“ซ่อมคน ซ่อมสังคม”

ผศ.ดร. ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์
“ซ่อมคน ซ่อมสังคม”

คนหนึ่งคนสามารถสร้างสิ่งดีงามให้กับสังคมได้มากมาย
เราสามารถส่งมอบความสุขให้แก่กันได้

สังคมของเราก็ควรจะเติมเต็มด้วยความสุขจากทุกคน

หากเมื่อร่างกายของคนเกิดการสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว ในกรณีที่สมองของคนนั้นยังทำงานอยู่ มีการรับรู้จากการมองเห็นการได้ยิน ไม่ได้หมายความว่าคนคนนั้นจะสูญเสียศักยภาพความเป็นมนุษย์

เหตุการณ์ในวัยเด็กของอาจารย์ยศนัน ทำให้ได้ตั้งคำถาม และผลักดันชีวิตมาเป็นนักซ่อมมนุษย์ในปัจจุบัน

“ตอนผมเรียนชั้นประถม คุณป้าผมป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ทุกคนบอกว่าป้าไม่สามารถเดินได้ ผมจะคุยกับคุณป้าไม่ได้อีกแล้ว

คำถามคือถ้าเราสามารถส่งคนไปดาวอังคารได้ ทำไมเราจะซ่อมมนุษย์ไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่อยู่ในใจมาตลอดเวลา”

สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ

“การศึกษากำหนดชีวิตคน หรือคนต้องกำหนดชีวิตตัวเองด้วยการศึกษา”

ในวันที่เราบอกว่า เรามีความรู้ เรารู้ความต้องการของตัวเองดี วันนี้เราพาตัวเองไปถึงจุดไหน

เพื่อชีวิตของเราและความหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
เรากล้าที่จะเลือกเองหรือไม่

ในประเด็นนี้ อาจารย์ยศชนัน ได้บอกกับเราว่า “ทุกคนต้องได้เลือกเอง”

“ผมเป็นคนที่คลั่งไคล้ทั้งอิเล็กทรอนิคส์และชีววิทยา ซึ่งสองวิชานี้ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ และกับตัวเลือกการเรียนต่อที่มีอยู่ คนส่วนใหญ่จึงต้องเลือกไปทางใดทางหนึ่งเท่านั้น

มันเป็นธรรมดาที่ช่วงหนึ่ง ผมก็ต้องมาคิดใคร่ครวญว่าผมจะไปทางไหน ผมค้นหาจนค้นพบ และได้เรียนในหลักสูตร ที่ในห้องเรียนผมได้ทั้งผ่ากบและต่อวงจรอิเล็กทรอนิคส์ไปพร้อมๆ กัน

ในห้องเรียน ผมเจอแต่คนที่พูดภาษาเดียวกัน คลั่งไคล้ในสิ่งเดียวกัน มันคือที่ของเรา”

การศึกษาที่มาจากการได้เลือก ไม่ว่าจะในระบบหรือนอกระบบ ต่างช่วยเติมเต็มคุณค่าชีวิตคน

“การได้เลือกของเราก็ต้องสอดคล้องต่อความหมายของการมีชีวิตอยู่

การเรียน การเรียนรู้ การมุ่งมั่นฝึกฝนก็จะมีทิศทาง ไม่ใช่แค่เรียนจบไปเพื่อประกอบอาชีพอะไรเท่านั้น

เพราะคุณค่าของการเกิดมามีชีวิตอยู่คือการได้ร่วมสร้างประโยชน์ให้กับสังคม การศึกษา การฝึกฝนและพัฒนาตนเองจะเป็นหนทางไปสู่ความหมายนั้น”

อาจารย์ยศชนันใช้ความรู้ทั้งหมดที่ร่ำเรียนมา เพื่อเป็นวิศวกรซ่อมมนุษย์ให้กลับมามีชีวิตดังเดิม

“ถ้าเราเป็นคนที่ทำทุกอย่างได้เองตามปกติ แล้ววันหนึ่งมีคนมาบอกว่า เราไม่สามารถขยับเขื้ยนร่างกายได้อีกแล้ว เราจะยอมมั๊ย ...

ผมจะทำทุกอย่างให้คนกลุ่มนี้กลับมาเคลื่อนไหวร่างกายได้อีกครั้ง และนั่นคือความฝันความตั้งใจของผมตลอดมา”

อาจารย์และทีมงานวิจัย ได้พัฒนาอุปกรณ์จากราคานับล้านให้อยู่ในราคาที่คนทั่วไปจับต้องได้

“ทุกคนต่างรู้ทฤษฎี แต่ไม่มีใครทำ ผมสร้างเครื่องนี้ได้ในราคา 10 ล้าน แต่ไม่มีใครให้ทุน ทุกคนต้องการสนับสนุนเฉพาะงานวิจัยที่สำเร็จได้แน่ๆ

ผมเลยเริ่มที่จะใช้เงินตัวเอง ผมและทีมงานวิจัยทุกคนเราเห็นเป้าหมายเดียวกันจนสำเร็จได้ในวันนี้

ทุกครั้งที่อยากจะเลิก เราเลิกไม่ได้เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำ”


หลายครั้งในชีวิตที่เราจะล้มเลิก จะยากหรือง่าย จะสำคัญหรือไม่ ต่อตัวเอง ครอบครัวหรือสังคม

สำหรับอาจารย์ยศชนัน กำลังใจมาจากกคนพิการที่บอกว่า

“ถ้าโลกนี้ไม่มีคนบ้าๆ อย่างอาจารย์ ไม่มีคนที่กล้าจะล้มเหลว ไม่มีคนที่กล้าจะเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อคนพิการ เค้าก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม

ถ้าล้มเหลวล้านครั้ง มันต้องมีสักครั้งหนึ่งที่สำเร็จ”

อาจารย์ได้ทำให้สังคมได้เห็นแล้วว่า

จากคนที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ก็กลัมมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง

จากเครื่องมือราคาสิบล้าน สู่เครื่องมือที่ถ้าตั้งใจใครก็สร้างเองได้

“สิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณใช้ใจ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นวิศวกรอย่างผม

คุณจะเป็นใครก็ได้ ขอให้คุณมีความตั้งใจ

คุณไม่จำเป็นต้องใช้ผม โลกนี้ไม่ต้องมีผม เพราะผมได้ถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว

วันนี้ ผมอยากชวนทุกคนมาร่วมซ่อมมนุษย์ด้วยกัน”


สังคมจะดีกว่านี้ได้หรือไม่ ...

ถ้าเราใช้ใจ ไม่ว่าเราจะเป็นใคร
เราก็ร่วมสร้างสังคมที่ดีกว่านี้ได้

“ผมเชื่อว่าคนหนึ่งคนสามารถสร้างพลังในการเปลี่ยนแปลงสังคมได้ ขอเพียงแต่ให้เราได้เลือกเอง มุ่งมั่นและลงมือทำอย่างตั้งใจจริง

คนหนึ่งคนทำสิ่งดีงามได้มากมาย ถ้าเรามีคนอย่างนี้เยอะๆ ในสังคม ร่วมกันคิด ร่วมกันทำในสิ่งที่ตนถนัด สังคมเราต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน”

วันนี้ เราขอชวนทุกคนมาร่วมสร้างสรรค์สังคมด้วยกัน
อย่าแค่รอดู ลงมือทำอะไรสักอย่างหนึ่งที่ถนัด
ทำเพื่อสังคมทำได้ทันทีไม่ต้องรอใคร

#นี่คือตัวอย่างที่ดีในการปฏิรูปสังคม
#ร่วมปฏิรูปสังคมซักหนึ่งรายการ
#บ้านเมืองดีขึ้นได้ด้วยการแชร์ของคุณ

#GreatReform #GreatReformS006
#MiniReform #การศึกษา #เทคโนโลยี #สุขภาพ
#MicroReform #วิศวกรซ่อมมนุษย์ #เครื่องสั่งการทางสมองเพื่อผู้พิการ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่