ในโฉนดที่ดินเป็นชื่อพี่น้องรวมทั้งหมด 4 คน ส่วนแม่ก็เป็นเจ้าของบ้านแต่เป็นคนเดียวที่ไม่มีชื่อในโฉนดที่ดินของบ้าน ตอนซื้อบ้านได้ให้น้องชายคนโตซึ่งเป็นลูกคนที่ 3 เป็นเจ้าบ้าน ด้วยเหตุผลว่าเพื่อความสะดวก ส่วนดิฉันลูกสาวคนโต น้องสาวคนรอง น้องชายคนเล็ก และแม่ มีชื่อในทะเบียนบ้านเป็นผู้อาศัย หลังซื้อบ้านน้องชายคนโตและน้องชายคนเล็กยังช่วยแม่ทำกิจการโรงงานทำขนมปังเล็ก ๆ ในบริเวณบ้านอยู่ในตอนนั้น ต่อมาแม่ได้เลิกกิจการโรงงานเพราะทำต่อไม่ไหว ลูก ๆ แต่ละคนก็แยกย้ายกันไปหางานทำตามความถนัดของตน
ต่อมาลูกชายซึ่งเป็นลูกคนที่ 3 ลาออกจากงานเป็นลูกจ้างบริษัทอัลลอยด์ เพราะต้องการเป็นเจ้าของกิจการของตัวเอง ได้เริ่มเอาบ้านของพี่น้องส่วนรวม มาทำดัดแปลงเปลี่ยนแปลงเป็นโรงงานทำเหล็กดัด อัลลอยด์ มีการพ่นสี เคาะเหล็กดัด ซึ่งการเอาบ้านมาดัดแปลง ไม่เคยขอความยินยอมจากพี่น้องคนอื่นและแม่เลย ดิฉันซึ่งเป็นพี่สาวและน้องสาวคนรองและน้องชายคนเล็กก็ไม่เคยยินยอมให้เขาเอาบ้านมาทำเป็นทำโรงงาน เพราะมีเสียดังรบกวนจากการเจียเหล็ก และมีกลิ่นเหม็นจากการพ่นสี ตอนนั้นแม่ยังมีรายได้จากการให้เช่าห้องพักซึ่งอยู่ในบริเวณบ้าน 4 ห้อง เพื่อไว้ใช้จ่ายค่าน้ำและค่าไฟ ซึ่งหลังจากน้องชายคนนี้นำบ้านมาเป็นโรงงาน ก็ได้รับการร้องเรียนจากผู้เช่าบ้าน เพราะทนกลิ่นเหม็น และเสียดังไม่ไหว จนต้องย้ายหนีกันไปหมด ดิฉันได้บอกกล่าวว่ากับน้องชายคนนี้ว่าไม่ควรเอาบ้านส่วนรวมมาดัดแปลงเป็นโรงงาน เพราะเป็นที่พักอาศัยและไม่เหมาะ แต่เขาไม่เชื่อฟัง จึงเกิดการทะเลาะวิวาทกันระหว่างพี่น้องและแม่ ตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้เขายังได้ยึดห้องเช่า เอาไปเป็นที่พักคนงานของเขาเอง โดยไม่เคยจ่ายค่าเช่าหรือเงินตอบแทนใด ๆ ให้แก่แม่เลย แถมตัวบ้านก็เสื่อมโทรม และสกปรก จากการประกอบกิจการอีกด้วย
พอมีเรื่องทะเลาะกันหนักเขาก็ใช้สิทธิการเป็นเจ้าบ้านย้ายชื่อของดิฉันออกจากทะเบียนบ้านโดยพละการ ทำให้ดิฉันมีปัญหาในการต่อบัตรประชาชน
เวลาเขาไม่พอใจพี่น้องคนใด เขาก็จะย้ายชื่อคนนั้นออกจากทะเบียนบ้าน ส่วนตัวเขาเองได้นำรายได้จากการนำบ้านไปประกอบกิจการไปชื่อบ้านและที่ดินในที่ต่าง ๆ เป็นชื่อตัวเอง แต่ก็ยังไม่ยอมย้ายออกจากการเป็นเจ้าบ้านในที่ดินส่วนรวมนี้ แถมยังเอาลูกนอกสมรส ย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้านส่วนรวมอีก ทั้งที่เขาก็มีบ้านเองอยู่แล้ว
ตอนนี้ดิฉันและน้องสาว น้องชายคนเล็ก และแม่ ต้องการเปลี่ยนตัวเจ้าบ้านเป็นชื่อแม่ เพราะคิดว่าแม่เป็นกลางที่สุด พวกเราพยายามคุยกับน้องชายคนนี้แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เขาไม่ยอมเลยคะ ถึงแม้แม่จะร้องไห้อ้อนวอนเขาอย่างไรเขาก็ไม่ยอมออกจากการเป็นเจ้าบ้านคะ
อยากถามว่าในกรณีนี้ ทำอย่างไรจึงจะเปลี่ยนตัวเจ้าบ้านจากน้องชายคนโตเป็นแม่ได้คะ เคยถามทางอำเภอแล้วเขาบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ หากเจ้าตัวคนที่เป็นเจ้าบ้านไม่ยินยอม หากเป็นแบบนี้เขาก็สามารถย้ายทุกคนออกจากบ้านได้โดยพละการอย่างนั้นหรือ ทุกวันนี้พี่น้องทุกคนเอือมระอาต่อการกระทำของน้องชายคนนี้มากคะ
ต้องการเปลี่ยนชื่อเจ้าบ้านในทะเบียนบ้านจากน้องชายคนโตเป็นแม่
ต่อมาลูกชายซึ่งเป็นลูกคนที่ 3 ลาออกจากงานเป็นลูกจ้างบริษัทอัลลอยด์ เพราะต้องการเป็นเจ้าของกิจการของตัวเอง ได้เริ่มเอาบ้านของพี่น้องส่วนรวม มาทำดัดแปลงเปลี่ยนแปลงเป็นโรงงานทำเหล็กดัด อัลลอยด์ มีการพ่นสี เคาะเหล็กดัด ซึ่งการเอาบ้านมาดัดแปลง ไม่เคยขอความยินยอมจากพี่น้องคนอื่นและแม่เลย ดิฉันซึ่งเป็นพี่สาวและน้องสาวคนรองและน้องชายคนเล็กก็ไม่เคยยินยอมให้เขาเอาบ้านมาทำเป็นทำโรงงาน เพราะมีเสียดังรบกวนจากการเจียเหล็ก และมีกลิ่นเหม็นจากการพ่นสี ตอนนั้นแม่ยังมีรายได้จากการให้เช่าห้องพักซึ่งอยู่ในบริเวณบ้าน 4 ห้อง เพื่อไว้ใช้จ่ายค่าน้ำและค่าไฟ ซึ่งหลังจากน้องชายคนนี้นำบ้านมาเป็นโรงงาน ก็ได้รับการร้องเรียนจากผู้เช่าบ้าน เพราะทนกลิ่นเหม็น และเสียดังไม่ไหว จนต้องย้ายหนีกันไปหมด ดิฉันได้บอกกล่าวว่ากับน้องชายคนนี้ว่าไม่ควรเอาบ้านส่วนรวมมาดัดแปลงเป็นโรงงาน เพราะเป็นที่พักอาศัยและไม่เหมาะ แต่เขาไม่เชื่อฟัง จึงเกิดการทะเลาะวิวาทกันระหว่างพี่น้องและแม่ ตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้เขายังได้ยึดห้องเช่า เอาไปเป็นที่พักคนงานของเขาเอง โดยไม่เคยจ่ายค่าเช่าหรือเงินตอบแทนใด ๆ ให้แก่แม่เลย แถมตัวบ้านก็เสื่อมโทรม และสกปรก จากการประกอบกิจการอีกด้วย
พอมีเรื่องทะเลาะกันหนักเขาก็ใช้สิทธิการเป็นเจ้าบ้านย้ายชื่อของดิฉันออกจากทะเบียนบ้านโดยพละการ ทำให้ดิฉันมีปัญหาในการต่อบัตรประชาชน
เวลาเขาไม่พอใจพี่น้องคนใด เขาก็จะย้ายชื่อคนนั้นออกจากทะเบียนบ้าน ส่วนตัวเขาเองได้นำรายได้จากการนำบ้านไปประกอบกิจการไปชื่อบ้านและที่ดินในที่ต่าง ๆ เป็นชื่อตัวเอง แต่ก็ยังไม่ยอมย้ายออกจากการเป็นเจ้าบ้านในที่ดินส่วนรวมนี้ แถมยังเอาลูกนอกสมรส ย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้านส่วนรวมอีก ทั้งที่เขาก็มีบ้านเองอยู่แล้ว
ตอนนี้ดิฉันและน้องสาว น้องชายคนเล็ก และแม่ ต้องการเปลี่ยนตัวเจ้าบ้านเป็นชื่อแม่ เพราะคิดว่าแม่เป็นกลางที่สุด พวกเราพยายามคุยกับน้องชายคนนี้แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เขาไม่ยอมเลยคะ ถึงแม้แม่จะร้องไห้อ้อนวอนเขาอย่างไรเขาก็ไม่ยอมออกจากการเป็นเจ้าบ้านคะ
อยากถามว่าในกรณีนี้ ทำอย่างไรจึงจะเปลี่ยนตัวเจ้าบ้านจากน้องชายคนโตเป็นแม่ได้คะ เคยถามทางอำเภอแล้วเขาบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ หากเจ้าตัวคนที่เป็นเจ้าบ้านไม่ยินยอม หากเป็นแบบนี้เขาก็สามารถย้ายทุกคนออกจากบ้านได้โดยพละการอย่างนั้นหรือ ทุกวันนี้พี่น้องทุกคนเอือมระอาต่อการกระทำของน้องชายคนนี้มากคะ