Danger Theory ทฤษฎีอันตราย บทที่2
(มีเนื้อหาหยาบคาย ไม่เหมาะสำหรับคนสุภาพ)
....คุณคิดว่า "นักเลง" หมายถึงอะไร? ในความหมายของคนทั่วไปคือวัยรุ่นหรือกลุ่มคนที่ชอบทำตัวมีปัญหา หรือพวกชอบสร้างความรำคาญให้กับคนอื่น วันๆทำแต่เรื่องไม่ดีจนเป็นที่รังเกียจ...ใช่หรือเปล่า?
เดี๋ยวผมจะเล่าให้คุณฟังเอง ว่าวิถีนักเลงที่แท้จริงมันเป็นยังไง...
...เนี่ยน่ะหรอ? ชุน สะพานสูง นักเลงชื่อดังของฝั่งนี้ เราได้ยินชื่อเสียงเรียงนามผู้ชายคนนี้มานานแล้วว่าเขากับหัวโจกคนก่อนเป็นเพื่อนสนิทกัน ก่อนที่หัวโจกคนนั้นจะเกมเรื่องยาและเขาก็ได้ขึ้นแทน...
...ผมลองประเมินสถานการณ์ดูแล้ว ต่อให้เรามือสิบมือเราก็ไม่รอด แต่ไม่ว่ายังไงผมกับเพื่อนก็ต้องหาทางกลับไปแบบมีชีวิตให้ได้...
คนชื่อชุนเดินมาประจัญหน้ากับผม ผมประหม่าพอสมควรแต่ยังทำใจดีสู้เสือเพื่อไม่ให้เพื่อนๆของผมใจเสีย ที่เหลือเริ่มเข้ามาล้อมพวกเรา เด็กๆของเขาก็หัวเราะเราอย่างสะใจ ผมได้แค่เจ็บแค้นที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนเฉยๆประเมินสถานการณ์
หลังจากที่ยืนจ้องหน้ากันจนเมื่อย บทสนทนาก็เริ่มขึ้นโดยรุ่นใหญ่ของฝั่งเขา
"เกินไปหรือเปล่าเนี่ยกิล? มาทำน้องผมในถิ่นผมแบบนี้คืออะไรหรอ?" พี่ชุนเปิดประเด็นขึ้นโดยการคุยกับสมาชิกคนนึงของแก๊งเรา
"ขอโทษนะครับพี่ชุน แต่พวกผมไม่รู้จริงๆว่ามันเป็นน้องพี่" กิลออกตัว แต่ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องจึงขยับเข้าไปหาพี่เขา
"ขอโทษทำไมกิล? น้องเขาลากเพื่อนเรามากระทืบที่ถิ่นเขา แบบนี้หรอที่เรียกว่านักเลง?" ผมพูดด้วยความโมโห แสยะยิ้มไปที่น้องพี่ชุน จนไม่ทันมองว่าที่เอวของรุ่นใหญ่แต่ละคนมีอาวุธหนัก ถ้าพูดไม่เข้าหูคงจะเป็นไข้โป้งแหงมๆ แต่ผมก็พูดความจริงไปเลยไม่ได้สนใจว่าต้องกลัวหรือเปล่า
"มืงพาเพื่อนเขามากระทืบจริงหรือเปล่าวะชิฟ?" พี่ชุนมองไปที่น้องตัวแสบ แล้วถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ฮ่าๆๆ ก็ตามนั้นแหละพี่ ก็เพื่อนแม๋งอ่ะกว..." มันยังพูดไม่ทันจบ รุ่นใหญ่คนหนึ่งที่อยู่ด้านขวาของพี่ชุนก็เตะเข้าไปที่ปากมันเต็มๆ
พวกผมได้แต่ยืนอึ้ง ไม่ใช่แค่พวกผมหรอกนะ พวกลิ่วล้อของไอชิฟก็เหวอเหมือนกัน
...พี่ชุนหันกลับมาที่พวกเรา กวาดตามองพวกเราทีละคนตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วจ้องมาที่ผม...
"นายไม่รู้จักเราใช่ไหมก๊อกบวก?" พี่ชุนถามผมด้วยควาสงสัยแล้วเลิกคิ้วขึ้น ผมประหลาดใจที่เขาไม่ได้รู้จักผมแค่ชื่อแต่รู้ยันชื่อวงในที่ผู้คนเรียกกัน ส่วนผมไม่เคยพบหรือได้เคยสนทนากับผู้ชายคนนี้เลย
ผมส่ายหน้าให้เขาเป็นคำตอบ พี่ชุนยิ้มและว่าต่อ
"ก๊อกสายบวก แห่งตรอกเสาเหล็ก แก๊งนายมีทั้งหมด 4 คน”
พี่เขาชี้ไปที่เพื่อนเราคนนึงที่นอนกองอยู่ที่พื้นอย่างหมดสภาพ
“นั่น...เรียวลุย คนที่ไอชิฟมันพามารุม ส่วนกิลเก๋า เรารู้จักกันดี และจิ๋วจ๊าบ ตัวเล็กสุดในกลุ่มคือคนนั้น ผมพูดถูกไหมก๊อก?" ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ยืนงงมากว่าพี่เขารู้ได้ไง?
เพราะพวกเราก็ไม่ได้โด่งดังอะไรขนาดนั้น
ผมหันไปมองกิลแบบมีความนัย แต่กิลส่ายหัวตอบกลับมา
"กิลไม่ได้บอกอะไรผมหรอก อยู่ฝั่งนั้นพวกคุณก็ไม่เบา ได้ยินมาว่าใจถึงไม่ยอมถอยกันเลย ชื่อเสียงก็มาถึงสะพานสูงเป็นเรื่องธรรมดา ผมเห็นกับตาก็วันนี้แหละ" พี่เขาชมเชยเราอย่างมีกัลยาณมิตร
"พูดเกินไปแล้วพี่ พวกผมก็ไม่เท่าไหร่หรอก ที่ผมข้ามถิ่นมาเพราะเพื่อนผมโดนเล่น" ผมตอบพี่เขาไปอย่างถ่อมตน ดั่งคนที่รู้จักกันมานาน
"เป็นผมก็คงทำแบบคุณเหมือนกัน ผมขอโทษแทนพวกมันด้วยล่ะ ผมสั่งสอนเด็กๆไม่ดีเอง แล้วเมื่อกี้ด้วยที่ทำให้พวกคุณตกใจ ถือว่าผมขอละกันนะ...ขอให้มันจบแค่ตรงนี้ได้ไหม? เราก็คนกันเองทั้งนั้น"
...พี่เขามองไปที่แก๊งน้องเขา
"พวกมืงอ่ะ!! ขอโทษพวกนี้ซะ มีกันเป็นฝูงแต่เอา 4 คนนี้ไม่อยู่ แล้วยังพาคนของเขามารุมในถิ่นตัวเอง นักเลงภาษาอะไรวะ? ทำแบบนี้ก็แค่ลูกหมาที่อยู่กันเป็นฝูง เสียชื่อเด็กสะพานสูงหมด!! พิจารณาตัวเองมั่งนะ!!!" พี่เขาตะโกนแสกเข้าหน้าพวกมัน จนพวกมันทุกคนก้มหน้า
"โดยเฉพาะมืงนะชิฟ!!! ต่อไปนี้กะพวกมืงกะคนของมืงไม่ถือว่าขึ้นตรงกะพวกกุอีก ใครทำพวกกุเสียชื่อ มันต้องเสียชีวิตไม่ก็ต้องเสียอนาคต!! แต่กุยกให้เพราะยังเห็นว่ามืงเป็นน้องแท้ๆของกุ มีครั้งต่อไปอย่าหาว่าไม่เตือน!!!"
พวกไอชิฟก็รีบขอโทษผมแบบไม่เต็มใจและกล้ำกลืน
ผมได้ยินแล้วก็ไม่ได้รู้สึกยินดีเท่าไหร่แต่ก็รู้สึกได้ว่าพี่ชุนเขาเป็นคนจริงที่เด็ดขาดและน่าคบหาไว้คนหนึ่ง ส่วนไอชิฟมันก็สมควรแล้วที่ได้รับผลที่มันทำกะเรียว
"งั้นพวกผมขอตัวนะครับ" ผมบอกลากพวกพี่เขา ก่อนที่พี่ชุนจะทิ้งท้าย...
"เราชอบความใจนักเลงของพวกนาย ถ้ามีอะไรให้เราช่วยก็ส่งสัญญาณมาได้ เป็นไปได้เราอยากให้พวกนายมาอยู่กับพวกเรา"
ผมได้แต่ยิ้มและตอบกลับไป...
"ผมมีเส้นทางของผมน่ะพี่ หวังว่าเราคงไม่ต้องปะทะกันอีกแบบวันนี้ก็พอ แค่ที่ตรอกเสาเหล็กก็วุ่นวายพอละครับ ผมลาล่ะครับ" ผมโค้งเบาๆให้พวกพี่ๆเขาก่อนจะสาวท้าวกับเพื่อนขึ้นสะพานเพื่อข้ามฝั่งกลับไปตรอกเสาเหล็ก โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังจะมีเหตุการณ์ใหญ่กำลังจะเกิดในไม่ช้านี้...
"น่าสนใจนะเด็กคนนี้แต่ก็ไม่ควรเก็บไว้ให้เป็นเสี้ยนหนาม ภายภาคหน้าคงจะเป็นภัยกับเรา" มือขวาของชุนกล่าวกับเขา
"ผมวัดกันที่ใจ...คุณก็รู้" ชุนตอบกลับไปแบบนิ่งสงบ
มีต่อ...
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ✌😊🙏
เรื่องโดย: ข้าวเตี๋ยว
จอบอ...คัท!!! 👋🎬
ปล.ตั้งกระทู้พูดคุยไม่ได้เลยตั้งเป็นกระทู้คำถามแทนครับ
Danger Theory ทฤษฎีอันตราย บทที่2
(มีเนื้อหาหยาบคาย ไม่เหมาะสำหรับคนสุภาพ)
....คุณคิดว่า "นักเลง" หมายถึงอะไร? ในความหมายของคนทั่วไปคือวัยรุ่นหรือกลุ่มคนที่ชอบทำตัวมีปัญหา หรือพวกชอบสร้างความรำคาญให้กับคนอื่น วันๆทำแต่เรื่องไม่ดีจนเป็นที่รังเกียจ...ใช่หรือเปล่า?
เดี๋ยวผมจะเล่าให้คุณฟังเอง ว่าวิถีนักเลงที่แท้จริงมันเป็นยังไง...
...เนี่ยน่ะหรอ? ชุน สะพานสูง นักเลงชื่อดังของฝั่งนี้ เราได้ยินชื่อเสียงเรียงนามผู้ชายคนนี้มานานแล้วว่าเขากับหัวโจกคนก่อนเป็นเพื่อนสนิทกัน ก่อนที่หัวโจกคนนั้นจะเกมเรื่องยาและเขาก็ได้ขึ้นแทน...
...ผมลองประเมินสถานการณ์ดูแล้ว ต่อให้เรามือสิบมือเราก็ไม่รอด แต่ไม่ว่ายังไงผมกับเพื่อนก็ต้องหาทางกลับไปแบบมีชีวิตให้ได้...
คนชื่อชุนเดินมาประจัญหน้ากับผม ผมประหม่าพอสมควรแต่ยังทำใจดีสู้เสือเพื่อไม่ให้เพื่อนๆของผมใจเสีย ที่เหลือเริ่มเข้ามาล้อมพวกเรา เด็กๆของเขาก็หัวเราะเราอย่างสะใจ ผมได้แค่เจ็บแค้นที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนเฉยๆประเมินสถานการณ์
หลังจากที่ยืนจ้องหน้ากันจนเมื่อย บทสนทนาก็เริ่มขึ้นโดยรุ่นใหญ่ของฝั่งเขา
"เกินไปหรือเปล่าเนี่ยกิล? มาทำน้องผมในถิ่นผมแบบนี้คืออะไรหรอ?" พี่ชุนเปิดประเด็นขึ้นโดยการคุยกับสมาชิกคนนึงของแก๊งเรา
"ขอโทษนะครับพี่ชุน แต่พวกผมไม่รู้จริงๆว่ามันเป็นน้องพี่" กิลออกตัว แต่ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องจึงขยับเข้าไปหาพี่เขา
"ขอโทษทำไมกิล? น้องเขาลากเพื่อนเรามากระทืบที่ถิ่นเขา แบบนี้หรอที่เรียกว่านักเลง?" ผมพูดด้วยความโมโห แสยะยิ้มไปที่น้องพี่ชุน จนไม่ทันมองว่าที่เอวของรุ่นใหญ่แต่ละคนมีอาวุธหนัก ถ้าพูดไม่เข้าหูคงจะเป็นไข้โป้งแหงมๆ แต่ผมก็พูดความจริงไปเลยไม่ได้สนใจว่าต้องกลัวหรือเปล่า
"มืงพาเพื่อนเขามากระทืบจริงหรือเปล่าวะชิฟ?" พี่ชุนมองไปที่น้องตัวแสบ แล้วถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ฮ่าๆๆ ก็ตามนั้นแหละพี่ ก็เพื่อนแม๋งอ่ะกว..." มันยังพูดไม่ทันจบ รุ่นใหญ่คนหนึ่งที่อยู่ด้านขวาของพี่ชุนก็เตะเข้าไปที่ปากมันเต็มๆ
พวกผมได้แต่ยืนอึ้ง ไม่ใช่แค่พวกผมหรอกนะ พวกลิ่วล้อของไอชิฟก็เหวอเหมือนกัน
...พี่ชุนหันกลับมาที่พวกเรา กวาดตามองพวกเราทีละคนตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วจ้องมาที่ผม...
"นายไม่รู้จักเราใช่ไหมก๊อกบวก?" พี่ชุนถามผมด้วยควาสงสัยแล้วเลิกคิ้วขึ้น ผมประหลาดใจที่เขาไม่ได้รู้จักผมแค่ชื่อแต่รู้ยันชื่อวงในที่ผู้คนเรียกกัน ส่วนผมไม่เคยพบหรือได้เคยสนทนากับผู้ชายคนนี้เลย
ผมส่ายหน้าให้เขาเป็นคำตอบ พี่ชุนยิ้มและว่าต่อ
"ก๊อกสายบวก แห่งตรอกเสาเหล็ก แก๊งนายมีทั้งหมด 4 คน”
พี่เขาชี้ไปที่เพื่อนเราคนนึงที่นอนกองอยู่ที่พื้นอย่างหมดสภาพ
“นั่น...เรียวลุย คนที่ไอชิฟมันพามารุม ส่วนกิลเก๋า เรารู้จักกันดี และจิ๋วจ๊าบ ตัวเล็กสุดในกลุ่มคือคนนั้น ผมพูดถูกไหมก๊อก?" ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ยืนงงมากว่าพี่เขารู้ได้ไง?
เพราะพวกเราก็ไม่ได้โด่งดังอะไรขนาดนั้น
ผมหันไปมองกิลแบบมีความนัย แต่กิลส่ายหัวตอบกลับมา
"กิลไม่ได้บอกอะไรผมหรอก อยู่ฝั่งนั้นพวกคุณก็ไม่เบา ได้ยินมาว่าใจถึงไม่ยอมถอยกันเลย ชื่อเสียงก็มาถึงสะพานสูงเป็นเรื่องธรรมดา ผมเห็นกับตาก็วันนี้แหละ" พี่เขาชมเชยเราอย่างมีกัลยาณมิตร
"พูดเกินไปแล้วพี่ พวกผมก็ไม่เท่าไหร่หรอก ที่ผมข้ามถิ่นมาเพราะเพื่อนผมโดนเล่น" ผมตอบพี่เขาไปอย่างถ่อมตน ดั่งคนที่รู้จักกันมานาน
"เป็นผมก็คงทำแบบคุณเหมือนกัน ผมขอโทษแทนพวกมันด้วยล่ะ ผมสั่งสอนเด็กๆไม่ดีเอง แล้วเมื่อกี้ด้วยที่ทำให้พวกคุณตกใจ ถือว่าผมขอละกันนะ...ขอให้มันจบแค่ตรงนี้ได้ไหม? เราก็คนกันเองทั้งนั้น"
...พี่เขามองไปที่แก๊งน้องเขา
"พวกมืงอ่ะ!! ขอโทษพวกนี้ซะ มีกันเป็นฝูงแต่เอา 4 คนนี้ไม่อยู่ แล้วยังพาคนของเขามารุมในถิ่นตัวเอง นักเลงภาษาอะไรวะ? ทำแบบนี้ก็แค่ลูกหมาที่อยู่กันเป็นฝูง เสียชื่อเด็กสะพานสูงหมด!! พิจารณาตัวเองมั่งนะ!!!" พี่เขาตะโกนแสกเข้าหน้าพวกมัน จนพวกมันทุกคนก้มหน้า
"โดยเฉพาะมืงนะชิฟ!!! ต่อไปนี้กะพวกมืงกะคนของมืงไม่ถือว่าขึ้นตรงกะพวกกุอีก ใครทำพวกกุเสียชื่อ มันต้องเสียชีวิตไม่ก็ต้องเสียอนาคต!! แต่กุยกให้เพราะยังเห็นว่ามืงเป็นน้องแท้ๆของกุ มีครั้งต่อไปอย่าหาว่าไม่เตือน!!!"
พวกไอชิฟก็รีบขอโทษผมแบบไม่เต็มใจและกล้ำกลืน
ผมได้ยินแล้วก็ไม่ได้รู้สึกยินดีเท่าไหร่แต่ก็รู้สึกได้ว่าพี่ชุนเขาเป็นคนจริงที่เด็ดขาดและน่าคบหาไว้คนหนึ่ง ส่วนไอชิฟมันก็สมควรแล้วที่ได้รับผลที่มันทำกะเรียว
"งั้นพวกผมขอตัวนะครับ" ผมบอกลากพวกพี่เขา ก่อนที่พี่ชุนจะทิ้งท้าย...
"เราชอบความใจนักเลงของพวกนาย ถ้ามีอะไรให้เราช่วยก็ส่งสัญญาณมาได้ เป็นไปได้เราอยากให้พวกนายมาอยู่กับพวกเรา"
ผมได้แต่ยิ้มและตอบกลับไป...
"ผมมีเส้นทางของผมน่ะพี่ หวังว่าเราคงไม่ต้องปะทะกันอีกแบบวันนี้ก็พอ แค่ที่ตรอกเสาเหล็กก็วุ่นวายพอละครับ ผมลาล่ะครับ" ผมโค้งเบาๆให้พวกพี่ๆเขาก่อนจะสาวท้าวกับเพื่อนขึ้นสะพานเพื่อข้ามฝั่งกลับไปตรอกเสาเหล็ก โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังจะมีเหตุการณ์ใหญ่กำลังจะเกิดในไม่ช้านี้...
"น่าสนใจนะเด็กคนนี้แต่ก็ไม่ควรเก็บไว้ให้เป็นเสี้ยนหนาม ภายภาคหน้าคงจะเป็นภัยกับเรา" มือขวาของชุนกล่าวกับเขา
"ผมวัดกันที่ใจ...คุณก็รู้" ชุนตอบกลับไปแบบนิ่งสงบ
มีต่อ...
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ✌😊🙏
เรื่องโดย: ข้าวเตี๋ยว
จอบอ...คัท!!! 👋🎬
ปล.ตั้งกระทู้พูดคุยไม่ได้เลยตั้งเป็นกระทู้คำถามแทนครับ