หมีหมูไปกรุยทางมาให้แล้ว เที่ยวตามรีวิวได้เลย
โดยรีวิวภาพนิ่งชุดนี้เป็นเพียงแค่วันแรกของทริปสุดหฤโหดของเราทั้งคู่

=================================================

"บาหลี" เนี่ยไม่ได้เป็นประเทศนะเว้ย!! มันเป็นเกาะ ที่ตั้งอยู่บ้านประเทศ อินโดนีเซีย

เงิน:
ประเทศอินโดนีเซียใช้ค่าเงินรูเปียห์ (RP หรือ IDR) ซึ่งค่าเงินเขาค่อนข้างเล็ก แบงก์เลยจะใหญ่หน่อยทำให้เราอาจจะสับสนได้เวลาจ่ายเงิน เพราะเราจ่ายกันทีเป็น ล้าน IDR เลย แต่พอตีกลับมาจริงๆก็ประมาณ 2-3 พันบาทไทย

เวลา:
ที่ "บาหลี" ตาม Time Zone แล้วจะต่างจากไทย 1 ชั่วโมง

การเดินทาง:
หากใครไปเที่ยว บาหลี ด้วยตัวเอง แนะนำให้จ้างรถส่วนตัวแบบเหมาทั้งวันไปเลย เพราะแม้ตัวเมืองของบาหลีจะค่อนข้างเจริญ แต่การคมนาคมไม่ได้สะดวกเหมือนในเมืองหลวงมากเท่าไหร่

สถานที่ท่องเที่ยว:
ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวในบาหลี หากเป็นพวกธรรมชาติแบบ น้ำตก ราคาไม่แรงเลย ประมาณ 30-50 บาทไทย ซึ่งสำหรับรถที่หมีหมูจ้างไว้ทั้งวันรวมไกด์ จะไม่รวมค่าเข้าสถานที่พวกนี้ เราต้องไปจ่ายเองหน้างาน

ที่พัก:
บาหลีที่พักเร้นจ์ราคากว้างมาก มีตั้งแต่หลักร้อยกลางๆ ไปจนถึงเป็นหมื่น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถ้าพักในเขตตัวเมือง เราจะหาที่พักราคาถูกได้เยอะมาก

ของหมีหมูเราพักใกล้สนามบินก่อน เพราะวันที่เดินทางมาถึง มาถึงดึก
(โรงแรม IVANKA AIRPORT INN) ส่วนหลังจากนั้นเราเดินทางไปที่เขตยอดฮิต คือ UBUD เลยไปลองหาโรงแรมท่ามกลางธรรมชาติราคาประมาณ พันนิดๆนอน

ช่วงเวลาที่เหมาะสม:
บาหลี เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้ามีจุดมุ่งหมายคือการข้ามไปชมความงามของธรรมชาติที่ Nusa Penida จำเป็นต้องละเว้นช่วง มิถุนายน จนถึง สิงหาคม ของทุกปี เพราะเป็นช่วงมรสุมของบาหลี อาจเกิดพายุตลื่นลูกใหญ่ จึงทำให้เรือไม่สามารถ ออก หรือ กลับ เข้าฝั่งได้

ใครจะไปช่วงไหน ไปทำอะไร ลองวางแผนกันดีๆนะครับ

=================================================

บาหลี มีอะไรบ้าง?

จากที่สัมผัสมา บาหลีเนี่ยเหมาะแก่การตะลุยธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีทั้งป่าเขาที่สมบูรณ์ มีภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ (แอบน่ากลัว) มีทะเลสาบกว้างใหญ่ และยังมีทะเลให้เล่นอีกด้วย

รวมไปถึงความงดงามทางวัฒนธรรม ใน 'ปุระ' (Pura) หรือ วัด ต่างๆ ที่มีให้เห็นกันอยู่เกือบทั่วทั้งเกาะ

=================================================

โปรแกรม ตามแบบฉบับของหมีหมู

D A Y 1
(Kuta-Nusa Penida-Pura Tanah Lot) >> แพลนเดิม

06:00 ออกจากโรงแรม
08:00 ออกจากท่าเรือไป Nusa Penida
09:30 เที่ยวใน Nusa Penida (จ้างรถทั้งวันทั้งบาหลี และเกาะ รวมอาหารกลางวัน)
17:00 กลับถึงบาหลี
18:00 Tanah Lot - ชมพระอาทิตย์ตกดิน
19:00 ถึง โรงแรม พักผ่อนก่อนตื่นเที่ยงคืน (ฮั่นแน่!! สงสัยล่ะสิตื่นทำไมเที่ยงคืน รอดูรีวิวภาพนิ่งของวันที่ 2 นะก๊ะ ใครอยากรู้ ลัดไปชมได้ที่ https://goo.gl/htbGgs )

แต่เนื่องจาก เราดันไปเที่ยวช่วง กค!!! ทำให้ไม่สามารถข้ามเกาะได้ แพลนทั้งหมดเลยต้องโล๊ะทิ้ง แล้วเริ่มใหม่!! ดังนี้

D A Y 1
(Kuta-Tegenungan Waterfall-Tukad Ceoung-Pura Tanah Lot) >> แพลนใหม่

06:00 ออกจากโรงแรม
08:00 ติดอยู่ที่ท่าเรือเพื่อรอไป Nusa Penida
09:00 ถอดใจออกจากท่าเรือ
10:15 เที่ยว Tegenungan Waterfall
12:00 เที่ยว Tukad Cepung
14:30 กินข้าวเที่ยง
16:30 ถึง Tanah Lot
18:45 ออกจาก Tanah Lot มุ่งหน้ากลับโรงแรม
21:00 ถึงโรงแรม ( = = รถโคตรติดเลย สรุปคืนนี้เรานอนกันแค่ 2 ชั่วโมงนะแจ๊ะ)

=================================================

พร้อมยัง??
ถ้าพร้อมแล้ว ไปลุยกันเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

Tegenungan Waterfall
Tukad Cepung
Pura Tanah Lot

เริ่มต้นวันอันแสนเช้า ด้วยการลากสังขารออกจากโรงแรมตั้งแต่ 6 โมงกว่าๆ เพื่อไปรอลุ้นว่า เรือจากบาหลี จะสามารถข้ามเกาะไปยัง Nusa Penida ตามแพลนที่เราวางไว้ได้หรือไม่


จากผลการพยากรณ์ของหลายๆคนในพื้นที่ บอกไว้ว่าคลื่นขึ้นสูงมาก จนไม่น่าสามารถนำเรือออกได้ หรือถ้าเอาออกไปได้ ก็ไม่แน่ว่าจะกลับเข้ามาฝั่งบาหลีได้หรือเปล่า

เราสองคนเลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนการเดินทางกระทันหันกันตอนนี้เลย


จากความเหนื่อยสะสมของการเดินทางเมื่อคืน บวกกับการตื่นเช้า ผสมความผิดหวัง

ทำให้เจ้าหมู ต้องกลับขึ้นมาชาร์จพลังงานอีกครั้งบนรถ

คร่อก ZzZzZzzz

#ฝันดี


ถึงแล้ว!!!

จุดหมายแรกของเรา
Tegenungan Waterfall

เป็นหนึ่งในน้ำตกยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวเอเชีย และชาวตะวันตก


ก่อนอื่นเลยต้องเสียค่าเข้าก่อน

คนละ 15,000 Rp.


ได้มาแล้วจ้าาา ตั๋วบ้านเมืองเขาดูดีเหมือนกันนะเนี่ย


Tegenungan นี่เป็นน้ำตกท่ามกลางธรรมชาติขนาดใหญ่ จากจุดขายตั๋วเราต้องเดินเท้าลงไปประมาณ 10 นาที
(ทางลงไม่ต้องสนใจหรอก รอตอนกลับขึ้นเถอะเมิงเอ้ยยยย ขาแทบขวิด)

เดินจากจุดขายตั๋วมาได้ประมาณ 30 เมตร
เราก็จะได้ยินเสียงน้ำตกใหญ่จากจุดชมวิว พร้อมกับภาพที่ทำให้เราทึ่งถึงธรรมชาติแห่งแรกบนเกาะบาหลีดังในภาพ


เดินลงมาจากจุดชมวิวอีกนิด เราจะเจอรังนกที่ถูกสร้างขึ้นให้เป็นจุดถ่ายรูป (จริงๆ จะพบเจอได้อีกหลายที่ในบาหลีเลย สำหรับรังนกถ่ายรูปนี้)


ก่อนเข้าถึงตัว น้ำตก จริงๆ
เราจะเจอกับสระน้ำเล็กๆ ที่สามารถลงไปล้างตัว หรือแช่เล่นได้


ถึงโซนน้ำตกแว้ววว


คนๆนี้คือ ลุงกุสตู (Gustu)
Driver ของพวกเราตลอดระยะเวลาการเดินทางบนบาหลี


มาดึความสวยงามของน้ำตก Tegenungan กัน




เมื่อเสร็จจาก Tegenungan แล้ว
ลุงกุสตู ก็พาเรามุ่งหน้ามาสู่จุดหมายที่ 2

"Tukad Cepung" จากการดูรีวิวมาก่อน และสอบถามลุง
ลุงบอกว่าเป็นน้ำตกที่คนยังมาเที่ยวน้อยอยู่ เพราะเพิ่งค้นพบไม่นาน แต่ทางลงอาจจะเดินทางหน่อย และชัน

แต่ถ้าพูดถึงความสวย และอะเมซิ่งแล้ว Tegenungan นี่เทียบไม่ติดฝุ่น

ได้ยินงั้น หูกระพือสิครัช ลุย!!!


มัน....................
สวยจริงๆว่ะ

คือจะอธิบายยังไงดี
การเดินลงน้ำตกจากจุดจอดรถเราต้องผ่านทางคอนกรีต ผ่านทางน้ำ ผ่านพุ่มไม้เตี้ยๆ ที่เจ้าหน้าที่คงจัดเตรียมไว้เพื่อให้ความเพลิดเพลิน และสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน

แต่พอเราสองคนลงบันไดช่วงสุดท้ายมา
มันแทบพูดอะไรไม่ออกเลย
(จริงๆคือเหนื่อย แฮร่!!!)

เพราะธรรมชาติภายในนี้ สวยงามและสมบูรณ์มาก
เราสองคนกำลังเดินผ่านสายน้ำจากน้ำตก ที่ลอดผ่านมาทางถ้ำที่ถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์


ส่วนลึกสุดของถ้ำ คือส่วนที่เราเฝ้ารอคอย
เป็นส่วนที่เหมือนปล่องของถ้ำ และมีสายน้ำไหลลงมาเป็นน้ำตก

ใครไปบาหลี หมีแนะนำ เอาน้ำตกนี้ยัดลง List ไปโดยไม่ต้องลังเลแม้แต่นิดเดียว




เที่ยวไปแล้ว 2 ที่
ระหว่างทางกลับเข้าเมือง ลุงกุสตู คงเดาได้ว่าพวกเราหิว
เลยพามาแวะกินข้าวกลางวัน (จริงๆ คือข้าวบ่ายนั่นแหละ)

มาถึงร้านอาหาร อินโดฯ ทั้งที ไม่ลองของท้องถิ่นได้อย่างไร!!!
จะไปเลยจานแรก

"Sate Ayam" หรือ "ไก่สะเต๊ะ" นั่นเอง

ใช่แล้วววว นี่คือสะเต๊ะครับ แบบที่เรากินหมูเหลืองๆ แผ่นบางๆ เสียบไม้ที่ไทยนี่แหละ
แต่สูตรสะเต๊ะของที่นี่มีหลากหลาย ทั้งปิ้ง และทั้งทอด แต่เนื้อสัตว์ส่วนมากจะเป็น ไก่ เพราะคนอินโดฯส่วนมากไม่กินหมู

ปริมาณของสะเต๊ะที่นี่ ชิ้นใหญ่ แบบไม่ต้องกังวลว่าถ้าเราหายใจแรงๆใส่ไม้ เนื้อมันจะปลิวไปกับสายลมรึเปล่า

ทางด้านน้ำจิ้ม ที่นี่เขาจะมีแค่ น้ำจิ้มถั่ว มาเสิร์ฟเท่านั้น ไม่ได้มี อาจาด "ผักดองน้ำส้มสายชู" เหมือนบ้านเรา


"Mee Goreng" หรือ "หมี่โกเร็ง"

ที่เรามักจะได้รับเป็นของฝากในรูปแบบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากอินโดนีเซีย
แต่ครั้งนี้เราได้มากิน หมี่โกเร็ง จริงๆที่ไม่ใช่ Instant Noodle ครั้งแรก

เลยรู้ว่า อ๋ออออออออออออออ
มันคือผัดหมี่นั้นเอง

แต่บอกเลยว่า รสชาติ เขาไม่ธรรมดา สมคำร่ำรือจริงๆ


สำหรับสถานที่สุดท้ายของวันแรก
เพื่อที่จะมาดูพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ ต้องที่นี่เลย

"Pura Tanah Lot"

เป็นวัดลอยน้ำที่น่าสนใจ เนื่องจากช่วงไหนที่น้ำขึ้น น้ำทะเลจะมีระดับสูงจนไม่สามารถเดินข้ามเข้าไปที่บริเวณวิหาร Tanah Lot ได้ ต้องรอช่วงเวลาที่น้ำลงเท่านั้น

(ด้านหลังเจ้าหมูคือข้างใต้วิหาร)

ช่วงเวลาที่น้ำลด ภายใต้วิหารจะปรากฎจุดอาบน้ำมนต์ เพื่อให้เราเข้าไปล้างหน้า แขน ขา ก่อนมารับพร และเจิมหน้าผากด้วยข้าวสารแห้ง (บริจาคเงินตามจิตศรัทธา)

(หากใครอยากดูรีวิวเจิมเต็มๆ ที่นี่เลย https://goo.gl/VLXCfR )


บรรยากาศบริเวณโดยรอบของ Tanah Lot


นี่ไง Tanah Lot แบบเต็มๆ





ภาพพระอาทิตย์ตกดินที่ Tanah Lot น่าจะเป็นภาพที่ส่งท้ายรีวิวนี้ได้อย่างดี

สำหรับวันแรกที่มาถึง บาหลี
ความรู้สึกของเราสองคนบอกได้เลยว่า

"ดีกว่าที่คิด" มากๆ เพราะเราเคยพบเจอบางสถานที่ ที่เรียกได้ว่าไม่ตรงปกอย่างแรง

แต่สำหรับบาหลี แทบไม่มีสถานที่ไหน ต่างไปจากภาพในความทรงจำที่เคยเจอ เว้นก็แต่จำนวนนักท่องเที่ยวตามสถานที่ ที่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งคงไม่ใช่อุปสรรคสำหรับนักเดินทางอย่างเราๆ

อย่าลืมนะครับ เราสองคน สนับสนุนให้ทุกๆคน

ออก ไป เที่ยว!!!
โดยเฉพาะกับแฟน

แล้วพบกันใหม่คร้าบบบบบบบบบบ

#theplanners
#เที่ยวกับแฟน

ฝากติดตาม กด Like กด Share ได้ที่
https://www.facebook.com/theplannersbytsst