เรารู้ตัวว่ามีอาการซึมเศร้าแต่เราไม่ยอมไปหาหมอเพราะมันยุ่งยาก ไม่มีเวลา ไม่มีเงิน ไม่มีรถ ไม่มีใครคิดจะพาไป ไม่มีใครมีเวลา ตัวเราเองก็ไม่สามารถไปเองได้ ไม่อยากไป และเราไม่ได้เป็นหนักๆอะไรขนาดนั้น แต่เรารู้สึกอยากหายไปทุกๆวัน แล้วการจะหายไปจากโลกนี้ คำตอบก็คือความตายนั่นแหล่ะ
แต่เมื่อไม่นานมานี้เรานอนร้องไห้ เพราะเกิดรู้สึก"กลัวตาย" ขึ้นมาครั้งแรก
เรื่องของเรื่องคือโดนสัตว์มีพิษต่อยแต่เพราะเหตุผลเดียวกับข้างบน ครอบครัวและตัวเราจึงต้องปล่อยให้หายเอง ไม่มีใครคิดจะพาเราไปหาหมอ และตัวเราเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องไปหาหมอ แต่ทีนี้อาการหนักขึ้นเรื่อยๆและไม่ยอมหายจึงต้องไป เลยมารู้ว่าอาการหนัก(แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วนะคะ) วันแรกที่เราไปหาหมอแล้วหมอบอกว่าอาการหนัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ขอไม่บอกลายละเอียด ไม่อยากให้คนรู้จักเจอ) คืนนั้นเรานอนไม่หลับเลยค่ะ เพราะเรากลัวหลับไปแล้วจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก เรารู้สึกยอมรับความตายแบบนี้ไม่ได้ มันกระทันหันเกินไป เรารู้สึกกลัวและวิตกจริตจนคนรอบข้างไม่อยากอยู่ข้างเรา เรางี่เง่าและพาลไปหมด รู้สึกไม่ดีตรงไหนขึ้นนิดเดียวก็โวยวายทันทีเพราะกลัวเกี่ยวกับพิษที่โดนมา เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าความตายนั้นน่ากลัวมากจนเปลี่ยนนิสัยเราในฉับพลันขนาดนี้ มานึกๆตอนนี้ก็รู้สึกผิดกับคนรอบข้างที่เรางี่เง่าเอาแต่ใจในยามนั้น
เมื่อหลายเดือนก่อนเรายังเคยคิดเลยว่า ทำไมคนแก่ถึงอยากมีชีวิตอยู่? เพราะเราอายุแค่นี้ก็อยากจะตายเสียแล้ว
แต่เพราะเหตุการณ์นี้ จึงเป็นครั้งแรกที่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าทำไมแม้แต่คนแก่ใกล้ตายถึงอยากมีชีวิตอยู่ และทำไมตัวเองถึงไม่ได้อยากตายจริงๆ อาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณด้วย แต่เราก็รู้แล้วว่า เรายังมีความปราถนาที่ทำไม่สำเร็จอีกเยอะ ไม่ควรตายตอนนี้
ในยามปกติมันคิดไม่ถึงหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งสำคัญของตัวเองคืออะไร ความฝันก็ไม่มี มองกระจกแล้วไม่พอใจหน้าตาตัวเองเลยสักวัน รู้สึกสมเพชตัวเอง รู้สึกตัวเองไร้ค่ามาก ไม่มีประโยชน์อะไรเลย รู้สึกเกลียดตัวเองเสมอมา อยากหายไป
แต่แค่รู้ตัวว่าอาจจะต้องตาย ก็โวยวายจนน่าสมเพช และรู้ตัวเองก็รักตัวเองมากนี่นา ณ จุดๆนั้น หน้าตาแย่ไม่เป็นไรแล้ว ขอแค่รอดและครบ 32 ก็พอแล้ว (เคยดูหนัง/การ์ตูนแนวเอาชีวิตรอดไหม แล้วมันจะมีตัวประกอบแบบกลัวตายจัดๆ ตอนนั้นเรารู้สึกแบบ "อะไรกันนักกันหนา" "งี่เง่า" "เห็นแก่ตัว" พอมาสัมผัสเองบ้างก็เข้าใจขึ้นอีกเยอะ)
พอต้องตาย เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ทั้งคนที่อยากจะขอโทษ ทั้งคนที่อยากจะขอบคุณ ของสำคัญที่เราไม่ได้นึกว่ามันจะสำคัญ (เช่น เราสั่งของลาซาด้าไปยังไม่ได้รับเลย หรือแม้กระทั่งศิลปินที่ชอบกำลังคัมแบค ยังอยากดูอยู่เลย อนิเมะเรื่องโปรดยังดูไม่จบเลย..ฯลฯ เหตุผลดูไร้สาระใช่ไหมคะ 55555 แต่มันช่วยนะ) สิ่งที่เราอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ และคน/สิ่งที่เราแคร์ แต่เรามองข้ามเสมอมา
กระทู้นี้ก็อยากให้คนที่เป็นโรคซึมเศร้าทบทวนให้ดีๆก่อนฆ่าตัวตาย อย่างน้อยก็ควรไปหาหมอ วินาทีที่คุณฆ่าตัวตายคุณอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ แต่มันอาจะไม่ทันกาลที่จะแก้ ฉะนั้นก่อนจะฆ่าตัวตายอยากให้คิดเยอะๆ
และเวลาเป็นอะไรก็ไปหาหมอเถอะ อย่าคิดว่ามันจะเปลืองเงิน ไม่งั้นอาการจะแย่กว่าที่คิดแบบเรา ความตายมันน่ากลัวกว่าความจนเสียอีก
แต่จะว่าก็ว่านะ คนที่อ่านกระทู้เราอาจจะไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแต่ไม่ได้เข้าใจแจ่มแจ้งแบบคนเจอเองอ่ะ เพราะเราก็เป็นอย่างนั้นตอนอ่านประสบการณ์ความเป็นความตายคนอื่นเช่นกัน แต่ไม่ได้แนะนำให้คนที่อยากฆ่าตัวตายไปมีประสบการณ์เกือบตายอะไรนะคะ ของอย่างนี้แล้วแต่โอกาสจริงๆ เราเองก็ไม่คิดว่าจะเจอเอง ขนาดไม่ได้นับถือศาสนาไหน แต่เพราะกลัวตาย เรานี่สวดอ้อนวอนตั้งแต่พระเจ้า พระพุทธ เจ้าแม่กวนอิม 55555
ปล.โรคซึมเศร้านี่หายขาดไม่ได้จริงๆ พอเจอเหตุการกระทบนิดหน่อย ก็รีเทิร์นมาอีกแล้ว ทางที่ดีหาหมอนั่นแหล่ะ T T
อยากตายมาตลอด แต่พอเกือบสัมผัสความตายก็ตระหนักถึงชีวิต
แต่เมื่อไม่นานมานี้เรานอนร้องไห้ เพราะเกิดรู้สึก"กลัวตาย" ขึ้นมาครั้งแรก
เรื่องของเรื่องคือโดนสัตว์มีพิษต่อยแต่เพราะเหตุผลเดียวกับข้างบน ครอบครัวและตัวเราจึงต้องปล่อยให้หายเอง ไม่มีใครคิดจะพาเราไปหาหมอ และตัวเราเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องไปหาหมอ แต่ทีนี้อาการหนักขึ้นเรื่อยๆและไม่ยอมหายจึงต้องไป เลยมารู้ว่าอาการหนัก(แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วนะคะ) วันแรกที่เราไปหาหมอแล้วหมอบอกว่าอาการหนัก[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คืนนั้นเรานอนไม่หลับเลยค่ะ เพราะเรากลัวหลับไปแล้วจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก เรารู้สึกยอมรับความตายแบบนี้ไม่ได้ มันกระทันหันเกินไป เรารู้สึกกลัวและวิตกจริตจนคนรอบข้างไม่อยากอยู่ข้างเรา เรางี่เง่าและพาลไปหมด รู้สึกไม่ดีตรงไหนขึ้นนิดเดียวก็โวยวายทันทีเพราะกลัวเกี่ยวกับพิษที่โดนมา เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าความตายนั้นน่ากลัวมากจนเปลี่ยนนิสัยเราในฉับพลันขนาดนี้ มานึกๆตอนนี้ก็รู้สึกผิดกับคนรอบข้างที่เรางี่เง่าเอาแต่ใจในยามนั้น
เมื่อหลายเดือนก่อนเรายังเคยคิดเลยว่า ทำไมคนแก่ถึงอยากมีชีวิตอยู่? เพราะเราอายุแค่นี้ก็อยากจะตายเสียแล้ว
แต่เพราะเหตุการณ์นี้ จึงเป็นครั้งแรกที่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าทำไมแม้แต่คนแก่ใกล้ตายถึงอยากมีชีวิตอยู่ และทำไมตัวเองถึงไม่ได้อยากตายจริงๆ อาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณด้วย แต่เราก็รู้แล้วว่า เรายังมีความปราถนาที่ทำไม่สำเร็จอีกเยอะ ไม่ควรตายตอนนี้
ในยามปกติมันคิดไม่ถึงหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งสำคัญของตัวเองคืออะไร ความฝันก็ไม่มี มองกระจกแล้วไม่พอใจหน้าตาตัวเองเลยสักวัน รู้สึกสมเพชตัวเอง รู้สึกตัวเองไร้ค่ามาก ไม่มีประโยชน์อะไรเลย รู้สึกเกลียดตัวเองเสมอมา อยากหายไป
แต่แค่รู้ตัวว่าอาจจะต้องตาย ก็โวยวายจนน่าสมเพช และรู้ตัวเองก็รักตัวเองมากนี่นา ณ จุดๆนั้น หน้าตาแย่ไม่เป็นไรแล้ว ขอแค่รอดและครบ 32 ก็พอแล้ว (เคยดูหนัง/การ์ตูนแนวเอาชีวิตรอดไหม แล้วมันจะมีตัวประกอบแบบกลัวตายจัดๆ ตอนนั้นเรารู้สึกแบบ "อะไรกันนักกันหนา" "งี่เง่า" "เห็นแก่ตัว" พอมาสัมผัสเองบ้างก็เข้าใจขึ้นอีกเยอะ)
พอต้องตาย เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ทั้งคนที่อยากจะขอโทษ ทั้งคนที่อยากจะขอบคุณ ของสำคัญที่เราไม่ได้นึกว่ามันจะสำคัญ (เช่น เราสั่งของลาซาด้าไปยังไม่ได้รับเลย หรือแม้กระทั่งศิลปินที่ชอบกำลังคัมแบค ยังอยากดูอยู่เลย อนิเมะเรื่องโปรดยังดูไม่จบเลย..ฯลฯ เหตุผลดูไร้สาระใช่ไหมคะ 55555 แต่มันช่วยนะ) สิ่งที่เราอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ และคน/สิ่งที่เราแคร์ แต่เรามองข้ามเสมอมา
กระทู้นี้ก็อยากให้คนที่เป็นโรคซึมเศร้าทบทวนให้ดีๆก่อนฆ่าตัวตาย อย่างน้อยก็ควรไปหาหมอ วินาทีที่คุณฆ่าตัวตายคุณอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ แต่มันอาจะไม่ทันกาลที่จะแก้ ฉะนั้นก่อนจะฆ่าตัวตายอยากให้คิดเยอะๆ
และเวลาเป็นอะไรก็ไปหาหมอเถอะ อย่าคิดว่ามันจะเปลืองเงิน ไม่งั้นอาการจะแย่กว่าที่คิดแบบเรา ความตายมันน่ากลัวกว่าความจนเสียอีก
แต่จะว่าก็ว่านะ คนที่อ่านกระทู้เราอาจจะไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแต่ไม่ได้เข้าใจแจ่มแจ้งแบบคนเจอเองอ่ะ เพราะเราก็เป็นอย่างนั้นตอนอ่านประสบการณ์ความเป็นความตายคนอื่นเช่นกัน แต่ไม่ได้แนะนำให้คนที่อยากฆ่าตัวตายไปมีประสบการณ์เกือบตายอะไรนะคะ ของอย่างนี้แล้วแต่โอกาสจริงๆ เราเองก็ไม่คิดว่าจะเจอเอง ขนาดไม่ได้นับถือศาสนาไหน แต่เพราะกลัวตาย เรานี่สวดอ้อนวอนตั้งแต่พระเจ้า พระพุทธ เจ้าแม่กวนอิม 55555
ปล.โรคซึมเศร้านี่หายขาดไม่ได้จริงๆ พอเจอเหตุการกระทบนิดหน่อย ก็รีเทิร์นมาอีกแล้ว ทางที่ดีหาหมอนั่นแหล่ะ T T