สวัสดีค่ะ
“พี่หยอดวัดยาง” กลับมาพร้อมกับเสียงที่แหบแห้งเพราะไปตะโกนส่งเสียงเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยถึงขอบสนามกีฬา Asian Games 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย มาค่ะ
เพราะกำลังใจ คือ สิ่งสำคัญของทุกการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันที่ไกลบ้าน
เสียงเชียร์เพียงเบาๆ ก็ทำให้ใจหึกเหิมขึ้นมาได้...
และด้วยเหตุนี้แหละค่ะ พวกเราถึงต้องไปเปล่งเสียงเชียร์ “ไทยแลนด์” ถึงขอบสนาม !!

ทริปนี้ “พี่หยอด” ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม
“ปตท.พาเชียร์ติดขอบสนามเอเชี่ยนเกมส์ 2018” #PrideOfThailand ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มาค่ะ เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่เต็มไปด้วยความประทับใจ จนอยากเล่าให้ฟัง (และมีภาพบรรยากาศมาฝากเพียบด้วย)
กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ปีนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 18 ค่ะ เป็นมหกรรมกีฬาระดับภูมิภาคที่สำคัญที่สุดของทวีปเอเชีย
และประเทศไทยเราไม่พลาดจะส่งนักกีฬาทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขัน
ปีนี้จัดขึ้นที่เมือง Jakarta และ Palembang ประเทศ Indonesia ภายใต้แนวคิด
Energy of Asia
และความพิเศษของมหกรรมกีฬาของชาวเอเชียครั้งนี้ ก็คือ งานนี้มี Mascot ถึง 3 ตัวด้วยกันค่ะ คือ
- นกปักษาสวรรค์ ชื่อว่า
Bhin Bhin เป็นสัญลักษณ์ของยุทธวิธี / การวางแผน หรือ Strategy
- กวางบาวีน ชื่อว่า
Atung เป็นสัญลักษณ์ของความเร็ว หรือ Speed
- แรดชวา ชื่อว่า
Kaka แรกนอเดียวสัญลักษณ์ของพลังและความเข้มแข็ง หรือ Strength


โครงการนี้คัดเลือกกองเชียร์ชาวไทย ไปร่วมเชียร์ถึงขอบสนาม วิธีการร่วมสนุกก็คือแต่ละคู่ต้องส่งคลิปการเชียร์แบบสุดพลังมา
จากนั้นก็จะคัดเข้ามารอบ audition แล้วสุดท้ายกรรมการก็จะคัดผู้โชคดีเหลือ 20 คู่ หรือ 40 คนที่จะได้เดินทางไปร่วมเชียร์ด้วยกัน
ช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน กับทริป “ปตท.พาเชียร์ติดขอบสนามเอเชี่ยนเกมส์ 2018” #PrideOfThailand ในครั้งนี้
เราเดินทางไปกันช่วงวันที่ 20-22 สิงหาคม ที่ผ่านมาค่ะ ทีมกองเชียร์ชาวไทยบวกกับทีมงานรวมๆแล้วก็กว่า 50 ชีวิต
เป็นทริปที่หลากหลายอายุจริงๆนะ เพราะมีทั้งรุ่นเด็ก วัยรุ่น และรุ่นใหญ่ คู่แม่ลูก คู่เพื่อนซี้ คู่ชีวิต ต่างคนต่างที่มา ต่างสาขาอาชีพ แต่ทุกคนมีความมุ่งมั่นและความตั้งใจเดียวกันก็คือ
ไปส่งเสียงเชียร์ดังๆให้นักกีฬาไทยมีกำลังใจในการแข่งขัน อันนี้คือสุดยอดจริงๆค่ะ
การเดินทางครั้งนี้ เรานัดหมายกันตั้งแต่เช้าตรู่ หกโมงเช้าที่สนามบินดอนเมือง...
กองเชียร์เรามาพร้อมหน้าพร้อมตา เปลี่ยนเสื้อทีมเรียบร้อยพร้อมตะลุยเอเชี่ยนเกมส์
เสื้อเชียร์สวยงามมาก บ่อบอกความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ที่หน้าอกสกรีนว่า
Pride of Thailand
ทริปนี้เดินทางด้วยสายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน SL116 Bangkok-Jakarta ออกเวลา 9:00 am

คณะเราเดินทางถึงสนามบิน
Jakarta Soekarno-Hatta International Airport เวลา 12:30 pm
(เวลาเมืองไทยและอินโดนีเซียเท่ากันนะคะ ไม่ต้องปรับเวลา)
สนามบินแห่งนี้ขนาดไม่ใหญ่มาก เท่าที่มองน่าจะพอๆกับดอนเมือง (หรืออาจจะเล็กกว่าหน่อย) มีความวุ่นวายระดับนึงเลยทีเดียว...
ความดราม่าเกิดขึ้นแต่มาถึงเลยค่ะ คณะเราใช้เวลารอประเป๋าเดินทางอยู่เกือบ 2 ชั่วโมงกว่าจะได้กันครบ แฮ่ๆ แต่ไม่เป็นไร เวลาเราเหลือเยอะ เพราะโปรแกรมแรกของการไปเชียร์ครั้งนี้คือ บาสเก็ตบอลชาย ในช่วงเย็น...
หลังจากได้กระเป๋าเดินทางกันเรียบร้อย แวะทานข้าวเพิ่มพลังกาย และพลังเสียง รถบัสก็พาเราไปยัง
Gelora Bung Karno สนามกีฬาที่ใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ในครั้งนี้ ระหว่างการเดินทางทีมเชียร์เราก็วอร์มเสียงกันตลอดทาง คึกกันสุดๆ
และเมื่อเดินทางมาถึงที่สนาม บริเวณโดยรอบสเตเดี้ยมกลางนี้ก็จะมีสนามแข่งกีฬาประเภทต่างๆ กระจายอยู่ค่ะ การเดินทางภายในนั้นก็ได้ทั้งเดิน และขึ้นรถ shuttle bus ที่มีจัดไว้บริการฟรี
สำหรับแมตช์แรกที่พวกเราได้เข้าไปชมก็คือ
การแข่งขันบาสเกตบอลชาย กรุ๊ปเอ Thailand - Indonesia ณ สนาม Gelora Bung Karno - Basketball Hall, Jakarta Selatan ค่ะ เป็นแมตช์ที่รอคอยเลยก็ว่าได้เพราะได้เจอกับเจ้าภาพซะด้วย บรรยากาศภายในสนามคือเต็มไปด้วยกองเชียร์ฝั่งเจ้าภาพค่ะ มีทีมเชียร์ของพวกเราชาวไทยนั่งรวมตัวกันอยู่กระจุกนึง แต่เชื่อมั้ยว่าเสียงเชียร์ของพวกเรานี่ดังกระหึ่มสนามจริงๆ นะ
กว่า 50 ชีวิตของกองเชียร์ชาวไทย กับความสามัคคีที่ทะลักออกมาแบบไม่นัดหมาย
พวกเราส่งเสียงเชียร์อย่างพร้อมเพรียงและดังไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ
สีสันของกองเชียร์เราจัดเต็มมากๆค่ะ เสื้อผ้าหน้าผม พร๊อพประกอบการเชียร์มาครบเลย แถมทริปนี้ยังมีแขกรับเชิญพิเศษมาร่วมเชียร์ด้วย
ไม่ว่าจะเป็น น้าติง ฮาร์ดเคอร์ หรือ สุวัฒน์ กลิ่นเกษร นักพากษ์กีฬาระดับประเทศ (เสียงน้าติงนี่เราได้ยินมาตั้งแต่ดูมวยปล้ำตอนเด็กๆโน้น) และเหล่าดีเจสายฮา เช่น ดีเจพล่ากุ้ง, ดีเจโทนคุง และดีเจปาล์ม จาก FM 99
นอกจากจะตะโกนสุดเสียงว่า
“ไทยแลนด์ สู้สู้” แล้ว เราก็ขุดเอาเพลงประจำชาติมาร้องมารำกันอย่างสนุกสนานเลยค่ะ
เอาจริงๆนะ กองเชียร์อินโดนีเซียนี่หันมามองเป็นตาเดียวเลยล่ะ เป็นสายตาที่มองมาด้วยรอยยิ้ม บางคนถึงกับลุกขึ้นมารำด้วยเลยทีเดียว
ตลอดการแข่งขันเป็นไปด้วยความกดดันค่ะ เพราะทีมบาสของเราเป็นรองอินโดนีเซียอยู่ คะแนนสูสีจนจบเกมส์ ถึงแม้ว่าผลการแข่งขัน ทีมชาติไทยจะเป็นฝ่ายแพ้ไป แต่ได้ใจพวกเราไปเต็มๆค่ะ
หลังจบเกมส์นักบาสเดินมาหาพวกเราที่หน้าสแตนเชียร์ ยกมือไหว้ขอบคุณ วินาทีนั้นบอกเลยว่าตื้นตันใจและภูมิใจมากๆ ที่ได้มาส่งเสียงเชียร์ให้พวกเขาถึงขอบสนาม ทุกเสียงที่เราตะโกนออกไป นักกีฬาเค้าได้ยินจริงๆนะ
จบภารกิจวันแรกสำหรับการเชียร์ ใส่พลังไปเต็มที่แบบไม่ยั้ง เสียงแหบแห้งกันไปรัวรัว กลับเข้าโรงแรมสลบเลยจ้า 5555
วันรุ่งขึ้น ทีมเชียร์พวกเรามุ่งหน้ากลับไปที่สนามการแข่งขันอีกเช่นเคย...(ทริปนี้ที่เที่ยวเราไม่เน้นจริงๆ)
สำหรับวันนี้เราได้มีโอกาสไป
ชมการแข่งขันแบดมินตัน ประเภททีมหญิง ประเทศไทยเจอสายแข็งอย่างประเทศจีน ณ สนาม Kawasan Olahraga, Gelora Bung Karno
เราเชียร์กันแบบยาวๆเลยค่ะสำหรับการแข่งขันแมตช์นี้ ได้ชมฝีมือนักแบดทีมชาติแต่ละคนนี่สุดยอดไปเลย ทั้งแบบเดี่ยว แบบคู่ ได้เห็นการเล่นแบบสดๆของหญิงคู่มือหนึ่ง กิ๊ฟ-จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ วิว-รวินดา ประจงใจ หญิงเดี่ยวมือหนึ่งอย่าง น้องเมย์-รัชนก อินทนน์ และ หญิงเดี่ยวมือสองอย่าง แน็ต-ณิชชาอร จินดาพล ถึงแม้ว่าผลการแข่งขันจะออกมาแพ้ แต่นักกีฬาเราสู้ไม่ถอยจริงๆ เอาใจกองเชียร์ไปเลยค่ะ
และเช่นเคยค่ะ กองเชียร์ของเราก็ส่งเสียงให้กำลังใจนักกีฬาแบบ non-stop ไม่มีเหน็ดไม่มีเหนื่อย แต่ความว้าวของวันนี้ก็คือ costume ของแต่ละคนนี่สุดๆไปเลยค่ะ ชุดไทยมาเต็มน่ารักที่สุด แถมยังได้ทีมเชียร์มืออาชีพอย่างพี่โดโด้ แขนควง ท้าวดักแด้ และพี่ลอยด์ เงาะป่า มานำเชียร์และสร้างสีสันให้ทั้งสนามมีแต่ความคึกคัก จนน้องเมย์-รัชนก และนักกีฬาคนอื่นๆที่มานั่งชมการแข่งขันถึงกับถ่าย vdo ลง IG Story เลย ดีใจจจจจจ
หลังจบเกมส์นักกีฬาเดินมุ่งเข้ามาหาพวกเรา พร้อมคำขอบคุณเช่นเคย... เป็นอะไรที่ตื้นตันอีกแล้วววว
และนี่แหละค่ะ คือพลังที่เราส่งไปถึงนักกีฬา ถึงแม้ผลการแข่งขันจะแพ้ แต่เมื่อเค้าเงยหน้าขึ้นมา ก็จะเห็นกำลังใจแก๊งค์ใหญ่ที่ยังไม่หยุดตะโกนว่า
“ไทยแลนด์ๆๆๆ”
[CR] เที่ยวรัวรัว : พลังกองเชียร์ไทยใน Asian Games 2018 Jakarta, Indonesia
เพราะกำลังใจ คือ สิ่งสำคัญของทุกการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันที่ไกลบ้าน
เสียงเชียร์เพียงเบาๆ ก็ทำให้ใจหึกเหิมขึ้นมาได้...
และด้วยเหตุนี้แหละค่ะ พวกเราถึงต้องไปเปล่งเสียงเชียร์ “ไทยแลนด์” ถึงขอบสนาม !!
ทริปนี้ “พี่หยอด” ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “ปตท.พาเชียร์ติดขอบสนามเอเชี่ยนเกมส์ 2018” #PrideOfThailand ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มาค่ะ เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่เต็มไปด้วยความประทับใจ จนอยากเล่าให้ฟัง (และมีภาพบรรยากาศมาฝากเพียบด้วย)
กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ปีนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 18 ค่ะ เป็นมหกรรมกีฬาระดับภูมิภาคที่สำคัญที่สุดของทวีปเอเชีย
และประเทศไทยเราไม่พลาดจะส่งนักกีฬาทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขัน
ปีนี้จัดขึ้นที่เมือง Jakarta และ Palembang ประเทศ Indonesia ภายใต้แนวคิด Energy of Asia
และความพิเศษของมหกรรมกีฬาของชาวเอเชียครั้งนี้ ก็คือ งานนี้มี Mascot ถึง 3 ตัวด้วยกันค่ะ คือ
- นกปักษาสวรรค์ ชื่อว่า Bhin Bhin เป็นสัญลักษณ์ของยุทธวิธี / การวางแผน หรือ Strategy
- กวางบาวีน ชื่อว่า Atung เป็นสัญลักษณ์ของความเร็ว หรือ Speed
- แรดชวา ชื่อว่า Kaka แรกนอเดียวสัญลักษณ์ของพลังและความเข้มแข็ง หรือ Strength
โครงการนี้คัดเลือกกองเชียร์ชาวไทย ไปร่วมเชียร์ถึงขอบสนาม วิธีการร่วมสนุกก็คือแต่ละคู่ต้องส่งคลิปการเชียร์แบบสุดพลังมา
จากนั้นก็จะคัดเข้ามารอบ audition แล้วสุดท้ายกรรมการก็จะคัดผู้โชคดีเหลือ 20 คู่ หรือ 40 คนที่จะได้เดินทางไปร่วมเชียร์ด้วยกัน
ช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน กับทริป “ปตท.พาเชียร์ติดขอบสนามเอเชี่ยนเกมส์ 2018” #PrideOfThailand ในครั้งนี้
เราเดินทางไปกันช่วงวันที่ 20-22 สิงหาคม ที่ผ่านมาค่ะ ทีมกองเชียร์ชาวไทยบวกกับทีมงานรวมๆแล้วก็กว่า 50 ชีวิต
เป็นทริปที่หลากหลายอายุจริงๆนะ เพราะมีทั้งรุ่นเด็ก วัยรุ่น และรุ่นใหญ่ คู่แม่ลูก คู่เพื่อนซี้ คู่ชีวิต ต่างคนต่างที่มา ต่างสาขาอาชีพ แต่ทุกคนมีความมุ่งมั่นและความตั้งใจเดียวกันก็คือ ไปส่งเสียงเชียร์ดังๆให้นักกีฬาไทยมีกำลังใจในการแข่งขัน อันนี้คือสุดยอดจริงๆค่ะ
การเดินทางครั้งนี้ เรานัดหมายกันตั้งแต่เช้าตรู่ หกโมงเช้าที่สนามบินดอนเมือง...
กองเชียร์เรามาพร้อมหน้าพร้อมตา เปลี่ยนเสื้อทีมเรียบร้อยพร้อมตะลุยเอเชี่ยนเกมส์
เสื้อเชียร์สวยงามมาก บ่อบอกความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ที่หน้าอกสกรีนว่า Pride of Thailand
ทริปนี้เดินทางด้วยสายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน SL116 Bangkok-Jakarta ออกเวลา 9:00 am
คณะเราเดินทางถึงสนามบิน Jakarta Soekarno-Hatta International Airport เวลา 12:30 pm
(เวลาเมืองไทยและอินโดนีเซียเท่ากันนะคะ ไม่ต้องปรับเวลา)
สนามบินแห่งนี้ขนาดไม่ใหญ่มาก เท่าที่มองน่าจะพอๆกับดอนเมือง (หรืออาจจะเล็กกว่าหน่อย) มีความวุ่นวายระดับนึงเลยทีเดียว...
ความดราม่าเกิดขึ้นแต่มาถึงเลยค่ะ คณะเราใช้เวลารอประเป๋าเดินทางอยู่เกือบ 2 ชั่วโมงกว่าจะได้กันครบ แฮ่ๆ แต่ไม่เป็นไร เวลาเราเหลือเยอะ เพราะโปรแกรมแรกของการไปเชียร์ครั้งนี้คือ บาสเก็ตบอลชาย ในช่วงเย็น...
หลังจากได้กระเป๋าเดินทางกันเรียบร้อย แวะทานข้าวเพิ่มพลังกาย และพลังเสียง รถบัสก็พาเราไปยัง Gelora Bung Karno สนามกีฬาที่ใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ในครั้งนี้ ระหว่างการเดินทางทีมเชียร์เราก็วอร์มเสียงกันตลอดทาง คึกกันสุดๆ
และเมื่อเดินทางมาถึงที่สนาม บริเวณโดยรอบสเตเดี้ยมกลางนี้ก็จะมีสนามแข่งกีฬาประเภทต่างๆ กระจายอยู่ค่ะ การเดินทางภายในนั้นก็ได้ทั้งเดิน และขึ้นรถ shuttle bus ที่มีจัดไว้บริการฟรี
สำหรับแมตช์แรกที่พวกเราได้เข้าไปชมก็คือ การแข่งขันบาสเกตบอลชาย กรุ๊ปเอ Thailand - Indonesia ณ สนาม Gelora Bung Karno - Basketball Hall, Jakarta Selatan ค่ะ เป็นแมตช์ที่รอคอยเลยก็ว่าได้เพราะได้เจอกับเจ้าภาพซะด้วย บรรยากาศภายในสนามคือเต็มไปด้วยกองเชียร์ฝั่งเจ้าภาพค่ะ มีทีมเชียร์ของพวกเราชาวไทยนั่งรวมตัวกันอยู่กระจุกนึง แต่เชื่อมั้ยว่าเสียงเชียร์ของพวกเรานี่ดังกระหึ่มสนามจริงๆ นะ
กว่า 50 ชีวิตของกองเชียร์ชาวไทย กับความสามัคคีที่ทะลักออกมาแบบไม่นัดหมาย
พวกเราส่งเสียงเชียร์อย่างพร้อมเพรียงและดังไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ
สีสันของกองเชียร์เราจัดเต็มมากๆค่ะ เสื้อผ้าหน้าผม พร๊อพประกอบการเชียร์มาครบเลย แถมทริปนี้ยังมีแขกรับเชิญพิเศษมาร่วมเชียร์ด้วย
ไม่ว่าจะเป็น น้าติง ฮาร์ดเคอร์ หรือ สุวัฒน์ กลิ่นเกษร นักพากษ์กีฬาระดับประเทศ (เสียงน้าติงนี่เราได้ยินมาตั้งแต่ดูมวยปล้ำตอนเด็กๆโน้น) และเหล่าดีเจสายฮา เช่น ดีเจพล่ากุ้ง, ดีเจโทนคุง และดีเจปาล์ม จาก FM 99
นอกจากจะตะโกนสุดเสียงว่า “ไทยแลนด์ สู้สู้” แล้ว เราก็ขุดเอาเพลงประจำชาติมาร้องมารำกันอย่างสนุกสนานเลยค่ะ
เอาจริงๆนะ กองเชียร์อินโดนีเซียนี่หันมามองเป็นตาเดียวเลยล่ะ เป็นสายตาที่มองมาด้วยรอยยิ้ม บางคนถึงกับลุกขึ้นมารำด้วยเลยทีเดียว
ตลอดการแข่งขันเป็นไปด้วยความกดดันค่ะ เพราะทีมบาสของเราเป็นรองอินโดนีเซียอยู่ คะแนนสูสีจนจบเกมส์ ถึงแม้ว่าผลการแข่งขัน ทีมชาติไทยจะเป็นฝ่ายแพ้ไป แต่ได้ใจพวกเราไปเต็มๆค่ะ
หลังจบเกมส์นักบาสเดินมาหาพวกเราที่หน้าสแตนเชียร์ ยกมือไหว้ขอบคุณ วินาทีนั้นบอกเลยว่าตื้นตันใจและภูมิใจมากๆ ที่ได้มาส่งเสียงเชียร์ให้พวกเขาถึงขอบสนาม ทุกเสียงที่เราตะโกนออกไป นักกีฬาเค้าได้ยินจริงๆนะ
จบภารกิจวันแรกสำหรับการเชียร์ ใส่พลังไปเต็มที่แบบไม่ยั้ง เสียงแหบแห้งกันไปรัวรัว กลับเข้าโรงแรมสลบเลยจ้า 5555
วันรุ่งขึ้น ทีมเชียร์พวกเรามุ่งหน้ากลับไปที่สนามการแข่งขันอีกเช่นเคย...(ทริปนี้ที่เที่ยวเราไม่เน้นจริงๆ)
สำหรับวันนี้เราได้มีโอกาสไปชมการแข่งขันแบดมินตัน ประเภททีมหญิง ประเทศไทยเจอสายแข็งอย่างประเทศจีน ณ สนาม Kawasan Olahraga, Gelora Bung Karno
เราเชียร์กันแบบยาวๆเลยค่ะสำหรับการแข่งขันแมตช์นี้ ได้ชมฝีมือนักแบดทีมชาติแต่ละคนนี่สุดยอดไปเลย ทั้งแบบเดี่ยว แบบคู่ ได้เห็นการเล่นแบบสดๆของหญิงคู่มือหนึ่ง กิ๊ฟ-จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ วิว-รวินดา ประจงใจ หญิงเดี่ยวมือหนึ่งอย่าง น้องเมย์-รัชนก อินทนน์ และ หญิงเดี่ยวมือสองอย่าง แน็ต-ณิชชาอร จินดาพล ถึงแม้ว่าผลการแข่งขันจะออกมาแพ้ แต่นักกีฬาเราสู้ไม่ถอยจริงๆ เอาใจกองเชียร์ไปเลยค่ะ
และเช่นเคยค่ะ กองเชียร์ของเราก็ส่งเสียงให้กำลังใจนักกีฬาแบบ non-stop ไม่มีเหน็ดไม่มีเหนื่อย แต่ความว้าวของวันนี้ก็คือ costume ของแต่ละคนนี่สุดๆไปเลยค่ะ ชุดไทยมาเต็มน่ารักที่สุด แถมยังได้ทีมเชียร์มืออาชีพอย่างพี่โดโด้ แขนควง ท้าวดักแด้ และพี่ลอยด์ เงาะป่า มานำเชียร์และสร้างสีสันให้ทั้งสนามมีแต่ความคึกคัก จนน้องเมย์-รัชนก และนักกีฬาคนอื่นๆที่มานั่งชมการแข่งขันถึงกับถ่าย vdo ลง IG Story เลย ดีใจจจจจจ
หลังจบเกมส์นักกีฬาเดินมุ่งเข้ามาหาพวกเรา พร้อมคำขอบคุณเช่นเคย... เป็นอะไรที่ตื้นตันอีกแล้วววว
และนี่แหละค่ะ คือพลังที่เราส่งไปถึงนักกีฬา ถึงแม้ผลการแข่งขันจะแพ้ แต่เมื่อเค้าเงยหน้าขึ้นมา ก็จะเห็นกำลังใจแก๊งค์ใหญ่ที่ยังไม่หยุดตะโกนว่า “ไทยแลนด์ๆๆๆ”
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น