วันนี้ขออาสาพาไปพูดคุยเรื่องของหมาในเซี่ยงไฮ้... แต่เป็นหมาอะไรทั้งฮิตทั้งแซ่บ....ก็หมาล่าไง!

เพื่อนๆหลายคนอาจจะพอรู้จัก รสเผ็ดชาๆสไตล์หมาล่า(麻辣) ซึ่งมาจากพริกฮวาเจียว(花椒) ที่ตอนนี้ได้รับความนิยมกันมากโดยเฉพาะที่เชียงใหม่ในรูปแบบของเนื้อและผักเสียบไม้ปิ้งย่างโรยผงสุดแซ่บ ซึ่งรสเผ็ดหมาล่าไม่ได้เป็นที่นิยมแค่ในเชียงใหม่เท่านั้น ในเมืองเซี่ยงไฮ้คนจีนที่นี่ก็นิยมเช่นกัน แต่จะเป็นสไตล์อาหารแนวเสฉวน(四川菜) ที่ผู้คนที่นั้นนิยมใช้ฮวาเจียวเป็นเครื่องเทศหลักในการประกอบอาหาร

วันนี้เราพามาแนะนำร้านอาหารสไตล์เสฉวนในเซี่ยงไฮ้ ที่มีชื่อว่า Spicy Lounge (川廊) ที่พวกเราชอบกินเป็นประจำ สำหรับเพื่อนๆที่มาเที่ยวเซี่ยงไฮ้แล้วอยากลองอาหารจีนแซ่บๆ เผ็ดๆ ชาๆลิ้น ไม่ต้องไปไกลถึงเสฉวนก็ทานรสชาติแบบต้นตำหรับแท้ๆ โดยร้านนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก ย่านซินเทียนตี้ ย่านการค้าและแหล่งท่องเที่ยวที่คึกคักแห่งหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ ทีเด็ดคือร้านนี้เป็นสไตล์ hidden kitchen ในราคาสบายกระเป๋าด้วยบรรยากาศสไตล์โมเดิร์นมินิมอล ที่คอนเซ็ปการตบแต่งร้าน คือ พระจันทร์และพระอาทิตย์ Moon/Sun ที่เห็นได้ชัดจากโคมไฟด้านบนที่ Designer ออกแบบเพื่อร้านนี้โดยเฉพาะ

ร้านนี้มีขนาดเล็กกระทัดรัด เหมาะกับการมาทานไม่เกิน 2-6 คน โดยเมนูอาหาร จะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1. เมนูออเดิร์ฟ (Cold dish) 2. เมนูหลัก (Main dish) 3. เมนูบะหมี่และเกี๊ยว

เริ่มจากเมนูออเดิร์ฟมักจะสั่งมาทานเล่นๆระหว่างรอจานหลัก โดยแต่ละจานจะมีขนาดเล็ก เมนูแนะนำคือ Long Bean Salad 爽口缸豆 (15 RMB) ที่เป็นเมนูพิเศษเฉพาะร้านนี้เท่านั้น ความพิเศษอยู่ซอสสูตรลับ ที่มีรสกลมกล่อมไม่มีความเผ็ด ทานแล้วเพลินๆ ระหว่างรออาหาร อีกจานที่พวกเรามักจะสั่งกันเสมอ คือ Bacon Belly with Garlic Sauce 蒜泥白肉 (25 RMB) หมูสามชั้นหั่นบางราดด้วยพริกกระเทียมถูกปากคนไทยสไตล์เสฉวนชวนแซ่บ


มาถึงเรื่องราวความเป็นมาของร้านนี้บ้าง คุณ Roy เจ้าของร้าน เล่าว่า พื้นเพเดิมเขาเป็นคนเสฉวน แต่มาทำงานด้าน Art agency / Event organizer ที่เซี่ยงไฮ้ แล้วมักจะหาอาหารเสฉวนแบบต้นตำหรับทานที่นี่ไม่ได้ เลยเกิดไอเดียเปิดร้านของตัวเองขึ้นมาเผื่อเพื่อนๆในวงการจะได้แวะเวียนกันมาทานและพูดคุย เปรียบเหมือนห้องรับแขกที่สองของเขา

นอกจากนี้ เชฟหลักของที่นี่ก็เป็นคนเสฉวนแท้ๆที่ทำอาหารสไตล์นี้มานับ 30 ปี คุณลุงเชฟมักจะคอยเฝ้ามองผู้ที่มาทานอาหารอยู่เสมอและมีความจริงจังในการทำอาหารมากๆโดย signature เมนูของเชฟ คือ เกี๊ยวน้ำ Long's Wonton 龙抄于 (38 RMB) ที่แป้งนุ่มไส้แน่นกำลังพอดี อร่อยไปอีกแบบต่างกับสไตล์ฮ่องกงที่คนไทยคุ้นกัน

คุณ Roy ยังเสริมต่อว่า วัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้เป็นผลผลิตแบบ organic เกือบทั้งหมด และเครื่องเทศต่างๆก็สั่งตรงมาจากเสฉวน โดยเฉพาะพริกฮวาเจียวหมาล่า และพริกอื่นๆอีกหลายชนิดซึ่งเหมาะกับการทำอาหารที่ต่างกันไป

ลักษณะเฉพาะของอาหารสไตล์เสฉวนคือ จะต้องมีทั้งความเผ็ดร้อน และเผ็ดชา ไปพร้อมๆกับกลิ่นหอมเครื่องเทศ โดยน้ำมันมีบทบาทสำคัญในเรื่องของกลิ่นเป็นอย่างมากเพื่อเสริมรสชาติของอาหาร พวกเราบอกกับคุณ Roy ว่าคนไทยส่วนใหญ่ตกใจหลายครั้งที่อาหารเสฉวนมีหน้าตามันจนดูเหมือนจะเลี่ยน แต่เมื่อได้มารู้ความจริงว่าคนเสฉวนไม่ทานในส่วนของน้ำมันหรือซุปที่เผ็ดแต่จะใช้ตะเกียบเลือกทานเฉพาะเนื้อสัตว์และผักในจานนั้นๆเท่านั้นนั่นเอง

คุณ Roy ยังแนะอีกว่า น้ำมันที่ใช้ คือ น้ำมันคาโนล่าเป็นหลักซึ่งเป็นน้ำมันที่มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพและให้ประโยชน์แก่ร่างกาย

มาถึงเมนูเครื่องดื่มกันบ้าง คนเสฉวนแท้ๆนิยมทานเผ็ดแบบหมาล่าคู่กับน้ำนมถั่วคล้ายๆ ไวตามิลต์ของเมืองไทย แต่จะผสมถั่วหลายชนิดเข้าด้วยกัน เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ที่ทำให้ช่วยดับรสเผ็ดและชาในปากได้เป็นอย่างดี
จานหลักที่เชฟแนะนำวันนี้ คือ Soy Bean Paste Fish 豆瓣鱼 (88 RMB) ที่มีรสหวานๆเผ็ดๆ เค็มนิดๆปนๆกันไป ที่ชอบคือ เนื้อปลาหวานและไม่ค่อยมีก้าง

มาต่อกันที่อีกหนึ่งสองจานหลักที่พลาดแล้วถือว่าพลาดมากๆ คือ Gong Bao Chicken 宫保鸡丁 (48 RMB) และ Mapo Tofu 麻婆豆腐 (28 RMB) ที่ได้รับความนิยมไปไกลถึงอเมริกา ในร้านอาหารจีนที่อเมริกาจะขาดสองเมนูนี้ไปไม่ได้แน่นอน แต่ความพิเศษ คือ ที่ร้านแห่งนี้สามารถรังสรรค์รสชาติต้นตำรับได้ครบถ้วนในรสชาติที่ลงตัว นับเป็นสองจานที่ต้องแนะนำจริงๆ


สำหรับใครที่แวะมาแถวย่านซินเทียนตี้ (Xintiandi) แล้วอยากหาร้านสบายๆ อาหารอร่อย เผ็ดๆ แบบเสฉวนต้นตำรับ แนะนำให้ลองแวะมาที่ร้านได้ ตั้งอยู่ที่หมายเลขที่ No. 68 Tai Cang Road (太仓路68号) สามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟฟ้าสาย 1 (Line1) สถานี South Huangpi Road (黄陂南路) Exit 2 แล้วเดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร
[CR] Bean Blah Blah x หมาล่าในเซี่ยงไฮ้
ร้านนี้มีขนาดเล็กกระทัดรัด เหมาะกับการมาทานไม่เกิน 2-6 คน โดยเมนูอาหาร จะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1. เมนูออเดิร์ฟ (Cold dish) 2. เมนูหลัก (Main dish) 3. เมนูบะหมี่และเกี๊ยว
เริ่มจากเมนูออเดิร์ฟมักจะสั่งมาทานเล่นๆระหว่างรอจานหลัก โดยแต่ละจานจะมีขนาดเล็ก เมนูแนะนำคือ Long Bean Salad 爽口缸豆 (15 RMB) ที่เป็นเมนูพิเศษเฉพาะร้านนี้เท่านั้น ความพิเศษอยู่ซอสสูตรลับ ที่มีรสกลมกล่อมไม่มีความเผ็ด ทานแล้วเพลินๆ ระหว่างรออาหาร อีกจานที่พวกเรามักจะสั่งกันเสมอ คือ Bacon Belly with Garlic Sauce 蒜泥白肉 (25 RMB) หมูสามชั้นหั่นบางราดด้วยพริกกระเทียมถูกปากคนไทยสไตล์เสฉวนชวนแซ่บ
ลักษณะเฉพาะของอาหารสไตล์เสฉวนคือ จะต้องมีทั้งความเผ็ดร้อน และเผ็ดชา ไปพร้อมๆกับกลิ่นหอมเครื่องเทศ โดยน้ำมันมีบทบาทสำคัญในเรื่องของกลิ่นเป็นอย่างมากเพื่อเสริมรสชาติของอาหาร พวกเราบอกกับคุณ Roy ว่าคนไทยส่วนใหญ่ตกใจหลายครั้งที่อาหารเสฉวนมีหน้าตามันจนดูเหมือนจะเลี่ยน แต่เมื่อได้มารู้ความจริงว่าคนเสฉวนไม่ทานในส่วนของน้ำมันหรือซุปที่เผ็ดแต่จะใช้ตะเกียบเลือกทานเฉพาะเนื้อสัตว์และผักในจานนั้นๆเท่านั้นนั่นเอง
จานหลักที่เชฟแนะนำวันนี้ คือ Soy Bean Paste Fish 豆瓣鱼 (88 RMB) ที่มีรสหวานๆเผ็ดๆ เค็มนิดๆปนๆกันไป ที่ชอบคือ เนื้อปลาหวานและไม่ค่อยมีก้าง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้