกว่านั้นคือการได้เติมเต็มอารมณ์ อารมณ์ที่ตนเองคิดว่ารู้ซึ้งแล้วนานเท่าเวลาได้ถือกำเนิด เดือนพัตรา .... หญิงชาวชมพูทวีปผู้นั้น จุดความอ่อนหวานในใจหัวใจของเหมหิรัญญ์อย่างไม่เคยมีใครคนไหนทำได้ ในวันที่ได้เจอะเจอ "รัก" เป็นครั้งแรก เขาจึงได้รู้ว่าคนเราไม่ว่าจะชนชั้น เพศพันธุ์ ฐานันดรใด ก็ไม่อาจต้านทานพลานุภาพของมันได้
เนิ่นนานมาแล้วที่ได้ใช้ชีวิต ณ สถานที่ซึ่งบริสุทธิ์งดงามราวเกิดขึ้นเพียงในจินตนาการ
เนิ่นนานมาแล้วที่เฝ้าประตูแห่งกาลไม่ยอมให้ใครล่วงล้ำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องแปดเปื้อน
หากใครจะรู้เวลาเนิ่นนานดั่งนั้น เป็นเพราะกงล้อแห่งกาลเวลารอคอยความเหมาะสม
ให้เหมหิรัญญ์ได้เรียนรู้ว่าความรู้สึกของการเจอใครที่ปลงใจจะอยู่คู่เคียงกันนั้นเป็นเช่นไร
เนิ่นนาน ผ่านฟ้าและทะเลกว้างใหญ่
ผ่านฤดูดินแดน..กว้างไกล
แต่ความรักนั้นมั่นคง
เธอกับฉัน ให้และให้ความซื่อตรง
พายุหรือฝนมาไม่หวั่น มีเธอและมีฉันนิรันดร์
ไม่คิดว่ารักจะดีอย่างนี้
ไม่คิดว่าฝันจะเป็นไปได้
วันนับวันฉันเฝ้าแต่รอ
เมื่อเห็นหน้าเธอฉันจึงเป็นสุข
อยู่ในหัวใจ
ไม่คิดว่ารักจะดีอย่างนี้
ไม่คิดว่าฝันจะเป็นไปได้
วันนับวันฉันเฝ้าแต่รอ
เมื่อเห็นหน้าเธอฉันจึงเป็นสุข
อยู่ในหัวใจ รักเธอผู้เดียว
จะนานเท่าไร รักเธอผู้เดียว
ลูกไม้ลายสนธยา (กึ่งรีวิว) : วันที่เจอะเจอ "รัก" เป็นครั้งแรก
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ก็ไม่พ้นสัญชาตญาณแห่งตน ความตายของหญิงชราคนหนึ่ง ผ้าลูกไม้ชิ้นหนึ่ง และ การปรากฎตัวของหญิงสาวรายหนึ่ง สามารถดึงความสนใจของเหมหิรัญญ์ได้ ในชั้นแรกในฐานtผู้เฝ้าประตูกาล ก็เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องสอดส่องดูแลมิให้ผู้ใดล่วงล้ำเข้าสู่ดินแดนของตนได้ การตายของคุณยายประพิม และ วาระจิตของเขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่หากในชั้นถัดมา ภาพของหญิงสาวหน้ากระจกนั้นจุดความสนใจให้อดเข้าใกล้ไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นหน้าที่ แต่อีกส่วนคือความอยากรู้อยากเห็น อารมณ์นับร้อยนับพันที่ปรากฏบนใบหน้า และ อากัปกิริยาของเธอนั้นช่างน่าสนใจ มันแปลกและแตกต่างจากผู้คนในอุตรคุรุทวีปมากมายนัก
ความแตกต่างมักแปรเปลี่ยนเป็นความดึงดูด แม้ใครหน้าไหนจะเตือนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หรือ แม้กระทั่งจะลงโทษทัณฑ์ เหมหิรัญญ์ก็ไม่อาจฝืนใจตัวเองได้ นับร้อยปีเขาคิดว่าตัวเองเคยชินกับแดนศิวิไลซ์เทียบได้เท่ากับยุคพระศรีอาริย์ ผู้คนในอุตรคุรุทวีปไม่เจ็บไม่ป่วย อยู่ดีกินดี แม้หนีความตายไม่พ้น แต่ด้วยการรักษาศีลที่เท่าถึงกันทั้งดินแดน ตายแล้วไม่มีผู้ใดเสียใจ ทุกคนจะไม่ยึดติด ทุกคนล้วนแล้วแต่ปล่อยวาง ชีวิตหลังความตายจะไม่ไปเกิดในภพภูมิที่ต่ำกว่า มีแต่ความสุขและบริสุทธิ์ผุดผ่อง นั่นเป็นเรื่องราวก่อนที่เหมหิรัญญ์จะได้รู้จักอารมณ์ชนิดหนึ่ง อารมณ์ที่เรียกว่า "ความรัก"
ว่ากันว่าความรัก .... ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกเพศ ไม่เลือกฐานันดร ไม่เลือกอะไรเลย และเพราะการ "ไม่เลือก" นี่แหละ เหมหิรัญญ์เห็นว่าชีวิตชาวชมพูทวีปเต็มไปด้วยความสกปรก อันตราย ผู้คนร้อนร้าย สับปลับ หลอกลวง เทียบไม่ได้กับผู้คนและสถานที่ซึ่งตนเองนั้นจากมา แต่ความสุขความร่มเย็นเหล่านั้นเมื่อปราศจาก "อารมณ์รัก" ก็ไม่ผิดอะไรกับทะเลทรายที่แห้งแล้ง ในบางคราวก็คิดด้วยซ้ำว่า .... เหมหิรัญญ์ในชมพูทวีปดู "มีชีวิต" ยิ่งกว่าตอนอยู่ในอุตรคุรุทวีปเสียอีก
บางครั้งดำรงอยู่ของสิ่งที่แตกต่าง โลกที่มีทั้งดีเลวปะปน การอยู่ในสภาวะแบบนั้นนับเป็นการฝึกจิต และ นับเป็นรสชาติชีวิตชนิดหนึ่ง ว่าจะครองตัวผ่านกระแสเชี่ยวกรากหลาย ๆ ด้านในทวีปแห่งนี้ไปอย่างไร และยิ่งไปกว่านั้นคือการได้เติมเต็มอารมณ์ อารมณ์ที่ตนเองคิดว่ารู้ซึ้งแล้วนานเท่าเวลาได้ถือกำเนิด เดือนพัตรา .... หญิงชาวชมพูทวีปผู้นั้น จุดความอ่อนหวานในใจหัวใจของเหมหิรัญญ์อย่างไม่เคยมีใครคนไหนทำได้ ในวันที่ได้เจอะเจอ "รัก" เป็นครั้งแรก เขาจึงได้รู้ว่าคนเราไม่ว่าจะชนชั้น เพศพันธุ์ ฐานันดรใด ก็ไม่อาจต้านทานพลานุภาพของมันได้
เนิ่นนานมาแล้วที่เฝ้าประตูแห่งกาลไม่ยอมให้ใครล่วงล้ำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องแปดเปื้อน
หากใครจะรู้เวลาเนิ่นนานดั่งนั้น เป็นเพราะกงล้อแห่งกาลเวลารอคอยความเหมาะสม
ให้เหมหิรัญญ์ได้เรียนรู้ว่าความรู้สึกของการเจอใครที่ปลงใจจะอยู่คู่เคียงกันนั้นเป็นเช่นไร
ผ่านฤดูดินแดน..กว้างไกล
แต่ความรักนั้นมั่นคง
เธอกับฉัน ให้และให้ความซื่อตรง
พายุหรือฝนมาไม่หวั่น มีเธอและมีฉันนิรันดร์
ไม่คิดว่ารักจะดีอย่างนี้
ไม่คิดว่าฝันจะเป็นไปได้
วันนับวันฉันเฝ้าแต่รอ
เมื่อเห็นหน้าเธอฉันจึงเป็นสุข
อยู่ในหัวใจ
ไม่คิดว่ารักจะดีอย่างนี้
ไม่คิดว่าฝันจะเป็นไปได้
วันนับวันฉันเฝ้าแต่รอ
เมื่อเห็นหน้าเธอฉันจึงเป็นสุข
อยู่ในหัวใจ รักเธอผู้เดียว
จะนานเท่าไร รักเธอผู้เดียว