KBank ตั้งบริษัทลูก KVision เงินทุน 8 พันล้านบาท ลงทุนบริษัทเทคโนโลยีนอกประเทศ...ปล. อย่าลืม Startup ไทยนะฮะ

สู้ๆครับ Startup SMEไทย จะได้เป็นจากกงสี สู่มหาชน ตามที่มันนี่แชนแนล โฆษณา


ธนาคารกสิกรไทย ประกาศตั้งบริษัทลูก บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KASIKORN VISION COMPANY LIMITED) หรือเรียกย่อว่า เควิชั่น (KVision) ทำหน้าที่เป็นบริษัทลงทุน (Investment Holding Company) นอกประเทศไทย

KVision มีงบลงทุนตั้งต้น 245 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8 พันล้านบาท (ทุนจดทะเบียน 5 พันล้านบาท) มีขอบเขตการลงทุนทั่วโลก แต่ในระยะแรกจะโฟกัส 4 ประเทศคือ จีน ที่มีบริษัท FinTech เป็นจำนวนมาก, อินโดนีเซีย-เวียดนาม ที่มีอัตราการเติบโตของสตาร์ตอัพสูงเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียน และอิสราเอล ที่เป็นแหล่งกำเนิดของเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีความพร้อมเรื่องบุคคลากรสูง

รูปแบบการลงทุนของ KVision มีทั้งการเข้าไปลงทุนเองโดยตรง และลงผ่านกองทุน Beacon Venture Capital Fund ที่ก่อตั้งในปี 2017

กสิกรไทยเตรียมขยายธุรกิจในภูมิภาคในรูปแบบดิจิตอลเทคโนโลยี ทุ่ม 8 พันล้านบาทเปิดตัว “เควิชั่น” ร่วมลงทุนและแสวงหาดิจิทัล เทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลก หวังต่อยอดธุรกิจธนาคารในตลาด AEC+3 เป็น Regional Life Platform of Choice รองรับกลุ่มลูกค้าใหม่ในอนาคตอีกมหาศาล

นายภัทรพงศ์ กันหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกได้เข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ที่ดิจิทัล เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตเหมือนเป็นปัจจัยที่ 5 ทำให้การเข้าถึง โซลูชั่นและบริการต่าง ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลง่ายขึ้นแค่ปลายนิ้วสัมผัส ก่อให้เกิดกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ เรียกว่าดิจิทัล คอนซูเมอร์ ที่มีพฤติกรรมและความต้องการเปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้นการให้บริการของธนาคารเองก็จะต้องเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่จากเดิมที่ทุกอย่างถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ ๆ ก็จะถูกออกแบบมาสำหรับลูกค้าแต่ละบุคคลมากขึ้น โดยผ่านกระบวนการสังเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) ทำให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ชัดและลึกมากขึ้นจึงสามารถสร้างลูกค้าเซ็กเม้นท์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนได้

ธนาคารกสิกรไทยจึงต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นไลฟ์ แพลตฟอร์ม “คนรู้ใจ” ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันอันหลากหลายของทุกคน ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการใหม่ ๆ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กรอบการให้บริการการเงินแบบเดิมอย่างที่ธนาคารเคยทำมาอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง การเดินทาง ความบันเทิง และอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านเทคโนโลยี APIs (Application Programming Interface) ที่ให้พันธมิตรทางธุรกิจ นำสินค้าและบริการต่าง ๆ มาเชื่อมต่อกับบริการของธนาคารได้อย่างไร้รอยต่อ

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ธนาคารมีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่จะมุ่งสู่การเป็นไลฟ์ แพลตฟอร์มของลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศทั่วภูมิภาค AEC+3 ผ่านช่องทางดิจิตอลและโมบาย โซลูชั่น ซึ่งหัวใจสำคัญ คือ การพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัล เทคโนโลยี ให้ก้าวขึ้นสู่ระดับภูมิภาค ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทยจึงได้จัดตั้ง บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KASIKORN VISION COMPANY LIMITED)หรือ เควิชั่น (KVision) ขึ้นมา ด้วยเงินลงทุนกว่า 8 พันล้านบาท (245 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและเสริมทัพด้านดิจิทัล เทคโนโลยี ให้กับธนาคาร โดยเค-วิชั่น จะมีฐานะเป็น Investment Holding Company ภายใต้เครือธนาคารกสิกรไทยจะเข้าไปเสาะหาและร่วมพัฒนาความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ กับ เทค คอมมูนิตี้ หรือ บุคลากรผู้เชียวชาญด้านเทคโนโลยี จากทั่วทุกมุมโลก

การดำเนินการในระยะแรกของ เควิชั่น จะมุ่งเป้าไปที่การสร้างฐานรากก่อน โดยการตั้ง บิสซิเนส อินโนเวชั่น สเก๊าท์ติ้ง เพื่อเข้าไปค้นหาพันธมิตรในกลุ่มประเทศทีมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาและนำใช้กับผู้บริโภคในประเทศนั้น ๆ ก่อน 4 ประเทศ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ปัจจุบันมีจำนวน Fin-Tech Unicorns หรือบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ แซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปแล้ว เวียดนาม และอินโดนีเซีย ประเทศที่มีการเติบโตของเทค สตาร์ทอัพเป็นอันดับต้น ๆ ใน AEC+3 สุดท้ายคือ อิสราเอล ที่เป็นจุดกำเนิดเทคโนโลยีใหม่และเป็นแหล่งรวมของ บุคลากรผู้เชียวชาญด้านเทคโนโลยี

หลังจากที่บิสซิเนส อินโนเวชั่น สเก๊าท์ติ้ง เข้าไปเรียนรู้และค้นหาพันธมิตรที่มีศักยภาพได้แล้ว
บริษัท เควิชั่น ก็จะศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุน ทั้งในรูปแบบการเข้าไปถือหุ้นโดยตรง หรือการลุงทุนผ่านกองทุน Beacon Venture Capital Fund ที่มีการเพิ่มเม็ดเงินลงทุน เพื่อเตรียมให้ความสนับสนุนด้านเงินทุนในการทำธุรกิจแก่เทค สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพและมีเทคโนโลยีที่อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา แต่มีความน่าสนใจและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ทางธุรกิจของธนาคาร และนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้และยกระดับบริการของธนาคารทั้งในไทยและใน AEC+3

การก่อตั้ง เควิชั่น จะทำให้ธนาคารได้เปรียบในเรื่องความคล่องตัวในการนำดิจิตอล โซลูชั่นส์ต่าง ๆ มาให้บริการแก่ลูกค้า สามารถย่นระยะเวลาในการพัฒนาบริการอย่างก้าวกระโดด นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ก็จะเป็นการยกระดับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของธนาคารจากการเรียนรู้และปฏิบัติจริงที่ได้จากร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญในการสร้างนวัตกรรมในระดับนานาชาติที่จะเข้ามาร่วมงานกับเครือธนาคารกสิกรไทย

นายภัทรพงศ์ กล่าวตอนท้ายว่า กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกรวมทั้งธุรกิจธนาคารที่ไม่ได้แข่งกับธนาคารกันเองอีกต่อไป ธนาคารจึงจำเป็นต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อยกระดับบริการและประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็น ไลฟ์ แพลตฟอร์ม อันดับหนึ่งของภูมิภาค ในอนาคตอย่างแท้จริง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีเป้าหมายชัดเจนในก้าวออกสู่เวทีการแข่งขันด้านดิจิตอลในระดับโลก เพื่อมุ่งพัฒนาศักยภาพและแสวงหาเทคโนโลยีชั้นนำมารองรับการขยายบริการธนาคารยุคใหม่ การก่อตั้ง เควิชั่น จะช่วยให้ธนาคารสามารถพัฒนาและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ กับพันธมิตร และก้าวไปยืนอยู่ในระดับแถวหน้าของดิจิทัล เทคโนโลยีที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในทุกแพลตฟอร์มในระดับภูมิภาคได้

https://www.blognone.com/node/104711

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่