แตกประเด็นจาก
https://pantip.com/topic/37970263
เพราะคุยกับอย่างคุณนี่แหละ ทำให้ผมเบื่อ รำคาญ หน่าย เสียเวลา ไม่ได้อะไร
ได้แค่การเถียงกันไปมาสามวาแปดศอกห้าคืบ ปวดตับเปล่า ๆ
เหมือนคุยกันคนละเรื่อง คุยกันคนละภาษา
ไม่เก็บประเด็น ไม่พิจารณาเนื้อหา ไม่ใช่ความคิด ไม่อาศัยสติปัญญา มองหาแค่แง่ที่จะเถียงเท่านั้น
ผมเถียงกับแบบคุณมาหลายปี จนพักการเถียงไปปีกว่า
นึกว่าจะมีการพัฒนาทักษะด้านกระบวนการคิดและเหตุผลขึ้นบ้าง แต่เปล่าเลย
แล้วผมจะเถียงไปทำไม
ผมเปรียบเปรย ว่าสลิ่มไม่เอาคนโกง เกลียดคนโกง แล้วทำไมเดินตามคนโกง
เพื่อโยงเข้าสู่เนื้อหาเรื่องโครงสร้างทางการเมืองการปกครอง เรื่องการปกป้องระบบระบอบ
คุณแย้งเรื่องเดินตามคนโกง ว่าใครโกง โกงยังไง
ผมก็ขี้เกียจเถียง เลยยกตัวอย่างเรื่องอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ นายร้อยเก๊ เป็นเคสให้คุณขบคิด
แทนที่จะคิด คุณกลับมั่วมาอย่างเคย
ใครโกงอย่างไร แบบไหน ยังไง ในเนื้อหาการพูดคุย คือการพิจารณาจากเรื่องราวเป็นพื้นฐาน
เรากำลังคุยการเมืองกัน ไม่ใช่ทำตัวเป็นผู้พิพากษาที่ต้องใช้หลักฐานอันชัดเจนเป็นพื้นฐาน
ผมไม่เจาะจงว่าใครโกง โกงอย่างไร ยังไง แต่ผมยกประเด็นโกงขึ้นมาเพื่อประกอบเนื้อหาหลัก
เช่น คนที่เคยอยู่กระทรวงเกษรฯ เมื่อยี่สิบปีกว่าปีก่อน มีโครงการสร้างโรงบ่มยางพาราทั่วภาคใต้
ด้วยการใช้ผู้รับเหมาเจ้าเดียว สร้างไม่เสร็จ ทิ้งงาน โรงบ่มยางทิ้งร้างเป็นร้อย
พอได้มาเป็นรองนายกฯ ก็ทำโครงการสร้างโรงพักหลายร้อยโรง ด้วยผู้รับเหมาเจ้าเดียวทั่วประเทศ
สร้างไม่เสร็จ ทิ้งงาน โรงพักมีแต่เสาโด่เด่ทิ้งร้างเป็นร้อย
นี่แหละ คือการพิจารณาจากเรื่องราวเป็นพื้นฐาน ว่ามีการโกงเกิดขึ้น
แล้วพอคุณย้อนถามว่าใครโกง โกงยังไง ผมขี้เกียจ ก็เลยยกตัวอย่างกรณีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เพื่อให้คุณมองเห็นภาพรวม ซึ่งผมว่ากรณีอภิสิทธิ์นี่แหละ เป็นเกรณีที่ยกขึ้นมาปั๊บเห็นภาพรวมปุ๊บ
แต่คุณกลับไม่คิด ไม่เห็น แต่เถียงย้อนเท่านั้น
กรณีอภิสิทธิ์ หลักฐานชัดเจน แสดงต่อสาธารณะ ว่าหนีทหาร ว่าเข้ารับราชการมิชอบ เป็นนายร้อยเก๊
โดนกลาโหมสั่งปลดออกจากราชการย้อนหลังเกิดขึ้นในปี 2555 ครับ สมัยยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ไม่ใช่ไม่ทำอะไรอย่างที่คุณว่า
และที่ผมยกกรณีนี้เป็นตัวอย่าง ก็เพราะถึงวันนี้ ไม่มีผลใด ๆ กับอภิสิทธิ์ แม้เส้นขน
กองทัพบกไม่ดำเนินการต่อ ไม่มีการเรียกเบี้ยหวัดเงินเดือนคืน ไม่มีการเรียกยศคืน ไม่มีการดำเนินการถอดยศ
ทุกอย่างนิ่งเงียบ เหมือนอภิสิทธิ์ไม่มีความผิดอะไร ยังมีศักดิ์และสิทธิ์เป็นนายร้อยเก๊อย่างสมบูรณ์ทุกประการเหมือนเดิม
ซึ่งสะท้อนให้เห็นอะไรล่ะครับ ถ้าคุณแค่คิดเป็น
ส่วนเรื่องกฎหมายที่คุณพล่ามมา ผมก็ขี้เกียจครับ
การณ์และกาลผ่านมานับสิบปี ผมว่าสลิ่มอย่างคุณน่าจะมองเห็นอะไรบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เถียง
จากกระทู้ที่แตกประเด็นมา ผมถึงพยายามชี้ให้สลิ่มอย่างคุณมองเห็นความจริงว่า เรา คนไทยกำลังเผชิญอะไรอยู่
เรากำลังเผชิญกับรูปเงาก้นภ้ำที่เขาฉายให้ดู โดยที่เราลืมที่จะคิดถึงภาพความจริงนอกถ้ำ
เราได้เพียงเชื่อและคล้อยตามสิ่งเขาสร้างให้เห็น ไม่มีโอกาสโงหัว ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นเพื่อมองหาความจริง
นั่นคือเรื่องโครงสร้าง เรื่องระบบ เรื่องระบอบ เราติดกับดักเรื่องคนดี คนโกง
ผมจึงพยายามชี้ให้เห็นว่า ปลวกน่ะ ปราบไม่หมดหรอกหากบ้านไม่แกร่ง แต่ถ้าบ้านแกร่ง ปลวกหมดไปเอง
เรื่องหนี
ถ้าคุณมองว่า เห็นว่า กระบวนการดำเนินการเอาผิดเป็นไปอย่างเป็นธรรม ตั้งอยู่บนหลักอำนวยการทางยุติธรรมจริง ๆ
ก็ตามสบายครับ
หลายปี ณ บอร์ดแห่งนี้ ผมเพียรชี้ให้เห็นความไม่ปกติ ความไม่เป็นธรรม ไม่ใช่ปกป้องคนผิด ไม่ใช่เข้าข้างใคร
แต่เพื่อปกป้องรักษาโครงสร้างของบ้าน เพราะหากโครงสร้างบ้านบิดเบี้ยว คนในบ้านเดือดร้อนกันหมดครับ
พังโครมเมื่อไร ก็นรกกันทั่ว ไม่รู้ใครต่อใครจะโดนอะไร ใครร่ำรวย มีพวกมากกว่า อำนาจเหนือกว่า เส้นใหญ่กว่าก็รอดไป
กฎหมายไม่มีความหมาย นี่ครับ คือสิ่งที่น่าห่วง คือสิ่งที่เราปกป้อง มากกว่าที่จะหลงทางไปจมปลักอยู่กับแต่เรื่องปลวก
ในกระทู้ที่แตกประเด็นมา ให้คุณอ่าน คห.29 ของคุณชยารมภ์นะครับ
นั่นแหละ อธิบายให้เห็นชัด
คร่าว ๆ ครับ เพราะอย่างที่บอก ผมขี้เกียจ เบื่อ
ผมเบื่อเหตุผลที่ด้อย ไม่ใช่เหตุผลไม่ดีแล้วไม่รับ แต่คือเหตุผลที่ไม่ใช่เหตุผล เป็นแค่ข้ออ้างเพื่อเถียงเท่านั้น เบื่อ
เบื่อที่จะเถียง เบื่อที่จะอธิบาย เพราะอธิบายไปแล้ว ผลสะท้อนกลับมักไปคนละทีปเหมือนคุยกันคนละเรื่อง
เห็นแต่การเอาชนะคะคาน มองไม่เห็นว่า เป้าหมายคือการเดินไปสู่โครงสร้างที่ดี มองไม่เห็นความเป็นสากลทางความคิด
แต่ไม่ใช่ใครจะเถียง จะแย้ง จะต่อว่า จะด่าผมไม่ได้หรอกครับ เชิญ
ผมก็ไม่ได้เบื่อตลอด ไม่ใช่ขี้เกียจตลอด เพียงแต่หากเหตุผลเหลือรับ ผมก็ขี้เกียจและเบื่อเท่านั้นเอง
เข้าใจตรงกันนะครับ
คุณ Mr_L ครับ ผมขอยืนยันอีกครั้งครับ ว่าผมเบื่อที่จะเถียง ................................. โดย ตระกองขวัญ
เพราะคุยกับอย่างคุณนี่แหละ ทำให้ผมเบื่อ รำคาญ หน่าย เสียเวลา ไม่ได้อะไร
ได้แค่การเถียงกันไปมาสามวาแปดศอกห้าคืบ ปวดตับเปล่า ๆ
เหมือนคุยกันคนละเรื่อง คุยกันคนละภาษา
ไม่เก็บประเด็น ไม่พิจารณาเนื้อหา ไม่ใช่ความคิด ไม่อาศัยสติปัญญา มองหาแค่แง่ที่จะเถียงเท่านั้น
ผมเถียงกับแบบคุณมาหลายปี จนพักการเถียงไปปีกว่า
นึกว่าจะมีการพัฒนาทักษะด้านกระบวนการคิดและเหตุผลขึ้นบ้าง แต่เปล่าเลย
แล้วผมจะเถียงไปทำไม
ผมเปรียบเปรย ว่าสลิ่มไม่เอาคนโกง เกลียดคนโกง แล้วทำไมเดินตามคนโกง
เพื่อโยงเข้าสู่เนื้อหาเรื่องโครงสร้างทางการเมืองการปกครอง เรื่องการปกป้องระบบระบอบ
คุณแย้งเรื่องเดินตามคนโกง ว่าใครโกง โกงยังไง
ผมก็ขี้เกียจเถียง เลยยกตัวอย่างเรื่องอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ นายร้อยเก๊ เป็นเคสให้คุณขบคิด
แทนที่จะคิด คุณกลับมั่วมาอย่างเคย
ใครโกงอย่างไร แบบไหน ยังไง ในเนื้อหาการพูดคุย คือการพิจารณาจากเรื่องราวเป็นพื้นฐาน
เรากำลังคุยการเมืองกัน ไม่ใช่ทำตัวเป็นผู้พิพากษาที่ต้องใช้หลักฐานอันชัดเจนเป็นพื้นฐาน
ผมไม่เจาะจงว่าใครโกง โกงอย่างไร ยังไง แต่ผมยกประเด็นโกงขึ้นมาเพื่อประกอบเนื้อหาหลัก
เช่น คนที่เคยอยู่กระทรวงเกษรฯ เมื่อยี่สิบปีกว่าปีก่อน มีโครงการสร้างโรงบ่มยางพาราทั่วภาคใต้
ด้วยการใช้ผู้รับเหมาเจ้าเดียว สร้างไม่เสร็จ ทิ้งงาน โรงบ่มยางทิ้งร้างเป็นร้อย
พอได้มาเป็นรองนายกฯ ก็ทำโครงการสร้างโรงพักหลายร้อยโรง ด้วยผู้รับเหมาเจ้าเดียวทั่วประเทศ
สร้างไม่เสร็จ ทิ้งงาน โรงพักมีแต่เสาโด่เด่ทิ้งร้างเป็นร้อย
นี่แหละ คือการพิจารณาจากเรื่องราวเป็นพื้นฐาน ว่ามีการโกงเกิดขึ้น
แล้วพอคุณย้อนถามว่าใครโกง โกงยังไง ผมขี้เกียจ ก็เลยยกตัวอย่างกรณีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เพื่อให้คุณมองเห็นภาพรวม ซึ่งผมว่ากรณีอภิสิทธิ์นี่แหละ เป็นเกรณีที่ยกขึ้นมาปั๊บเห็นภาพรวมปุ๊บ
แต่คุณกลับไม่คิด ไม่เห็น แต่เถียงย้อนเท่านั้น
กรณีอภิสิทธิ์ หลักฐานชัดเจน แสดงต่อสาธารณะ ว่าหนีทหาร ว่าเข้ารับราชการมิชอบ เป็นนายร้อยเก๊
โดนกลาโหมสั่งปลดออกจากราชการย้อนหลังเกิดขึ้นในปี 2555 ครับ สมัยยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ไม่ใช่ไม่ทำอะไรอย่างที่คุณว่า
และที่ผมยกกรณีนี้เป็นตัวอย่าง ก็เพราะถึงวันนี้ ไม่มีผลใด ๆ กับอภิสิทธิ์ แม้เส้นขน
กองทัพบกไม่ดำเนินการต่อ ไม่มีการเรียกเบี้ยหวัดเงินเดือนคืน ไม่มีการเรียกยศคืน ไม่มีการดำเนินการถอดยศ
ทุกอย่างนิ่งเงียบ เหมือนอภิสิทธิ์ไม่มีความผิดอะไร ยังมีศักดิ์และสิทธิ์เป็นนายร้อยเก๊อย่างสมบูรณ์ทุกประการเหมือนเดิม
ซึ่งสะท้อนให้เห็นอะไรล่ะครับ ถ้าคุณแค่คิดเป็น
ส่วนเรื่องกฎหมายที่คุณพล่ามมา ผมก็ขี้เกียจครับ
การณ์และกาลผ่านมานับสิบปี ผมว่าสลิ่มอย่างคุณน่าจะมองเห็นอะไรบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เถียง
จากกระทู้ที่แตกประเด็นมา ผมถึงพยายามชี้ให้สลิ่มอย่างคุณมองเห็นความจริงว่า เรา คนไทยกำลังเผชิญอะไรอยู่
เรากำลังเผชิญกับรูปเงาก้นภ้ำที่เขาฉายให้ดู โดยที่เราลืมที่จะคิดถึงภาพความจริงนอกถ้ำ
เราได้เพียงเชื่อและคล้อยตามสิ่งเขาสร้างให้เห็น ไม่มีโอกาสโงหัว ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นเพื่อมองหาความจริง
นั่นคือเรื่องโครงสร้าง เรื่องระบบ เรื่องระบอบ เราติดกับดักเรื่องคนดี คนโกง
ผมจึงพยายามชี้ให้เห็นว่า ปลวกน่ะ ปราบไม่หมดหรอกหากบ้านไม่แกร่ง แต่ถ้าบ้านแกร่ง ปลวกหมดไปเอง
เรื่องหนี
ถ้าคุณมองว่า เห็นว่า กระบวนการดำเนินการเอาผิดเป็นไปอย่างเป็นธรรม ตั้งอยู่บนหลักอำนวยการทางยุติธรรมจริง ๆ
ก็ตามสบายครับ
หลายปี ณ บอร์ดแห่งนี้ ผมเพียรชี้ให้เห็นความไม่ปกติ ความไม่เป็นธรรม ไม่ใช่ปกป้องคนผิด ไม่ใช่เข้าข้างใคร
แต่เพื่อปกป้องรักษาโครงสร้างของบ้าน เพราะหากโครงสร้างบ้านบิดเบี้ยว คนในบ้านเดือดร้อนกันหมดครับ
พังโครมเมื่อไร ก็นรกกันทั่ว ไม่รู้ใครต่อใครจะโดนอะไร ใครร่ำรวย มีพวกมากกว่า อำนาจเหนือกว่า เส้นใหญ่กว่าก็รอดไป
กฎหมายไม่มีความหมาย นี่ครับ คือสิ่งที่น่าห่วง คือสิ่งที่เราปกป้อง มากกว่าที่จะหลงทางไปจมปลักอยู่กับแต่เรื่องปลวก
ในกระทู้ที่แตกประเด็นมา ให้คุณอ่าน คห.29 ของคุณชยารมภ์นะครับ
นั่นแหละ อธิบายให้เห็นชัด
คร่าว ๆ ครับ เพราะอย่างที่บอก ผมขี้เกียจ เบื่อ
ผมเบื่อเหตุผลที่ด้อย ไม่ใช่เหตุผลไม่ดีแล้วไม่รับ แต่คือเหตุผลที่ไม่ใช่เหตุผล เป็นแค่ข้ออ้างเพื่อเถียงเท่านั้น เบื่อ
เบื่อที่จะเถียง เบื่อที่จะอธิบาย เพราะอธิบายไปแล้ว ผลสะท้อนกลับมักไปคนละทีปเหมือนคุยกันคนละเรื่อง
เห็นแต่การเอาชนะคะคาน มองไม่เห็นว่า เป้าหมายคือการเดินไปสู่โครงสร้างที่ดี มองไม่เห็นความเป็นสากลทางความคิด
แต่ไม่ใช่ใครจะเถียง จะแย้ง จะต่อว่า จะด่าผมไม่ได้หรอกครับ เชิญ
ผมก็ไม่ได้เบื่อตลอด ไม่ใช่ขี้เกียจตลอด เพียงแต่หากเหตุผลเหลือรับ ผมก็ขี้เกียจและเบื่อเท่านั้นเอง
เข้าใจตรงกันนะครับ