JJNY : 6in1 ชี้กพ.62เหมาะแล้ว/รุ่นใหม่พท.อัดรบ./ค้านแยกบัวใหญ่/ม๊ากลั่น/วิษณุคลายล็อค/ดูสิ้นเดือนน้ำท่วมใหญ่

กระทู้คำถาม
ชูศักดิ์ชี้เลือกตั้ง ก.พ.62 เหมาะสม-ทำได้ วอน คสช.อย่าลดทอนความเชื่อมั่นประเทศอีก
https://www.matichon.co.th/politics/news_1094000

“ชูศักดิ์” ชี้เลือกตั้งกุมภาพันธ์ 62 เหมาะสมแล้ว ติง คสช.อย่าทำอะไรที่จะลดทอนความเชื่อมั่น

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่สำนักงาน กกต.ได้กำหนดแผนปฏิบัติการกำหนดการเลือกตั้ง โดยคาดว่าจะมีการเลือกตั้งได้ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 แต่ต่อมาทีมโฆษก คสช.ระบุทำนองกรอบเวลาเลือกตั้งดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยนั้นว่า เห็นว่าการกำหนดวันเลือกตั้งที่คาดว่าจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นั้น น่าจะเป็นครั้งที่ 5 แล้ว หลังจากที่หัวหน้า คสช.ได้เคยกำหนดกรอบเวลาในการเลือกตั้งไว้ แต่ก็ต้องมีเหตุให้ เลื่อนการเลือกตั้งเรื่อยมา ซึ่งวันเลือกตั้งนั้น โดยอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว กกต.จะเป็น ผู้กำหนด โดยปัจจัยสำคัญขณะนี้คือต้องยึดกรอบเวลาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน นับแต่วันที่กฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ขณะเดียวกันก็ต้องขึ้นอยู่ที่ คสช.ด้วยว่าจะปลดล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้เมื่อใด เพื่อที่จะได้ปฏิบัติในขั้นตอนของการเตรียมการเลือกตั้งได้ทัน

นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า ดังนั้นเมื่อกฎหมายเลือกตั้งมีผลใช้บังคับเมื่อใดก็ควรที่ คสช.ต้องปลดล็อกทันที โดยยกเลิกข้อห้ามตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 57/2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ไม่ควรที่จะทอดเวลานาน และโดยสภาพการณ์ปัจจุบันไม่มีเงื่อนไขใดที่จะอ้างถึงความสงบเรียบร้อย เพื่อให้การเลือกตั้งต้องขยับออกไปอีก และไม่ควรอ้างว่าพรรคการเมืองจะเตรียมการเลือกตั้งไม่ทัน เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่ คสช.ออกคำสั่งจำกัดการทำกิจกรรมของพรรคการเมือง คสช.ก็ควรจะแก้ปัญหาดังกล่าวไปพร้อมกัน โดยเรื่องใดที่เห็นว่าจะเป็นปัญหาต่อพรรคการเมืองในการเตรียมการเลือกตั้งก็ควรแก้ปัญหาดังกล่าวเสีย จะด้วยวิธีการใดและหลักเกณฑ์ใดก็อยู่ที่ คสช. ดังนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่า การที่ กกต.กำหนดให้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันเลือกตั้งนั้น จึงเห็นว่าเหมาะสมแล้ว เรื่องนี้หัวหน้า คสช.ก็ได้ยืนยันมาตลอดว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยล่าสุดได้พูดไว้เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 และ 5 มิถุนายน 2561 การที่ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งดังกล่าวตนเชื่อว่าจะเป็นผลดีในการสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ อย่าทำอะไรที่จะลดทอนความเชื่อมั่นดังกล่าวเลย




'รุ่นใหม่เพื่อไทย' อัด รบ.ไม่กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน เท่ากับเอาเปรียบปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_1094185

‘รุ่นใหม่เพื่อไทย’ อัด รบ.ไม่กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน เท่ากับเอาเปรียบ ปชช. -ชี้ 69% ของผู้มีสิทธิ ลต.ใหม่ รอคอยวันได้ไป ลต.

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส นักการเมืองรุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ กกต.กำหนดกรอบวันเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 62 แต่ คสช.ก็ออกมาระบุว่ายังไม่ชัวร์ ว่า ปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิเลือกตั้งใหม่ กว่า 5 ล้านคน และ ตามที่สวนดุสิตโพลได้ทำการสำรวจมา พบว่า คนรุ่นใหม่ กว่า 69% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใหม่ นั้นรอคอยวันที่จะได้ไปเลือกตั้ง เพื่อใช้สิทธิของตนที่จะเลือก นโยบาย และ พรรคการเมือง ที่เขาชอบ ให้มาเป็นรัฐบาล

“ผมในฐานะหนึ่งในคนรุ่นใหม่ อยากให้รัฐบาลกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนออกมา เพราะหากคุณไม่กำหนดวันเลือกตั้ง และไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรม จะส่งผลให้พวกเราไม่ทราบถึงนโยบายต่างๆ ของแต่ละพรรค และไม่มีเวลาที่จะได้มาศึกษา เปรียบเทียบนโยบายต่างๆ ที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราคนไทยทุกคน ฉะนั้น รัฐบาลควรต้องเผื่อเวลาให้เราได้ศึกษาด้วย และควรให้พรรคการเมืองออกมาทำกิจกรรมทางการเมือง เพื่อเก็บข้อมูลได้แล้ว พวกเราทุกคน รอคอยแสงสว่างของประชาธิปไตยในวันหน้า แต่วันนี้ยังไม่เห็นแสงสว่างในปลายอุโมงค์เลย” นายตรีรัตน์กล่าว




กลุ่มค้านแยกบัวใหญ่โต้ 'สามมิตร' ขายฝันหวังผลทางการเมือง มั่นใจ 'บิ๊กตู่' ไม่บ้าจี้ใช้ ม.44
https://www.matichon.co.th/region/news_1093320

จากกรณีที่กลุ่มสามมิตร นำโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่ม และนายภิรมย์ พลวิเศษ เลขากลุ่ม ได้เดินทางไปพบปะกับชาว อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 พร้อมกับรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งได้มีกลุ่มชาวบ้านนำเรื่องการจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ให้กลุ่มสามมิตรเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ใช้ ม.44 ในการแยกพื้นที่ 8 อำเภอ ประกอบไปด้วย อ.บัวใหญ่, อ.คง, อ.ประทาย, อ.โนนแดง, อ.บ้านเหลื่อม, อ.แก้งสนามนาง, อ.สีดา และ อ.บัวลาย ออกมาจากจังหวัดนครราชสีมา เพื่อจัดตั้งเป็นจังหวัดบัวใหญ่ ซึ่งเป็นการปลุกกระแสเคลื่อนไหวของทั้งฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายต่อต้านในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ขึ้นมาอีกครั้งนั้น

ล่าสุด วันที่ 20 สิงหาคม นายวินัย กีระติอุไร อายุ 39 ปี ประธานเครือข่ายชาวโคราชคัดค้านการแยกจังหวัดบัวใหญ่ ได้ออกมาเปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ มานานแล้ว ซึ่งในสภาพความเป็นจริงนั้น ชาว อ.บัวใหญ่ และชาวอำเภออื่นๆ ที่กล่าวอ้างมา ส่วนใหญ่ไม่ได้มีความต้องการอยากจะแยกตัวไปตั้งเป็นจังหวัดบัวใหญ่เลย เพราะเขาต้องการที่จะอยู่รวมกันเป็นชาวโคราช เป็นลูกหลานย่าโมต่อไป ซึ่งเคยมีการเสนอเรื่องนี้กับผู้ว่าราชการจังหวัดหลายคนแล้ว และประเด็นก็ตกไปทุกครั้ง

“เนื่องจากเหตุผลยังไม่เพียงพอที่จะจัดตั้งเป็นจังหวัดบัวใหญ่ แต่ที่มีกระแสกลับมาพูดกันใหม่นั้น เพราะมีกลุ่มสามมิตรไปใช้โอกาสรับเรื่องนี้มาขายฝันให้กับกลุ่มผลประโยชน์เหล่านั้นอีกครั้ง เพื่อหวังที่จะได้ฐานคะแนนเสียงในทางการเมือง ซึ่งตนมองว่าเป็นเพียงการขายฝัน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คงจะไม่มีวันใช้ ม.44 มาจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่แน่นอน และเชื่อว่าผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาก็คงจะไม่ต้องการรับเผือกร้อนที่ทางกลุ่มสามมิตรโยนให้แน่”

ทั้งนี้นายวินัยกล่าวอีกว่า หากกลุ่มสามมิตรยังคงเดินหน้าขายฝันเรื่องจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ขึ้นมาอีก ตนและกลุ่มคัดค้านก็จะเคลื่อนไหวตอบโต้ให้ถึงที่สุด ทั้งการล่ารายชื่อชาวโคราชทั้ง 32 อำเภอ เพื่อยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา การเปิดเวทีตามจุดต่างๆ เพื่อให้ชาวโคราชได้ออกมาแสดงการคัดค้าน และจะมีการเคลื่อนไหวตอบโต้กลุ่มสามมิตรในโลกโซเชียลอย่างเต็มที่

“เรื่องนี้ขอให้ชาวโคราชอย่าได้หลงเชื่อกลุ่มนักการเมืองที่หวังเพียงผลประโยชน์ด้วยการมาขายฝันไปวันๆ เพราะการจะแยกคนทั้ง 8 อำเภอออกไปจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่ใช่จะใช้ความคิดเห็นของกลุ่มคนแค่ไม่กี่คนมาเสนอจัดตั้งกันง่ายๆ ส่วนเรื่องที่อ้างว่าเป็นพื้นที่ห่างไกล ไม่มีงบประมาณกระจายไปทั่วถึงนั้น เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น เพราะทุกวันนี้มีการกระจายงบประมาณให้อย่างทั่วถึงอยู่แล้ว จึงขอให้ชาวโคราชรักกันไว้ เราจะยังคงอยู่รวมกันเป็นจังหวัดนครราชสีมา ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยต่อไป”




'มาร์ค'ลั่นถ้ายังไม่ปลดล็อกตอนนี้ ก็ไม่ต้องทำไพรมารีโหวตแล้ว ชี้ วันลต.จริงขึ้นกับคสช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_1093862

“มาร์ค” ชี้ โรดแมปลต.จริงขึ้นอยู่กับ คสช. เชื่อ เหตุพรรคการเมืองหนุน “บิ๊กตู่”ไม่พร้อมทำไพรมารีก็ยื้อไปเรื่อย แนะรบ.สร้างความเชื่อมั่น-เอาผลประโยชน์ประเทศมาก่อน

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 62 ว่า ตนคิดว่าคนส่วนใหญ่ คงยังไม่แน่ใจ เพราะภายใน 1 วัน ที่กกต.ประกาศ ทางด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาบอกว่าเป็นแค่ตุ๊กตาสามารถขยับได้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า สังคมยังไม่ค่อยเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้ง การแก้ไขหรือเลื่อนการเลือกตั้งทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทั้งสิ้น รวมทั้งขณะนี้ คสช.ซึ่งเปลี่ยนจากกรรมการ มาเป็นผู้เล่นอาจจะยังไม่พร้อม ซึ่งก็มีส่วนที่ทำให้ไม่พร้อม เพราะคนก็คาดหมายกันว่าพรรคการเมืองที่จะต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง และมีหนึ่งพรรคอาจจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี หรือใครก็ตามในคสช.เป็นนายกรัฐมนตรีเช่นกัน และมีพรรคการเมืองอีกหลายพรรคที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศต่อ ซึ่งพรรคการเมืองเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นตอน ยังไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่สมบูรณ์ จึงเกิดคำถามว่า ขั้นตอนต่างๆที่กฎหมายกำหนดไว้จะทำทันกันหรือไม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ถ้าไม่ปลดล็อก ก็ไม่ต้องทำไพรมารี่โหวตแล้ว แม้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะบอกว่ามี 4 ทาง แต่ตอนหลังบอกว่า เหลือ 2 ทาง คือทำเป็น 1.ทำเป็นรายภาค และ2.ไม่ต้องทำไพรมารี่โหวต แต่ต้องมีวิธีการในการรับฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมือง อย่างไรก็ดี หากทำแบบแรก คือ เป็นรายภาค ส่วนตัวเห็นว่าไร้สาระและตลกมากๆ เพราะตนเตือนตั้งแต่แรกแล้วว่ามันไม่ง่าย ยกเว้นแต่ กกต.มาอำนวยความสะดวกให้ และการทำไพรมารี หากไม่มีการแบ่งเขตก็ไม่ควรจะทำ

“ยืนยันว่า ความจริงวันนี้ถ้าหากคสช.ปลดล็อก ผมค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่มีความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น ถ้ามีใครไปทำอะไรที่วุ่นวาย คสช.มีทั้งคำสั่ง และกฎหมายอื่นเล่นงานได้อยู่แล้ว ถ้าปลดล็อก พรรคการเมืองควรจะต้องทำตามกฎหมาย บนพื้นฐานความเสมอภาคกัน แต่เรื่องนี้ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาวิจารณ์กันอยู่คือพรรคที่ยังไม่พร้อมจะทำไพรมารี่โหวต”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า คสช.และรัฐบาลควรตั้งหลักเพื่อให้ประเทศได้รับความเชื่อมั่น ทุกคนจับตาดูอยู่ว่าประเทศไทยจะกลับคืนสู่การเลือกตั้ง คืนสู่ประชาธิปไตย อย่างสมบูรณ์หรือไม่ และจะเดินไปข้างหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและชาวโลกได้หรือไม่ เพราะการสร้างความเชื่อมั่นต้องมีความน่าเชื่อถือ กรอบเวลาและการแข่งขันที่เป็นธรรมคือหัวใจที่จะทำให้การเลือกตั้งได้รับความเชื่อถือและเชื่อมั่นของประเทศ คสช.และรัฐบาลต้องเลิกคิดปัจจัยทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับตัวเองทั้งหมด แล้วเอาผลประโยชน์ของประเทศมาก่อน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่