ถุงมือเรื่องสั้นเรื่องนี้ เป็นเรื่องของคนสามคน ชายสอง หญิงหนึ่ง เปล่า...ไม่ใช่รักสามเส้าครับ เพราะชายสองคนเป็นเพื่อนกัน คนหนึ่งมีแฟน อีกคนก็เป็นเพื่อนกันธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมดา ก็เพราะสองชายหนุ่มหญิงสาวซึ่งเป็นแฟนกันชอบมีเรื่องทะเลาะกันอยู่เรื่อย ชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของทั้งคู่ก็ต้องคอยทำหน้าที่ประสานความสัมพันธ์ของทั้งคู่กันเรื่อยมา...
เรื่องจะจบลงยังไง ตามไปอ่านกันครับ แจกเกรดกันแล้วก็ส่องหาตัวคนเขียนดูเด้อ...


"ต้น นายว่างไม๊ตอนนี้"
เสียงจากปลายสายยิงคำถามใส่ผมทันที หลังจากผมกดปุ่มรับสายบนกล่องลำโพงบลูทูธที่ถูกวางไว้บนขอบอ่างน้ำ ในขณะที่ผมกำลังอาบน้ำพร้อมกับฟังเพลงเพลิน ๆ ซึ่งเปิดจากมือถือและเชื่อมต่อกับมันอยู่
"เจิดเหรอ เรากำลังอาบน้ำอยู่" ผมตอบมันไป และสงสัยว่ามันมีอะไรถึงโทรมา น้ำเสียงมันเศร้า ๆ ชอบกล
เพื่อนผมคนนี้ชื่อบรรเจิด เราสองคนเพิ่งเรียนจบมาด้วยกันมาไม่นานนี้เอง
"แล้วถ้าอาบน้ำเสร็จแล้ว นายว่างไม๊"
"ก็ ว่างอยู่นะ วันนี้วันเสาร์ ไม่ได้ไปไหน"
"งั้น มาหาเรากับก้อยหน่อยสิ อยากให้นายมาอยู่ด้วยกันสามคน"
"ทำไมนายเสียงเศร้า ๆ วะ ทะเลาะกันอีกหรือไง" ผมถามพร้อมกับคาดเดา เพราะไอ้เจิดกับก้อยแฟนของมันมักจะมีเรื่องทะเลาะกันอยู่เรื่อย และหลายครั้งง้องแง้งกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง พองอนกันมากเข้าผมต้องเป็นคนกลางไปช่วยพูดเกลี้ยกล่อมไกล่เกลี่ยให้ทุกทีไป
"อือ...ใช่ เพื่อน" มันส่งเสียงร้องสะอื้นออกมาทีหนึ่ง
"โธ่เอ๊ย เอาอีกแระ คู่กัดคู่กรรมจริง ๆ เลยพวกนายสองคนเนี้ย" ผมบ่นและส่ายหน้าอย่างสุดจะเอือม
"มาหาเราหน่อยเถอะวะ มานั่งกินเหล้าด้วยกัน อย่างที่เราสามคนเคยอยู่ด้วยกันมา"
"โอเค ได้ ๆ อาบน้ำเสร็จละ เดี๋ยวจะมาหาละกัน"
"เหล้าเบียร์อะไรไม่ต้องซื้อมาก็ได้นะ ทางนี้พอมีอยู่"
"ได้ งั้นพวกนายรอสักสิบนาที อย่างมากไม่เกินสิบห้านาที เราจะมาถึง"
"ขอบใจเพื่อน"
"เออ เรื่องเล็กน่า ไม่ต้องขอบคงขอบคุณอะไรหรอก เดี๋ยวเจอกันนะ แล้วเวลาอยู่ด้วยกันก็พยายามคุยกันดี ๆ ด้วยล่ะ"
"อืม..."
แล้วผมก็ได้ยินเสียงมันวางสายไป เสียงเพลงจากมือถือซึ่งถูกเบรคไว้ก็เล่นต่อจากที่ค้างไว้ผ่านลำโพงบลูทูธ
........................
........................
ผมขึ้นจากอ่างน้ำ ปิดเพลงที่กำลังเล่น เช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วก็รีบแต่งตัวแบบสบายๆ เสื้อยืด กางเกงขาสั้น จูงมอเตอร์ไซค์คู่ชีพออกจากบ้าน ขับมุ่งหน้าไปยังอพาร์ทเม้นท์ที่เป็นรังรักของเจิดกับก้อย
ผมไปถึงอพาร์ทเม้นท์แห่งนั้นในเวลาทุ่มเศษๆ พอไปถึงหน้าห้องของไอ้เจิดซึ่งอยู่ห้องแรกชั้นบนสุด ก็เห็นมันนั่งดื่มเบียร์สูบบุหรี่อยู่หน้าประตูห้องซึ่งเปิดอ้าอยู่ พอมันมองเห็นผมก็รีบลุกขึ้นแล้วบอก "เข้ามาข้างใน แล้วปิดประตูด้วยนะ" จากนั้นมันก็เดินไปที่เตียงแล้วนั่งลงกับพื้น เอนหลังพิงข้างเตียง บนเตียงมองเห็นก้อยนอนหลับอยู่ ห่มผ้าแค่ครึ่งเดียว เลยปกคลุมร่างกายไม่มิดชิด ขาข้างหนึ่งโผล่ออกมานอกผ้าห่มและเวิกขึ้นไปจนถึงต้นขา อีกข้างหนึ่งงอเข่าโผล่ให้เห็นอีก ดูชะเวิกชะวากน่าเสียวไส้
"นายทำไมปล่อยให้เค้านอนโป๊แบบนี้วะ ไม่ห่มผ้าให้เค้าดี ๆ เกิดมีใครโผล่เข้ามาหานายตอนนี้ละก็ ไม่สวยเลยนะเว้ย" ผมพูดแล้วเอื้อมมือไปดึงผ้าห่ม จัดการห่มให้กับก้อยจนปกปิดมิดชิด ดูท่าทางเธอหลับสนิททีเดียว ผมมองหน้าเธอนิดหนึ่ง สังเกตเห็นมีคราบน้ำตาแปดเปื้อนบนใบหน้าแล้วก็อดถอนใจออกมาไม่ได้
"เฮ่อ...นี่คงทะเลาะกันหนักจนร้องไห้ขี้มูกโป่งละสิ หน้าตายังมอมแมมเปื้อนน้ำตาอยู่เลย นายนี่ก็เหลือเกิน ทำไมไม่เช็ดหน้าเช็ดตาให้เค้าวะ"
บรรเจิดนั่งก้มหน้าและตอบ "เค้า...ไม่ให้เราเช็ด"
"ก็เช็ดให้เค้าหลังจากที่เค้าหลับไปก็ได้นิ"
"กลัวเค้าตื่น"
ผมส่ายหน้าอีกรอบ เดินไปหาผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้าในห้องน้ำ พอเจอก็ซักน้ำ บิดหมาด ๆ แล้วถือกลับมาที่เตียง เช็ดหน้าของก้อยจนร่องรอยคราบน้ำตาหายไป หน้าตาดูสดใสขึ้น
"เอ้อ ค่อยยังชั่วหน่อยแบบนี้...เมื่อกี้นี้ไม่ไหว ดูมอมแมมเกิ๊น"
จากนั้นผมก็นั่งกินเบียร์กับไอ้เจิดตรงข้างเตียงนั่นเอง ขณะที่กำลังกินไปก็พูดคุยสอบถามมันไป จึงได้ความว่าทั้งสองคนทะเลาะกันเพราะความหึงหวงซึ่งกันและกัน จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ
"เราโดนเค้าตบหน้าไปทีนึง เต็ม ๆ เลย" ไอ้เจิดบรรยายเหตุการณ์ที่ผ่านมาก่อนหน้า "ด้วยความโมโห เราก็เลยผลักเค้ากระเด็นล้มลงไป แล้ว...เค้าก็ร้องไห้ไม่ยอมหยุด เราเข้าไปหา จะปลอบ จะขอโทษ เค้าก็ปัดมือเรา ผลักไส ไม่ยอมให้เราเข้าถึงตัว แล้วก็เอาแต่นอนร้องไห้บนเตียง จนหลับไป อย่างที่นายเห็นตอนเข้ามา" พูดจบ มันก็เริ่มสะอึกสะอื้นแล้วปล่อยโฮลั่นห้องจนผมต้องรีบเอามืออุดปากแล้วตะคอกใส่มัน
"เฮ้ยยย..จะร้องทำแป๊ะไรมากมายนักวะ เงียบ! ร้องเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน เดี๋ยวคนเขาก็ด่าเอาหรอก ใจเย็นดิ เดี๋ยวพอก้อยตื่น เราก็จะช่วยพูดช่วยปลอบช่วยเคลียร์ให้เหมือนอย่างเคยแหละ เค้าฟังเราเสมอ นายก็รู้ พอหยุดร้องไอ้บ้า ยังกะเด็กขี้แย"
ผมตบกบาลมันไปฉาดหนึ่ง มันก็หยุดร้อง แต่ยังมีอาการสะอึกสะอื้น
ผมเกิดความรู้สึกสองอย่าง คือสงสารก็สงสาร รำคาญก็ชักรำคาญ เลยยกแก้วเบียร์ขึ้นมายื่นให้มัน "เอ้า กินเบียร์ต่อเพื่อน ใจเย็นน่า เดี๋ยวเค้าตื่นมาเราจะช่วยพูดให้ แล้วก็จะได้มีความสุขกันเหมือนเดิม"
ไอ้เจิดพยักหน้าแล้วรับเบียร์จากมือผมไป ผมเทเบียร์จากขวดสุดท้ายที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งลงไปในแก้วของผมแล้วยกขึ้น "มา ๆ ๆ ชนแก้ว ๆ เพื่อน ร่าเริงหน่อยน่า เราอุตส่าห์มาหาตามที่นายเรียกแล้ว" มันก็ยิ้มอย่างฝืน ๆ แล้วชนแก้วกับผม ดื่มพร้อมกันจนหมด
"เบียร์หมดแล้วว่ะ นายอยู่กับก้อยไปนะ ถ้าเค้าตื่นก็พูดกับเค้าดี ๆ เอาอกเอาใจเค้ามาก ๆ เข้าใจไหม เราไปซื้อเบียร์ที่เซเว่นใกล้ ๆ นี้แป๊บนึง เดี๋ยวมา"
"โอเคเพื่อน" มันพยักหน้าและทำตาละห้อยมองผมอย่างซาบซึ้ง
..................................
..................................
ผมออกไปซื้อเบียร์ที่เซเว่นมาอีกสองแพ็ค แพ็คหนึ่งมี 4 กระป๋อง คิดว่าน่าจะเพียงพอ ถ้าไม่พอก็ค่อยออกมาซื้อใหม่เพราะเซเว่นอยู่ไม่ไกลนักจากอพาร์ทเม้นท์นี้ เดินไปไม่กี่นาทีก็ถึง พร้อมกับซื้อของแกล้มพวกถั่วอะไรอย่างนี้มาเพิ่มด้วย
พอกลับมาถึงหน้าห้อง ก็พบว่าประตูห้องถูกเปิดอ้าไว้อีกครั้ง และเห็นก้อยแฟนของบรรเจิดยืนอยู่ พอเธอเห็นผมเธอก็ยิ้มให้ แล้วยกมือขวาขึ้น ตั้งนิ้วชี้ขึ้นมาพาดขวางริมฝีปากแล้วเป่าปากส่งเสียง "ชู่ว์....." เป็นทำนองว่า อย่าเอ็ดไป ให้เงียบ ๆ ไม่ต้องพูดอะไร แล้วเธอก็กลับเข้าไปในห้อง ล้มตัวลงนอนบนเตียง ทำทีเป็นนอนหลับอย่างเก่า
ผมยิ้ม คิดว่าก้อยคงจะอารมณ์ดีแล้ว ก็ใจชื้น
เออ แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย คงพูดกันได้ไม่ยาก มองหาไอ้เจิดไม่เห็น แต่เห็นประตูห้องน้ำปิด แสดงว่ามันอยู่ในห้องน้ำ ผมจึงตะโกนเรียกมัน "เจิด...เรามาแล้ว"
"แป๊บนึงเพื่อน" มันตะโกนตอบออกมา เงียบไปพักหนึ่ง จึงเปิดประตูห้องน้ำเดินออกมา แล้วนั่งลงที่เดิม
ผมกับเจิดนั่งดื่มเบียร์กันไปคุยกันไป นึกถึงกริยาท่าทางของก้อยที่ทำให้ผมดู คิดว่าเธอต้องการหลอกไอ้เจิดมันว่ายังหลับไม่ตื่น ผมก็เลยผสมโรงไปด้วย ไม่บอกให้มันรู้ว่าเมื่อตะกี้นี้ก้อยตื่นแล้วและลุกขึ้นมาเปิดประตูห้องยืนรอผม จึงชวนมันพูดคุยไปเรื่อย ๆ จนถึงตอนหนึ่งผมถามมัน
"เจิด เราถามนายตรง ๆ นะ ตอบจากใจเลยนะเพื่อน"
"ได้สิ ถามมาได้ ทุกอย่าง เราไม่เคยโกหกหรือปิดบังอะไรนาย นายก็รู้"
"ดีแล้ว...งั้น เราขอถามนายว่า
นาย...รักก้อยเค้าจริงๆหรือเปล่า ?"
พอผมถามจบเท่านั้นเอง มันแหกปากร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ตีโพยตีพายลั่นห้องอีกครั้ง " รักสิวะต้น เรารักเค้ายิ่งกว่าชีวิต ไม่เคยรักใครมากเท่าเค้ามาก่อนเลย และจะไม่มีใครมาแทนเค้าได้ ฯ ล ฯ"
มันพร่ำเพ้อรำพันอีกมากมายหลายคำแล้วฟูมฟายระงมอีกรอบจนผมต้องเบิ๊ดกระโหลกมันอีกที "ผัวะ!"
"บ้าเอ๊ยย รักก็ดีแล้วนี่ เดี๋ยวเค้าตื่นขึ้นมาก็ทำความเข้าใจกัน เราก็จะช่วยเกลี้ยกล่อมอีกแรง แล้วต่อไปก็รักกันให้เยอะ ๆ เอาใจกันเทคแคร์กันให้มาก ยังจะมาร่ำร้องหาหอกอะไรมากมายวะ"
ทันใดนั้นก็มีเสียงคนเคาะประตูอย่างแรง
"ปัง ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ"
จากนั้น ประตูก็ถูกเปิดผลัวะ
แล้วผมก็ตกตะลึง!
เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูสามสี่คน พากันเข้ามาในห้อง ตามด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสองสามคน
ร่างของก้อย ถูกเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำห่อใส่ในผ้าขาว แล้วพวกเขาก็ช่วยกันหามร่างของเธอออกไป ต่อหน้าต่อตา!
ผมได้ยินเสียงของบรรเจิดร้องเหมือนจะขาดใจ ในขณะที่ตัวผมเองกำลังมึนและช็อกนิ่งอยู่เหมือนถูกสาปไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหนได้
"ต้น เราขอโทษ...เราขอโทษ..."
สรุปคือว่า ก้อยกินยาฆ่าตัวตายหลังจากทะเลาะกับเจิดในห้องแล้วเจิดออกไปข้างนอก พอมันกลับมาอีกที พบว่าแฟนมันกลายเป็นศพไปแล้ว มันจึงโทรหาผม ขอให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อน!
/// จบ ///
ถุงมือ คนช่วยปลอบใจ
รายชื่อให้เลือกตอบ
ฝ่ายชาย
1. จอมยุทธนักสืบ
2. ชายขอบคันนายาว
3. ลูนาติก
4. ส.สัตยา
5. สวนดอก
6. B-thirteen
7. Chee River (ลำน้ำ C)
8. Christian Trevelyan Grey
9. GTW
10. KTHc
11. Na(นะ)
12. psycho_factory
13. ruennara
14. Soul Master
15. TO SHARE - 4563770 (วีคนี้ไม่มี)
16. WANG JIE
ฝ่ายหญิง
1. นลินมณี
2. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
3. รัชต์สารินท์
4. ลายลิขิต
5. Joey - 817884
6. Lady Star 919 (วีคนี้ไม่มี)
7. ladylongleg - 2326325
8. Susisiri (วีคนี้ไม่มี)
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขเพิ่มเติม ได้ทุกเมื่อ ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน
วันที่ 24 สิงหาคม 2561 (ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 22 สิงหาคม ครับ) ***
สโลแกนของเราคือ "เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง แล้วมาเล่นซ่อนหากัน"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ สรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบ
THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปี (ในฐานะมือวาง) ครับผม
🐼🎚️🎗️THE WEEKLY GLOVES ไตรมาสสุดท้าย วีคที่ 35 เรื่องสั้น#74 "เพื่อน...เราขอโทษ" โดย ถุงมือ "คนช่วยปลอบใจ"🎗️🎚️🐼
ถุงมือเรื่องสั้นเรื่องนี้ เป็นเรื่องของคนสามคน ชายสอง หญิงหนึ่ง เปล่า...ไม่ใช่รักสามเส้าครับ เพราะชายสองคนเป็นเพื่อนกัน คนหนึ่งมีแฟน อีกคนก็เป็นเพื่อนกันธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมดา ก็เพราะสองชายหนุ่มหญิงสาวซึ่งเป็นแฟนกันชอบมีเรื่องทะเลาะกันอยู่เรื่อย ชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของทั้งคู่ก็ต้องคอยทำหน้าที่ประสานความสัมพันธ์ของทั้งคู่กันเรื่อยมา...
เรื่องจะจบลงยังไง ตามไปอ่านกันครับ แจกเกรดกันแล้วก็ส่องหาตัวคนเขียนดูเด้อ...
"ต้น นายว่างไม๊ตอนนี้"
เสียงจากปลายสายยิงคำถามใส่ผมทันที หลังจากผมกดปุ่มรับสายบนกล่องลำโพงบลูทูธที่ถูกวางไว้บนขอบอ่างน้ำ ในขณะที่ผมกำลังอาบน้ำพร้อมกับฟังเพลงเพลิน ๆ ซึ่งเปิดจากมือถือและเชื่อมต่อกับมันอยู่
"เจิดเหรอ เรากำลังอาบน้ำอยู่" ผมตอบมันไป และสงสัยว่ามันมีอะไรถึงโทรมา น้ำเสียงมันเศร้า ๆ ชอบกล
เพื่อนผมคนนี้ชื่อบรรเจิด เราสองคนเพิ่งเรียนจบมาด้วยกันมาไม่นานนี้เอง
"แล้วถ้าอาบน้ำเสร็จแล้ว นายว่างไม๊"
"ก็ ว่างอยู่นะ วันนี้วันเสาร์ ไม่ได้ไปไหน"
"งั้น มาหาเรากับก้อยหน่อยสิ อยากให้นายมาอยู่ด้วยกันสามคน"
"ทำไมนายเสียงเศร้า ๆ วะ ทะเลาะกันอีกหรือไง" ผมถามพร้อมกับคาดเดา เพราะไอ้เจิดกับก้อยแฟนของมันมักจะมีเรื่องทะเลาะกันอยู่เรื่อย และหลายครั้งง้องแง้งกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง พองอนกันมากเข้าผมต้องเป็นคนกลางไปช่วยพูดเกลี้ยกล่อมไกล่เกลี่ยให้ทุกทีไป
"อือ...ใช่ เพื่อน" มันส่งเสียงร้องสะอื้นออกมาทีหนึ่ง
"โธ่เอ๊ย เอาอีกแระ คู่กัดคู่กรรมจริง ๆ เลยพวกนายสองคนเนี้ย" ผมบ่นและส่ายหน้าอย่างสุดจะเอือม
"มาหาเราหน่อยเถอะวะ มานั่งกินเหล้าด้วยกัน อย่างที่เราสามคนเคยอยู่ด้วยกันมา"
"โอเค ได้ ๆ อาบน้ำเสร็จละ เดี๋ยวจะมาหาละกัน"
"เหล้าเบียร์อะไรไม่ต้องซื้อมาก็ได้นะ ทางนี้พอมีอยู่"
"ได้ งั้นพวกนายรอสักสิบนาที อย่างมากไม่เกินสิบห้านาที เราจะมาถึง"
"ขอบใจเพื่อน"
"เออ เรื่องเล็กน่า ไม่ต้องขอบคงขอบคุณอะไรหรอก เดี๋ยวเจอกันนะ แล้วเวลาอยู่ด้วยกันก็พยายามคุยกันดี ๆ ด้วยล่ะ"
"อืม..."
แล้วผมก็ได้ยินเสียงมันวางสายไป เสียงเพลงจากมือถือซึ่งถูกเบรคไว้ก็เล่นต่อจากที่ค้างไว้ผ่านลำโพงบลูทูธ
........................
........................
ผมขึ้นจากอ่างน้ำ ปิดเพลงที่กำลังเล่น เช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วก็รีบแต่งตัวแบบสบายๆ เสื้อยืด กางเกงขาสั้น จูงมอเตอร์ไซค์คู่ชีพออกจากบ้าน ขับมุ่งหน้าไปยังอพาร์ทเม้นท์ที่เป็นรังรักของเจิดกับก้อย
ผมไปถึงอพาร์ทเม้นท์แห่งนั้นในเวลาทุ่มเศษๆ พอไปถึงหน้าห้องของไอ้เจิดซึ่งอยู่ห้องแรกชั้นบนสุด ก็เห็นมันนั่งดื่มเบียร์สูบบุหรี่อยู่หน้าประตูห้องซึ่งเปิดอ้าอยู่ พอมันมองเห็นผมก็รีบลุกขึ้นแล้วบอก "เข้ามาข้างใน แล้วปิดประตูด้วยนะ" จากนั้นมันก็เดินไปที่เตียงแล้วนั่งลงกับพื้น เอนหลังพิงข้างเตียง บนเตียงมองเห็นก้อยนอนหลับอยู่ ห่มผ้าแค่ครึ่งเดียว เลยปกคลุมร่างกายไม่มิดชิด ขาข้างหนึ่งโผล่ออกมานอกผ้าห่มและเวิกขึ้นไปจนถึงต้นขา อีกข้างหนึ่งงอเข่าโผล่ให้เห็นอีก ดูชะเวิกชะวากน่าเสียวไส้
"นายทำไมปล่อยให้เค้านอนโป๊แบบนี้วะ ไม่ห่มผ้าให้เค้าดี ๆ เกิดมีใครโผล่เข้ามาหานายตอนนี้ละก็ ไม่สวยเลยนะเว้ย" ผมพูดแล้วเอื้อมมือไปดึงผ้าห่ม จัดการห่มให้กับก้อยจนปกปิดมิดชิด ดูท่าทางเธอหลับสนิททีเดียว ผมมองหน้าเธอนิดหนึ่ง สังเกตเห็นมีคราบน้ำตาแปดเปื้อนบนใบหน้าแล้วก็อดถอนใจออกมาไม่ได้
"เฮ่อ...นี่คงทะเลาะกันหนักจนร้องไห้ขี้มูกโป่งละสิ หน้าตายังมอมแมมเปื้อนน้ำตาอยู่เลย นายนี่ก็เหลือเกิน ทำไมไม่เช็ดหน้าเช็ดตาให้เค้าวะ"
บรรเจิดนั่งก้มหน้าและตอบ "เค้า...ไม่ให้เราเช็ด"
"ก็เช็ดให้เค้าหลังจากที่เค้าหลับไปก็ได้นิ"
"กลัวเค้าตื่น"
ผมส่ายหน้าอีกรอบ เดินไปหาผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้าในห้องน้ำ พอเจอก็ซักน้ำ บิดหมาด ๆ แล้วถือกลับมาที่เตียง เช็ดหน้าของก้อยจนร่องรอยคราบน้ำตาหายไป หน้าตาดูสดใสขึ้น
"เอ้อ ค่อยยังชั่วหน่อยแบบนี้...เมื่อกี้นี้ไม่ไหว ดูมอมแมมเกิ๊น"
จากนั้นผมก็นั่งกินเบียร์กับไอ้เจิดตรงข้างเตียงนั่นเอง ขณะที่กำลังกินไปก็พูดคุยสอบถามมันไป จึงได้ความว่าทั้งสองคนทะเลาะกันเพราะความหึงหวงซึ่งกันและกัน จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ
"เราโดนเค้าตบหน้าไปทีนึง เต็ม ๆ เลย" ไอ้เจิดบรรยายเหตุการณ์ที่ผ่านมาก่อนหน้า "ด้วยความโมโห เราก็เลยผลักเค้ากระเด็นล้มลงไป แล้ว...เค้าก็ร้องไห้ไม่ยอมหยุด เราเข้าไปหา จะปลอบ จะขอโทษ เค้าก็ปัดมือเรา ผลักไส ไม่ยอมให้เราเข้าถึงตัว แล้วก็เอาแต่นอนร้องไห้บนเตียง จนหลับไป อย่างที่นายเห็นตอนเข้ามา" พูดจบ มันก็เริ่มสะอึกสะอื้นแล้วปล่อยโฮลั่นห้องจนผมต้องรีบเอามืออุดปากแล้วตะคอกใส่มัน
"เฮ้ยยย..จะร้องทำแป๊ะไรมากมายนักวะ เงียบ! ร้องเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน เดี๋ยวคนเขาก็ด่าเอาหรอก ใจเย็นดิ เดี๋ยวพอก้อยตื่น เราก็จะช่วยพูดช่วยปลอบช่วยเคลียร์ให้เหมือนอย่างเคยแหละ เค้าฟังเราเสมอ นายก็รู้ พอหยุดร้องไอ้บ้า ยังกะเด็กขี้แย"
ผมตบกบาลมันไปฉาดหนึ่ง มันก็หยุดร้อง แต่ยังมีอาการสะอึกสะอื้น
ผมเกิดความรู้สึกสองอย่าง คือสงสารก็สงสาร รำคาญก็ชักรำคาญ เลยยกแก้วเบียร์ขึ้นมายื่นให้มัน "เอ้า กินเบียร์ต่อเพื่อน ใจเย็นน่า เดี๋ยวเค้าตื่นมาเราจะช่วยพูดให้ แล้วก็จะได้มีความสุขกันเหมือนเดิม"
ไอ้เจิดพยักหน้าแล้วรับเบียร์จากมือผมไป ผมเทเบียร์จากขวดสุดท้ายที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งลงไปในแก้วของผมแล้วยกขึ้น "มา ๆ ๆ ชนแก้ว ๆ เพื่อน ร่าเริงหน่อยน่า เราอุตส่าห์มาหาตามที่นายเรียกแล้ว" มันก็ยิ้มอย่างฝืน ๆ แล้วชนแก้วกับผม ดื่มพร้อมกันจนหมด
"เบียร์หมดแล้วว่ะ นายอยู่กับก้อยไปนะ ถ้าเค้าตื่นก็พูดกับเค้าดี ๆ เอาอกเอาใจเค้ามาก ๆ เข้าใจไหม เราไปซื้อเบียร์ที่เซเว่นใกล้ ๆ นี้แป๊บนึง เดี๋ยวมา"
"โอเคเพื่อน" มันพยักหน้าและทำตาละห้อยมองผมอย่างซาบซึ้ง
..................................
..................................
ผมออกไปซื้อเบียร์ที่เซเว่นมาอีกสองแพ็ค แพ็คหนึ่งมี 4 กระป๋อง คิดว่าน่าจะเพียงพอ ถ้าไม่พอก็ค่อยออกมาซื้อใหม่เพราะเซเว่นอยู่ไม่ไกลนักจากอพาร์ทเม้นท์นี้ เดินไปไม่กี่นาทีก็ถึง พร้อมกับซื้อของแกล้มพวกถั่วอะไรอย่างนี้มาเพิ่มด้วย
พอกลับมาถึงหน้าห้อง ก็พบว่าประตูห้องถูกเปิดอ้าไว้อีกครั้ง และเห็นก้อยแฟนของบรรเจิดยืนอยู่ พอเธอเห็นผมเธอก็ยิ้มให้ แล้วยกมือขวาขึ้น ตั้งนิ้วชี้ขึ้นมาพาดขวางริมฝีปากแล้วเป่าปากส่งเสียง "ชู่ว์....." เป็นทำนองว่า อย่าเอ็ดไป ให้เงียบ ๆ ไม่ต้องพูดอะไร แล้วเธอก็กลับเข้าไปในห้อง ล้มตัวลงนอนบนเตียง ทำทีเป็นนอนหลับอย่างเก่า
ผมยิ้ม คิดว่าก้อยคงจะอารมณ์ดีแล้ว ก็ใจชื้น เออ แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย คงพูดกันได้ไม่ยาก มองหาไอ้เจิดไม่เห็น แต่เห็นประตูห้องน้ำปิด แสดงว่ามันอยู่ในห้องน้ำ ผมจึงตะโกนเรียกมัน "เจิด...เรามาแล้ว"
"แป๊บนึงเพื่อน" มันตะโกนตอบออกมา เงียบไปพักหนึ่ง จึงเปิดประตูห้องน้ำเดินออกมา แล้วนั่งลงที่เดิม
ผมกับเจิดนั่งดื่มเบียร์กันไปคุยกันไป นึกถึงกริยาท่าทางของก้อยที่ทำให้ผมดู คิดว่าเธอต้องการหลอกไอ้เจิดมันว่ายังหลับไม่ตื่น ผมก็เลยผสมโรงไปด้วย ไม่บอกให้มันรู้ว่าเมื่อตะกี้นี้ก้อยตื่นแล้วและลุกขึ้นมาเปิดประตูห้องยืนรอผม จึงชวนมันพูดคุยไปเรื่อย ๆ จนถึงตอนหนึ่งผมถามมัน
"เจิด เราถามนายตรง ๆ นะ ตอบจากใจเลยนะเพื่อน"
"ได้สิ ถามมาได้ ทุกอย่าง เราไม่เคยโกหกหรือปิดบังอะไรนาย นายก็รู้"
"ดีแล้ว...งั้น เราขอถามนายว่า นาย...รักก้อยเค้าจริงๆหรือเปล่า ?"
พอผมถามจบเท่านั้นเอง มันแหกปากร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ตีโพยตีพายลั่นห้องอีกครั้ง " รักสิวะต้น เรารักเค้ายิ่งกว่าชีวิต ไม่เคยรักใครมากเท่าเค้ามาก่อนเลย และจะไม่มีใครมาแทนเค้าได้ ฯ ล ฯ"
มันพร่ำเพ้อรำพันอีกมากมายหลายคำแล้วฟูมฟายระงมอีกรอบจนผมต้องเบิ๊ดกระโหลกมันอีกที "ผัวะ!"
"บ้าเอ๊ยย รักก็ดีแล้วนี่ เดี๋ยวเค้าตื่นขึ้นมาก็ทำความเข้าใจกัน เราก็จะช่วยเกลี้ยกล่อมอีกแรง แล้วต่อไปก็รักกันให้เยอะ ๆ เอาใจกันเทคแคร์กันให้มาก ยังจะมาร่ำร้องหาหอกอะไรมากมายวะ"
ทันใดนั้นก็มีเสียงคนเคาะประตูอย่างแรง "ปัง ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ"
จากนั้น ประตูก็ถูกเปิดผลัวะ
แล้วผมก็ตกตะลึง!
เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูสามสี่คน พากันเข้ามาในห้อง ตามด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสองสามคน
ร่างของก้อย ถูกเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำห่อใส่ในผ้าขาว แล้วพวกเขาก็ช่วยกันหามร่างของเธอออกไป ต่อหน้าต่อตา!
ผมได้ยินเสียงของบรรเจิดร้องเหมือนจะขาดใจ ในขณะที่ตัวผมเองกำลังมึนและช็อกนิ่งอยู่เหมือนถูกสาปไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหนได้
"ต้น เราขอโทษ...เราขอโทษ..."
สรุปคือว่า ก้อยกินยาฆ่าตัวตายหลังจากทะเลาะกับเจิดในห้องแล้วเจิดออกไปข้างนอก พอมันกลับมาอีกที พบว่าแฟนมันกลายเป็นศพไปแล้ว มันจึงโทรหาผม ขอให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อน!
ถุงมือ คนช่วยปลอบใจ
รายชื่อให้เลือกตอบ
ฝ่ายชาย
1. จอมยุทธนักสืบ
2. ชายขอบคันนายาว
3. ลูนาติก
4. ส.สัตยา
5. สวนดอก
6. B-thirteen
7. Chee River (ลำน้ำ C)
8. Christian Trevelyan Grey
9. GTW
10. KTHc
11. Na(นะ)
12. psycho_factory
13. ruennara
14. Soul Master
15. TO SHARE - 4563770 (วีคนี้ไม่มี)
16. WANG JIE
ฝ่ายหญิง
1. นลินมณี
2. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
3. รัชต์สารินท์
4. ลายลิขิต
5. Joey - 817884
6. Lady Star 919 (วีคนี้ไม่มี)
7. ladylongleg - 2326325
8. Susisiri (วีคนี้ไม่มี)
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขเพิ่มเติม ได้ทุกเมื่อ ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 24 สิงหาคม 2561 (ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 22 สิงหาคม ครับ) ***
สโลแกนของเราคือ "เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง แล้วมาเล่นซ่อนหากัน"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ สรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปี (ในฐานะมือวาง) ครับผม