คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
นึกถึงช่วงที่ร้านเปิดใหม่ลูกค้าไม่รู้จัก ยังไม่มากินแล้วคุณต้องนั่งเฝ้าหม้อแกงทั้งวัน
นึกถึงวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ คนไม่ออกมาซื้ออาหาร อาหารเหลือค้าง เททิ้ง รายรับไม่มี รายจ่ายคงอยู่
จะออกมาทำงานอิสระ ให้คำนึงถึงเรื่องนี้ไว้ก่อน อย่าวาดภาพสวยงามล่วงหน้า
ถ้าทำใจได้ แกร่งพอ ก็ลาออกมาลุย
นึกถึงวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ คนไม่ออกมาซื้ออาหาร อาหารเหลือค้าง เททิ้ง รายรับไม่มี รายจ่ายคงอยู่
จะออกมาทำงานอิสระ ให้คำนึงถึงเรื่องนี้ไว้ก่อน อย่าวาดภาพสวยงามล่วงหน้า
ถ้าทำใจได้ แกร่งพอ ก็ลาออกมาลุย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ผมเคยมีความคิดเหมือนพี่นะ
ผมทำงานประจำ ผมทำสินเชื่อธนาคาร เวลาคนขอกู้เงิน ต้องเอาชีวิตมาตีแผ่ให้ผมซักถาม
ไม่ว่าจะผลิตยังไง
ขายยังไง
ขายได้กำไรเท่าไหร่
ช่องทางการขายเป็นยังไง
ปัญหาต่างๆถ้าเกิดขึ้นในอนาคต เค้าจะแก้ไขปัญหาแบบไหน มีกี่วิธี
ผมซักเค้าได้หมด เพื่อดูว่าถ้าปล่อยสินเชื่อไปจะไม่เกิดหนี้เสียในอนาคตกับธนาคารได้
คราวนี้ผมมีต้นทุนที่ผมทราบในแต่ละธุรกิจในมือจากงานประจำที่ผมทำ
ผมก็เลือกที่จะเอาไปลองทำเองควบคู่กับงานประจำแบบไม่มีผลกระทบ
ผมหยุดเสาร อาทิตย์ ก็ลองทำธุรกิจในวันนั้น
ทำควบคู่กันไป ฝึกไปเรื่อยๆ มันจะมีรายได้เพิ่มในวันเสาร์อาทิตย์ สิ้นเดือนก็ได้เงินเดือนประจำอีก
พอทำไปสักพักมันจะมีลู่ทางเพิ่มรายได้ หรือมีจุดเปรียบเทียบรายได้เสริมกับงานประจำว่าอันไหนคุ้มกว่ากัน
มันต้องทำคู่กันไปก่อนแบบคิดไม่ให้มีความเสี่ยงในอนาคตครับ
พอสักพักก็เริ่มจะคิดว่าทำไงให้มีเงินเดือนประจำโดยไม่ต้องทำงานต่อ มันจะคิดไปทีละสเต็ปอ่ะครับ แต่ลึกเกินอันนี้ผมขอไม่พูดหน้ากระทู้อ่ะครับ
พี่ลองคิดทบทวนงานที่พี่ทำอยู่ประจำว่ามันเอาไปต่อยอดกับงานส่วนตัวในอนาคตได้ไหมครับ พี่มีเวลาว่างจากงานประจำช่วงเวลาไหน
เพราะไม่มีบริษัทไหนเค้าจ้างเราทำงานไปตลอดชีวิตหรอกครับ เราไม่ใช่ลูกเจ้าของบริษัท ทุกอย่างมีเวลาของมันจะช้าจะเร็ว
มองและทำให้เป็นระบบ มันจะมีทางของมันนะครับ เอาใจช่วยพี่นะครับ
ผมทำงานประจำ ผมทำสินเชื่อธนาคาร เวลาคนขอกู้เงิน ต้องเอาชีวิตมาตีแผ่ให้ผมซักถาม
ไม่ว่าจะผลิตยังไง
ขายยังไง
ขายได้กำไรเท่าไหร่
ช่องทางการขายเป็นยังไง
ปัญหาต่างๆถ้าเกิดขึ้นในอนาคต เค้าจะแก้ไขปัญหาแบบไหน มีกี่วิธี
ผมซักเค้าได้หมด เพื่อดูว่าถ้าปล่อยสินเชื่อไปจะไม่เกิดหนี้เสียในอนาคตกับธนาคารได้
คราวนี้ผมมีต้นทุนที่ผมทราบในแต่ละธุรกิจในมือจากงานประจำที่ผมทำ
ผมก็เลือกที่จะเอาไปลองทำเองควบคู่กับงานประจำแบบไม่มีผลกระทบ
ผมหยุดเสาร อาทิตย์ ก็ลองทำธุรกิจในวันนั้น
ทำควบคู่กันไป ฝึกไปเรื่อยๆ มันจะมีรายได้เพิ่มในวันเสาร์อาทิตย์ สิ้นเดือนก็ได้เงินเดือนประจำอีก
พอทำไปสักพักมันจะมีลู่ทางเพิ่มรายได้ หรือมีจุดเปรียบเทียบรายได้เสริมกับงานประจำว่าอันไหนคุ้มกว่ากัน
มันต้องทำคู่กันไปก่อนแบบคิดไม่ให้มีความเสี่ยงในอนาคตครับ
พอสักพักก็เริ่มจะคิดว่าทำไงให้มีเงินเดือนประจำโดยไม่ต้องทำงานต่อ มันจะคิดไปทีละสเต็ปอ่ะครับ แต่ลึกเกินอันนี้ผมขอไม่พูดหน้ากระทู้อ่ะครับ
พี่ลองคิดทบทวนงานที่พี่ทำอยู่ประจำว่ามันเอาไปต่อยอดกับงานส่วนตัวในอนาคตได้ไหมครับ พี่มีเวลาว่างจากงานประจำช่วงเวลาไหน
เพราะไม่มีบริษัทไหนเค้าจ้างเราทำงานไปตลอดชีวิตหรอกครับ เราไม่ใช่ลูกเจ้าของบริษัท ทุกอย่างมีเวลาของมันจะช้าจะเร็ว
มองและทำให้เป็นระบบ มันจะมีทางของมันนะครับ เอาใจช่วยพี่นะครับ
แสดงความคิดเห็น
ลาออกจากงานออฟฟิศ ไปเปิดร้านขายข้าวแกงดีไหม ??
คือตอนนี้ผมทำงานออฟฟิศอยู่ครับ มีความคิดว่าทำได้มากได้น้อยยังไง ก็ได้แค่เงินเดือนที่เค้าจ่ายไห้เรา แค่นั้น
ต่อเดือนก็รับไม่เกิน 18,000.- อัด OT.ยาวๆ ซึ่งไม่ได้มีเวลาโผล่หัวออกไปไหน วันๆทำแต่งาน
ผมเรยมีความคิดว่า อยากออกไปเปิดร้านขายข้าวแกง ซึ่งส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำเงินได้มากกว่าทำงานประจำ ?
และยังมีโอกาสทำไห้ธุรกิจเติบโตได้มากกว่าทำงานประจำ ? ซึ่งตอนทำงานประจำนั่น ก็อย่างเป็นอย่างคนทั่วๆไป ทำดีเสมอตัว ทำพลาดก็โดนซ้ำเติม
จึงอยากสอบถามความคิดเห็นของเพื่อนๆ ว่าคิดยังไงกันบ้าง แชร์ให้อ่านหน่อยครับ รออ่านครับ ^^