ผมงงว่า ทำไมหลาย ๆ ครั้งที่ฟุตบอลทีมชาติไทย ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวยังไง โค้ชจะโดนชมหรือโดนด่าเป็นหลักอยู่คนเดียว
ผมรู้ เขาเป็นผู้กำหนดกลยุทธ์ วางหมากและรูปแบบการเล่นทั้งหมด แต่พวกคุณคิดหรือว่า ให้มูรินโย่ ให้เป๊บ ให้ซีดาน มาคุม แล้วจะทำทีมไทยไปถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้
ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ผมก็รู้สึกว่า ฟุตบอลเราค่อย ๆ พัฒนาขึ้น อย่างช้า ๆ ตามกระแสที่ชาติต่าง ๆ ทั้งในอาเซียนและในเอเชียแห่กันพัฒนาลีกฟุตบอลของตนเอง และตามเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในวงการฟุตบอล (มันเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง)
ผมติดตามฟุตบอลไทยมาแค่ประมาณ 10 ปี รู้สึกว่า นาน ๆ ที อาจจะประมาณทุก ๆ 5 ปี จะมีขึ้นไปสู้ทีมอันดับต้น ๆ ของเอเชียได้บ้าง แล้วสักพักใหญ่ ๆ ก็จะกลับลงมาแพ้ทีมในอาเซียน แล้วก็โดนด่า แบบนี้ วนลูปไป
คือต่อให้พัฒนาขึ้น ก็ไม่เยอะ หรือต่อให้ด้อยลง ก็ไม่ได้เยอะ ออกแนวอยู่กับที่มากกว่า ไม่แน่ ไม่นอน
เคยสังเกตจุดนี้กันไหมครับ
โครเอเชีย มีประชากรประมาณ 4 ล้านคน
โปรตุเกส มีประชากรประมาณ 10 ล้านคน
เบลเยี่ยม มีประชากรประมาณ 11 ล้านคน
ไอซ์แลนด์ มีประชากรประมาณ 3 แสนคน
ออสเตรเลีย มีประชากรประมาณ 24 ล้านคน
ไทย มีประชากรประมาณ 68 ล้านคน
ถ้าวัดแบบหยาบ ๆ เลย ตัวเลือกนักเตะทั้ง pool ของไทยน่าจะมีเยอะกว่า ไอซ์แลนด์ และ โครเอเชีย ด้วยซ้ำครับ
โอเค อาจจะมีเรื่องสรีระเราเสียเปรียบเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ ถ้าวัดแบบหยาบ ๆ เลย คือ คุณภาพนักเตะเราโดยรวม ยังห่างไกล จากนักเตะโครเอเชีย และไอซ์แลนด์มากครับ
พวกคุณไม่เคยสังเกตเลยหรือว่า ปัญหาที่ใหญ่กว่าโค้ช คือ เราแทบไม่เคยมี pool นักเตะที่มีคุณภาพ ที่พอจะขึ้นไปสู้ระดับท็อบของเอเชียได้เลย
อยากจะทุกคนให้ตั้งคำถาม และสงสัยกับ 5 ข้อข้างล่างนี้เยอะ ๆ มากกว่าด่าโค้ช ถ้าอยากเห็นฟุตบอลไทยพัฒนาเร็วขึ้น
1. Coaching
จำนวนโค้ชที่ผ่านการอบรมจาก AFC จริง ๆ มีกี่คน ลองไปหาอ่านดูได้นะครับว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างเยอรมนี มี Licensed Coach กี่คน มีการพัฒนาฟุตบอลอย่างเป็นระบบยังไง แค่ไหน
ไม่ได้บอกว่าโค้ชกลุ่มนี้ เก่งกว่าใครครับ แต่อย่างน้อยที่สุด ถ้าเรามีบุคลากรที่มีองค์ความรู้ที่ถูกต้องและเหมาะสม มาช่วยพัฒนาให้เป็นระบบ ยิ่งดีกว่า ถูกไหมครับ
เปรียบเสมือนสมัยก่อน มนุษย์ยังเชื่อเรื่องภูตผีปิศาจกันเยอะ พอมีวิทยาศาสตร์เข้ามาก็เริ่มตาสว่างกัน
หมอ ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี ยังมีใบประกอบวิชาชีพ โค้ชฟุตบอลก็ต้องมีและควรมีเช่นกันครับ
ถ้าคุณลองไปดูหลักสูตรโค้ชของ AFC คุณจะรู้ว่า มันมีอะไร มากกว่าการวางแผนการเล่น และไปชี้สั่งนักเตะเยอะครับ
โดยเฉพาะในแง่ของการพัฒนาระบบทีมฟุตบอลอย่างถูกหลักเกณฑ์
2. Club System
ประเทศเรา มีสโมสรที่ผ่าน AFC Club Licensing System กันกี่สโมสรกัน
Club Licensing คือ ตัวชี้วัดมาตรฐานสโมสรฟุตบอลของแต่ละลีกในเอเชีย ซึ่งจะมี 5 หมวดใหญ่ในการประเมิน คือ สนาม, ด้านกีฬา, การเงิน, กฎหมาย , การบริหารและทรัพยาบุคลากร
เช่น สนามได้มาตรฐานหรือเปล่า มีทีมเยาวชนหรือเปล่า สโมสรได้มาตรฐานหรือเปล่า
สิ่งนี้ เป็นตัวชี้วัด ความจริงจัง ความเป็นมืออาชีพ ความได้มาตรฐานของฟุตบอลไทยครับ
อย่าหวังจะไปฟุตบอลโลก ถ้าแค่สโมสรในไทย ยังไม่ได้มาตรฐานอยู่เยอะ
3. Youth Development System
เคยมีใครสงสัยไหมครับว่า
ประเทศเรามีอะคาเดมี่ฟุตบอลสำหรับเยาวชนจริง ๆ กี่แห่ง และในประเทศเจริญแล้วอย่างเยอรมนีมีกี่แห่ง (ผมไม่รู้ เดาว่าเยอะกว่าไทยเยอะ)
และฝึกเด็กยังไง ฝึกถูกไหม หรือให้ใครก็ได้มาสอนมั่ว ๆ
และมีใครรู้ไหมครับว่า ญี่ปุ่น ทุกวันนี้ ส่งเยาวชนเป็นกองทัพไปฝึกที่เยอรมนีทุกปี
(ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ดีมาก ๆ ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ควรพาตนเองเข้าไปอยู่กับคนที่ทำและสำเร็จมาตลอด)
4. Science
เคยมีใครสงสัยไหมครับว่า
นักวิทยาศาสตร์การกีฬา นักสถิติ นักกายภาพ performance analyst, data analyst
ในระบบฟุตบอลของประเทศที่เจริญแล้ว มีบทบาทสำคัญมาก ๆ ไม่แพ้โค้ชเลย
คอยประเมินนักเตะ และปรับกันแบบอิงสถิติและข้อมูล ไม่ใช่มโน
5. Mindset and Psychology
เคยมีใครสงสัยไหมครับว่า
นักเตะไทย มีความจริงจัง เข้มแข็ง อดทน ต่อการฝึกซ้อม ต่อการพัฒนาตนเอง ต่อการแข่งขันมากแค่ไหน
มีใครรู้ไหมครับว่า ด้วยนิสัยของคนในชาติ คนเยอรมัน เปรียบฟุตบอลเป็นศาสนา
เขามีวินัย มีไมน์เซ็ตทีมเวิค สปิริต การเล่นเป็นทีมที่สูงมาก
เขากระหาย และจริงจังกับการซ้อม โหยหาชัยชนะ ไม่ยอมแพ้ ตั้งแต่การแข่งขันระดับหมู่บ้าน ไปจนถึง บุนเดสลีก้า
คิดว่านักเตะไทย มีแค่ไหนกันครับ
บ่นจบแล้วครับ
สมมติ ในอนาคต ทีมชาติไทยได้อันดับ 1-3 Asian Cup ผมก็ดีใจ แต่จะไม่แปลกใจ ถ้าอีก 4 ปี และ 8 ปี ถัดมา ตกรอบแรก หรือตกรอบสอง เพราะตามที่บอกไป ผมรู้สึกว่า ระดับฟุตบอลของเรามันพัฒนาแบบช้า ๆ และไม่มั่นคงครับ
ทำไมต้องด่าโค้ช
ผมรู้ เขาเป็นผู้กำหนดกลยุทธ์ วางหมากและรูปแบบการเล่นทั้งหมด แต่พวกคุณคิดหรือว่า ให้มูรินโย่ ให้เป๊บ ให้ซีดาน มาคุม แล้วจะทำทีมไทยไปถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้
ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ผมก็รู้สึกว่า ฟุตบอลเราค่อย ๆ พัฒนาขึ้น อย่างช้า ๆ ตามกระแสที่ชาติต่าง ๆ ทั้งในอาเซียนและในเอเชียแห่กันพัฒนาลีกฟุตบอลของตนเอง และตามเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในวงการฟุตบอล (มันเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง)
ผมติดตามฟุตบอลไทยมาแค่ประมาณ 10 ปี รู้สึกว่า นาน ๆ ที อาจจะประมาณทุก ๆ 5 ปี จะมีขึ้นไปสู้ทีมอันดับต้น ๆ ของเอเชียได้บ้าง แล้วสักพักใหญ่ ๆ ก็จะกลับลงมาแพ้ทีมในอาเซียน แล้วก็โดนด่า แบบนี้ วนลูปไป
คือต่อให้พัฒนาขึ้น ก็ไม่เยอะ หรือต่อให้ด้อยลง ก็ไม่ได้เยอะ ออกแนวอยู่กับที่มากกว่า ไม่แน่ ไม่นอน
เคยสังเกตจุดนี้กันไหมครับ
โครเอเชีย มีประชากรประมาณ 4 ล้านคน
โปรตุเกส มีประชากรประมาณ 10 ล้านคน
เบลเยี่ยม มีประชากรประมาณ 11 ล้านคน
ไอซ์แลนด์ มีประชากรประมาณ 3 แสนคน
ออสเตรเลีย มีประชากรประมาณ 24 ล้านคน
ไทย มีประชากรประมาณ 68 ล้านคน
ถ้าวัดแบบหยาบ ๆ เลย ตัวเลือกนักเตะทั้ง pool ของไทยน่าจะมีเยอะกว่า ไอซ์แลนด์ และ โครเอเชีย ด้วยซ้ำครับ
โอเค อาจจะมีเรื่องสรีระเราเสียเปรียบเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ ถ้าวัดแบบหยาบ ๆ เลย คือ คุณภาพนักเตะเราโดยรวม ยังห่างไกล จากนักเตะโครเอเชีย และไอซ์แลนด์มากครับ
พวกคุณไม่เคยสังเกตเลยหรือว่า ปัญหาที่ใหญ่กว่าโค้ช คือ เราแทบไม่เคยมี pool นักเตะที่มีคุณภาพ ที่พอจะขึ้นไปสู้ระดับท็อบของเอเชียได้เลย
อยากจะทุกคนให้ตั้งคำถาม และสงสัยกับ 5 ข้อข้างล่างนี้เยอะ ๆ มากกว่าด่าโค้ช ถ้าอยากเห็นฟุตบอลไทยพัฒนาเร็วขึ้น
1. Coaching
จำนวนโค้ชที่ผ่านการอบรมจาก AFC จริง ๆ มีกี่คน ลองไปหาอ่านดูได้นะครับว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างเยอรมนี มี Licensed Coach กี่คน มีการพัฒนาฟุตบอลอย่างเป็นระบบยังไง แค่ไหน
ไม่ได้บอกว่าโค้ชกลุ่มนี้ เก่งกว่าใครครับ แต่อย่างน้อยที่สุด ถ้าเรามีบุคลากรที่มีองค์ความรู้ที่ถูกต้องและเหมาะสม มาช่วยพัฒนาให้เป็นระบบ ยิ่งดีกว่า ถูกไหมครับ
เปรียบเสมือนสมัยก่อน มนุษย์ยังเชื่อเรื่องภูตผีปิศาจกันเยอะ พอมีวิทยาศาสตร์เข้ามาก็เริ่มตาสว่างกัน
หมอ ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี ยังมีใบประกอบวิชาชีพ โค้ชฟุตบอลก็ต้องมีและควรมีเช่นกันครับ
ถ้าคุณลองไปดูหลักสูตรโค้ชของ AFC คุณจะรู้ว่า มันมีอะไร มากกว่าการวางแผนการเล่น และไปชี้สั่งนักเตะเยอะครับ
โดยเฉพาะในแง่ของการพัฒนาระบบทีมฟุตบอลอย่างถูกหลักเกณฑ์
2. Club System
ประเทศเรา มีสโมสรที่ผ่าน AFC Club Licensing System กันกี่สโมสรกัน
Club Licensing คือ ตัวชี้วัดมาตรฐานสโมสรฟุตบอลของแต่ละลีกในเอเชีย ซึ่งจะมี 5 หมวดใหญ่ในการประเมิน คือ สนาม, ด้านกีฬา, การเงิน, กฎหมาย , การบริหารและทรัพยาบุคลากร
เช่น สนามได้มาตรฐานหรือเปล่า มีทีมเยาวชนหรือเปล่า สโมสรได้มาตรฐานหรือเปล่า
สิ่งนี้ เป็นตัวชี้วัด ความจริงจัง ความเป็นมืออาชีพ ความได้มาตรฐานของฟุตบอลไทยครับ
อย่าหวังจะไปฟุตบอลโลก ถ้าแค่สโมสรในไทย ยังไม่ได้มาตรฐานอยู่เยอะ
3. Youth Development System
เคยมีใครสงสัยไหมครับว่า
ประเทศเรามีอะคาเดมี่ฟุตบอลสำหรับเยาวชนจริง ๆ กี่แห่ง และในประเทศเจริญแล้วอย่างเยอรมนีมีกี่แห่ง (ผมไม่รู้ เดาว่าเยอะกว่าไทยเยอะ)
และฝึกเด็กยังไง ฝึกถูกไหม หรือให้ใครก็ได้มาสอนมั่ว ๆ
และมีใครรู้ไหมครับว่า ญี่ปุ่น ทุกวันนี้ ส่งเยาวชนเป็นกองทัพไปฝึกที่เยอรมนีทุกปี
(ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ดีมาก ๆ ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ควรพาตนเองเข้าไปอยู่กับคนที่ทำและสำเร็จมาตลอด)
4. Science
เคยมีใครสงสัยไหมครับว่า
นักวิทยาศาสตร์การกีฬา นักสถิติ นักกายภาพ performance analyst, data analyst
ในระบบฟุตบอลของประเทศที่เจริญแล้ว มีบทบาทสำคัญมาก ๆ ไม่แพ้โค้ชเลย
คอยประเมินนักเตะ และปรับกันแบบอิงสถิติและข้อมูล ไม่ใช่มโน
5. Mindset and Psychology
เคยมีใครสงสัยไหมครับว่า
นักเตะไทย มีความจริงจัง เข้มแข็ง อดทน ต่อการฝึกซ้อม ต่อการพัฒนาตนเอง ต่อการแข่งขันมากแค่ไหน
มีใครรู้ไหมครับว่า ด้วยนิสัยของคนในชาติ คนเยอรมัน เปรียบฟุตบอลเป็นศาสนา
เขามีวินัย มีไมน์เซ็ตทีมเวิค สปิริต การเล่นเป็นทีมที่สูงมาก
เขากระหาย และจริงจังกับการซ้อม โหยหาชัยชนะ ไม่ยอมแพ้ ตั้งแต่การแข่งขันระดับหมู่บ้าน ไปจนถึง บุนเดสลีก้า
คิดว่านักเตะไทย มีแค่ไหนกันครับ
บ่นจบแล้วครับ
สมมติ ในอนาคต ทีมชาติไทยได้อันดับ 1-3 Asian Cup ผมก็ดีใจ แต่จะไม่แปลกใจ ถ้าอีก 4 ปี และ 8 ปี ถัดมา ตกรอบแรก หรือตกรอบสอง เพราะตามที่บอกไป ผมรู้สึกว่า ระดับฟุตบอลของเรามันพัฒนาแบบช้า ๆ และไม่มั่นคงครับ