Girls Don't Cry (หลังจากนี้จะใช้ว่า GDC)
- บทความนี้มีสปอยล์ ซึ่งอาจจะเผยแพร่เนื้อหาบางส่วน ในแท็กสปอยล์
- และมีการใส่แท็กซ้อนอีกครั้ง ในกรณีที่เนื้อหาจะเผยแพร่เนื้อหาลึกถึงประเด็นสำคัญ (ซึ่งก็ยังไม่เฉลยตัวผู้พูดอยู่ดี)
- บทความนี้สามารถอ่านได้ครบเท่าที่จะสื่อหรือรีวิวโดยไม่ต้องกดคำว่า spoil ใดๆ
- ถ้าอยากได้รีวิวในระดับคำพูด หรือบท หรือความ(ไม่)สำคัญของเม็มเบอร์คนใดลึกๆ มีรีวิวสปอยล์เยอะเลยนะครับ ไปอ่านจากตรงนั้นดีกว่า อันนี้แค่ประกอบการตัดสินใจว่าคุณ น่าจะเข้าไปดูหรือไม่เข้าไปดู สำหรับหลายๆกลุ่ม
GDC เป็นหนังที่จริงๆ ต้องใช้ว่าเป็นภาพบันทึกการเล่าเหตุการณ์จริงของบริษัทหนึ่ง (ในที่นี้คือ BNK48) ผ่านมุมมองของบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์นั้น และของบุคคลหนึ่งๆต่อบุคคลอื่นๆ ร่วมกับฟุตเทจบางส่วน ซึ่งเต๋อ นวพลใช้คำขยายเวลาสัมภาษณ์สื่อว่า "เหตุการณ์พิเศษ" ซึ่งฟุตเทจกับหนังรวมกันนี้มีสโคปอยู่ราวๆ 1 ปี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และช่วงที่ทำการบันทึกบทสัมภาษณ์ก็น่าจะอยู่ราวๆช่วงเพลง Koisuru Fortune Cookie -> Shonichi โดยเหตุการณ์พิเศษที่เป็นเส้นเรื่องหลักของเรื่องนี้ก็คือ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความรู้สึก วิธีการจัดการกับเหตุการณ์ และอารมณ์ที่เกิด ในช่วงระยะต่างๆของการติดเซ็มบัทสึในสามซิงเกิ้ล
หนังพูดถึงประเด็นความสัมพันธ์ระหว่าง member <-> member <-> system เป็นส่วนมาก เป็นหนัง Coming of age ในเลเวลทั่วไป คือน้องๆมีจุดที่คิด จุดที่ทำ และมุมมองต่อเพื่อนร่วมงานในแบบที่ต่างๆกัน
แม้ GDC จะเป็นหนังที่หน้าหนังโปสเตอร์เป็นสมาชิกของรุ่น 1 ทุกคน และดูเผินๆเหมือนหนังที่ โอตะต้องไปดู (และคนที่ไม่ใช่โอตะอาจจะดูหน้าหนังแล้วไม่ได้รู้สึกว่าอยากไปดูสักเท่าไร) แต่จริงๆ เราอยากจัดหนังเรื่องนี้ให้อยู่ในกลุ่มหนังสำหรับคนทั่วไปมากกว่า โดยคำว่าคนทั่วไปนี้หมายถึงคนที่ รู้จัก BNK48 แบบผิวๆประมาณนึง ในระดับว่า รู้ว่าเป็นวงไอดอล มีร้องมีเต้น รู้ว่ามีสมาชิกเยอะ รู้จักเพลง KFC เห็นภาพขณะออกสื่อว่าดังมากขนาดไหน แต่พอถามไปลึกๆว่ารู้จัก Aitakatta .. เคยได้ยิน Skirt, Hirari หรือเปล่าก็อาจจะไม่รู้จัก ... แล้วก็ไม่เหมาะกับคนที่ไม่รู้จักวงนี้มาก่อนเลยสักนิด
แต่ตัวหนังจริงๆ อาจจะไม่เหมาะ(~คือไม่ทำให้รู้สึกชอบหนังมากนัก) กับคนที่มี "คามิโอชิ" เป็นของตัวเองชัดเจนมากนัก ยกเว้นแค่บางคนเท่านั้น เพราะจริงๆ แอร์ไทม์มันไม่สามารถเท่ากันได้ คนที่มากก็มากเลย คนที่น้อยก็น้อยเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มากสุดคือเป็นตัวเดินเรื่องเล่าเรื่องเลยมีซีนระดับสิบนาที น้อยสุดนี่คือโผล่มาอธิบายบางโมเม้นท์เลย แบบนับวินาที ดังนั้นการเข้าไปดูแบบมีคามิโอชิชัดเจนนี่ มีความสุ่มเสี่ยงที่จะ ผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเป็นสาย DD (Daredemo Daisuki = ชอบหลายคน) ก็อาจจะไม่ได้รู้สึกขัดหูขัดตามากนัก
หนังอาจจะพาโอตะบางคนไปได้ลึกกว่าที่เคยรู้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เช่นความดาร์คของบางคน ความสนิทบางรูปแบบ เหตุการณ์บางอย่าง แต่ถ้าเป็นโอตะที่ตามมานานมากประมาณนึง มันก็จะรู้มาลึกอยู่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การคัดเลือกเซ็มบัทสึ การแข่งขันต่างๆภายในวง[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รวมไปถึงอภิสิทธิ์ชน ตำแหน่งที่ได้ ตำแหน่งที่ไม่อยากได้ สล๊อตบังคับ ยิ่งถ้าตามวงพี่ (AKB/HKT/NMB/NGT/ETC) มาค่อนข้างนานประมาณนึงก็จะรู้อยู่แล้วในหลายๆเรื่อง ดังนั้นถ้าเป็นโอตะที่ลึกแล้วเสพมามากแล้ว ก็อาจจะรู้สึกว่า ไม่ได้ลึกไปกว่าที่คิด อาจจะได้แค่มุมมองว่า น้องบางคนไม่เหมือนอย่างที่เราคิด ซึ่งอาจจะเป็นทั้งมุมบวกและมุมลบ ... ที่ใช้คำว่าแทบไม่ได้รู้เพิ่มเลย เพราะเนื้อหามันถูกเล่าผ่านมุมของเด็กเสียมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หรือถ้าพูดตรงๆก็คือ ไม่มีมุมมองของ Management ใดๆอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ นั่นแปลว่าตลอดเรื่องคุณจะไม่รู้ว่า ทำไม จึงเป็นน้องคนนี้ หนังแค่เล่า โดยไม่บอกเหตุผล ส่วนมันจะดาร์คขนาดไหน สำหรับเราซึ่งตามงานสายบันเทิงมาหลายงาน (ตั้งแต่ AF/TS/KPN) และรู้ระบบ 48 ค่อนข้างมาก (รวมไปถึง วงไอดอลอื่นๆ เช่น HP/Berry) เราว่ามันไม่ได้ดาร์คขนาดนั้น แต่ถ้าสำหรับคนที่มาตามวงนี้เป็นวงแรก มันก็คงดาร์คอยู่
โดยภาพรวมของหนัง การตัดลำดับภาพส่วนตัวคิดว่าดี คือสามารถเล่าเหตุการณ์และดึงอารมณ์ของน้องๆมาแสดงได้ดี ... อาจจะเพราะเราตั้งโจทย์ว่า จริงๆแล้วเต๋อ นวพล อาจจะไม่สามารถ "ตั้งคำถามเดิมซ้ำ เพื่อให้เกิดการเรียบเรียงใหม่" (เพราะจังหวะที่สัมภาษณ์มันบอกไม่ได้ว่าอันนี้ต้องเอามาใช้ จนกว่าจะเห็นภาพรวมครบหมด + ถ้าถามซ้ำ ให้เรียบเรียงคำตอบใหม่ คำตอบมันจะเริ่มดูประดิษฐ์ขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีนัก) เราจะเห็นประโยคหลายประโยคจากหลายคนที่แบบทำให้เรารู้สึกผิดหวัง ซึ่งเอาจริงๆ ก็อาจจะต้องทำความเข้าใจว่า นั่นคือวัยรุ่น .. นั่นคือการสัมภาษณ์แบบยาวๆ ที่ไม่ได้เป็นการสัมภาษณ์ที่มีสคริปมากนัก อย่างดีก็เป็น outline ให้เล่าเรื่องหนึ่งๆ ดังนั้นมันอยู่ที่ดวงของน้องว่า ในทั้งหมด 80 ชั่วโมงของฟุตเทจสัมภาษณ์นั้น พอฟังจนครบแล้วเรื่องที่นวพลเลือกมาเดินเรื่องเป็นเรื่องไหน แล้วเหลือฟุตเทจของคนนั้นต่อเรื่องนั้นมากแค่ไหน ....
และภาพหรือมุมมองต่อน้องที่ออกมาจากหนัง ก็อยู่บนเส้นแบ่งที่ว่า มันผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว น้องผ่านเหตุการณ์อื่นๆร่วมกันอีกเยอะพอที่แนวคิดหลายอย่างก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ดังนั้นก็เอาไปตัดสินน้องในบริบทปัจจุบันไม่ได้แล้ว ความคิดของน้องตอนนั้นอาจจะไม่เหมือนตอนนี้
ตัวหนังมีสัดส่วนของการเล่าในระดับบทสัมภาษณ์เยอะกว่าฟุตเทจอื่นๆมาก ดังนั้นสิ่งที่คุณจะได้เห็นส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาพหน้าน้องสัมภาษณ์นี่แหล่ะ อาจจะมีการตัดอย่างอื่นมาประกอบบทสัมภาษณ์นั้นๆบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(เสียง 85% ของหนังคือบทสัมภาษณ์น้อง, 10% คือฟุตเทจ, และ มีเสียงจากคนอื่นที่ไม่ใช่น้องๆรุ่น1บนปก อยู่ประมาณไม่เกิน 5%)
ก็อย่างที่บอกไปข้างบน จริงๆแล้วหนังมันเหมาะกับกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ตามเต็มตัว ซึ่งพอมาดูก็น่าจะเกิดความเข้าใจในระบบมากขึ้น และเกิดความเห็นใจน้องมากขึ้น และอาจจะเห็นความขัดแย้งกับ Motto ที่เคยได้ยินกันมาบ้างว่า "ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ" ... หนังเรื่องนี้ตอบโจทย์คนทั่วไป ในแง่ที่น่าจะทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมโอตะ ถึงชื่นชอบ ให้กำลังใจ และจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนศิลปินคนที่เขารักมากมายขนาดนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และคือเพื่อมารู้จักระบบการเลือกศิลปิน เบื้องหลังการติดเซ็ม หน้าฉากที่สวยหรู โซเชียลที่ดูดี ของบางคนอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จริงๆก็ส่วนใหญ่เลยนะที่ต้องมาคิดว่าจะโพสต์อะไรดีก่อนลง คิดเยอะ คิดหลายอย่าง และพาลพาให้คิดไปถึงว่า โดนสั่งให้โพสต์แนวนี้หรือเปล่าด้วยซ้ำ
สำหรับโอตะหรือคนที่ตามวงมาประมาณนึงแล้ว ... เราคงบอกไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี (เพราะมันอยู่ที่คุณมีความเป็น DD ในตัวมากแค่ไหน กับอยู่ที่ว่าคามิของคุณมีซีน หรือออกมาในบทที่เหมาะตรงกับภาพที่คุณคาดหวังแค่ไหน และเป็นคุณประโยชน์ต่อคามิของคุณมากแค่ไหน) ... แต่มันแค่เป็นฟีลว่า "ของมันต้องดู" และถ้าเป็นไปได้ควรดูก่อนไปงานจับมือ โดยเฉพาะคนที่จะจับมือรอบพิเศษ เพราะสิ่งที่คุณจะพูดกับน้อง ก่อน/หลัง ดูหนังเรื่องนี้มันจะไม่เหมือนกันแน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ และจริงๆก็อาจจะพอมีจังหวะให้ฉุกคิดว่า Center/Focus ของการตามศิลปินในวงนี้ของคุณเป็นแบบ Person หรือ Group และจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในสถานการณ์แบบไหนที่เกิดกับวงหรือคามิของคุณบ้าง .. + [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คุณจะรับรู้ว่าทำไมอฟซ. ถึงออกของประมาณว่าบริษัทกำลังจะเจ๊ง ออกรัวๆแบบนั้น จากคำพูดของน้องบางคน
สำหรับโอตะกลางๆ ตามไม่นาน หรือมีเพื่อนที่อาจจะยังไม่เข้าใจเรามากนัก และมีความสามารถในการชวนเพื่อนที่ไม่เข้าใจ ให้ไปดูได้ ก็น่าเสี่ยง เพราะเรื่องราวซับซ้อนบางอย่างอาจจะทำให้คนนอก เข้าใจเราเพิ่มขึ้น
--- เน้นอีกครั้งก่อนจบรีวิว
คำพูดของน้องคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ สี่เดือนก่อนเป็นอย่างน้อย วันนี้น้องอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้นแล้วก็ได้ อย่ายึดติดจนทำให้ความศรัทธาต่อคามิของคุณและของคนอื่นลดลง ไม่ว่าบทพูดใดๆของหนังมันจะชี้นำใครไปทางไหน
-------------
คะแนนแบบ
- Bias จากบทและซีนของ คามิ(อิจิ/นิโอชิ) ของตัวเอง .. 6.5
- DD .. 7
- คนตาม 48G/Idol Group .. 5
- ถ้าเป็นคนนอกมาดู .. 7.5
จัดเป็นหนังสารคดีที่ค่อนข้างดีทีเดียว
[CR] รีวิว Girls Don't Cry (ฉบับแยกสปอยล์ลงแท็กแล้ว - คือเนื้อหาหลักน่าจะอ่านได้โดยไม่กระทบอรรถรสในการรับชม)
- บทความนี้มีสปอยล์ ซึ่งอาจจะเผยแพร่เนื้อหาบางส่วน ในแท็กสปอยล์
- และมีการใส่แท็กซ้อนอีกครั้ง ในกรณีที่เนื้อหาจะเผยแพร่เนื้อหาลึกถึงประเด็นสำคัญ (ซึ่งก็ยังไม่เฉลยตัวผู้พูดอยู่ดี)
- บทความนี้สามารถอ่านได้ครบเท่าที่จะสื่อหรือรีวิวโดยไม่ต้องกดคำว่า spoil ใดๆ
- ถ้าอยากได้รีวิวในระดับคำพูด หรือบท หรือความ(ไม่)สำคัญของเม็มเบอร์คนใดลึกๆ มีรีวิวสปอยล์เยอะเลยนะครับ ไปอ่านจากตรงนั้นดีกว่า อันนี้แค่ประกอบการตัดสินใจว่าคุณ น่าจะเข้าไปดูหรือไม่เข้าไปดู สำหรับหลายๆกลุ่ม
GDC เป็นหนังที่จริงๆ ต้องใช้ว่าเป็นภาพบันทึกการเล่าเหตุการณ์จริงของบริษัทหนึ่ง (ในที่นี้คือ BNK48) ผ่านมุมมองของบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์นั้น และของบุคคลหนึ่งๆต่อบุคคลอื่นๆ ร่วมกับฟุตเทจบางส่วน ซึ่งเต๋อ นวพลใช้คำขยายเวลาสัมภาษณ์สื่อว่า "เหตุการณ์พิเศษ" ซึ่งฟุตเทจกับหนังรวมกันนี้มีสโคปอยู่ราวๆ 1 ปี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หนังพูดถึงประเด็นความสัมพันธ์ระหว่าง member <-> member <-> system เป็นส่วนมาก เป็นหนัง Coming of age ในเลเวลทั่วไป คือน้องๆมีจุดที่คิด จุดที่ทำ และมุมมองต่อเพื่อนร่วมงานในแบบที่ต่างๆกัน
แม้ GDC จะเป็นหนังที่หน้าหนังโปสเตอร์เป็นสมาชิกของรุ่น 1 ทุกคน และดูเผินๆเหมือนหนังที่ โอตะต้องไปดู (และคนที่ไม่ใช่โอตะอาจจะดูหน้าหนังแล้วไม่ได้รู้สึกว่าอยากไปดูสักเท่าไร) แต่จริงๆ เราอยากจัดหนังเรื่องนี้ให้อยู่ในกลุ่มหนังสำหรับคนทั่วไปมากกว่า โดยคำว่าคนทั่วไปนี้หมายถึงคนที่ รู้จัก BNK48 แบบผิวๆประมาณนึง ในระดับว่า รู้ว่าเป็นวงไอดอล มีร้องมีเต้น รู้ว่ามีสมาชิกเยอะ รู้จักเพลง KFC เห็นภาพขณะออกสื่อว่าดังมากขนาดไหน แต่พอถามไปลึกๆว่ารู้จัก Aitakatta .. เคยได้ยิน Skirt, Hirari หรือเปล่าก็อาจจะไม่รู้จัก ... แล้วก็ไม่เหมาะกับคนที่ไม่รู้จักวงนี้มาก่อนเลยสักนิด
แต่ตัวหนังจริงๆ อาจจะไม่เหมาะ(~คือไม่ทำให้รู้สึกชอบหนังมากนัก) กับคนที่มี "คามิโอชิ" เป็นของตัวเองชัดเจนมากนัก ยกเว้นแค่บางคนเท่านั้น เพราะจริงๆ แอร์ไทม์มันไม่สามารถเท่ากันได้ คนที่มากก็มากเลย คนที่น้อยก็น้อยเลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ดังนั้นการเข้าไปดูแบบมีคามิโอชิชัดเจนนี่ มีความสุ่มเสี่ยงที่จะ ผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเป็นสาย DD (Daredemo Daisuki = ชอบหลายคน) ก็อาจจะไม่ได้รู้สึกขัดหูขัดตามากนัก
หนังอาจจะพาโอตะบางคนไปได้ลึกกว่าที่เคยรู้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ถ้าเป็นโอตะที่ตามมานานมากประมาณนึง มันก็จะรู้มาลึกอยู่แล้ว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ยิ่งถ้าตามวงพี่ (AKB/HKT/NMB/NGT/ETC) มาค่อนข้างนานประมาณนึงก็จะรู้อยู่แล้วในหลายๆเรื่อง ดังนั้นถ้าเป็นโอตะที่ลึกแล้วเสพมามากแล้ว ก็อาจจะรู้สึกว่า ไม่ได้ลึกไปกว่าที่คิด อาจจะได้แค่มุมมองว่า น้องบางคนไม่เหมือนอย่างที่เราคิด ซึ่งอาจจะเป็นทั้งมุมบวกและมุมลบ ... ที่ใช้คำว่าแทบไม่ได้รู้เพิ่มเลย เพราะเนื้อหามันถูกเล่าผ่านมุมของเด็กเสียมาก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ส่วนมันจะดาร์คขนาดไหน สำหรับเราซึ่งตามงานสายบันเทิงมาหลายงาน (ตั้งแต่ AF/TS/KPN) และรู้ระบบ 48 ค่อนข้างมาก (รวมไปถึง วงไอดอลอื่นๆ เช่น HP/Berry) เราว่ามันไม่ได้ดาร์คขนาดนั้น แต่ถ้าสำหรับคนที่มาตามวงนี้เป็นวงแรก มันก็คงดาร์คอยู่
โดยภาพรวมของหนัง การตัดลำดับภาพส่วนตัวคิดว่าดี คือสามารถเล่าเหตุการณ์และดึงอารมณ์ของน้องๆมาแสดงได้ดี ... อาจจะเพราะเราตั้งโจทย์ว่า จริงๆแล้วเต๋อ นวพล อาจจะไม่สามารถ "ตั้งคำถามเดิมซ้ำ เพื่อให้เกิดการเรียบเรียงใหม่" (เพราะจังหวะที่สัมภาษณ์มันบอกไม่ได้ว่าอันนี้ต้องเอามาใช้ จนกว่าจะเห็นภาพรวมครบหมด + ถ้าถามซ้ำ ให้เรียบเรียงคำตอบใหม่ คำตอบมันจะเริ่มดูประดิษฐ์ขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีนัก) เราจะเห็นประโยคหลายประโยคจากหลายคนที่แบบทำให้เรารู้สึกผิดหวัง ซึ่งเอาจริงๆ ก็อาจจะต้องทำความเข้าใจว่า นั่นคือวัยรุ่น .. นั่นคือการสัมภาษณ์แบบยาวๆ ที่ไม่ได้เป็นการสัมภาษณ์ที่มีสคริปมากนัก อย่างดีก็เป็น outline ให้เล่าเรื่องหนึ่งๆ ดังนั้นมันอยู่ที่ดวงของน้องว่า ในทั้งหมด 80 ชั่วโมงของฟุตเทจสัมภาษณ์นั้น พอฟังจนครบแล้วเรื่องที่นวพลเลือกมาเดินเรื่องเป็นเรื่องไหน แล้วเหลือฟุตเทจของคนนั้นต่อเรื่องนั้นมากแค่ไหน ....
และภาพหรือมุมมองต่อน้องที่ออกมาจากหนัง ก็อยู่บนเส้นแบ่งที่ว่า มันผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว น้องผ่านเหตุการณ์อื่นๆร่วมกันอีกเยอะพอที่แนวคิดหลายอย่างก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ดังนั้นก็เอาไปตัดสินน้องในบริบทปัจจุบันไม่ได้แล้ว ความคิดของน้องตอนนั้นอาจจะไม่เหมือนตอนนี้
ตัวหนังมีสัดส่วนของการเล่าในระดับบทสัมภาษณ์เยอะกว่าฟุตเทจอื่นๆมาก ดังนั้นสิ่งที่คุณจะได้เห็นส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาพหน้าน้องสัมภาษณ์นี่แหล่ะ อาจจะมีการตัดอย่างอื่นมาประกอบบทสัมภาษณ์นั้นๆบ้าง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็อย่างที่บอกไปข้างบน จริงๆแล้วหนังมันเหมาะกับกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ตามเต็มตัว ซึ่งพอมาดูก็น่าจะเกิดความเข้าใจในระบบมากขึ้น และเกิดความเห็นใจน้องมากขึ้น และอาจจะเห็นความขัดแย้งกับ Motto ที่เคยได้ยินกันมาบ้างว่า "ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ" ... หนังเรื่องนี้ตอบโจทย์คนทั่วไป ในแง่ที่น่าจะทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมโอตะ ถึงชื่นชอบ ให้กำลังใจ และจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนศิลปินคนที่เขารักมากมายขนาดนั้น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับโอตะหรือคนที่ตามวงมาประมาณนึงแล้ว ... เราคงบอกไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี (เพราะมันอยู่ที่คุณมีความเป็น DD ในตัวมากแค่ไหน กับอยู่ที่ว่าคามิของคุณมีซีน หรือออกมาในบทที่เหมาะตรงกับภาพที่คุณคาดหวังแค่ไหน และเป็นคุณประโยชน์ต่อคามิของคุณมากแค่ไหน) ... แต่มันแค่เป็นฟีลว่า "ของมันต้องดู" และถ้าเป็นไปได้ควรดูก่อนไปงานจับมือ โดยเฉพาะคนที่จะจับมือรอบพิเศษ เพราะสิ่งที่คุณจะพูดกับน้อง ก่อน/หลัง ดูหนังเรื่องนี้มันจะไม่เหมือนกันแน่นอน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับโอตะกลางๆ ตามไม่นาน หรือมีเพื่อนที่อาจจะยังไม่เข้าใจเรามากนัก และมีความสามารถในการชวนเพื่อนที่ไม่เข้าใจ ให้ไปดูได้ ก็น่าเสี่ยง เพราะเรื่องราวซับซ้อนบางอย่างอาจจะทำให้คนนอก เข้าใจเราเพิ่มขึ้น
--- เน้นอีกครั้งก่อนจบรีวิว
คำพูดของน้องคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ สี่เดือนก่อนเป็นอย่างน้อย วันนี้น้องอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้นแล้วก็ได้ อย่ายึดติดจนทำให้ความศรัทธาต่อคามิของคุณและของคนอื่นลดลง ไม่ว่าบทพูดใดๆของหนังมันจะชี้นำใครไปทางไหน
-------------
คะแนนแบบ
- Bias จากบทและซีนของ คามิ(อิจิ/นิโอชิ) ของตัวเอง .. 6.5
- DD .. 7
- คนตาม 48G/Idol Group .. 5
- ถ้าเป็นคนนอกมาดู .. 7.5
จัดเป็นหนังสารคดีที่ค่อนข้างดีทีเดียว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้