เรื่องมันมีอยู่ว่า เราเป็นสัตวแพทย์ลาออกมาเปิดคลินิกของตัวเองได้เดือนกว่าๆ ไปได้ดีกว่าที่คิดค่ะเดือนแรกรายได้ประมาณ 100,000 บาท ต้นทุนรวมทุกอย่างคือ 350,000 บาท
แต่เนื่องจากเปิดทุกวัน และเคสค่อนข้างมาก ทำให้ล้าในการทำงานมากๆค่ะ บางวันตื่นมารู้สึกว่าอยากนอนต่อแต่ทำไมได้ ต้องออกไปเปิดร้านนะ
อยากไปกินข้าวร้านโปรดก็ไปไม่ได้ เดี๋ยวมีเคสล่ะ บางทีเสี่ยงไปกิน ก็เคสมาจริงๆก็ต้องรีบกินรีบห่อกลับมา เพื่อรับเคสค่ะ เห็นโปรโมชั่นอะไรก็ซื้อตั๋วไปไม่ได้เพราะต้องเฝ้าร้านทีนี้จะฝากร้านกับใครก้ไม่ได้เพราะที่บ้านก็ทำงานประจำกันหมดค่ะ

ที่ร้านมีผู้ช่วยสองคน ตอนนี้คนนึงลาออกดื้อๆไปทำงานที่บ้าน อีกคนหนี้ที่บ้านเยอะจะเอาเงินเดือนเยอะๆก็ไม่ได้เพราะเค้าก็ยังไม่มีปสก.เราก้ให้ตามเรตตจว.อ่ะค่ะ 8000 บาท หยุดสัปดาห์ละวัน สามารถเล่นโทสับ อ่านหนังสือได้ ไม่ได้จี้ให้นั่งตัวแข็งทั้งวันอะไรแบบนั้น พักผ่อนได้ค่ะค่อนข้างสบายๆ แต่ก็จะออกเหมือนกันเพราะจะไปทำงานที่เงินเดือนแพงกว่านี้ ก็เลยเริ่มรู้สึกไม่ค่อยอยากดีลกับเรื่องแบบนี้เช่นเรื่องคนจะเข้าจะออก ต้องหาคนมาทำงานเงี้ยค่ะ ก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่ามีเพื่อนคนนึงเป็นเพื่อนเรียนมหาลัยกันมาค่ะ สนิทกัน ทำงานด้วยกันหลายปีแล้ว มันก้มีความฝันอยากเปิดเป็นของตัวเอง เราก็เลยจะชวนมันมาหุ้นด้วย แต่คือการหุ้นมันต้องคำนึงถึงอะไรบ้างคะ เวลาแบ่งผลประโยชน์กันต้องทำยังไง ต้องจดทะเบียนยังไงคะ มีใครหุ้นกันแล้วโอเคหรือไม่โอเค แนะนำมาได้ค่ะ แล้วกรณีน้องควรชวนเพื่อนมาหุ้นมั้ยคะ แบ่งเบากันไปค่ะ เพื่อนได้มีธุรกิจเป็นของตัวเองอย่างที่อยากมี น้องได้พักผ่อนตามที่น้องต้องการ แต่ก็กลัวเสียเพื่อนค่ะ เลยคิดวนไปวนมาสาละวนแบบนี้ทั้งวัน ช่วยด้วยค่าาา