คู่รักขี่จักรยานผ่าน ‘ดินแดนไอเอส’ พิสูจน์ ‘มนุษย์มีความดีในใจ’ สุดท้ายโดนรุมแทงดับ
วันที่ 16 สิงหาคม 2561 - 13:19 น.
รายงานข่าวเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมาระบุว่าเกิดเหตุคู่รักชาวอเมริกันที่ออกขี่จักรยานรอบโลกถูกสังหารเสียชีวิตในเหตุโจมตีที่กลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมายอมรับว่าอยู่เบื้องหลัง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า เจย์ ออสติน และลอเรน เกแกน สองคู่รักชาวอเมริกันวัยยังไม่ถึง 30 ปี ตัดสินใจลาออกจากงานในปี 2017 เพื่อเริ่มต้นเดินทางรอบโลก เนื่องจากทั้ง ออสติน ที่เป็นวีแกน และเกแกน ที่เป็นมังสวิรัติ รู้สึกเสียเวลาการใช้ชีวิตไปกับการทำงาน
ในโพสต์ก่อนหน้าที่ออสตินจะลาออกระบุว่า ตนเสียเวลาในแต่ละวันไปกับการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์และต้องพลาดพระอาทิตย์ตก พายุรวมถึงสายลมที่พัดผ่านไปโดยที่ตนไม่ได้รับรู้ใดๆ โดยทั้งคู่ตัดสินใจออกเดินทางและบันทึกเรื่องราวผ่านโซเชียลมีเดียเป็นเวลานานนับปีก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวขึ้น
เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ขณะที่ออสติน และเกแกน กำลังรวมกลุ่มขี่จักรยานกับนักปั่นอีกสองรายในประเทศทาจิกิสถาน ประเทศซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีกลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ โดยรถยนต์คันหนึ่งได้พุ่งเข้าชนก่อนที่จะมีชาย 5 คนลงจากรถกระหน่ำแทงทั้ง 4 คนจนเสียชีวิต โดยผู้เสียชีวิตอีก 2 รายคือชาวสวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์
สองวันต่อมากลุ่มไอเอสเผยแพร่วิดีโอแสดงให้เห็นชายกลุ่มเดียวกันนั่งอยู่หน้าธงไอเอสอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมประกาศจะฆ่าพวก “ไร้ศรัทธา”
ทั้งนี้จากข้อความในโซเชียลมีเดียของทั้งคู่ แสดงให้เห็นการได้พบปะกับคนแปลกหน้าที่มีน้ำใจไมตรีและพยายามสื่อสารให้เห็นว่าโดยเนื้อแท้แล้วมนุษย์นั้นเป็นคนดี
“หากคุณอ่านหนังสือพิมพ์และคุณถูกชักนำให้เชื่อว่าโลกนั้นกว้างใหญ่และน่ากลัว” ออสตินเขียน และว่า “ผู้คนถูกเล่าว่าไม่สามารถไว้ใจได้ ผู้คนนั้นเลวเป็นปีศาจ”
“ผมไม่เชื่อหรอก” ออสตินเล่าต่อ “ปีศาจเป็นเพียงความเชื่อที่คนเราสร้างขึ้นเพื่อจัดการกับความยุ่งยากที่เกิดขึ้นกับเพื่อนมนุษย์ที่ให้คุณค่าและความเชื่อมุมมองที่ต่างจากเรา…มนุษย์ส่วนใหญ่เป็นคนดี บางครั้งอาจเห็นแก่ตัวบ้าง ใจแคบบ้าง แต่เป็นคนดี ใจกว้างและมีเมตตา”
มติชนออนไลน์
คู่รักขี่จักรยานผ่าน ‘ดินแดนไอเอส’ พิสูจน์ ‘มนุษย์มีความดีในใจ’ สุดท้ายโดนรุมแทงดับ
วันที่ 16 สิงหาคม 2561 - 13:19 น.
รายงานข่าวเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมาระบุว่าเกิดเหตุคู่รักชาวอเมริกันที่ออกขี่จักรยานรอบโลกถูกสังหารเสียชีวิตในเหตุโจมตีที่กลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมายอมรับว่าอยู่เบื้องหลัง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า เจย์ ออสติน และลอเรน เกแกน สองคู่รักชาวอเมริกันวัยยังไม่ถึง 30 ปี ตัดสินใจลาออกจากงานในปี 2017 เพื่อเริ่มต้นเดินทางรอบโลก เนื่องจากทั้ง ออสติน ที่เป็นวีแกน และเกแกน ที่เป็นมังสวิรัติ รู้สึกเสียเวลาการใช้ชีวิตไปกับการทำงาน
ในโพสต์ก่อนหน้าที่ออสตินจะลาออกระบุว่า ตนเสียเวลาในแต่ละวันไปกับการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์และต้องพลาดพระอาทิตย์ตก พายุรวมถึงสายลมที่พัดผ่านไปโดยที่ตนไม่ได้รับรู้ใดๆ โดยทั้งคู่ตัดสินใจออกเดินทางและบันทึกเรื่องราวผ่านโซเชียลมีเดียเป็นเวลานานนับปีก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวขึ้น
เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ขณะที่ออสติน และเกแกน กำลังรวมกลุ่มขี่จักรยานกับนักปั่นอีกสองรายในประเทศทาจิกิสถาน ประเทศซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีกลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ โดยรถยนต์คันหนึ่งได้พุ่งเข้าชนก่อนที่จะมีชาย 5 คนลงจากรถกระหน่ำแทงทั้ง 4 คนจนเสียชีวิต โดยผู้เสียชีวิตอีก 2 รายคือชาวสวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์
สองวันต่อมากลุ่มไอเอสเผยแพร่วิดีโอแสดงให้เห็นชายกลุ่มเดียวกันนั่งอยู่หน้าธงไอเอสอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมประกาศจะฆ่าพวก “ไร้ศรัทธา”
ทั้งนี้จากข้อความในโซเชียลมีเดียของทั้งคู่ แสดงให้เห็นการได้พบปะกับคนแปลกหน้าที่มีน้ำใจไมตรีและพยายามสื่อสารให้เห็นว่าโดยเนื้อแท้แล้วมนุษย์นั้นเป็นคนดี
“หากคุณอ่านหนังสือพิมพ์และคุณถูกชักนำให้เชื่อว่าโลกนั้นกว้างใหญ่และน่ากลัว” ออสตินเขียน และว่า “ผู้คนถูกเล่าว่าไม่สามารถไว้ใจได้ ผู้คนนั้นเลวเป็นปีศาจ”
“ผมไม่เชื่อหรอก” ออสตินเล่าต่อ “ปีศาจเป็นเพียงความเชื่อที่คนเราสร้างขึ้นเพื่อจัดการกับความยุ่งยากที่เกิดขึ้นกับเพื่อนมนุษย์ที่ให้คุณค่าและความเชื่อมุมมองที่ต่างจากเรา…มนุษย์ส่วนใหญ่เป็นคนดี บางครั้งอาจเห็นแก่ตัวบ้าง ใจแคบบ้าง แต่เป็นคนดี ใจกว้างและมีเมตตา”
มติชนออนไลน์