ก็เพราะว่าถ้ารถเล็กกับรถใหญ่ชนกัน. คนที่บาดเจ็บมักจะเป็นรถเล็ก  ถ้าคนขับรถใหญ่ไม่มีหลักฐานว่าฝ่ายรถเล็กประมาทอยู่ฝ่ายเดียว  ยังไงคนขับรถใหญ่ก็ต้องรับผิดชอบค่ารักษาหรือค่าทำขวัญคนที่บาดเจ็บอยู่ดี  

สมัยก่อนไม่ค่อยมีกล้องวงจรปิดหรือกล้องติดรถยนต์  เลยกลายเป็นว่าคนที่ขับรถใหญ่ไม่มีหลักฐานไปอ้างว่าตัวเองไม่ผิด  ถ้ารถใหญ่เจอรถเล็กซิ่งตัดหน้ากระทันหันมีการตายหรือบาดเจ็บเกิดขึ้น  ตำรวจเขาไม่สืบพยานแวดล้อมหรือพยานวัตถุหรอก  เพราะสืบลำบาก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีงบให้สืบแค่ไหนกันเชียว  สมัยก่อนถึงได้มีคำว่ารถใหญ่ผิดเสมอ

แต่ทุกวันนี้มีกล้องติดรถ หรือกล้องวงจรปิด  หลักฐานมันชัดเจนว่าใครผิดใครถูก  ถ้ารถเล็กเป็นฝ่ายประมาทแล้วจะเอาอะไรมาอ้างล่ะว่าตัวเองไม่ผิด  

ที่สำคัญคือรถทุกคันควรเสียภาษีและมี พรบ. ไม่ใช่จะมาอ้างว่ารถญาติฉันไม่มี พรบ. ตายก็ไม่ได้ซักบาท  จะมาบังคับให้คนขับรถใหญ่เซ็นต์รับว่าเป็นคนผิดเพื่อที่จะเอาเงินประกันไม่ได้นะ

สำคัญกว่าพยานแวดล้อมคือกล้อง  

สำคัญกว่ากล้องคือลายเซนต์รับสารภาพว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด

เพราะต่อให้มีกล้องจับภาพได้ซักร้อยตัว  ก็ไม่สำคัญเท่าลายเซนต์เราบนแผ่นกระดาษใบเดียว  

อีกอย่างอุบัติเหตุที่มีคนเสียชีวิต ,บาดเจ็บสาหัส หรือสูญเสียอวัยวะ  ตัวเจ้าทุกข์กับญาติไม่ฟ้อง  ยังไงตำรวจก็ต้องส่งเรื่องฟ้องศาลอาญาอยู่ดี  

พอถึงศาลแล้ว  เราในฐานะผู้ยอมรับผิดในชั้นสอบสวน  ยังไงก็ต้องถูกลงโทษไม่มากก็น้อย  อย่างต่ำถูกคุมประพฤติกี่ปีก็ว่าไป

รับโทษทางอาญาแล้ว  ก็ต้องมาลุ้นอีกว่าคนเจ็บหรือญาติคนตายจะมาฟ้องเอาค่าเสีบหายจากเราอีกไหม

หลักฐานว่าเราทำผิด  คือลายเซนต์ตัวเองกับคำตัดสินของศาลอาญายังอยู่ทนโท่  จะเอาอะไรไปสู้กับเขาล่ะทีนี้