ฉบับที่ ๖๑ วันเสาร์ที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑

เรื่อง นักเรียนนักศึกษาขอยกเลิกกฏใหม่ สะท้อนหลักธรรมใด? กรอบหรือกรง?
จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศ (สนท.) และสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ถือป้ายข้อความว่า “หยุด! ควบคุมเสรีภาพ นักเรียน นักศึกษา” และเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึก เรื่องข้อเรียกร้องถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ผ่านนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ.
เพื่อแก้มติครม.วันที่ 14 ส.ค. ตามข้อเสนอของศธ. มีสาระสำคัญต่างจากกฎกระทรวงฉบับก่อนหน้า 3 ประการ ดังนี้
1.ห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุม อันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน
2.ห้ามกระทำเกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวอันไม่เหมาะสม จากเดิมที่ห้ามเฉพาะการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ
3.ห้ามกระทำเกี่ยวกับการออกนอกสถานที่พัก เพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่มอันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น จากเดิมห้ามเฉพาะเวลากลางคืน
สนท. เล็งเห็นว่าร่างกฎกระทรวงดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการศึกษาเรียนรู้ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เนื่องจากมีข้อบัญญัติซึ่งรุกล้ำความเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง อีกทั้งมีเนื้อความหมายกำกวมสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเครื่องมือปิดกั้นสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพทางการแสดงออกของนักเรียน นิสิต นักศึกษา
หากตั้งคำถามว่า เลือกฝั่งไหน ระหว่างกฏใหม่กับเหตุผลนักศึกษา เพราะเหตุใด แล้วใช้หลักธรรมอะไร ที่เหมาะกับการแก้ปัญหานี้
สังคมส่วนใหญ่หากดูเพียงข่าวพาดหัวจะเอียงไปทางกฏใหม่มากกว่า เนื่องด้วยการเห็นภาพนักศึกษามั่วสุมทางอบายมุขเป็นส่วนมาก สร้างความวุ่นวาย แต่หากดูเจตนารมณ์ของกลุ่มนี้จะพบว่า เป็นเรื่องการจำกัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งผู้เขียนไม่แปลกใจเลย เพราะในวงการคณะสงฆ์ก็ถูกกระทำเช่นกันกับประเด็นเรื่อง พระจับเงิน เงินทอนวัด พรบ.สงฆ์ แล้วตั้งคนต่างศาสนาต่างสายงานคุมสำนักพุทธ
ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด แต่เป็นการเพิ่มปัญหา เพราะเป็นการออกกฏของนิติรัฐเพิ่มอำนาจให้กับ รัฐบาล ตุลาการ ในยุคที่เป็นเผด็จการ ที่ยังแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ จากข่าวร้ายมากมายในปัจจุบัน ที่เป็นเช่นนั้นตามหลักพุทธคือ สะท้อนในเรื่อง ธัมมิกสูตร ว่าด้วยผู้มีอำนาจรัฐประพฤติธรรม ทุกคนจะประพฤติธรรม ประชาชนจะมีสุข
ดังนั้น บทสรุปของการแก้ปัญหานี้ คือ ผู้มีอำนาจรัฐประพฤติธรรมเมื่อไหร่ จะสามารถแก้ได้ตรงจุด ตรงประเด็น เป็นที่ยกย่องเชิดชูที่ได้เข้ามาช่วยประเทศชาติเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา ไม่ได้ช่วยพวกพ้องแสวงหาผลประโยชน์ตามอำนาจกิเลสที่มีอยู่ในตน ภาพลักษณ์การประพฤติธรรม กาย วาจา ใจ จะนำพาชาติพ้นทุกข์ได้อย่างแน่นอน “กฏหมายที่ออกมาจะเป็นกรอบ ทางกาย วาจา ใจ ให้ดีงาม ไม่ใช่กรงคุมผู้ต่อต้านอำนาจที่ไม่ชอบธรรม” เป็นสิ่งที่น่าพิจารณา
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
B.S.
18 ส.ค. 2561
ตอน นักเรียนนักศึกษาขอยกเลิกกฏใหม่ สะท้อนหลักธรรมใด? กรอบหรือกรง?เวลา14.00-14.20 น.
https://youtu.be/q_VokmjJLUs
นักเรียนนักศึกษาขอยกเลิกกฏใหม่ สะท้อนหลักธรรมใด? กรอบหรือกรง?
เรื่อง นักเรียนนักศึกษาขอยกเลิกกฏใหม่ สะท้อนหลักธรรมใด? กรอบหรือกรง?
จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศ (สนท.) และสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ถือป้ายข้อความว่า “หยุด! ควบคุมเสรีภาพ นักเรียน นักศึกษา” และเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึก เรื่องข้อเรียกร้องถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ผ่านนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ.
เพื่อแก้มติครม.วันที่ 14 ส.ค. ตามข้อเสนอของศธ. มีสาระสำคัญต่างจากกฎกระทรวงฉบับก่อนหน้า 3 ประการ ดังนี้
1.ห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุม อันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน
2.ห้ามกระทำเกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวอันไม่เหมาะสม จากเดิมที่ห้ามเฉพาะการแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ
3.ห้ามกระทำเกี่ยวกับการออกนอกสถานที่พัก เพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่มอันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น จากเดิมห้ามเฉพาะเวลากลางคืน
สนท. เล็งเห็นว่าร่างกฎกระทรวงดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการศึกษาเรียนรู้ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เนื่องจากมีข้อบัญญัติซึ่งรุกล้ำความเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง อีกทั้งมีเนื้อความหมายกำกวมสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเครื่องมือปิดกั้นสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพทางการแสดงออกของนักเรียน นิสิต นักศึกษา
หากตั้งคำถามว่า เลือกฝั่งไหน ระหว่างกฏใหม่กับเหตุผลนักศึกษา เพราะเหตุใด แล้วใช้หลักธรรมอะไร ที่เหมาะกับการแก้ปัญหานี้
สังคมส่วนใหญ่หากดูเพียงข่าวพาดหัวจะเอียงไปทางกฏใหม่มากกว่า เนื่องด้วยการเห็นภาพนักศึกษามั่วสุมทางอบายมุขเป็นส่วนมาก สร้างความวุ่นวาย แต่หากดูเจตนารมณ์ของกลุ่มนี้จะพบว่า เป็นเรื่องการจำกัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งผู้เขียนไม่แปลกใจเลย เพราะในวงการคณะสงฆ์ก็ถูกกระทำเช่นกันกับประเด็นเรื่อง พระจับเงิน เงินทอนวัด พรบ.สงฆ์ แล้วตั้งคนต่างศาสนาต่างสายงานคุมสำนักพุทธ
ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด แต่เป็นการเพิ่มปัญหา เพราะเป็นการออกกฏของนิติรัฐเพิ่มอำนาจให้กับ รัฐบาล ตุลาการ ในยุคที่เป็นเผด็จการ ที่ยังแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ จากข่าวร้ายมากมายในปัจจุบัน ที่เป็นเช่นนั้นตามหลักพุทธคือ สะท้อนในเรื่อง ธัมมิกสูตร ว่าด้วยผู้มีอำนาจรัฐประพฤติธรรม ทุกคนจะประพฤติธรรม ประชาชนจะมีสุข
ดังนั้น บทสรุปของการแก้ปัญหานี้ คือ ผู้มีอำนาจรัฐประพฤติธรรมเมื่อไหร่ จะสามารถแก้ได้ตรงจุด ตรงประเด็น เป็นที่ยกย่องเชิดชูที่ได้เข้ามาช่วยประเทศชาติเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา ไม่ได้ช่วยพวกพ้องแสวงหาผลประโยชน์ตามอำนาจกิเลสที่มีอยู่ในตน ภาพลักษณ์การประพฤติธรรม กาย วาจา ใจ จะนำพาชาติพ้นทุกข์ได้อย่างแน่นอน “กฏหมายที่ออกมาจะเป็นกรอบ ทางกาย วาจา ใจ ให้ดีงาม ไม่ใช่กรงคุมผู้ต่อต้านอำนาจที่ไม่ชอบธรรม” เป็นสิ่งที่น่าพิจารณา
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
B.S.
18 ส.ค. 2561
ตอน นักเรียนนักศึกษาขอยกเลิกกฏใหม่ สะท้อนหลักธรรมใด? กรอบหรือกรง?เวลา14.00-14.20 น. https://youtu.be/q_VokmjJLUs