ไม่ได้ตั้งกระทู้นานมาก หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่ทุกคนที่เข้ามาอ่านไม่มากก็น้อยนะคะ
เริ่มมาจากตัวเองที่พื้นเพเป็นคนอิสานค่ะ แต่มาทำธุรกิจเล็กๆที่เชียงใหม่ เลยขอที่นี่เลยดีกว่า
เคสเราถือว่ายาก ยากมากๆเพราะตัวเราเคยไป work and travel กับเรียนภาษาที่อเมริกามาก่อน แต่ตอนไปเรียนนั้นเราได้อยู่เกินวีซ่าด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หลายเดือนอยู่ค่ะ ตอนตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวก็คิดเผื่อแล้วนะว่าถ้าเค้าไม่ให้เราก็ไม่ตกใจเพราะประวัติเราไม่ดีนี่นา แถมเป็นสาวโสดอายุสามสิบต้นๆอีกต่างหาก
เราก็ได้ไปขอใช้บริการเอเจนซี่เจ้าหนึ่งเนื่องจากว่าเราไม่รู้ว่าเคสเราควรจะแจ้งอะไรบ้าง
เอเจนซี่เจ้านี้ถามว่าช่วยมากมั้ย เอาจริงๆเราก็ต้องทำเองแทบทุกขั้นตอนแต่เค้าจะแจ้งมาค่ะว่าเตรียมอะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง และมีฟอร์มมาให้เรากรอก คล้ายๆ DS160 เราก็กรอกๆไปให้ครบ เค้าก็จะนำข้อมูลนั้นไปกรอกให้เราอีกทีค่ะ เงินค่าธรรมเนียมเราก็ไปจ่ายเอง สำหรับเราเราถือว่าเค้าช่วยมากนะเพราะเราถือว่าการที่เราได้ทำทุกอย่างเองมันดีต่อตัวเราเองค่ะ
ซึ่งตอนไปปรึกษาเค้าบอกเราว่ามีโอกาสแค่10% เราก็ใจแป้วนะ ก็แอบคิดว่าถ้าไม่ได้ก็ไปยุโรปแทนละกัน
เริ่มจากเรากรอกเอกสารและส่งให้เอเจนซี่ และไปจ่ายค่าธรรมเนียมที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เอเจนซี่ก็จะทำการนัดวันสัมฯให้เรา และส่งรหัสการเข้าไปเช็ค DS160 ของเราให้เราเข้าไปเช็คความถูกต้อง ของเรานั้นเรามีการกดแก้ไขข้อมูลเองนิดหน่อยค่ะ
เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ กันเหนียวด้วยการเอาตัวจริงไปและถ่ายเอกสารทุกอย่างไปด้วยค่ะ เผื่อ จนท ขอ
- ใบคอนเฟิร์มนัด (จะได้หลังจากจองวันสัมฯเรียบร้อยแล้ว)
- พาสปอร์ต ที่มีอายุเหลือมากกว่าหกเดือนนะคะ ถ้ามีเล่มเก่าก็เอาไปด้วยให้หมดค่ะ
- หน้าคอนเฟิร์ม DS160
- ใบเสร็จค่าธรรมเนียม
- รูปสี 2*2 นิ้ว สอง ใบ
- ทะเบียนบ้าน และสำเนา
- บัตรประชาชน และ สำเนา
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน เอาสมุดไปปรับก่อนวันนัด หรือ สเตจเม้นค่ะ
- ใบหย่า ใบเปลี่ยนชื่อ ทะเบียนสมรส (ถ้ามี) (ของเราไม่ได้ใช้ค่ะเพราะไม่มี)
- หลักฐานการทำงาน หนังสือรับรองการทำงานและใบอนุมัติวันลา ระบุตำแหน่ง เงินเดือน วันลา วันเริ่มทำงานให้ครบ
*อาชีพที่มีใบประกอบการณ์ ให้เตรียมไปด้วย
*ธุรกิจส่วนตัว ใช้หนังสือรับรองจดทะเบียนการค้า รูปถ่าย หรือหลักฐานอื่นๆที่มี
สำคัญมาก *** ถ้ามีคนออก คชจ ให้ก็ต้องใช้เอกสารของคนที่ออก คชจ ให้ด้วยนะคะ เราไปเองเลยไม่ต้องใช้ค่ะ
เรานัดได้วันที่ 15 สิงหาคม 2561 เวลา 10.50
เราไปถึงตั้งแต่ 9 โมงเช้าค่ะ ยื่นใบนัดที่ป้อมยาม จนท ก็จะให้เข้าไปแสกนกระเป๋าและให้ปิดโทรศัพท์ฝากไว้ที่จุดนี้ได้เลยค่ะ
เราไม่ได้ถืออะไรไปเยอะ มีแค่เอกสารข้างต้นกับเงินสด(เงินสดเอาติดตัวไว้เฉยๆไม่ได้ใช้อะไรเพิ่มนะคะ)
แต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อยค่ะ
- จุดแรก จะมี จนท เช็คเอกสารและเอาสิ่งที่เค้าจะใช้ไปค่ะ และให้บัตรคิวค่ะ
- ขั้นด้วยการนั่งรอเรียกคิว
- จุดที่สอง เป็นการเรียกคิวไปแสกนลายนิ้วมือ และถามข้อมูลเบื้องต้น เช่นเคยไปมารึยัง จะไปไหน ไปทำไม
- ขั้นด้วยการกลับมานั่งรอเรียกคิวสัมฯอีกรอบ
ตอนนี้จะนานค่ะก็จะเห็นคนเดินคอตกออกมาจากห้องสัมฯเยอะเลย เรามาคนเดียว อยู่ๆก็มีน้องผู้หญิงคนนึงมานั่งข้างๆน้องว่าน้องใช้เอเจนซี่เจ้าหนึ่งใกล้ๆสถานฑูตนี้ น้องเล่าต่อว่า ลค รอบเช้า10 คน ได้วีซ่าแค่ 2-3 คนเอง ขนาด ผอ รร ยังไม่ผ่าน ไอ้เราก็ใจตุ้มๆต่อมๆ
- จุดที่สาม เป็นการเรียกไปสัมฯ โดย จนท เราได้สัมฯ กับฝรั่งผู้หญิงดูเนี๊ยบๆสวยๆดุๆค่ะ
คำถามที่เราโดนถาม ยาวหน่อยนะคะ เท่าที่เราจำได้เพราะความจริงถามยาวกว่านี้อีกค่ะ
เป็นการสัมฯเป็นภาษาอังกฤษแต่เราจะเล่ารวบรัดเป็นภาษาไทยเลยนะคะ
จนท: สวัสดีค่ะ
เรา สวัสดีค่ะ
จนท: คุณเคยไปอเมริมั้ยคะ
เรา เคยไปค่ะ
จนท: (มองจอคอม) ไปมา 2 ครั้งแล้วหรอ
เรา ค่ะ และครั้งที่ 2 ได้อยู่เกินกำหนดด้วยค่ะ (ไหนๆเค้าก็มีข้อมูลอยู่แล้วเราเลยแมนๆบอกก่อนไปเลย)
จนท: ทำไม (จ้องหน้าเราทำหน้าดุด้วยค่ะ)
เรา เรียนภาษาเสร็จแล้วอยากเที่ยวต่อค่ะ เพื่อนๆชวนเลยอยู่เที่ยวต่อ ตอนนั้นก็เด็กด้วยเลยทำอะไรไม่ค่อยคิด ดิฉันรู้สึกผิดและจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ
จนท: ที่ผ่านมาคุณเดินทางไปที่ไหนมาแล้วบ้าง
เรา 6 ปีที่ผ่านมา ไปๆมาๆนิวซีแลนด์ประมาณ 6-7 ครั้งได้ค่ะ (พร้อมกับยื่นพาสปอร์ตเล่มที่มีวีซ่านิวซีแลนด์ให้ จนท) นี่ค่ะวีซ่า แล้วก็เที่ยวแถวเอเชียอีก 5-6 ประเทศ
จนท: (พลิกดูวีซ่าไปมา) ไปนิวซีแลนด์ใครออก คชจ ให้คะ เพราะ คชจ สูงนะคะ
เรา แฟนเก่าค่ะ ตอนนี้เป็นเพื่อนกันไปแล้ว
จนท: ตอนไปนิวซีแลนด์ คุณได้ทำงานมั้ยคะ
เรา ไม่ค่ะ ไปเที่ยวแล้วก็ช่วยแฟนดูแลแม่เค้าค่ะ
จนท: ในข้อมูลตอนนี้คุณโสดใช่มั้ยคะ
เรา โสดค่ะ
จนท: คุณมาอยู่เชียงใหม่นานรึยังคะ
เรา 3 ปีแล้วค่ะ
จนท: อยู่กับใครคะ
เรา อยู่กับหมาค่ะ
จนท: หมา หรอ (ท่านทำเสียงสูง ตอนนี้ จนท แอบขำเราด้วยค่ะ)
เรา ค่ะ เค้าเป็นเหมือนลูกชายเลยค่ะ
จนท: แล้วตอนนี้คุณทำอะไรอยู่คะ
เรา หลักๆก็มีเงินเดือนจากการดูแลและจัดการการก่อสร้างของบริษัทที่หุ้นกับเพื่อนๆค่ะ ตอนนี้เรากำลังสร้างโรงแรมกึ่งบ้านพักเล็กๆกับโยคะสตูดิโอด้วยค่ะ
จนท: ที่ไหนคะ
เรา (แจ้งที่อยู่ไปตามจริง)
จนท: คุณมีรายได้ทางอื่นด้วยมั้ยคะ
เรา สอนโยคะด้วย ตอนนี้ก็กำลังสร้างสตูดีโอใหม่ติดกับโปรเจคฯที่พักที่หุ้นกับเพื่อนๆเลยค่ะ
จนท: ขอหลักฐานทางการเงินด้วยค่ะ
เรา (ยื่นสเตจเม้นท์ให้ 2 ชุด) ชุดนึงเป็นบัญชีไว้ใช้ส่วนตัวนะคะ(ชุดนี้มีราวๆ 5-6 แสน) อีกชุดเอาไว้ทำธุรกิจค่ะ(ชุดนี้เงินหมุนเวียนหลักล้านค่ะแต่เหลืออยู่ใน บช สามแสนกว่า)
จนท: มีรายได้ทางอื่นอีกมั้ยคะ
เรา ปีก่อนก็มีค่ะ มีบริษัทอีกที่นึงแต่ได้ขายที่ดินรวมทั้งบริษัทไปแล้ว ได้เงินมาก้อนนึงได้แบ่งกับเพื่อนๆที่หุ้นกันไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
จนท โครงการในอนาคตล่ะคะ
เรา สร้างโรงแรมที่ทำตอนนี้ให้เสร็จก่อนค่ะ และจะทำโยคะสตูดิโอ อยากจะนำเข้าพวกอุปกรณ์โยคะจากอเมริกาด้วยค่ะเพราะตอนจดทะเบียนบริษัทได้จดเผื่อการนำเข้าสินค้าไว้แล้วและหุ้นส่วนก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ต้องเดินทางไปดูก่อน
จนท: อุปกรณ์แบบไหนคะ
เรา เสื่อโยคะ เสื้อผ้า อุปกรณ์อื่นๆ
จนท: บอกยี่ห้อได้มั้ยคะ
เรา (ก็บอกไป 3-4 ยี่ห้อ)
จนท: (มองคอม ใส่ข้อมูลลงคอม) จะไปที่ไหนบ้างคะ
เรา หลักๆก็ไปลงนิวยอร์คค่ะ อยากไปดูร้านอุปกรณ์โยคะ แล้วก็เที่ยวด้วย อยากไปดูแกรนแคนยอนของจริงค่ะเคยไปแต่ของที่เชียงใหม่ ของจริงน่าจะใหญ่มากนะคะ
จนท: ไปกี่วันคะ
เรา ราวๆ 20 วันค่ะ
จนท: ไปกับใครคะ
เรา ไปคนเดียวค่ะ (ยิ้ม)
จนท: (คืนพาสปอร์ตเก่า2 เล่มมาให้เรา) เดี๋ยวทางเราจะส่งวีซ่าให้นะคะ
เรา ขอบคุณมากค่ะ
วิ่งตัวปลิวออกมาเลยค่ะ ได้รับเล่มคืนแล้วได้ 10 ปี
เจ้าหน้าที่ถามเยอะจริงค่ะ แต่เราก็ตอบตามความจริงทุกอย่าง ถึงจะเกร็งแต่ก็พยายามแสดงออกว่าเราไม่เกร็งและตอบคำถามด้วยความมั่นใจค่ะ
การสื่อสารและการมองตาเจ้าหน้าที่เราว่าก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เราสังเกตุเห็นท่านอมยิ้มหลายครั้ง แต่ตอนสัมฯคนก่อนเราหน้าดุเชียว
ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ
แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาที่เชียงใหม่ค่ะ
เริ่มมาจากตัวเองที่พื้นเพเป็นคนอิสานค่ะ แต่มาทำธุรกิจเล็กๆที่เชียงใหม่ เลยขอที่นี่เลยดีกว่า
เคสเราถือว่ายาก ยากมากๆเพราะตัวเราเคยไป work and travel กับเรียนภาษาที่อเมริกามาก่อน แต่ตอนไปเรียนนั้นเราได้อยู่เกินวีซ่าด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หลายเดือนอยู่ค่ะ ตอนตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวก็คิดเผื่อแล้วนะว่าถ้าเค้าไม่ให้เราก็ไม่ตกใจเพราะประวัติเราไม่ดีนี่นา แถมเป็นสาวโสดอายุสามสิบต้นๆอีกต่างหาก
เราก็ได้ไปขอใช้บริการเอเจนซี่เจ้าหนึ่งเนื่องจากว่าเราไม่รู้ว่าเคสเราควรจะแจ้งอะไรบ้าง
เอเจนซี่เจ้านี้ถามว่าช่วยมากมั้ย เอาจริงๆเราก็ต้องทำเองแทบทุกขั้นตอนแต่เค้าจะแจ้งมาค่ะว่าเตรียมอะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง และมีฟอร์มมาให้เรากรอก คล้ายๆ DS160 เราก็กรอกๆไปให้ครบ เค้าก็จะนำข้อมูลนั้นไปกรอกให้เราอีกทีค่ะ เงินค่าธรรมเนียมเราก็ไปจ่ายเอง สำหรับเราเราถือว่าเค้าช่วยมากนะเพราะเราถือว่าการที่เราได้ทำทุกอย่างเองมันดีต่อตัวเราเองค่ะ
ซึ่งตอนไปปรึกษาเค้าบอกเราว่ามีโอกาสแค่10% เราก็ใจแป้วนะ ก็แอบคิดว่าถ้าไม่ได้ก็ไปยุโรปแทนละกัน
เริ่มจากเรากรอกเอกสารและส่งให้เอเจนซี่ และไปจ่ายค่าธรรมเนียมที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เอเจนซี่ก็จะทำการนัดวันสัมฯให้เรา และส่งรหัสการเข้าไปเช็ค DS160 ของเราให้เราเข้าไปเช็คความถูกต้อง ของเรานั้นเรามีการกดแก้ไขข้อมูลเองนิดหน่อยค่ะ
เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ กันเหนียวด้วยการเอาตัวจริงไปและถ่ายเอกสารทุกอย่างไปด้วยค่ะ เผื่อ จนท ขอ
- ใบคอนเฟิร์มนัด (จะได้หลังจากจองวันสัมฯเรียบร้อยแล้ว)
- พาสปอร์ต ที่มีอายุเหลือมากกว่าหกเดือนนะคะ ถ้ามีเล่มเก่าก็เอาไปด้วยให้หมดค่ะ
- หน้าคอนเฟิร์ม DS160
- ใบเสร็จค่าธรรมเนียม
- รูปสี 2*2 นิ้ว สอง ใบ
- ทะเบียนบ้าน และสำเนา
- บัตรประชาชน และ สำเนา
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน เอาสมุดไปปรับก่อนวันนัด หรือ สเตจเม้นค่ะ
- ใบหย่า ใบเปลี่ยนชื่อ ทะเบียนสมรส (ถ้ามี) (ของเราไม่ได้ใช้ค่ะเพราะไม่มี)
- หลักฐานการทำงาน หนังสือรับรองการทำงานและใบอนุมัติวันลา ระบุตำแหน่ง เงินเดือน วันลา วันเริ่มทำงานให้ครบ
*อาชีพที่มีใบประกอบการณ์ ให้เตรียมไปด้วย
*ธุรกิจส่วนตัว ใช้หนังสือรับรองจดทะเบียนการค้า รูปถ่าย หรือหลักฐานอื่นๆที่มี
สำคัญมาก *** ถ้ามีคนออก คชจ ให้ก็ต้องใช้เอกสารของคนที่ออก คชจ ให้ด้วยนะคะ เราไปเองเลยไม่ต้องใช้ค่ะ
เรานัดได้วันที่ 15 สิงหาคม 2561 เวลา 10.50
เราไปถึงตั้งแต่ 9 โมงเช้าค่ะ ยื่นใบนัดที่ป้อมยาม จนท ก็จะให้เข้าไปแสกนกระเป๋าและให้ปิดโทรศัพท์ฝากไว้ที่จุดนี้ได้เลยค่ะ
เราไม่ได้ถืออะไรไปเยอะ มีแค่เอกสารข้างต้นกับเงินสด(เงินสดเอาติดตัวไว้เฉยๆไม่ได้ใช้อะไรเพิ่มนะคะ)
แต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อยค่ะ
- จุดแรก จะมี จนท เช็คเอกสารและเอาสิ่งที่เค้าจะใช้ไปค่ะ และให้บัตรคิวค่ะ
- ขั้นด้วยการนั่งรอเรียกคิว
- จุดที่สอง เป็นการเรียกคิวไปแสกนลายนิ้วมือ และถามข้อมูลเบื้องต้น เช่นเคยไปมารึยัง จะไปไหน ไปทำไม
- ขั้นด้วยการกลับมานั่งรอเรียกคิวสัมฯอีกรอบ
ตอนนี้จะนานค่ะก็จะเห็นคนเดินคอตกออกมาจากห้องสัมฯเยอะเลย เรามาคนเดียว อยู่ๆก็มีน้องผู้หญิงคนนึงมานั่งข้างๆน้องว่าน้องใช้เอเจนซี่เจ้าหนึ่งใกล้ๆสถานฑูตนี้ น้องเล่าต่อว่า ลค รอบเช้า10 คน ได้วีซ่าแค่ 2-3 คนเอง ขนาด ผอ รร ยังไม่ผ่าน ไอ้เราก็ใจตุ้มๆต่อมๆ
- จุดที่สาม เป็นการเรียกไปสัมฯ โดย จนท เราได้สัมฯ กับฝรั่งผู้หญิงดูเนี๊ยบๆสวยๆดุๆค่ะ
คำถามที่เราโดนถาม ยาวหน่อยนะคะ เท่าที่เราจำได้เพราะความจริงถามยาวกว่านี้อีกค่ะ
เป็นการสัมฯเป็นภาษาอังกฤษแต่เราจะเล่ารวบรัดเป็นภาษาไทยเลยนะคะ
จนท: สวัสดีค่ะ
เรา สวัสดีค่ะ
จนท: คุณเคยไปอเมริมั้ยคะ
เรา เคยไปค่ะ
จนท: (มองจอคอม) ไปมา 2 ครั้งแล้วหรอ
เรา ค่ะ และครั้งที่ 2 ได้อยู่เกินกำหนดด้วยค่ะ (ไหนๆเค้าก็มีข้อมูลอยู่แล้วเราเลยแมนๆบอกก่อนไปเลย)
จนท: ทำไม (จ้องหน้าเราทำหน้าดุด้วยค่ะ)
เรา เรียนภาษาเสร็จแล้วอยากเที่ยวต่อค่ะ เพื่อนๆชวนเลยอยู่เที่ยวต่อ ตอนนั้นก็เด็กด้วยเลยทำอะไรไม่ค่อยคิด ดิฉันรู้สึกผิดและจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ
จนท: ที่ผ่านมาคุณเดินทางไปที่ไหนมาแล้วบ้าง
เรา 6 ปีที่ผ่านมา ไปๆมาๆนิวซีแลนด์ประมาณ 6-7 ครั้งได้ค่ะ (พร้อมกับยื่นพาสปอร์ตเล่มที่มีวีซ่านิวซีแลนด์ให้ จนท) นี่ค่ะวีซ่า แล้วก็เที่ยวแถวเอเชียอีก 5-6 ประเทศ
จนท: (พลิกดูวีซ่าไปมา) ไปนิวซีแลนด์ใครออก คชจ ให้คะ เพราะ คชจ สูงนะคะ
เรา แฟนเก่าค่ะ ตอนนี้เป็นเพื่อนกันไปแล้ว
จนท: ตอนไปนิวซีแลนด์ คุณได้ทำงานมั้ยคะ
เรา ไม่ค่ะ ไปเที่ยวแล้วก็ช่วยแฟนดูแลแม่เค้าค่ะ
จนท: ในข้อมูลตอนนี้คุณโสดใช่มั้ยคะ
เรา โสดค่ะ
จนท: คุณมาอยู่เชียงใหม่นานรึยังคะ
เรา 3 ปีแล้วค่ะ
จนท: อยู่กับใครคะ
เรา อยู่กับหมาค่ะ
จนท: หมา หรอ (ท่านทำเสียงสูง ตอนนี้ จนท แอบขำเราด้วยค่ะ)
เรา ค่ะ เค้าเป็นเหมือนลูกชายเลยค่ะ
จนท: แล้วตอนนี้คุณทำอะไรอยู่คะ
เรา หลักๆก็มีเงินเดือนจากการดูแลและจัดการการก่อสร้างของบริษัทที่หุ้นกับเพื่อนๆค่ะ ตอนนี้เรากำลังสร้างโรงแรมกึ่งบ้านพักเล็กๆกับโยคะสตูดิโอด้วยค่ะ
จนท: ที่ไหนคะ
เรา (แจ้งที่อยู่ไปตามจริง)
จนท: คุณมีรายได้ทางอื่นด้วยมั้ยคะ
เรา สอนโยคะด้วย ตอนนี้ก็กำลังสร้างสตูดีโอใหม่ติดกับโปรเจคฯที่พักที่หุ้นกับเพื่อนๆเลยค่ะ
จนท: ขอหลักฐานทางการเงินด้วยค่ะ
เรา (ยื่นสเตจเม้นท์ให้ 2 ชุด) ชุดนึงเป็นบัญชีไว้ใช้ส่วนตัวนะคะ(ชุดนี้มีราวๆ 5-6 แสน) อีกชุดเอาไว้ทำธุรกิจค่ะ(ชุดนี้เงินหมุนเวียนหลักล้านค่ะแต่เหลืออยู่ใน บช สามแสนกว่า)
จนท: มีรายได้ทางอื่นอีกมั้ยคะ
เรา ปีก่อนก็มีค่ะ มีบริษัทอีกที่นึงแต่ได้ขายที่ดินรวมทั้งบริษัทไปแล้ว ได้เงินมาก้อนนึงได้แบ่งกับเพื่อนๆที่หุ้นกันไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
จนท โครงการในอนาคตล่ะคะ
เรา สร้างโรงแรมที่ทำตอนนี้ให้เสร็จก่อนค่ะ และจะทำโยคะสตูดิโอ อยากจะนำเข้าพวกอุปกรณ์โยคะจากอเมริกาด้วยค่ะเพราะตอนจดทะเบียนบริษัทได้จดเผื่อการนำเข้าสินค้าไว้แล้วและหุ้นส่วนก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ต้องเดินทางไปดูก่อน
จนท: อุปกรณ์แบบไหนคะ
เรา เสื่อโยคะ เสื้อผ้า อุปกรณ์อื่นๆ
จนท: บอกยี่ห้อได้มั้ยคะ
เรา (ก็บอกไป 3-4 ยี่ห้อ)
จนท: (มองคอม ใส่ข้อมูลลงคอม) จะไปที่ไหนบ้างคะ
เรา หลักๆก็ไปลงนิวยอร์คค่ะ อยากไปดูร้านอุปกรณ์โยคะ แล้วก็เที่ยวด้วย อยากไปดูแกรนแคนยอนของจริงค่ะเคยไปแต่ของที่เชียงใหม่ ของจริงน่าจะใหญ่มากนะคะ
จนท: ไปกี่วันคะ
เรา ราวๆ 20 วันค่ะ
จนท: ไปกับใครคะ
เรา ไปคนเดียวค่ะ (ยิ้ม)
จนท: (คืนพาสปอร์ตเก่า2 เล่มมาให้เรา) เดี๋ยวทางเราจะส่งวีซ่าให้นะคะ
เรา ขอบคุณมากค่ะ
วิ่งตัวปลิวออกมาเลยค่ะ ได้รับเล่มคืนแล้วได้ 10 ปี
เจ้าหน้าที่ถามเยอะจริงค่ะ แต่เราก็ตอบตามความจริงทุกอย่าง ถึงจะเกร็งแต่ก็พยายามแสดงออกว่าเราไม่เกร็งและตอบคำถามด้วยความมั่นใจค่ะ
การสื่อสารและการมองตาเจ้าหน้าที่เราว่าก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เราสังเกตุเห็นท่านอมยิ้มหลายครั้ง แต่ตอนสัมฯคนก่อนเราหน้าดุเชียว
ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ