https://pantip.com/topic/37980802 รีวิว trekking เทือกเขาอัลไต
สวัสดีค่ะ รีวิวฉบับแรกของเรา หลังจากเวียนว่ายใน pantip อยู่นาน คือตั้งใจจะเขียนรีวิวมานานมาก ตั้งแต่เริ่มเที่ยวด้วยตัวเองครั้งแรก เพิ่งได้มาคลอดกระทู้นี้ เพราะเป็นทริปที่ตราตรึงใจและประทับใจมาก เลยอยากเขียนเก็บเอาไว้ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่านี่เป็นทริปแรกที่แบกเป้เที่ยวแบบลำบากลำบน และเป็นทริปแรกที่ซื้อกล้องถ่ายรูปเป็นของตัวเอง 😬😬😬ปกติเราเป็นนักท่องเที่ยวที่มีแค่มือถือเครื่องเดียวจบ เพราะถ่ายรูปไม่สวย จุดเริ่มต้นทริปนี้เกิดจาก วันนึงขณะที่นั่งทำงานแล้วเบื่อๆ เลยมาเปิด google map เล่น เราก็เปิดไปเรื่อยๆจนเจอจุดสีฟ้าใหญ่ๆอยู่ทางใต้ของรัสเซียเหนือมองโกเลีย ก็เลยคลิ๊กเข้าไปดูรูป มันคือทะเลสาบไบข่าล มันสวย มันกว้าง มันแปลกตา แล้วก็ลากมาดูในพื้นที่ของมองโกเลีย ก็แบบ เฮ้ยย อย่างกะดาวพลูโต ประกอบกับเรามีมิชชั่นในใจว่าอยากไปอัลไตอยู่แล้ว ตอนเย็นก็เลยโทรบอกเพื่อนว่าไปเที่ยวมองโกเลียกันมั๊ย เพื่อนก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล 😬😬😬
ทริปนี้เป็นที่วางแพลนยากมว๊ากกกก เริ่มจากหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก เนื่องจากมันไม่ใช่เส้นทางในฝันของใครหลายคน ตั๋วโปรจึงไม่มี โจทย์ของเรามีอยู่ว่า ต้องบินคร่อมศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และราคาถูกที่สุด เราใช้เวลานั่งหาตั๋วอยู่เป็นเดือนเลย
เราไปกันทั้งหมด 6 คน โดยที่เพื่อน 2 คนจะเที่ยวแค่ทะเลทรายโกบีแล้วบินกลับก่อน ส่วนอีก 4 คนจะไปอัลไต ทะเลสาบไบข่าล แล้วบินกลับจากเมืองอีคุสต์ (Irkutsk) โดยแพลนของเรามีดังนี้
26/5/61 บินจากภูเก็ตไปปูซาน
27/5/61 - 28/5/61 เที่ยวปูซาน
29/5/61 บินจากปูซานไปมองโกเลีย
29/5/61 - 1/6/61 เที่ยวทะลทรายโกบี แล้วกลับนอนในอูลานบาตอร์
2/6/61 บินไปเมืองอุลกิต Ulgii
3/6/61 - 6/6/61 trekking เทือกอัลไต Tavan bogd
7/6/61 เที่ยวเมืองอุลกิต
8/6/61 ข้ามชายแดนไปพักที่เมืองชีมอล Chemal ของรัสเซีย
9/6/61 เที่ยวเมืองบาร์นัล Barnaul
10/6/61 เที่ยวเมืองโนโวซีบีส Novosibirsk
11/6/61 บินไปเมืองอีคุสต์
12/6/61 เที่ยวทะเลสาบไบข่าล
13/6/61 บินกลับไทยจากเมืองอีคุสต์
วันที่ 27/6/61 เดินทางจากภูเก็ตไปปูซานด้วยสายการบิน hongkok express ราคา 5000฿ ไปเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง จริงๆมีตั๋วบินตรงจากกรุงเทพไปปูซาน แต่เราอยู่ภูเก็ต เลยไม่อยากเสียเวลาบินไปกรุงเทพ ตอนนี้เค้ายกเลิกสายการบินมองโกเลียแอร์ที่บินตรงจากกรุงเทพแล้ว เราสามารถบินไปต่อเครื่องได้ที่ฮ่องกง ปักกิ่ง และปูซาน แต่ที่เลือกปูซานเพราะราคาตั๋วถูกสุดและเรามีเพื่อนอยู่ที่นั่น มีที่พักฟรี เพื่อนขับรถคอยบริการ อีกอย่างพวกเราก็อยากไปเที่ยวเกาหลีกันอยู่แล้ว เนื่องจากติดใจทริปที่ก่อนหน้านี้ 😁
วันที่ 28/6/61 วันนี้กินเที่ยวในปูซาน โดนส่วนตัวเราชอบโซลมากกว่า อาหารอร่อยกว่า ที่เที่ยวเยอะกว่า คือครั้งที่แล้วพวกเรามาเที่ยววันฮาโลวีนในโซล ก็จะแบบมันส์หลุดโลกมาก ที่นี่จะแบบชิลๆ สบายๆ
วันที่ 29/5/61 วันนี้เราตื่นเช้าเพื่อบินไปอูลานบาตอร์ Ulaanbaaar เมืองหลวงของมองโกเลียด้วยสายการบิน Air busan ราคา 5000฿ ต่อคน ทั้งเที่ยวบินมีแต่มองโกลและเกาหลี
เมื่อเราบินไปถึงสนามบิน Chinggis khan airport ลงจากเครื่องเป็นกลุ่มสุดท้าย เพราะมัวหลับกันหมด ก็ไปเข้าห้องน้ำกัน สนามบินเงียบมากกก มากแบบไม่มีเจ้าหน้าที่ ร้านค้าปิดหมด คนที่ลงเครื่องมาพร้อมเราก็หายเกลี้ยง ก็เริ่มงงกันแล้ว เราเลยรีบวิ่งไปเข้าตม. เพิ่งมารู้ว่าสนามบินนี้วันนึงจะมีเที่ยวบินแค่ไม่กี่เที่ยว พอหมดเที่ยวบิน สนามบินก็จะบิน และใช่ค่ะ เที่ยวบินที่เราบินมาเป็นเที่ยวสุดท้ายของวันนั้น และเค้ากำลังจะปิด 😱😱😱 พอวิ่งไปถึง เหลือแค่จนท.และเรา 6 คน จนท.ทุกคนก็เริ่มมายืนดูเรา เค้าเลยส่งพวกเราไปเข้าห้องอีกห้องนึง คาดว่าจนท.ที่อยู่ในห้องนี้จะเป็นเพียงไม่กี่คนที่คุยภาษาอังกฤษได้ เค้าก็ถามที่พักเรา สอบถามรายละเอียดต่างๆ และโทรไปสอบถามว่าเราเข้าพักจริงหรือไม่ พวกเราก็ขำกันแบบ เห๋ย กรูดูเหมือนผู้ก่อการร้ายมาขโมยอูฐรึงาย คือทุกคนผ่านตม.หมด ยกเว้นพวกกรู
พอผ่านตม.มา ซาร่าและโทกี้ก็มายืนรอรับเราอยู่แล้ว คือเราติดต่อซื้อทัวร์ทะเลทรายโกบีพร้อมที่พักในอูลานบาตอร์ 1 คืนกับซาร่าล่วงหน้ามาประมาณ 2 เดือน ตอนแรกก็ตื่นเต้นว่าจะมีคนมารับรึป่าว เพราะซาร่าไม่ได้เก็บเงินมัดจำเราล่วงหน้าเลย คือจริงประทับใจซาร่าตั้งแต่คุยติดต่อกันในเมล เพราะใจดีคอยตอบทุกคำถาม พอเจอหน้าจริงๆ รู้สึกประทับใจมากขึ้นไปอีก นางพาเราไปแลกเงิน ซื้อขนม น้ำสำหรับการเดินทางไกล เราต้องนั่งรถ 7 ชม. ไปเมือง Dalanzadgad
ระหว่างทางเราแวะกินอาหารมองโกเลียมื้อแรกที่ร้านอาหารแห่งนึง เดินเข้าร้านแล้วแบบโอ้โห กลิ่นแกะแรงมากกกก ซาร่าต้อนรับเราด้วยเปา อาหารประจำชาติมองโก
มันคล้ายๆกับซาลาเปาไส้แกะที่เอาไปต้ม แต่ไม่รู้รสชาติเป็นยังไง เพราะตลอดเวลาที่อยู่มองโกเลียไม่เคยกินเลย คือปกติเราไม่กินเนื้อวัวอยู่แล้ว เนื้ออย่างอื่นนี่ยิ่งไม่แตะต้องเลย แต่เราเตรียมใจไว้แล้วทริปนี้เราจะกินขนมแทนข้าว คือเตรียมเสบียงมาจากไทยเยอะมากกก แต่สุดท้ายมื้อนี้ไม่มีใครกินอาหารอะไรได้เลย 555 สงสารซาร่า คือนางสั่งอาหารมาให้พวกเราเยอะมาก เราเลยสั่งข้าวเปล่ามากินกะสลัดมันฝรั่ง
และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย
ห้องน้ำมองโกลจ้า แม้จะเตรียมตัวเตรียมใจมายังไง เราก็ยังพ่ายแพ้ เรื่องกลิ่นไม่ต้องพูดถึง แต่เราเดินเข้าไปใกล้เท่านั้นแหละ กองทัพแมลงวันก็บุกเข้าโจมตี ไม่เคยเห็นแมลงวันเยอะขนาดนี้มาก่อน อห.ขนลุกมาก พวกเราวิ่งหนีแบบ 4 x 100 เมตร หญิงแทบไม่ทัน สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าจ้า นั่งกลั้นไปอีก 3 ชม.
เสร็จแล้วเดินทางต่อ ช่วงฤดูร้อนที่นี่พระอาทิตย์ตกตอนสี่ทุ่ม กลางวันอากาศหนาว ลมแรง แต่แดดจ้ามาก คือกลับมาไทยเราเป็นฝ้าหน้าฝั่งที่ตอนนั่งรถแล้วหันไปทางแสงแดด 😓
ระหว่างทางทุกคนก็ตื่นเต้นกับโลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยเจอ และก็อูฐนางนี้ที่ค่อยๆเดินตัดหน้ารถประหนึ่งว่าเพราะทุกที่คือรันเวย์
แล้วเราก็มาถึงที่พักตอนสี่ทุ่ม คือมืดแล้ว อากาศหนาวมากกก ที่พักมีเกอร์ให้สองหลัง หลังนี้เกอร์ของเรา หรูหรานิดนึง เพราะจริงๆเป็นเกอร์เจ้าของบ้าน เค้าเตรียมไว้ให้พวกเราแค่ 4 คน เราเลยได้เกอร์หลังนี้มา
วันที่ 30/5/61 เมื่อคืนเราหลับสนิททั้งคืน คือเกอร์ที่เราอยู่ข้างในอุ่นมาก สามารถกันลมที่พัดแรงได้อย่างน่าแปลกใจ ตื่นมาตอนเช้าเราก็ไปสำรวจห้องน้ำ และเราก็ค้นพบว่าหลังจากนี้จนจบทริป เราจะปลดทุกข์หนักและเบาข้างๆห้องน้ำเท่านั้น คือมีห้องน้ำไว้กำบังสายตาคนอื่นอย่างเดียวเลย จะไม่เข้าห้องน้ำเด็ดขาด
ปล.หมามองโกเลียน่ารักทุกตัวเลย นางใจดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
วันนี้เรามีโปรแกรมไปเที่ยว Yol Valley ซึ่งไม่ไกลจากที่พักเราเท่าไหร่
จบจากที่นี่ก็นั่งรถยาวเข้า Khongor sand dunes ระหว่างทางแวะทานข้าว ซาร่าเริ่มรู้ใจพวกเราแล้ว มื้อนี้นางสั่ง Tsuivan คือก๋วยเตี๋ยวผัดให้เรา ใส่ไก่แทนเนื้อแกะ มื้อนี้เรากินเกือบหมด ช่วงนี้ถนนขลุกขละมาก เป็นก้อนหิน คือนั่งสั่นกันตลาดทาง
ขับไปสักพัก เราเริ่มเห็นขอบทะเลทราย ก็เริ่มแต่งหน้ากันเตรียมไปถ่ายรูปกับทะเลทราย แต่งหน้าเสร็จก็รอจนหลับ ตื่นขึ้นมาอีกครั้งถึงยังไม่ถึงจุดหมาย หลับอีกรอบตื่นมาก็ยังไม่ถึง คือคุณหลอกดาวมาก ในทะเลทรายสายตาที่เรามองว่าใกล้ จริงๆคืออีกไกลมาก ต้องนั่งรถไปอีก 5 ชม. เราก็ลุ้นกันว่าจะทันพระอาทิตย์ตกมั๊ย รถก็สั่นจนเราเริ่มปวดหัว เริ่มทรมานกับชีวิตที่เลือกเอง 555 จนในที่สุดเราไปถึง
พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว ซาร่าเลยให้เราตัดสินใจว่าจะปืนมั๊ย เพราะปกติต้องใช้เวลาปืนประมาณ 2 ชม. ซึ่งซาร่าคิดว่าไม่น่าจะทัน เราตัดสินใจปืน เพราะไหนๆก็มาแล้ว เราอยากรู้ว่าบนยอดภูเขาทรายเป็นยังไง
ตอนมองจากข้างล่างเหมือนไม่สูง แต่พอปืนมันสูงมาก ตอนแรกมีเราจะปืนไปกับไกด์สามคน แต่สุดท้ายพวกนางก็ตามมา
คือปากก็บ่น มือก็ปืน เท้าก็คลาน เวลาปืนภูเขาทราย พอเราก้าวขึ้นไป ทรายก็ร่วงลงมา เหมือนเดินอยู่กับที่ ต้องใช้เท้าจิกลงไปในทราย หลังๆใช้มือช่วย กลายเป็นคลานสี่ขาขึ้นไปแข่งกับเวลา แต่ก็ไม่ทันพระอาทิตย์ นารา สามีซาร่าเลยปลอบใจว่าเรามาดูดวงจันทร์ก็ได้ เพราะคืนนี้พระจันทร์เต็มดวง ไม่ใครเคยได้ขึ้นมาดูนะ ใช่สิ ก็คนปกติเค้ามาดูพระอาทิตย์ตกกัน TT
นี่คือยอดที่เราใช้แรงกายแรงใจทั้งหมดปืนขึ้นมาดู ภาพจริงๆสวยนะคะ แต่กล้องมันถ่ายไม่เห็นเพราะมืด แล้วเราสไลด์ตัวกลับลงไปโดยที่วันนี้จะไม่ได้อาบน้ำอีกเป็นคืนที่ 2
วันที่ 31/5/61 ที่พักเมื่อคืนดีที่สุดตั้งแต่มามองโกเลีย ตื่นเช้ามามีน้ำให้อาบนาจา มี breakfast ด้วยนาจา คือเป็นแคมป์ที่ตั้งอยู่กลางทะเลทรายโกบี ซาร่าบอกว่าใต้ดินที่แห้งแล้งนี้มีน้ำอยู่ สามารถขุดบาดาลได้ หลังภูเขาทรายที่เราไปปืนมาเมื่อวานมีทะเลสาบด้วย
ข้าวต้มนมและชีสต์ รสชาติโอเคนะ
เรานั่งกินหมูหยองที่พกมาจากไทย ป้าก็มายืนจ้อง เราเลยให้ชิม นางวิ่งไปเรียกเพื่อนที่อยู่ในครัวมาชิมด้วย พอเราให้ชิมหอยผัดฉ่า ร้องจ๊ากกเลยจ้า สงสารป้า
ชอบกิจกรรมวันนี้ที่สุด ได้ใส่ชุดพื้นเมือง ยิงธนู นี่แหละแนวที่ใช่ ความลำบากแบบเมื่อวานมันไม่ใช่เลย
และก็ขี่อูฐ อันนี้เป็น goal ของเราเลย
มองโกเลีย ไซบีเรีย ไบข่าล กับการแบกเป้เที่ยวครั้งแรก
https://pantip.com/topic/37980802 รีวิว trekking เทือกเขาอัลไต
สวัสดีค่ะ รีวิวฉบับแรกของเรา หลังจากเวียนว่ายใน pantip อยู่นาน คือตั้งใจจะเขียนรีวิวมานานมาก ตั้งแต่เริ่มเที่ยวด้วยตัวเองครั้งแรก เพิ่งได้มาคลอดกระทู้นี้ เพราะเป็นทริปที่ตราตรึงใจและประทับใจมาก เลยอยากเขียนเก็บเอาไว้ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่านี่เป็นทริปแรกที่แบกเป้เที่ยวแบบลำบากลำบน และเป็นทริปแรกที่ซื้อกล้องถ่ายรูปเป็นของตัวเอง 😬😬😬ปกติเราเป็นนักท่องเที่ยวที่มีแค่มือถือเครื่องเดียวจบ เพราะถ่ายรูปไม่สวย จุดเริ่มต้นทริปนี้เกิดจาก วันนึงขณะที่นั่งทำงานแล้วเบื่อๆ เลยมาเปิด google map เล่น เราก็เปิดไปเรื่อยๆจนเจอจุดสีฟ้าใหญ่ๆอยู่ทางใต้ของรัสเซียเหนือมองโกเลีย ก็เลยคลิ๊กเข้าไปดูรูป มันคือทะเลสาบไบข่าล มันสวย มันกว้าง มันแปลกตา แล้วก็ลากมาดูในพื้นที่ของมองโกเลีย ก็แบบ เฮ้ยย อย่างกะดาวพลูโต ประกอบกับเรามีมิชชั่นในใจว่าอยากไปอัลไตอยู่แล้ว ตอนเย็นก็เลยโทรบอกเพื่อนว่าไปเที่ยวมองโกเลียกันมั๊ย เพื่อนก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล 😬😬😬
ทริปนี้เป็นที่วางแพลนยากมว๊ากกกก เริ่มจากหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก เนื่องจากมันไม่ใช่เส้นทางในฝันของใครหลายคน ตั๋วโปรจึงไม่มี โจทย์ของเรามีอยู่ว่า ต้องบินคร่อมศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และราคาถูกที่สุด เราใช้เวลานั่งหาตั๋วอยู่เป็นเดือนเลย
เราไปกันทั้งหมด 6 คน โดยที่เพื่อน 2 คนจะเที่ยวแค่ทะเลทรายโกบีแล้วบินกลับก่อน ส่วนอีก 4 คนจะไปอัลไต ทะเลสาบไบข่าล แล้วบินกลับจากเมืองอีคุสต์ (Irkutsk) โดยแพลนของเรามีดังนี้
26/5/61 บินจากภูเก็ตไปปูซาน
27/5/61 - 28/5/61 เที่ยวปูซาน
29/5/61 บินจากปูซานไปมองโกเลีย
29/5/61 - 1/6/61 เที่ยวทะลทรายโกบี แล้วกลับนอนในอูลานบาตอร์
2/6/61 บินไปเมืองอุลกิต Ulgii
3/6/61 - 6/6/61 trekking เทือกอัลไต Tavan bogd
7/6/61 เที่ยวเมืองอุลกิต
8/6/61 ข้ามชายแดนไปพักที่เมืองชีมอล Chemal ของรัสเซีย
9/6/61 เที่ยวเมืองบาร์นัล Barnaul
10/6/61 เที่ยวเมืองโนโวซีบีส Novosibirsk
11/6/61 บินไปเมืองอีคุสต์
12/6/61 เที่ยวทะเลสาบไบข่าล
13/6/61 บินกลับไทยจากเมืองอีคุสต์
วันที่ 27/6/61 เดินทางจากภูเก็ตไปปูซานด้วยสายการบิน hongkok express ราคา 5000฿ ไปเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง จริงๆมีตั๋วบินตรงจากกรุงเทพไปปูซาน แต่เราอยู่ภูเก็ต เลยไม่อยากเสียเวลาบินไปกรุงเทพ ตอนนี้เค้ายกเลิกสายการบินมองโกเลียแอร์ที่บินตรงจากกรุงเทพแล้ว เราสามารถบินไปต่อเครื่องได้ที่ฮ่องกง ปักกิ่ง และปูซาน แต่ที่เลือกปูซานเพราะราคาตั๋วถูกสุดและเรามีเพื่อนอยู่ที่นั่น มีที่พักฟรี เพื่อนขับรถคอยบริการ อีกอย่างพวกเราก็อยากไปเที่ยวเกาหลีกันอยู่แล้ว เนื่องจากติดใจทริปที่ก่อนหน้านี้ 😁
วันที่ 28/6/61 วันนี้กินเที่ยวในปูซาน โดนส่วนตัวเราชอบโซลมากกว่า อาหารอร่อยกว่า ที่เที่ยวเยอะกว่า คือครั้งที่แล้วพวกเรามาเที่ยววันฮาโลวีนในโซล ก็จะแบบมันส์หลุดโลกมาก ที่นี่จะแบบชิลๆ สบายๆ
วันที่ 29/5/61 วันนี้เราตื่นเช้าเพื่อบินไปอูลานบาตอร์ Ulaanbaaar เมืองหลวงของมองโกเลียด้วยสายการบิน Air busan ราคา 5000฿ ต่อคน ทั้งเที่ยวบินมีแต่มองโกลและเกาหลี
เมื่อเราบินไปถึงสนามบิน Chinggis khan airport ลงจากเครื่องเป็นกลุ่มสุดท้าย เพราะมัวหลับกันหมด ก็ไปเข้าห้องน้ำกัน สนามบินเงียบมากกก มากแบบไม่มีเจ้าหน้าที่ ร้านค้าปิดหมด คนที่ลงเครื่องมาพร้อมเราก็หายเกลี้ยง ก็เริ่มงงกันแล้ว เราเลยรีบวิ่งไปเข้าตม. เพิ่งมารู้ว่าสนามบินนี้วันนึงจะมีเที่ยวบินแค่ไม่กี่เที่ยว พอหมดเที่ยวบิน สนามบินก็จะบิน และใช่ค่ะ เที่ยวบินที่เราบินมาเป็นเที่ยวสุดท้ายของวันนั้น และเค้ากำลังจะปิด 😱😱😱 พอวิ่งไปถึง เหลือแค่จนท.และเรา 6 คน จนท.ทุกคนก็เริ่มมายืนดูเรา เค้าเลยส่งพวกเราไปเข้าห้องอีกห้องนึง คาดว่าจนท.ที่อยู่ในห้องนี้จะเป็นเพียงไม่กี่คนที่คุยภาษาอังกฤษได้ เค้าก็ถามที่พักเรา สอบถามรายละเอียดต่างๆ และโทรไปสอบถามว่าเราเข้าพักจริงหรือไม่ พวกเราก็ขำกันแบบ เห๋ย กรูดูเหมือนผู้ก่อการร้ายมาขโมยอูฐรึงาย คือทุกคนผ่านตม.หมด ยกเว้นพวกกรู
พอผ่านตม.มา ซาร่าและโทกี้ก็มายืนรอรับเราอยู่แล้ว คือเราติดต่อซื้อทัวร์ทะเลทรายโกบีพร้อมที่พักในอูลานบาตอร์ 1 คืนกับซาร่าล่วงหน้ามาประมาณ 2 เดือน ตอนแรกก็ตื่นเต้นว่าจะมีคนมารับรึป่าว เพราะซาร่าไม่ได้เก็บเงินมัดจำเราล่วงหน้าเลย คือจริงประทับใจซาร่าตั้งแต่คุยติดต่อกันในเมล เพราะใจดีคอยตอบทุกคำถาม พอเจอหน้าจริงๆ รู้สึกประทับใจมากขึ้นไปอีก นางพาเราไปแลกเงิน ซื้อขนม น้ำสำหรับการเดินทางไกล เราต้องนั่งรถ 7 ชม. ไปเมือง Dalanzadgad
ระหว่างทางเราแวะกินอาหารมองโกเลียมื้อแรกที่ร้านอาหารแห่งนึง เดินเข้าร้านแล้วแบบโอ้โห กลิ่นแกะแรงมากกกก ซาร่าต้อนรับเราด้วยเปา อาหารประจำชาติมองโก
มันคล้ายๆกับซาลาเปาไส้แกะที่เอาไปต้ม แต่ไม่รู้รสชาติเป็นยังไง เพราะตลอดเวลาที่อยู่มองโกเลียไม่เคยกินเลย คือปกติเราไม่กินเนื้อวัวอยู่แล้ว เนื้ออย่างอื่นนี่ยิ่งไม่แตะต้องเลย แต่เราเตรียมใจไว้แล้วทริปนี้เราจะกินขนมแทนข้าว คือเตรียมเสบียงมาจากไทยเยอะมากกก แต่สุดท้ายมื้อนี้ไม่มีใครกินอาหารอะไรได้เลย 555 สงสารซาร่า คือนางสั่งอาหารมาให้พวกเราเยอะมาก เราเลยสั่งข้าวเปล่ามากินกะสลัดมันฝรั่ง
และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย
ห้องน้ำมองโกลจ้า แม้จะเตรียมตัวเตรียมใจมายังไง เราก็ยังพ่ายแพ้ เรื่องกลิ่นไม่ต้องพูดถึง แต่เราเดินเข้าไปใกล้เท่านั้นแหละ กองทัพแมลงวันก็บุกเข้าโจมตี ไม่เคยเห็นแมลงวันเยอะขนาดนี้มาก่อน อห.ขนลุกมาก พวกเราวิ่งหนีแบบ 4 x 100 เมตร หญิงแทบไม่ทัน สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าจ้า นั่งกลั้นไปอีก 3 ชม.
เสร็จแล้วเดินทางต่อ ช่วงฤดูร้อนที่นี่พระอาทิตย์ตกตอนสี่ทุ่ม กลางวันอากาศหนาว ลมแรง แต่แดดจ้ามาก คือกลับมาไทยเราเป็นฝ้าหน้าฝั่งที่ตอนนั่งรถแล้วหันไปทางแสงแดด 😓
ระหว่างทางทุกคนก็ตื่นเต้นกับโลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยเจอ และก็อูฐนางนี้ที่ค่อยๆเดินตัดหน้ารถประหนึ่งว่าเพราะทุกที่คือรันเวย์
แล้วเราก็มาถึงที่พักตอนสี่ทุ่ม คือมืดแล้ว อากาศหนาวมากกก ที่พักมีเกอร์ให้สองหลัง หลังนี้เกอร์ของเรา หรูหรานิดนึง เพราะจริงๆเป็นเกอร์เจ้าของบ้าน เค้าเตรียมไว้ให้พวกเราแค่ 4 คน เราเลยได้เกอร์หลังนี้มา
วันที่ 30/5/61 เมื่อคืนเราหลับสนิททั้งคืน คือเกอร์ที่เราอยู่ข้างในอุ่นมาก สามารถกันลมที่พัดแรงได้อย่างน่าแปลกใจ ตื่นมาตอนเช้าเราก็ไปสำรวจห้องน้ำ และเราก็ค้นพบว่าหลังจากนี้จนจบทริป เราจะปลดทุกข์หนักและเบาข้างๆห้องน้ำเท่านั้น คือมีห้องน้ำไว้กำบังสายตาคนอื่นอย่างเดียวเลย จะไม่เข้าห้องน้ำเด็ดขาด
ปล.หมามองโกเลียน่ารักทุกตัวเลย นางใจดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
วันนี้เรามีโปรแกรมไปเที่ยว Yol Valley ซึ่งไม่ไกลจากที่พักเราเท่าไหร่
จบจากที่นี่ก็นั่งรถยาวเข้า Khongor sand dunes ระหว่างทางแวะทานข้าว ซาร่าเริ่มรู้ใจพวกเราแล้ว มื้อนี้นางสั่ง Tsuivan คือก๋วยเตี๋ยวผัดให้เรา ใส่ไก่แทนเนื้อแกะ มื้อนี้เรากินเกือบหมด ช่วงนี้ถนนขลุกขละมาก เป็นก้อนหิน คือนั่งสั่นกันตลาดทาง
ขับไปสักพัก เราเริ่มเห็นขอบทะเลทราย ก็เริ่มแต่งหน้ากันเตรียมไปถ่ายรูปกับทะเลทราย แต่งหน้าเสร็จก็รอจนหลับ ตื่นขึ้นมาอีกครั้งถึงยังไม่ถึงจุดหมาย หลับอีกรอบตื่นมาก็ยังไม่ถึง คือคุณหลอกดาวมาก ในทะเลทรายสายตาที่เรามองว่าใกล้ จริงๆคืออีกไกลมาก ต้องนั่งรถไปอีก 5 ชม. เราก็ลุ้นกันว่าจะทันพระอาทิตย์ตกมั๊ย รถก็สั่นจนเราเริ่มปวดหัว เริ่มทรมานกับชีวิตที่เลือกเอง 555 จนในที่สุดเราไปถึง
พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว ซาร่าเลยให้เราตัดสินใจว่าจะปืนมั๊ย เพราะปกติต้องใช้เวลาปืนประมาณ 2 ชม. ซึ่งซาร่าคิดว่าไม่น่าจะทัน เราตัดสินใจปืน เพราะไหนๆก็มาแล้ว เราอยากรู้ว่าบนยอดภูเขาทรายเป็นยังไง
ตอนมองจากข้างล่างเหมือนไม่สูง แต่พอปืนมันสูงมาก ตอนแรกมีเราจะปืนไปกับไกด์สามคน แต่สุดท้ายพวกนางก็ตามมา
คือปากก็บ่น มือก็ปืน เท้าก็คลาน เวลาปืนภูเขาทราย พอเราก้าวขึ้นไป ทรายก็ร่วงลงมา เหมือนเดินอยู่กับที่ ต้องใช้เท้าจิกลงไปในทราย หลังๆใช้มือช่วย กลายเป็นคลานสี่ขาขึ้นไปแข่งกับเวลา แต่ก็ไม่ทันพระอาทิตย์ นารา สามีซาร่าเลยปลอบใจว่าเรามาดูดวงจันทร์ก็ได้ เพราะคืนนี้พระจันทร์เต็มดวง ไม่ใครเคยได้ขึ้นมาดูนะ ใช่สิ ก็คนปกติเค้ามาดูพระอาทิตย์ตกกัน TT
นี่คือยอดที่เราใช้แรงกายแรงใจทั้งหมดปืนขึ้นมาดู ภาพจริงๆสวยนะคะ แต่กล้องมันถ่ายไม่เห็นเพราะมืด แล้วเราสไลด์ตัวกลับลงไปโดยที่วันนี้จะไม่ได้อาบน้ำอีกเป็นคืนที่ 2
วันที่ 31/5/61 ที่พักเมื่อคืนดีที่สุดตั้งแต่มามองโกเลีย ตื่นเช้ามามีน้ำให้อาบนาจา มี breakfast ด้วยนาจา คือเป็นแคมป์ที่ตั้งอยู่กลางทะเลทรายโกบี ซาร่าบอกว่าใต้ดินที่แห้งแล้งนี้มีน้ำอยู่ สามารถขุดบาดาลได้ หลังภูเขาทรายที่เราไปปืนมาเมื่อวานมีทะเลสาบด้วย
ข้าวต้มนมและชีสต์ รสชาติโอเคนะ
เรานั่งกินหมูหยองที่พกมาจากไทย ป้าก็มายืนจ้อง เราเลยให้ชิม นางวิ่งไปเรียกเพื่อนที่อยู่ในครัวมาชิมด้วย พอเราให้ชิมหอยผัดฉ่า ร้องจ๊ากกเลยจ้า สงสารป้า
ชอบกิจกรรมวันนี้ที่สุด ได้ใส่ชุดพื้นเมือง ยิงธนู นี่แหละแนวที่ใช่ ความลำบากแบบเมื่อวานมันไม่ใช่เลย
และก็ขี่อูฐ อันนี้เป็น goal ของเราเลย