1. เสียกรุงครั้งที่1 ช้างเผือก อาศัยวิธีรบที่ละเมือง จนรวมกำลังพลหลายแสน. แถมมีประสบการณ์รบมอญหลายสิบปี
ไทยแพ้ไม่แปลกเลย ให้ปู่ผมคุมทัพมาตีกรุงศรียังไงก็ชนะ เพราะพ่อพระนเรศวรเสนอไส้ศึกเปิดประตูเมือง
2. เสียกรุงครั้งที่ 2
ที่ชมกันนักหนาว่าวางแผนดี ก็อาศัยแผนหมาหมู่รุมเหมือนบุเรงนอง ไม่เห็นจะมีอะไรใหม่ ตีที่ละเมือง ได้คนเป็นแสน แถมมีประสบการณรบกับมอญหลายสิบปี
ส่วนอยุธยาคนน้อยกว่าตั้งครึ่ง แถมไม่เคยรบจริงจังหลายสิบปี ตั้งแต่พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ มีแตทะเลาะกันเอง
ให้ใครเป็นแม่ทัพก็ชนะ
แต่สงครามท่าดินแดนและสามสบคือสงครามที่พิสูจน์ฝีมือแท้จริงไม่มีใครได้เปรียบ
1. กำลังพลสู้สีกัน
2. รบชายแดนไม่มีใครได้เปรียบ
3. พม่ามีประสบการณ์มากกว่าเพราะรบมอญ จีน รบก่อนเสียีกรุง
4. พม่าตั้งค่ายย่อมได้เปรียบกว่าคนบุก
แต่สุดท้ายพม่าแพ้
สงครามนี้คือบทพิสูจน์ ไทยเหนือกว่าพม่า ถ้าป้จจัยไม่มีใครได้เปรียบ
พม่าสู้ไทยไม่ได้
ไม่นับรวม พระนเรศวร รัชกาลที่1 ที่เสียเปรียบทุกด้าน แต่ชนะพม่า
ผมว่าไทยเหนือกว่าพม่าครับ
ผมว่าสงคราม ท่าดินแดน- สามสบ คือสงครามที่บ่งบอกว่าถ้าปัจจัยทุกอย่างเหมือนกันไทยเหนือกว่าพม่า
ไทยแพ้ไม่แปลกเลย ให้ปู่ผมคุมทัพมาตีกรุงศรียังไงก็ชนะ เพราะพ่อพระนเรศวรเสนอไส้ศึกเปิดประตูเมือง
2. เสียกรุงครั้งที่ 2
ที่ชมกันนักหนาว่าวางแผนดี ก็อาศัยแผนหมาหมู่รุมเหมือนบุเรงนอง ไม่เห็นจะมีอะไรใหม่ ตีที่ละเมือง ได้คนเป็นแสน แถมมีประสบการณรบกับมอญหลายสิบปี
ส่วนอยุธยาคนน้อยกว่าตั้งครึ่ง แถมไม่เคยรบจริงจังหลายสิบปี ตั้งแต่พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ มีแตทะเลาะกันเอง
ให้ใครเป็นแม่ทัพก็ชนะ
แต่สงครามท่าดินแดนและสามสบคือสงครามที่พิสูจน์ฝีมือแท้จริงไม่มีใครได้เปรียบ
1. กำลังพลสู้สีกัน
2. รบชายแดนไม่มีใครได้เปรียบ
3. พม่ามีประสบการณ์มากกว่าเพราะรบมอญ จีน รบก่อนเสียีกรุง
4. พม่าตั้งค่ายย่อมได้เปรียบกว่าคนบุก
แต่สุดท้ายพม่าแพ้
สงครามนี้คือบทพิสูจน์ ไทยเหนือกว่าพม่า ถ้าป้จจัยไม่มีใครได้เปรียบ
พม่าสู้ไทยไม่ได้
ไม่นับรวม พระนเรศวร รัชกาลที่1 ที่เสียเปรียบทุกด้าน แต่ชนะพม่า
ผมว่าไทยเหนือกว่าพม่าครับ