สถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยดีขึ้น ชี้คนมีจิตสำนึกดีที่สุดในรอบ 8ปี

ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยเดือนมิ.ย.61 อยู่ที่ 55 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือนธ.ค.60 ชี้ดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกอยู่ที่ 64 ปรับดีต่อเนื่องและสูงสุดรอบ 8 ปี เหตุได้อานิสงส์จากการปราบปรามทุจริตเงินทอนวัด อาหารกลางเด็ก ขณะที่จ่ายเงินใต้โต๊ะลดลงเหลือ 20-25% ของงบประมาณ
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (CSI) ที่สำรวจเดือนมิ.ย.61 จากกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม รวม 2,400 ตัวอย่าง ทั้งประชาชน, ผู้ประกอบการ/ภาคเอกชน และข้าราชการ/ภาครัฐ ว่า ค่าดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยอยู่ที่ 55 ดีขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนในเดือนธ.ค.60 ที่อยู่ระดับ 52 ส่วนดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยในปัจจุบัน อยู่ที่ 54 เพิ่มขึ้นจาก 51 ในการสำรวจครั้งก่อน และดัชนีแนวโน้มสถานการณ์คอร์รัปชันไทย อยู่ที่ 57 เพิ่มขึ้นจาก 53
ขณะที่ดัชนีปัญหาและความรุนแรงของการคอร์รัปชัน อยู่ที่ 48 แม้ว่าจะดีขึ้นจากครั้งก่อนที่อยู่42 แต่ยังต่ำกว่า 50 สะท้อนว่าประชาชนยังคงมีความกังวลอยู่ แต่หวังว่าสถานการณ์ความรุนแรงจะคลี่คลายลงในปีหน้า, ดัชนีการป้องกันการคอร์รัปชัน อยู่ที่ 54 เพิ่มขึ้นจาก 53, ดัชนีการปราบปรามการคอร์รัปชัน อยู่ที่ 55 เท่ากับการสำรวจครั้งก่อน และดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกอยู่ที่ 64 ดีขึ้น 4 ปีติดต่อกัน และยังเป็นค่าดัชนีสูงสุดในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่ทำการสำรวจในปี 53
”สาเหตุของการคอร์รัปชัน ส่วนใหญ่เกิดจากความล่าช้า/ความยุ่งยากในขั้นตอนการดำเนินงานของราชการ, กฎหมายเปิดช่องเอื้อต่อการทุจริต และความไม่เข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมาย โดยรูปแบบที่พบในการทุจริตส่วนใหญ่เป็นการให้สินบน การทุจริตเชิงนโยบาย และการใช้ตำแหน่งทางการเมืองเอื้อประโยชน์แก่พรรคพวก”
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงเห็นด้วยหรือไม่ว่าการทุจริตเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เกี่ยวกับตัวเองโดยตรง ผู้ตอบส่วนใหญ่ถึง 99% ตอบไม่เห็นด้วย ขณะที่เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลทุจริตแต่มีผลวานและทำประโยชน์ให้สังคมเป็นเรื่องที่รับได้ ผู้ตอบส่วนใหญ่ถึง 99% นอกจากนี้ เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ว่า การให้สินน้ำใจ (เงินพิเศษ) เล็กๆ น้อยๆ แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเรื่องไม่เสียหาย ผู้ตอบ 98% ตอบไม่เห็นด้วย
”ส่วนความสามารถที่คนไทยจะทานทนต่อการทุจริต การสำรวจครั้งนี้ได้ 1.87 คะแนน จากเต็ม 10 หมายความว่า คนไทยเกลียดการทุจริต และแทบจะรับไม่ได้ ซึ่งคะแนนเข้าใกล้ 0 (เกลียดการทุจริต และ 10 คะแนน ทนต่อการทุจริตได้) จากครั้งก่อนที่ได้ 2.03 คะแนน และคนไทยยินดีมีส่วนร่วมป้องกันปัญหา และต่อต้านการทุจริตมากขึ้น”
สำหรับคะแนนดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันของไทยในปี 60 อยู่ที่ 37 คะแนน จาก 35คะแนน ในปี 59 โดยอยู่ในอันดับที่ 96 จาก 180 ประเทศทั่วโลก และอันดับ 17 ในเอเชีย โดยดีขึ้นจากปี 59 ที่อยู่อันดับ 101 ของโลก และอันดับ 19 ของเอเชีย
ด้านนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีคอร์รัปชันภาพรวมดีขึ้นจากปีก่อน เพราะทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหา หลังจากนี้ หากมีการทุจริตเกิดขึ้นอีก แล้วรัฐบาลไม่เร่งแก้ไข อาจทำให้ภาพลักษณ์และดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยลดลงได้ โดยค่าดัชนีที่ดีขึ้น ส่วนใหญ่ได้อานิสงส์จากภาพการปราบปรามทุจริตเงินทอนวัด กองทุนพัฒนาเสมาชีวิต โครงการเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง เงินอาหารกลางวันเด็ก
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เปอร์เซ็นต์การจ่ายสินบนใต้โต๊ะในโครงการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐ มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน ที่มีการจ่ายในระดับ 25-35% ของวงเงินงบประมาณ แต่จากข้อมูลเบื้องต้นที่เก็บได้ พบว่า ส่วนใหญ่มีสัดส่วนการจ่ายสินบนใต้โต๊ะอยู่ที่ 20-25% ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการแก้ปัญหาการทุจริต และการจ่ายสินบนใต้โต๊ะของประเทศไทย
https://www.thaipost.net/main/detail/15581
ดัชนีคอร์รัปชั่นไทยดีขึ้นต่อเนื่อง
กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – ดัชนีคอร์รัปชั่นไทยครึ่งปีแรกปรับตัวดีขึ้นจากสิ้นปี 60 ขณะที่ดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกดีที่สุดในรอบ 8 ปี นับจากปี 53
หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (Corruption Situation Index : CSI) ครึ่งปีแรกปี 2561 นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า CSI ในช่วงครึ่งปีแรก หรือเดือนมิถุนายน 2561 พบว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยปรับตัวดีขึ้น โดยค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 52 ปรับดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 55
สำหรับผลสำรวจครั้งนี้อยู่ในช่วงของการแก้ไขปัญหาเงินทอนวัด การออกกฎหมายใหม่ คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ทำให้ประชาชนรู้สึกดีขึ้น แต่ยังไม่รวมสถานการณ์คอร์รัปชั่นปัจจุบันที่มีปัญหาการจัดซื้อดาวเทียมสำรวจ เพื่อการพัฒนา (THEOS-2) วงเงิน 7,000 ล้านบาท ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ซึ่งคณะผู้สังเกตการณ์อิสระ 6 ราย ที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ส่งเข้าไปร่วมสังเกตการณ์โครงการนี้ลาออกทั้งคณะ
ด้านดัชนีปัญหาและความรุนแรงของการคอร์รัปชั่น พบว่า ดีขึ้นกว่าปี 2560 เช่นกัน ค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 42 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 48 ด้านดัชนีปราบปรามการคอร์รัปชั่นก็ดีขึ้นเช่นกัน ค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 53 มาอยู่ที่ 55 ดัชนีการป้องกันการคอร์รัปชั่น ค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 53 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 54 แต่สิ่งที่ปรับขึ้นดีที่สุด คือ ดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกดีที่สุดในรอบ 8 ปี นับจากปี 2553 โดยดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 62 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 64 โดยเฉพาะแนวโน้มการสร้างจิตสำนึกเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 66 มาอยู่ที่ 68 ส่วนสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการคอร์รัปชั่น คือ ความล่าช้ายุ่งยากของขั้นตอนการดำเนินการของราชการ ทำให้ข้าราชการมีโอกาสและความไม่เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย
สำหรับรูปแบบของการคอร์รัปชั่น พบมากสุด คือ ให้สินบน ของกำนัล หรือรางวัลต่าง ๆ ด้านทัศนคติและจิตสำนึกต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นพบว่าประชาชนร้อยละ 99 ไม่เห็นด้วยว่าการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป และยังพบว่าประชาชนร้อยละ 99 ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่มีผลงานและทำประโยชน์ให้สังคมเป็นเรื่องที่รับได้ ด้านความสามารถทานทนต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น พบว่าความทานทนลดลง โดยค่าดัชนีลดลงจากอยู่ที่ระดับ 2.03 ในช่วงสำรวจเดือนธันวาคม 2560 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.87 ด้านประสิทธิภาพการทำงานในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นของ ป.ป.ช. มิ.ย.2561 พบว่า ร้อยละ 54 เห็นว่า มีประสิทธิภาพ ขณะที่ร้อยละ 31 เห็นว่ามีประสิทธิภาพปานกลาง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สถานการณ์คอร์รัปชั่นของไทยจะต้องได้รับการแก้ไข คาดว่าสถานการณ์ปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น
นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า การที่รัฐบาลมีคำสั่งปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีตัวแทนภาคเอกชน เช่น นายประมนต์ สุธีวงศ์ ตัวแทนเอกชนเข้าร่วมด้วยนั้น นับเป็นการแสดงเจตจำนงค์ของรัฐบาลที่ตั้งใจแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น ซึ่งน่าจะปรับดีขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย
http://www.mcot.net/view/5b7524f9e3f8e40adcf4e7aa?utm_source=TNA&utm_medium=TOPNEWS&utm_campaign=fixtna
ในที่สุดความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่ประเทศไทยค่ะ
รัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาคอรับชั่นให้ดีขึ้นได้
โดยคนไทยเริ่มมีจิตสำนึกที่ดี ที่สุดในรอบ 8 ปี
สังคมดีๆจะมีในบ้านเมืองของเราแล้วค่ะ
เหมือนสังคมในห้องราชดำเนินเลยนะคะ คนที่คิดดีๆเริ่มมีเข้ามากันไม่น้อย
มีจิตสำนึกช่วยทำให้สังคมมีคุณธรรม รังเกียจการทำเลว ประนามคนทำไม่ดี
ไม่ยอมให้มีการบิดเบือนใส่ร้ายกัน ช่วยกันต่อต้านไม่เอาคนโกหก
ตัวเราเองต้องยืนหยัดยึดมั่นเพื่อความถูกต้องด้วยนะคะ
สู้ๆค่ะ...


ยินดีกับรัฐบาลลุงตู่ด้วยนะคะ...






✏~มาลาริน~ไม่มีอะไรที่รัฐบาลลุงตู่จะทำไม่ได้ ...สถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยดีขึ้น ชี้คนมีจิตสำนึกดีที่สุดในรอบ 8 ปี
สถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยดีขึ้น ชี้คนมีจิตสำนึกดีที่สุดในรอบ 8ปี
ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยเดือนมิ.ย.61 อยู่ที่ 55 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือนธ.ค.60 ชี้ดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกอยู่ที่ 64 ปรับดีต่อเนื่องและสูงสุดรอบ 8 ปี เหตุได้อานิสงส์จากการปราบปรามทุจริตเงินทอนวัด อาหารกลางเด็ก ขณะที่จ่ายเงินใต้โต๊ะลดลงเหลือ 20-25% ของงบประมาณ
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (CSI) ที่สำรวจเดือนมิ.ย.61 จากกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม รวม 2,400 ตัวอย่าง ทั้งประชาชน, ผู้ประกอบการ/ภาคเอกชน และข้าราชการ/ภาครัฐ ว่า ค่าดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยอยู่ที่ 55 ดีขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนในเดือนธ.ค.60 ที่อยู่ระดับ 52 ส่วนดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยในปัจจุบัน อยู่ที่ 54 เพิ่มขึ้นจาก 51 ในการสำรวจครั้งก่อน และดัชนีแนวโน้มสถานการณ์คอร์รัปชันไทย อยู่ที่ 57 เพิ่มขึ้นจาก 53
ขณะที่ดัชนีปัญหาและความรุนแรงของการคอร์รัปชัน อยู่ที่ 48 แม้ว่าจะดีขึ้นจากครั้งก่อนที่อยู่42 แต่ยังต่ำกว่า 50 สะท้อนว่าประชาชนยังคงมีความกังวลอยู่ แต่หวังว่าสถานการณ์ความรุนแรงจะคลี่คลายลงในปีหน้า, ดัชนีการป้องกันการคอร์รัปชัน อยู่ที่ 54 เพิ่มขึ้นจาก 53, ดัชนีการปราบปรามการคอร์รัปชัน อยู่ที่ 55 เท่ากับการสำรวจครั้งก่อน และดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกอยู่ที่ 64 ดีขึ้น 4 ปีติดต่อกัน และยังเป็นค่าดัชนีสูงสุดในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่ทำการสำรวจในปี 53
”สาเหตุของการคอร์รัปชัน ส่วนใหญ่เกิดจากความล่าช้า/ความยุ่งยากในขั้นตอนการดำเนินงานของราชการ, กฎหมายเปิดช่องเอื้อต่อการทุจริต และความไม่เข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมาย โดยรูปแบบที่พบในการทุจริตส่วนใหญ่เป็นการให้สินบน การทุจริตเชิงนโยบาย และการใช้ตำแหน่งทางการเมืองเอื้อประโยชน์แก่พรรคพวก”
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงเห็นด้วยหรือไม่ว่าการทุจริตเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เกี่ยวกับตัวเองโดยตรง ผู้ตอบส่วนใหญ่ถึง 99% ตอบไม่เห็นด้วย ขณะที่เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลทุจริตแต่มีผลวานและทำประโยชน์ให้สังคมเป็นเรื่องที่รับได้ ผู้ตอบส่วนใหญ่ถึง 99% นอกจากนี้ เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ว่า การให้สินน้ำใจ (เงินพิเศษ) เล็กๆ น้อยๆ แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเรื่องไม่เสียหาย ผู้ตอบ 98% ตอบไม่เห็นด้วย
”ส่วนความสามารถที่คนไทยจะทานทนต่อการทุจริต การสำรวจครั้งนี้ได้ 1.87 คะแนน จากเต็ม 10 หมายความว่า คนไทยเกลียดการทุจริต และแทบจะรับไม่ได้ ซึ่งคะแนนเข้าใกล้ 0 (เกลียดการทุจริต และ 10 คะแนน ทนต่อการทุจริตได้) จากครั้งก่อนที่ได้ 2.03 คะแนน และคนไทยยินดีมีส่วนร่วมป้องกันปัญหา และต่อต้านการทุจริตมากขึ้น”
สำหรับคะแนนดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันของไทยในปี 60 อยู่ที่ 37 คะแนน จาก 35คะแนน ในปี 59 โดยอยู่ในอันดับที่ 96 จาก 180 ประเทศทั่วโลก และอันดับ 17 ในเอเชีย โดยดีขึ้นจากปี 59 ที่อยู่อันดับ 101 ของโลก และอันดับ 19 ของเอเชีย
ด้านนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีคอร์รัปชันภาพรวมดีขึ้นจากปีก่อน เพราะทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหา หลังจากนี้ หากมีการทุจริตเกิดขึ้นอีก แล้วรัฐบาลไม่เร่งแก้ไข อาจทำให้ภาพลักษณ์และดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยลดลงได้ โดยค่าดัชนีที่ดีขึ้น ส่วนใหญ่ได้อานิสงส์จากภาพการปราบปรามทุจริตเงินทอนวัด กองทุนพัฒนาเสมาชีวิต โครงการเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง เงินอาหารกลางวันเด็ก
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เปอร์เซ็นต์การจ่ายสินบนใต้โต๊ะในโครงการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐ มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน ที่มีการจ่ายในระดับ 25-35% ของวงเงินงบประมาณ แต่จากข้อมูลเบื้องต้นที่เก็บได้ พบว่า ส่วนใหญ่มีสัดส่วนการจ่ายสินบนใต้โต๊ะอยู่ที่ 20-25% ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการแก้ปัญหาการทุจริต และการจ่ายสินบนใต้โต๊ะของประเทศไทย
https://www.thaipost.net/main/detail/15581
ดัชนีคอร์รัปชั่นไทยดีขึ้นต่อเนื่อง
กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – ดัชนีคอร์รัปชั่นไทยครึ่งปีแรกปรับตัวดีขึ้นจากสิ้นปี 60 ขณะที่ดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกดีที่สุดในรอบ 8 ปี นับจากปี 53
หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (Corruption Situation Index : CSI) ครึ่งปีแรกปี 2561 นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า CSI ในช่วงครึ่งปีแรก หรือเดือนมิถุนายน 2561 พบว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยปรับตัวดีขึ้น โดยค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 52 ปรับดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 55
สำหรับผลสำรวจครั้งนี้อยู่ในช่วงของการแก้ไขปัญหาเงินทอนวัด การออกกฎหมายใหม่ คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ทำให้ประชาชนรู้สึกดีขึ้น แต่ยังไม่รวมสถานการณ์คอร์รัปชั่นปัจจุบันที่มีปัญหาการจัดซื้อดาวเทียมสำรวจ เพื่อการพัฒนา (THEOS-2) วงเงิน 7,000 ล้านบาท ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ซึ่งคณะผู้สังเกตการณ์อิสระ 6 ราย ที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ส่งเข้าไปร่วมสังเกตการณ์โครงการนี้ลาออกทั้งคณะ
ด้านดัชนีปัญหาและความรุนแรงของการคอร์รัปชั่น พบว่า ดีขึ้นกว่าปี 2560 เช่นกัน ค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 42 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 48 ด้านดัชนีปราบปรามการคอร์รัปชั่นก็ดีขึ้นเช่นกัน ค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 53 มาอยู่ที่ 55 ดัชนีการป้องกันการคอร์รัปชั่น ค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 53 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 54 แต่สิ่งที่ปรับขึ้นดีที่สุด คือ ดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกดีที่สุดในรอบ 8 ปี นับจากปี 2553 โดยดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 62 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 64 โดยเฉพาะแนวโน้มการสร้างจิตสำนึกเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 66 มาอยู่ที่ 68 ส่วนสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการคอร์รัปชั่น คือ ความล่าช้ายุ่งยากของขั้นตอนการดำเนินการของราชการ ทำให้ข้าราชการมีโอกาสและความไม่เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย
สำหรับรูปแบบของการคอร์รัปชั่น พบมากสุด คือ ให้สินบน ของกำนัล หรือรางวัลต่าง ๆ ด้านทัศนคติและจิตสำนึกต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นพบว่าประชาชนร้อยละ 99 ไม่เห็นด้วยว่าการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป และยังพบว่าประชาชนร้อยละ 99 ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่มีผลงานและทำประโยชน์ให้สังคมเป็นเรื่องที่รับได้ ด้านความสามารถทานทนต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น พบว่าความทานทนลดลง โดยค่าดัชนีลดลงจากอยู่ที่ระดับ 2.03 ในช่วงสำรวจเดือนธันวาคม 2560 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.87 ด้านประสิทธิภาพการทำงานในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นของ ป.ป.ช. มิ.ย.2561 พบว่า ร้อยละ 54 เห็นว่า มีประสิทธิภาพ ขณะที่ร้อยละ 31 เห็นว่ามีประสิทธิภาพปานกลาง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สถานการณ์คอร์รัปชั่นของไทยจะต้องได้รับการแก้ไข คาดว่าสถานการณ์ปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น
นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า การที่รัฐบาลมีคำสั่งปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีตัวแทนภาคเอกชน เช่น นายประมนต์ สุธีวงศ์ ตัวแทนเอกชนเข้าร่วมด้วยนั้น นับเป็นการแสดงเจตจำนงค์ของรัฐบาลที่ตั้งใจแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น ซึ่งน่าจะปรับดีขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย
http://www.mcot.net/view/5b7524f9e3f8e40adcf4e7aa?utm_source=TNA&utm_medium=TOPNEWS&utm_campaign=fixtna
ในที่สุดความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่ประเทศไทยค่ะ
รัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาคอรับชั่นให้ดีขึ้นได้
โดยคนไทยเริ่มมีจิตสำนึกที่ดี ที่สุดในรอบ 8 ปี
สังคมดีๆจะมีในบ้านเมืองของเราแล้วค่ะ
เหมือนสังคมในห้องราชดำเนินเลยนะคะ คนที่คิดดีๆเริ่มมีเข้ามากันไม่น้อย
มีจิตสำนึกช่วยทำให้สังคมมีคุณธรรม รังเกียจการทำเลว ประนามคนทำไม่ดี
ไม่ยอมให้มีการบิดเบือนใส่ร้ายกัน ช่วยกันต่อต้านไม่เอาคนโกหก
ตัวเราเองต้องยืนหยัดยึดมั่นเพื่อความถูกต้องด้วยนะคะ
สู้ๆค่ะ...
ยินดีกับรัฐบาลลุงตู่ด้วยนะคะ...