Once upon a climb 'Mt.Kinabalu',Sabah Malaysia
4,095m above sea level
__________________________________________________
ที่นี่...เป็นการไปเดินเขาต่างประเทศของเราครั้งแรก
ที่นี่...ทำให้รู้ว่า 'ไม่ว่าจะไปที่ไหน ขอให้เราไปด้วยใจ ไปได้แน่นอน' แม้ร่างกายจะไม่ได้ดั่งใจก็ตาม ฮาาาา
ที่นี่...ทำให้เราเกิดคำถามมากมาย ณ ขณะไต่สูงเสียดฟ้าขึ้นไป 'กูมาทำอะไรที่นี่'
ที่นี่...เราเคยบอกไกด์ว่า ครั้งเดียวพอ! ไม่มาแล้ว! แต่ตอนนี้มานั่งคิดถึงและอยากกลับไปอีก
ผ่านมาหนึ่งปีเต็ม กับการไปปีนเขาคินาบาลูของเรา เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ชาวบลูแพลนเน็ตได้อ่านกัน
ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ รีวิวไม่ค่อยเก่ง แต่หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ
และฝากเพจน้อยๆของเรา
https://web.facebook.com/Everywherewewander/ แวะไปทักทายพูดคุยกันได้ค่ะ
__________________________________________________
ก่อนออกเดินทาง ก็มาเตรียมตัวกันหน่อย
:: อยากไปเดินคินาบาลูต้องทำยังไง?
1.ติดต่ออุทยานฯโดยตรง
ผ่านทาง Facebook :
https://www.facebook.com/suterasanctuary/
ผ่านทางอีเมล์ :
info@suterasanctuarylodges.com.my
ssl.reservation@suterasanctuarylodges.com.my
ราคาจะถูกกว่าข้อสอง เสียเวลารอตอบอีเมล์นิดนึง แล้วก็ต้องหาทางมาอุทยานจากสนามบิน/เมืองเอง ไม่มีรถรับส่งเหมือนมากับเอเจนซี่ ไปติดต่อลงทะเบียนกับอุทยานเอง ซึ่งคนอย่างเราก็เลือกอันนี้ 5555
2.จองผ่านเอเจนซี่จองมาเลเซีย เช่น Amazing borneo,Jungle Jack Backpacker
ทั้งสองแบบก็ราคาแรงไม่ต่างกัน 2 วัน 1 คืน ในราคาหลักหมื่น! เพราะได้รวมทุกอย่างแล้ว ทั้งค่าข้าว ค่าที่พักบนเขา รับรองว่ากินอิ่ม นอนสบาย มีน้ำอาบ ไม่ต้องแบกอะไรขึ้นไปเลย ยกเว้น แบกสังขารตัวเองขึ้นไป ฮ่าาา อ้อ ถ้าไปเองก็ยังไม่รวมค่าไกด์ ค่าลูกหาบ ค่าอุทยาน ค่า trekking permit โอ้ยยยย
:: สิ่งที่ควรรู้ก่อนมา ::
1.Mt.Kinabalu สูง 4,095 m อยู่ที่ Kota Kinabalu มาเลเซีย คนละเกาะกับกัวลาลัมเปอร์เด้อ ฉะนั้นจากเมืองไทยต้องบินมาลงที่นี่
- Airasia มีบินตรงวันเว้นวัน หรือ
-บินจากไทยไปกัวลาลัมเปอร์ แล้วต่อเครื่องมา Kota kinabalu
2.ทุกกลุ่มต้องมีไกด์ ขึ้นเองไม่ได้เด็ดขาด
3.จากจุดเริ่มเดิน Timpohon Gate(จุดล่างสุดในรูป) ขึ้นไปแคมป์บนเขา Laban Rata ระยะทาง 6 กม. ไต่ขึ้นอย่างเดียว
(สควอตวันละร้อยก็ช่วยได้นะ จะให้ดีควรวันละสองร้อย)
4.อากาศที่นี่แปรปรวนมาก นึกว่าคนวัยทอง เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวหมอก เอาใจไม่ถูก ฮ่าาา เสื้อกันลมกันฝนต้องพร้อมเด้อ
5.จาก Laban Rata ขึ้นไป Summit ระยะทาง 2กม. ต้องตื่นมากินข้าวตอนตี 2 และเริ่มเดินไม่ควรเกินตีสาม เพราะที่นี่เค้าจะกำหนดให้เราไปถึง check point ก่อนตี5 ถ้าใครไปไม่ถึง จะโดนไล่ลง คุณไม่ได้ไปต่อ...
6.ระยะทางแค่ 2กม.นั้น ช่วงแรกๆก็เป็นบันไดให้เดินขึ้นไป แต่หลังจากเลย check point ไปแล้ว จะต้องปีนหิน ดึงเชือกขึ้นไปบางช่วง กำลังแขนก็ต้องมา กำลังขาก็ต้องมี ถ้าฝนตกก็อาจจะลื่นหน่อย เพราะข้างบนเป็นลานหินหมดเลย
7.ถ้าใครไม่อยากเดินลงจาก summit เค้าก็มี package แบบไต่หน้าผา Ferrata ให้หวาดเสียว น่าลองๆ
8.ช่วงที่น่ามาเทรคกิ้งที่สุด คือ ต้นๆปี ช่วง กุมภาพันธ์-เมษายน ดีที่สุด ฝนน้อยสุด เพราะที่นี่มีฝนตกเกือบทั้งปี
สักครั้งในชีวิต มาเถอะ!! เชื่อเรา มันดีย์ ความสวยไม่ต้องบรรยาย ความเหนื่อยอย่าได้พูดถึง หรือจะหลายๆครั้งก็ได้ 555 แต่หลังจากลงมาถึงพื้นความคิดแว๊บแรกที่เข้ามาในหัวคือ 'คินาบาลู' กูไม่มาแล้ว!!!
เอาหละ! ขอไม่ลง Detail ไปมากกว่านี้ ไม่พูดมากแล้ว เจ็บคอ
เรากับเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรมอีกสองคน ออกเดินทางกันกลางเดือนสิงหาฯ ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงฝนชุกแต่ก็ยังดื้อจะไปกัน
ด้วยความเขียม พวกเราก็บิน Airasia BKK-KUL แล้วต่อ KUL-Kota Kinabalu เพราะขาจากกรุงเทพมามาเลเซีย ชอบมีตั๋วโปรถูกๆ
สนามบินกัวลาลัมเปอร์ เดินไกลพอสมควร อย่าลืมเผื่อเวลาสำหรับ Immigration และ check-in เด้อ สำหรับพวกเรานั้นไม่มีปัญหา เพราะมาไฟลท์กลางคืนและรอต่อไป Kota Kinabalu ตอนเช้าตรู่
จากกัวลาลัมเปอร์ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงโคตา คินาบาลู จะมี Airport bus ค่าโดยสารคนละ 5 ริงกิต เข้าเมือง มีรถเป็นรอบ ออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง
แต่เราจอง Package 3 วัน 2 คืนกับอุทยาน วันนี้ก็เลยต้องนั่งรถออกจากเมืองไปที่อุทยาน อีกประมาณ 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ที่สนามบินบอกว่าให้นั่งไปสุดสาย จะเป็นวินรถตู้ไปเมืองต่างๆ แล้วขึ้นคันที่จะไป Ranau
หน้าตายังสดใสอยู่ 55555
เปิดทริปมาก็สดใสแล้ว ต้นไม้ล้มขวางทาง ถือว่าเป็นการเริ่มที่ดีมาก ฮ่าาาา
เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาในรถตลอดสอง ชม. ฝนตกตลอดทาง หมอกลงจัดจนไม่เห็นข้างทาง ลุ้นกับการขับรถของลุงสุด ถึงซักที Kinabalu Park!
คืนนี้เราพักในอุทยานฯ ที่รวมมาใน Package บ้านพักดีมากกก มีห้องนั่งเล่น ห้องนอนสองห้อง กว้างเกินไปสำหรับพวกเราสามคนจนวังเวง 55555 มีเวลาพักผ่อนเต็มที่สำหรับการขึ้นเขาพรุ่งนี้เช้า แต่ฝนก็ยังคงตกทั้งวัน ><
เนื่องจากเมื่อวานตอนมาถึง หมอกลงจัดจนมองไม่เห็นวิวอะไรเลย เช้าวันนี้ฝนหยุดตก คินาบาลู ก็ได้เผยโฉมมาให้ชื่นชมครั้งแรก
แค่เปิดประตูออกจากบ้านพักออกมา ก็เจอแบบเต็มๆจองี้เลย ใจหล่นวูบไปแปป ได้แต่คิดในใจ นี่คือเราต้องเดินขึ้นไปบนนั้นจริงๆหรอ กลับทันมั้ย ฮ่าาา
[CR] Once upon a climb...ครั้งหนึ่งฉันเคยปีน Mt.Kinabalu มาเลเซีย
ที่นี่...เป็นการไปเดินเขาต่างประเทศของเราครั้งแรก
ที่นี่...ทำให้รู้ว่า 'ไม่ว่าจะไปที่ไหน ขอให้เราไปด้วยใจ ไปได้แน่นอน' แม้ร่างกายจะไม่ได้ดั่งใจก็ตาม ฮาาาา
ที่นี่...ทำให้เราเกิดคำถามมากมาย ณ ขณะไต่สูงเสียดฟ้าขึ้นไป 'กูมาทำอะไรที่นี่'
ที่นี่...เราเคยบอกไกด์ว่า ครั้งเดียวพอ! ไม่มาแล้ว! แต่ตอนนี้มานั่งคิดถึงและอยากกลับไปอีก
ผ่านมาหนึ่งปีเต็ม กับการไปปีนเขาคินาบาลูของเรา เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ชาวบลูแพลนเน็ตได้อ่านกัน
ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ รีวิวไม่ค่อยเก่ง แต่หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ
และฝากเพจน้อยๆของเรา https://web.facebook.com/Everywherewewander/ แวะไปทักทายพูดคุยกันได้ค่ะ
ก่อนออกเดินทาง ก็มาเตรียมตัวกันหน่อย
:: อยากไปเดินคินาบาลูต้องทำยังไง?
1.ติดต่ออุทยานฯโดยตรง
ผ่านทาง Facebook : https://www.facebook.com/suterasanctuary/
ผ่านทางอีเมล์ :
info@suterasanctuarylodges.com.my
ssl.reservation@suterasanctuarylodges.com.my
ราคาจะถูกกว่าข้อสอง เสียเวลารอตอบอีเมล์นิดนึง แล้วก็ต้องหาทางมาอุทยานจากสนามบิน/เมืองเอง ไม่มีรถรับส่งเหมือนมากับเอเจนซี่ ไปติดต่อลงทะเบียนกับอุทยานเอง ซึ่งคนอย่างเราก็เลือกอันนี้ 5555
2.จองผ่านเอเจนซี่จองมาเลเซีย เช่น Amazing borneo,Jungle Jack Backpacker
ทั้งสองแบบก็ราคาแรงไม่ต่างกัน 2 วัน 1 คืน ในราคาหลักหมื่น! เพราะได้รวมทุกอย่างแล้ว ทั้งค่าข้าว ค่าที่พักบนเขา รับรองว่ากินอิ่ม นอนสบาย มีน้ำอาบ ไม่ต้องแบกอะไรขึ้นไปเลย ยกเว้น แบกสังขารตัวเองขึ้นไป ฮ่าาา อ้อ ถ้าไปเองก็ยังไม่รวมค่าไกด์ ค่าลูกหาบ ค่าอุทยาน ค่า trekking permit โอ้ยยยย
:: สิ่งที่ควรรู้ก่อนมา ::
1.Mt.Kinabalu สูง 4,095 m อยู่ที่ Kota Kinabalu มาเลเซีย คนละเกาะกับกัวลาลัมเปอร์เด้อ ฉะนั้นจากเมืองไทยต้องบินมาลงที่นี่
- Airasia มีบินตรงวันเว้นวัน หรือ
-บินจากไทยไปกัวลาลัมเปอร์ แล้วต่อเครื่องมา Kota kinabalu
2.ทุกกลุ่มต้องมีไกด์ ขึ้นเองไม่ได้เด็ดขาด
3.จากจุดเริ่มเดิน Timpohon Gate(จุดล่างสุดในรูป) ขึ้นไปแคมป์บนเขา Laban Rata ระยะทาง 6 กม. ไต่ขึ้นอย่างเดียว
(สควอตวันละร้อยก็ช่วยได้นะ จะให้ดีควรวันละสองร้อย)
4.อากาศที่นี่แปรปรวนมาก นึกว่าคนวัยทอง เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวหมอก เอาใจไม่ถูก ฮ่าาา เสื้อกันลมกันฝนต้องพร้อมเด้อ
5.จาก Laban Rata ขึ้นไป Summit ระยะทาง 2กม. ต้องตื่นมากินข้าวตอนตี 2 และเริ่มเดินไม่ควรเกินตีสาม เพราะที่นี่เค้าจะกำหนดให้เราไปถึง check point ก่อนตี5 ถ้าใครไปไม่ถึง จะโดนไล่ลง คุณไม่ได้ไปต่อ...
6.ระยะทางแค่ 2กม.นั้น ช่วงแรกๆก็เป็นบันไดให้เดินขึ้นไป แต่หลังจากเลย check point ไปแล้ว จะต้องปีนหิน ดึงเชือกขึ้นไปบางช่วง กำลังแขนก็ต้องมา กำลังขาก็ต้องมี ถ้าฝนตกก็อาจจะลื่นหน่อย เพราะข้างบนเป็นลานหินหมดเลย
7.ถ้าใครไม่อยากเดินลงจาก summit เค้าก็มี package แบบไต่หน้าผา Ferrata ให้หวาดเสียว น่าลองๆ
8.ช่วงที่น่ามาเทรคกิ้งที่สุด คือ ต้นๆปี ช่วง กุมภาพันธ์-เมษายน ดีที่สุด ฝนน้อยสุด เพราะที่นี่มีฝนตกเกือบทั้งปี
สักครั้งในชีวิต มาเถอะ!! เชื่อเรา มันดีย์ ความสวยไม่ต้องบรรยาย ความเหนื่อยอย่าได้พูดถึง หรือจะหลายๆครั้งก็ได้ 555 แต่หลังจากลงมาถึงพื้นความคิดแว๊บแรกที่เข้ามาในหัวคือ 'คินาบาลู' กูไม่มาแล้ว!!!
เรากับเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรมอีกสองคน ออกเดินทางกันกลางเดือนสิงหาฯ ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงฝนชุกแต่ก็ยังดื้อจะไปกัน
ด้วยความเขียม พวกเราก็บิน Airasia BKK-KUL แล้วต่อ KUL-Kota Kinabalu เพราะขาจากกรุงเทพมามาเลเซีย ชอบมีตั๋วโปรถูกๆ
สนามบินกัวลาลัมเปอร์ เดินไกลพอสมควร อย่าลืมเผื่อเวลาสำหรับ Immigration และ check-in เด้อ สำหรับพวกเรานั้นไม่มีปัญหา เพราะมาไฟลท์กลางคืนและรอต่อไป Kota Kinabalu ตอนเช้าตรู่
จากกัวลาลัมเปอร์ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงโคตา คินาบาลู จะมี Airport bus ค่าโดยสารคนละ 5 ริงกิต เข้าเมือง มีรถเป็นรอบ ออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง
แต่เราจอง Package 3 วัน 2 คืนกับอุทยาน วันนี้ก็เลยต้องนั่งรถออกจากเมืองไปที่อุทยาน อีกประมาณ 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ที่สนามบินบอกว่าให้นั่งไปสุดสาย จะเป็นวินรถตู้ไปเมืองต่างๆ แล้วขึ้นคันที่จะไป Ranau
หน้าตายังสดใสอยู่ 55555
เปิดทริปมาก็สดใสแล้ว ต้นไม้ล้มขวางทาง ถือว่าเป็นการเริ่มที่ดีมาก ฮ่าาาา
เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาในรถตลอดสอง ชม. ฝนตกตลอดทาง หมอกลงจัดจนไม่เห็นข้างทาง ลุ้นกับการขับรถของลุงสุด ถึงซักที Kinabalu Park!
คืนนี้เราพักในอุทยานฯ ที่รวมมาใน Package บ้านพักดีมากกก มีห้องนั่งเล่น ห้องนอนสองห้อง กว้างเกินไปสำหรับพวกเราสามคนจนวังเวง 55555 มีเวลาพักผ่อนเต็มที่สำหรับการขึ้นเขาพรุ่งนี้เช้า แต่ฝนก็ยังคงตกทั้งวัน ><
เนื่องจากเมื่อวานตอนมาถึง หมอกลงจัดจนมองไม่เห็นวิวอะไรเลย เช้าวันนี้ฝนหยุดตก คินาบาลู ก็ได้เผยโฉมมาให้ชื่นชมครั้งแรก
แค่เปิดประตูออกจากบ้านพักออกมา ก็เจอแบบเต็มๆจองี้เลย ใจหล่นวูบไปแปป ได้แต่คิดในใจ นี่คือเราต้องเดินขึ้นไปบนนั้นจริงๆหรอ กลับทันมั้ย ฮ่าาา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้