[CR] ปากไม่แดง ไม่มีแรงเดิน รีวิวลิปแดง X เม้ามอยเรื่องศัลยกรรม

มินิรีวิว "ลิปสติกสีแดง แท่งละไม่เกิน 200 บาท"


     สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มดจะทำรีวิว ลิปสติกสีแดง 5 แบรนด์ ในราคาไม่เกินแท่งละ 200 บาท
แต่ละแบรนด์มดไม่เคยลองใช้มาก่อนเลยนะคะ ไม่มีการโฆษณาใดๆ ซื้อเอง เจ็บเองล้วนๆ

เริ่ม!!!!!!!!!!!!

1. REDRED รุ่น soft matte  สี  01  ราคา  190 บาท
ตัวนี้เนื้อบางดีเบาปาก สีชัด สีนี้มดชอบนะค่อนข้างจะแดงเข้ม สวยทีเดียว ลิปไม่มีกลิ่นค่ะ
ทาไว้ซักพักก็ยังไม่ตกร่อง แพคเกจดีเลยไม่ก๊อกแก๊ก  แบรนด์นี้เป็นของคนไทยนะคะ คุณภาพคุ้มราคาทีเดียว
ตัวนี้ถือว่าผ่านค่ะ ชอบเลย  

2. CITY COLOR  รุ่น be matte  สี lora M02  ราคา  190 บาท
ตัวนี้เนื้อบางดีคล้ายๆตัวแรกเลย แต่สีจะออกชมพูบานเย็น ซึ่งทางเราไปทางนี้ไม่รอดค่ะ
แล้วก็กลิ่นน้องเค้าจะเป็นกลิ่นลิปสติกเลย ไม่โอเคร ตัวนี้ขอผ่าน ไปทางนี้ไม่ได้จริงๆ
มดไม่แน่ใจว่าของเค้ามีสีแดงเฉดอื่นอีกรึเปล่านะคะ หรือทางเราหยิบผิดสีหว่า


3. LIFEFORD paris  รุ่น pro intense colour  สี  LP880  ราคา  169 บาท
รุ่นนี้คือประทับใจในแพคเกจจิ้งมากกก คือดีเกินเบอร์ไปเยอะเลย ดูมาตรฐาน ฝาแน่นกรึ๊บ สวยแพงตั้งแต่
ภายนอก  มาดูสี สีนี้คือชอบมากค่ะ แดงเข้มออกไปทางส้มน้ำตาล เนื้อเหมือนๆกันไม่ได้พิเศษกว่าตัวอื่น
เนื้อบาง ไม่มีกลิ่น ตรงนี้คือดี แต่ลิปเวลาใช้ต้องระวังนิดนึงค่ะ นุ่มนิ่มมาก กดมากกลัวจะหัก น้องเค้าค่อนข้างบอบบาง

4. Malissa kiss รุ่น velvet matte  สี  dangerous womon 08  ราคา  99 บาท
แพคเกจป๊อปดี น่ารัก ส่วนสีจะตุ่นคล้ายๆ lifeford แต่จะออกส้มกว่านิดนึง แบบ นิดนึงจริงๆ
เนื้อลิปบาง ชุ่มชื้น สบายปากดีค่ะ ไม่มีกลิ่นลิปนะ เนื้อลิปจากแท่งแน่นดีค่ะ เวลาทากดลงไปได้
ไม่ต้องกลัวหัก ผ่านค่ะ ชอบ
แบรนด์นี้เค้าจะมีพวกสกินแคร์เยอะนะคะ ราคาก็เบาสบาย

5. Nee cara  รุ่น longlasting lipstick  สี  09  ราคา  176 บาท
แพคเกจก่อน อันนี้ให้ 10 10 10  คือดูแพงจริงอะไรจริง ตัวนี้เป็นแบรนด์ไทยอีกเช่นกันจ๊ะ
แหมของไทยคุณภาพดีจริงๆตัวนี้ เนื้อแน่นทาแล้วไม่ตกร่อง สีเรียบเนียบดีมากเลย สีที่มด
เลือกมาก็จะออกแดงเข้มตุ่นๆเหมือนเดิม ทางของเรา เนื้อนุ่มดีค่ะ สรุปเลยว่าเยี่ยม ชอบบบ

     มาสรุปกันอีกทีค่ะ
-  เนื้อลิป ที่เลือกมา ไม่ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไร ทาแล้วก็จะรู้สึกถึงความบางค่ะ ข้อดี คือเบาปาก ไม่รู้สึกตึง
ข้อเสียคือ ต้องพกไปเติมระหว่างวัน  เนื้อละมุนทุกตัว เรียบเนียน ไม่ตกร่อง มีแค่ของ Lifeford เท่านั้นที่น้องเค้าค่อนข้าง
บอบบาง หักง่าย

-  สี  ที่เลือกมาใกล้เคียงกันมดใช้ได้ทุกสี จะออกตุ่นๆ ขับสีผิวของเราได้ดีมาก แจ่ม ยกเว้นของ city color ค่ะ
ออกไปทางชมพูซึ่งไม่รอดสำหรับมด และก็มดไม่ชอบลิปสติกที่มีกลิ่นค่ะ ดมละไม่โอเคร เอ้หรือคนอื่นเค้าชอบกัน รึเปล่า^^

- แพคเกจขอให้ น้อง NEE CARA กับ LIFEFORD จ๊ะ ดีจริง ชอบตรงฝาที่เวลาปิดดังกรึ๊บ รู้สึกถึงความแน่น

ใครชอบตัวไหนก็ไปลองเล่นกันได้ค่ะ ทั้งหมดนี้มดได้มาจาก EVEANDBOY  สาขา สยามวัน

มาจ๊ะมาต่อกันที่เรื่องของศัลยกรรม

ตามคลิปค่ะ มดทำศัลยกรรมปากมาจ๊ะ ทำมานานแล้ว 3 - 4  ปี
อันนี้ก็จะมาเล่าเพียงประสบการณ์ที่ได้ทำมานะคะ ไม่ได้รีวิวว่าก่อนหลังเป็นแบบไหน

- เริ่มแรกก็คงเหมือนทุกคนที่อยากศัลยกรรมค่ะ คือ อยากสวย ไม่พอใจในตัวเอง อยากมั่นใจขึ้น
แต่มดก็ศึกษาหาข้อมูลอยู่นานมากๆ เป็นปีเลย เพื่อให้ตัวเองแน่ใจด้วยว่า อยากทำจริงๆ ไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูป
พอได้หมอที่มั่นใจแล้วก็ทำการจองคิว โอนมัดจำเลย  ตอนโอนมัดจำนี่จำอารมณ์ตอนนั้นได้ดีเลยค่ะ
รู้สึกใจหายมากกก ใจไปตกอยู่ตาตุ่ม ในใจก็คิดว่า จริงแล้วใช่มั้ยเนี่ย คิดถูกแล้วใช่มั้ย จะเสียเงินไปเจ็บตัวเนี่ยนะ
กังวลสาระพัด


- ขอบอกชื่อหมอนะคะ เพราะมดรู้สึกว่ามดเลือกไม่ผิดและก็โชคดีด้วยที่เคสมดออกมาปลอดภัย และก็ได้แบบที่
ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก มดทำกับ หมอภู ปิ่นเกล้าค่ะ  มดไม่ได้มาแนะนำให้ทุกคนทำที่นี่นะ แต่อยากแนะนำว่า ให้เลือก
หมอที่มีความน่าเชื่อถือ และก็ให้คำปรึกษาที่ดีกับเราได้ เพราะมดเห็นบางคนทำกับหมอท่านอื่นก็สวยเหมือนกัน
อันนี้ก็ไปศึกษากันให้ดีนะ เพราะปากเรามีปากเดียว ตัดเนื้อออกไปแล้วถ้าบางเกินไปจะแก้ไขได้ยาก ไม่เหมือนการ
ทำจมูกที่เอาซิลิโคนออกก็ยังแก้ใหม่ได้

มาถึงวันที่ต้องขึ้นเขียงคือใจเต้นรัวมากกก เพราะเป็นครั้งแรกที่ทำศัลยกรรมเลย กลัวสุดๆ พยายามบอกคุณพยาบาลว่า
ขอสลบไปเลยได้มั้ย คุณพยาบาลบอกว่าไม่ดีค่ะ อันตรายกว่า สงสัยกลัวเราไม่ฟื้น

มดทำเฉพาะปากบนนะคะ ปากล่างไม่ได้มีปัญหาอะไร ถึงใครจะบอกว่าห้อยๆหน่อย แต่เราชอบ55555
เริ่มทำคุณพยาบาลก็แพคยาชาไว้ก่อนเลย ประมาณ 15 นาที

ถึงเวลาผ่าแล้วววว!!!!!
เข้าห้องผ่านอนตัวแข็งเป็นท่อนไม้เลย มือนี่เหงือแตกพลัก พยาบาลเอาผ้ามาปิดหน้าค่ะ เว้นไว้ช่วงปาก
คล้ายๆเวลาทำฟัน
ขั้นตอนผ่าก็จะฉีดยาชารอบๆปาก ระหว่างนี้คุณหมอพูดคุยตลอด เสียงนี้ซอฟมาก ทำให้เราผ่อนคลายได้บ้าง
เจ็บ!!!!!!!! ฉีดยาชารอบปากนี่ โค-ร เจ็บ รอบปากคนเรามันเป็นผิวหนังที่บางมาก เจ็บสุดๆ คุณหมอจิ้มเข็ม
เข้าไปค่อนข้างจะลึกเลย สงสัยกลัวไม่ชา ระหว่างนี้ก็จะเช็คเป็นระยะ "เจ็บมั้ยครับ เจ็บมั้ยครับ" น่าจะเป็นการเช็คว่ายาชาออกฤทธิ์รึยัง


เวลานั้นเราภาวนาว่า เสร็จเร็วๆเถิด ทำไมเวลามันผ่านไปช้าจัง
เราได้กลิ่นเลือดเราตลอดนะ และก้จะมีเลือดไหลลงคอ คุณพยาบาลก็จะใช้ตัวดูดออกเหมือนเวลาทำฟันเลย

ถามว่าน่ากลัวมั้ย  มากกกกกกกจ๊ะ   ไม่โกหก  คนอื่นไม่กลัว แต่เค้ากลัว  

ขั้นตอนเย็บแผลแล้ว!!!!!!!!!

คุณหมอเย็บข้างซ้ายเสร็จแล้ว กำลังจะมาเย็บปิดข้างขวา  เราก็รู้สึกแสบๆ บอกไม่ถูก  

แต่ก็ยังใจดีสู้เสือ คิดว่าไม่เป็นไรมั้ง ปกติแหละ ไม่ได้บอกคุณหมอ

พอกลับบ้านมาพึ่งจะคิดได้ เห้ย!!! นี่มันต้องบอกหมอนะ มันคือ ยาชาหมดฤทธิ์ กว่าจะรู้ก็ถึงบ้านละจร้า บ้าบอ
นี่ถ้าเป็นอะไรไม่ต้องโทษหมอเลยนะ โทษตัวเองก่อนเลย ปากหนัก ไม่ยอมบอกหมอ เราก็ว่าทำไมน้ำตามัน
ไหลหว่า เศร้าอะไร ไม่ได้เศร้า มันเจ็บ!!!!!!

กลับบ้านมาดูแลตัวเอง
ทำความสะอาดแผลตามปกติ ใช้คอตต้อนบัดเช็ดเบาๆ เบาที่สุด เพราะมันจะแสบ ตึงๆ ปวดตุบๆ
ไม่แปรงฟันค่ะ บ้วนปากเอา วันที่2 กับ 3 นี่ ปากบวมเหมือนนกแก้ว คือระเบิดได้ ระเบิดไปแล้ว
ไม่เห็นวี่แววความสวย ในระหว่างนี้ความนอยจะบังเกิดได้ง่ายมาก เซนซิทีฟสุดๆ อย่าได้ไปดูรีวิวเคสหลุด
หรืออะไรนะ  ไม่งั้นนอนไม่หลับแน่ๆ

การกินก็ต้องใช้หลอดใช้ช้อนกาแฟตามเรื่องตามราว ช่วงนี้จะผอมลงนิดนึง [ 2 ขีด ]
ต้องทานยาตามหมอสั่งนะคะ ไม่มีงอแง

7 วันแล้วไปตัดไหมกัน

ตัดไหมไม่เจ็บค่ะ แต่มันจะเสียวริมฝีปากแปลบๆ คุณพยาบาลมือโปรมาก รวดเร็ว แบบเดียวเสร็จเลย
กลับบ้านได้  

กว่าจะสวย กว่าจะเข้าที่ก็ 1 ปี นะ สำหรับมด ก่อนหน้านั้นจะพูดยังไม่เป็นธรรมชาติ เพราะแผลจะเป็นคีรอย
คือเป็นรอยและก็จะนูนๆ เป็นไตแข็งๆต้องนวดบ่อย แบบบ่อยมากๆ เรียกได้ว่า เผลอปั๊บ นวดปุ๊บ
ตอนนี้มดไม่มีแผลนูนคีรอยแล้ว เหมือนผิวปากปกติเลย เรียบไปกับผิวเดิมค่ะ เวลาพูดก็จะธรรมชาติ
ไม่บอกก็ไม่รู้ว่าไปทำมา

    วันนี้ที่มาเล่าเรื่องนี้ก็เพราะว่าเป็นประสบการณ์โดยตรงที่มดเจอมา ไม่ได้อยากแนะนำให้ใครไปทำนะคะ
เพราะความสวย ความมั่นใจที่มาจากธรรมชาติก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว แค่อยากจะมาเล่าให้ฟังว่ากว่าจะผ่านมีดหมอมาได้
มันก็ต้องทำใจพอสมควร ต้องหาข้อมูลให้แน่น ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ผลของแต่ละคนที่ทำมาอาจจะแตกต่างกันไป
เคสของมดถือว่าโชคดีที่ไม่มีข้อผิดพลาด  ส่วนตอนนี้มดยังไม่กล้าไปทำศัลยกรรมอื่นๆนะ มันยังกลัวๆ แล้วอีกอย่างคือ
รู้สึกพอใจแล้วกับหน้าแบบนี้ คือ แม่ยังจำได้  อ๋อลืมเล่าว่า ตอนทำไม่ได้บอกแม่ แต่แม่เห็นแล้วทักเลยไปทำอะไรมา
พอเฉลยเท่านั้นแหละ บ่นจนทุกวันนี้555555555

   โอเครสำหรับรีวิวนี้ก็สั้นแค่นี้ดีกว่าเนอะ วันหลังมาใหม่ค่ะ ^^ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
ใครกด + ให้จะมีกำลังใจทำรีวิวต่อๆไปอีกนะจ๊ะ วันนี้ไปแล้วจร้า บ๊ายยยยยยยยยย