เวลาผมเอาพอร์ตที่เขียวมาอวด...ก็เพียงแค่มีความสุขกับมันครับ
ไม่ใช่ว่าผมจะเป็น.."เซียน"..มันแค่ความบังเอิญในช่วงสั้นๆเองครับ
ไม่ต้องหลังไมค์มาขอคำแนะนำ...จากผมเลยครับ ผมกลัวว่าเดี๋ยว
คุณเสียหาย...แล้วผมจะเดือดร้อนเป็นทุกข์...ผมมือใหม่จริงๆครับ
สิ่งที่ผมโพสหรือคอมเม้นท์ไป...มันเป็นแค่ความคิดซึ่งมันไม่ถูกทั้งหมด
หรอกครับ ...ผมจึงคิดว่าจะไม่เอาพอร์ตมาโพสอีกแล้วครับ..ขออภัยครับ
ดูสิเห็นมั๊ยครับ...ว่า ผมก็มีแดงเหมือนกันครับ
แต่ผมคิดว่า...หากคุณเป็นมือใหม่กัน..ก็พยายามใช้เครื่องมือของโบรก
ที่เค้าให้มาในเว็ปของโบรกน่ะครับ เช่น Portfolio Performance นี่มันบอก
ถึงประสิทธิภาพของการเทรดหุ้นของเรา...เมื่อเทียบ "การสร้างผลตอบแทนระหว่าง
ของเรากับตลาด" ครับ และนี่จะเป็นการเอาภาพเหล่านี้มาแสดงเพื่อ
เปรียบเทียบและอธิบายให้ดูเป็นครั้งสุดท้ายครับ
รูปที่ 1
รูปที่ 1 จะเห็นได้ว่า
เราทำผลตอบแทนได้ (Unit NAV) = 8.55%
แต่ตลาดมีผลตอบแทน(SET Index) = -5.94% เราชนะตลาดครับ
รูปที่ 2
รูปที่ 2 จะเห็นได้ว่า
เราทำผลตอบแทนได้ (Unit NAV) = 8.55%
แต่ตลาดมีผลตอบแทน(SET Index) = -6.32% เราชนะตลาดครับ
แต่ผลตอบแทนของเรา ไม่เติบโต ยังอยู่ที่เดิม คือ 8.55% ถือว่าทำได้ด้อยลงครับ
แต่ก็ยังโชคดีที่ ผลตอบแทนของตลาด กับ ลดลงจาก รูปที่ 1 มี -5.94% พอรูปที่ 2
กลับ มีผลตอบแทนที่ลดลงไปอีก คือ -6.32% จึงถือว่าแม้เราจะด้อยลงแต่ด้อยน้อยกว่าตลาดครับ
รูปที่ 3
รูปที่ 3 จะเห็นได้ว่า
เราทำผลตอบแทนได้ (Unit NAV) = 9.69%
แต่ตลาดมีผลตอบแทน(SET Index) = -6.11% เราชนะตลาดครับ
ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ผลตอบแทนของเราดีขึ้น จากรูปที่ 2 ครับ ในขณะที่
ตลาดมีผลตอบแทน ดีขึ้นเหมือนกัน คือ จาก -6.32% ในรูปที่ 2 มาเป็น
-6.11% แต่โชคดีที่อัตราผลตอบแทนเราเติบโตดีกว่า ตลาด ก็เท่านี้ครับ
หลังจากดูจากตรงนี้แล้ว เราก็กลับไปพิจารณาว่าเราขาดหรือเราด้อยตรงไหน
ทบทวนวิธีการ หรือ เครื่องมือที่เราเอามาใช้มันเหมาะกับเราหรือไม่ ที่สำคัญ
คือ คุณต้องฝึกและเรียนรู้ และลงมือทำด้วยตัวเอง ถึงจะเข้าใจว่า หุ้นตัวไหน
ซื้อเพราะอะไร แล้วต้อง ตัดขาดทุน หรือ จะรอ คุณจะได้มีเหตุผลสนับสนุน
ตัวเอง คนอื่นไม่สามารถอยู่หรือให้คำแนะนำเราได้ตลอดเวลา บางครั้งบางเรื่อง
มันต้องตัดสินใจด้วยตัวเองทันทีรอไม่ได้ จริงๆครับ
ผมเองกว่าจะเข้าใจเรื่องนี้ก็เพราะ อ่านข้อมูลในกระทู้ของพันทิปที่แหล่ะครับ
แล้วก็เสียเงินไปในช่วงแรกๆที่เรียนรู้ มากพอสมควร ถึง กว่า 50% เลยครับ
ผมขออภัยสมาชิกทุกท่านนะครับ ที่รบกวนพื้นที่ในการตั้งกระทู้ครับ
ขอให้โชคดีทุกท่านนะครับ
ผมไม่ใช่...เซียน...ผมแค่มือใหม่
ไม่ใช่ว่าผมจะเป็น.."เซียน"..มันแค่ความบังเอิญในช่วงสั้นๆเองครับ
ไม่ต้องหลังไมค์มาขอคำแนะนำ...จากผมเลยครับ ผมกลัวว่าเดี๋ยว
คุณเสียหาย...แล้วผมจะเดือดร้อนเป็นทุกข์...ผมมือใหม่จริงๆครับ
สิ่งที่ผมโพสหรือคอมเม้นท์ไป...มันเป็นแค่ความคิดซึ่งมันไม่ถูกทั้งหมด
หรอกครับ ...ผมจึงคิดว่าจะไม่เอาพอร์ตมาโพสอีกแล้วครับ..ขออภัยครับ
ดูสิเห็นมั๊ยครับ...ว่า ผมก็มีแดงเหมือนกันครับ
แต่ผมคิดว่า...หากคุณเป็นมือใหม่กัน..ก็พยายามใช้เครื่องมือของโบรก
ที่เค้าให้มาในเว็ปของโบรกน่ะครับ เช่น Portfolio Performance นี่มันบอก
ถึงประสิทธิภาพของการเทรดหุ้นของเรา...เมื่อเทียบ "การสร้างผลตอบแทนระหว่าง
ของเรากับตลาด" ครับ และนี่จะเป็นการเอาภาพเหล่านี้มาแสดงเพื่อ
เปรียบเทียบและอธิบายให้ดูเป็นครั้งสุดท้ายครับ
รูปที่ 1
รูปที่ 1 จะเห็นได้ว่า
เราทำผลตอบแทนได้ (Unit NAV) = 8.55%
แต่ตลาดมีผลตอบแทน(SET Index) = -5.94% เราชนะตลาดครับ
รูปที่ 2
รูปที่ 2 จะเห็นได้ว่า
เราทำผลตอบแทนได้ (Unit NAV) = 8.55%
แต่ตลาดมีผลตอบแทน(SET Index) = -6.32% เราชนะตลาดครับ
แต่ผลตอบแทนของเรา ไม่เติบโต ยังอยู่ที่เดิม คือ 8.55% ถือว่าทำได้ด้อยลงครับ
แต่ก็ยังโชคดีที่ ผลตอบแทนของตลาด กับ ลดลงจาก รูปที่ 1 มี -5.94% พอรูปที่ 2
กลับ มีผลตอบแทนที่ลดลงไปอีก คือ -6.32% จึงถือว่าแม้เราจะด้อยลงแต่ด้อยน้อยกว่าตลาดครับ
รูปที่ 3
รูปที่ 3 จะเห็นได้ว่า
เราทำผลตอบแทนได้ (Unit NAV) = 9.69%
แต่ตลาดมีผลตอบแทน(SET Index) = -6.11% เราชนะตลาดครับ
ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ผลตอบแทนของเราดีขึ้น จากรูปที่ 2 ครับ ในขณะที่
ตลาดมีผลตอบแทน ดีขึ้นเหมือนกัน คือ จาก -6.32% ในรูปที่ 2 มาเป็น
-6.11% แต่โชคดีที่อัตราผลตอบแทนเราเติบโตดีกว่า ตลาด ก็เท่านี้ครับ
หลังจากดูจากตรงนี้แล้ว เราก็กลับไปพิจารณาว่าเราขาดหรือเราด้อยตรงไหน
ทบทวนวิธีการ หรือ เครื่องมือที่เราเอามาใช้มันเหมาะกับเราหรือไม่ ที่สำคัญ
คือ คุณต้องฝึกและเรียนรู้ และลงมือทำด้วยตัวเอง ถึงจะเข้าใจว่า หุ้นตัวไหน
ซื้อเพราะอะไร แล้วต้อง ตัดขาดทุน หรือ จะรอ คุณจะได้มีเหตุผลสนับสนุน
ตัวเอง คนอื่นไม่สามารถอยู่หรือให้คำแนะนำเราได้ตลอดเวลา บางครั้งบางเรื่อง
มันต้องตัดสินใจด้วยตัวเองทันทีรอไม่ได้ จริงๆครับ
ผมเองกว่าจะเข้าใจเรื่องนี้ก็เพราะ อ่านข้อมูลในกระทู้ของพันทิปที่แหล่ะครับ
แล้วก็เสียเงินไปในช่วงแรกๆที่เรียนรู้ มากพอสมควร ถึง กว่า 50% เลยครับ
ผมขออภัยสมาชิกทุกท่านนะครับ ที่รบกวนพื้นที่ในการตั้งกระทู้ครับ
ขอให้โชคดีทุกท่านนะครับ