และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตกรอบรายการทัวร์นาเม้นท์แบบนี้
เหตุผลหลักๆเลยคือ
1. เวลาฟีฟ่าเดย์จริงๆ เรียกมาซ้อม มาอุ่นเครื่อง ตัวหลักๆก็ถอนตัวกันเป็นว่าเล่น เพราะโปรแกรมแข่งของสโมสรแน่น สโมสรอยากให้นักเตะได้พัก เพื่อพักฟื้นร่างกาย และกลัวว่าจะเจ็บจากทีมชาติ
2. พวกที่ทีมชาติได้ไปเวลาซ้อมอุ่นเครื่องตามฟีฟ่าเดย์ ก็เป็นพวกตัวสำรองที่สโมสรไม่ค่อยใช้ ซึ่งไม่เก่งพอ เวลาแข่งทัวร์นาเม้นท์จริง ก็ไปเอาตัวเก่งที่เวลาเรียกมาอุ่นเครื่องไม่ได้มา มารวมตัวกันสามสี่วันแล้วมาแข่ง แล้วทีมเวิร์คความเข้าใจเข้าขากันมันจะมาจากไหน
3. ทีมอาเซี่ยนที่ทำผลงานดีๆตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเวียตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า จะใช้การรวมตัวนักเตะชุดเดียวหรือเกือบชุดเดียวมาต่อเนื่องยาวนาน เก็บตัวฝึกซ้อมตระเวณแข่งมาเรื่อยๆ ทีมเวิร์คจึงสมบูรณ์มาก
4. ทีมชาติชุดใหญ่ของไทย ราเยวัชที่โดนครหาว่า ใช้ตัวเดิมๆ เหมือนสมัยซิโก้ทำ ผมว่าก็เพราะเข้าใจถึงปัญหาเรื่องระยะเวลาการรวมตัวฝึกซ้อมนี่แหละ การใช้ตัวเดิมๆ มันช่วยเรื่องทีมเวิร์ค จะมีเปลี่ยนก็กองหลังคู่เซนเตอร์ที่ไม่ได้ส่งผลเรื่องการทำเกมส์ต่อบอลมากนัก นอกนั้นก็ยึดตัวหลักสมัยซิโก้มา แต่มาใส่ระบบการเล่นเกมส์รับเข้าไป เพื่อรับมือทีมที่ระดับเหนือกว่า
5. สโมสรไทยแต่ละสโมสรต่างเชื่อมั่นในระบบ รูปแบบของตัวเอง เป็นไปได้ยากที่จะมาใช้ระบบการเล่นหรือวิธีคิดในรูปแบบเดียวกัน เหมือนญี่ปุ่นทำได้ (ซึ่งเฮงซังอยากจะได้แบบนั้น) ดังนั้นเวลามารวมตัวกัน มันก็เลยยากที่จะปรับเปลี่ยนให้ผสมกลมกลืนกันภายในเวลาไม่กี่วัน
สรุป การอยากใช้ระบบสากลอาจเป็นแนวคิดที่ดีกับชาติที่ฟุตบอลเขาพัฒนาแล้ว นักฟุตบอลอยู่ในระดับสูงแล้ว แต่มันยังไม่เหมาะกับไทย เรายังไม่เก่งขนาดนั้น นักบอลเรายังไม่ถึงระดับที่ เรียกมา บอกวิธีการเล่น แล้วลงไปทำได้เลย ภายในระยะเวลาไม่กี่วันที่มาซ้อมก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นท์
ข้อเสนอแนะคือ อยากให้ผ่อนปรนในเรื่องนี้ ควรให้เวลาการรวมตัวฝึกซ้อมที่ยาวนานขึ้น สโมสรควรให้ความร่วมมือปล่อยตัวนักเตะมาซ้อมอย่างเต็มที่ เพราะถ้าผลงานทีมชาติตกต่ำ มันมีผลต่อกระแสบอลลีกแน่นอน แฟนขาจรที่มีจำนวนไม่น้อย ที่จะขาดหายไป ซึ่งกระทบต่อจำนวนคนดู และสีสันบอลลีกอย่างช่วยไม่ได้ ต้องช่วยๆกัน ให้ทีมชาติไปได้ดี แล้วคนจะกลับมาเข้าสนามมากขึ้นแน่นอนครับ วิน - วิน ด้วยกัน
การเรียกตัวมาซ้อม รวมตัว อุ่นเครื่อง เฉพาะฟีฟ่าเดย์แบบสากล มันยังใช้ไม่ได้สำหรับการจะทำให้บอลไทยประสบความสำเร็จ
เหตุผลหลักๆเลยคือ
1. เวลาฟีฟ่าเดย์จริงๆ เรียกมาซ้อม มาอุ่นเครื่อง ตัวหลักๆก็ถอนตัวกันเป็นว่าเล่น เพราะโปรแกรมแข่งของสโมสรแน่น สโมสรอยากให้นักเตะได้พัก เพื่อพักฟื้นร่างกาย และกลัวว่าจะเจ็บจากทีมชาติ
2. พวกที่ทีมชาติได้ไปเวลาซ้อมอุ่นเครื่องตามฟีฟ่าเดย์ ก็เป็นพวกตัวสำรองที่สโมสรไม่ค่อยใช้ ซึ่งไม่เก่งพอ เวลาแข่งทัวร์นาเม้นท์จริง ก็ไปเอาตัวเก่งที่เวลาเรียกมาอุ่นเครื่องไม่ได้มา มารวมตัวกันสามสี่วันแล้วมาแข่ง แล้วทีมเวิร์คความเข้าใจเข้าขากันมันจะมาจากไหน
3. ทีมอาเซี่ยนที่ทำผลงานดีๆตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเวียตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า จะใช้การรวมตัวนักเตะชุดเดียวหรือเกือบชุดเดียวมาต่อเนื่องยาวนาน เก็บตัวฝึกซ้อมตระเวณแข่งมาเรื่อยๆ ทีมเวิร์คจึงสมบูรณ์มาก
4. ทีมชาติชุดใหญ่ของไทย ราเยวัชที่โดนครหาว่า ใช้ตัวเดิมๆ เหมือนสมัยซิโก้ทำ ผมว่าก็เพราะเข้าใจถึงปัญหาเรื่องระยะเวลาการรวมตัวฝึกซ้อมนี่แหละ การใช้ตัวเดิมๆ มันช่วยเรื่องทีมเวิร์ค จะมีเปลี่ยนก็กองหลังคู่เซนเตอร์ที่ไม่ได้ส่งผลเรื่องการทำเกมส์ต่อบอลมากนัก นอกนั้นก็ยึดตัวหลักสมัยซิโก้มา แต่มาใส่ระบบการเล่นเกมส์รับเข้าไป เพื่อรับมือทีมที่ระดับเหนือกว่า
5. สโมสรไทยแต่ละสโมสรต่างเชื่อมั่นในระบบ รูปแบบของตัวเอง เป็นไปได้ยากที่จะมาใช้ระบบการเล่นหรือวิธีคิดในรูปแบบเดียวกัน เหมือนญี่ปุ่นทำได้ (ซึ่งเฮงซังอยากจะได้แบบนั้น) ดังนั้นเวลามารวมตัวกัน มันก็เลยยากที่จะปรับเปลี่ยนให้ผสมกลมกลืนกันภายในเวลาไม่กี่วัน
สรุป การอยากใช้ระบบสากลอาจเป็นแนวคิดที่ดีกับชาติที่ฟุตบอลเขาพัฒนาแล้ว นักฟุตบอลอยู่ในระดับสูงแล้ว แต่มันยังไม่เหมาะกับไทย เรายังไม่เก่งขนาดนั้น นักบอลเรายังไม่ถึงระดับที่ เรียกมา บอกวิธีการเล่น แล้วลงไปทำได้เลย ภายในระยะเวลาไม่กี่วันที่มาซ้อมก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นท์
ข้อเสนอแนะคือ อยากให้ผ่อนปรนในเรื่องนี้ ควรให้เวลาการรวมตัวฝึกซ้อมที่ยาวนานขึ้น สโมสรควรให้ความร่วมมือปล่อยตัวนักเตะมาซ้อมอย่างเต็มที่ เพราะถ้าผลงานทีมชาติตกต่ำ มันมีผลต่อกระแสบอลลีกแน่นอน แฟนขาจรที่มีจำนวนไม่น้อย ที่จะขาดหายไป ซึ่งกระทบต่อจำนวนคนดู และสีสันบอลลีกอย่างช่วยไม่ได้ ต้องช่วยๆกัน ให้ทีมชาติไปได้ดี แล้วคนจะกลับมาเข้าสนามมากขึ้นแน่นอนครับ วิน - วิน ด้วยกัน