ฮัลโหลลลล ซิสสสสส

พอดีคิสอยากทำ In Depth Review ของใช้ แต่ของใช้คิสมันมีหลาย Category มากๆเลยคิดว่าจะทำเป็น Random หยิบของสารพัดสิ่งจากหลายๆมุมในบ้าน วนเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ ไม่งั้นคิสคงวนกับการ Review ลิปสติกสีแดงไปอีก 2 ไตรมาสเป็นอย่างน้อย ไ่ม่ได้ไปรีวิวอย่างอื่นสักที

ขอประเดิมการวนเวียนมุมบ้านคิสด้วยมุม "Body Care" หรือมุมดูแลผิวตัวค่ะ


"จะยกพวกตีกันอยู่แล้ว แต่คิสใช้งานทุกชิ้นค่ะ ไม่มีชิ้นไหนโดนทิ้งขว้าง"
คิสประเดิมการรีวิวด้วยของที่เพิ่งเปิดกล่อง จะได้ยังดูสวยงามน่ามองหน่อย

Bio Oil ไบโอออยล์ หรือออยล์ขวดส้มสารพัดประโยชน์


"Bio-Oil Specialist Skincare Oil - 200 ml."

---

เกริ่นนำ(พล่าม อ่านข้ามไปได้ค่ะ)

ออยล์ขวดส้มตัวนี้คิสจำได้ว่าเข้ามาเมืองไทยตอนคิสยังเรียนมหาลัยอยู่เลย

เป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์ที่เรียกว่าใช้ได้หัวจรดเท้า Multi-tasking oil ประหนึ่งน้ำมันเหลืองครอบจักรวาลของร้านสมุนไพรย่านท่าพระจันทร์บ้านเรา

แต่...มันไม่ได้เอามาใช้ทาถูทาถู ลดปวดเมื่อยแบบนั้น

คุณสมบัติหลักๆของออยล์ตัวนี้"สำหรับคิส" คือช่วยบรรเทาและลด "รอยแผลเป็น" "รอยแตกลาย" ด้วยการชูคุณสมบัติของ Purcellin Oil (น้ำมันสังเคราะห์ประเภทหนึ่งที่จดทะเบียน trademark ภายใต้แบรนด์ของไบโอออยล์)

ส่วนคุณสมบัติอื่นๆที่ออยล์ตัวนี้เคลมตามคำโฆษณานั้น คิสเองบอกตรงๆว่ายังไม่ได้เห็นผล เช่น "ช่วยเรื่องสีผิวสม่ำเสมอ" ตรงนี้ทามาเป็นสิบปีแล้วไม่คิดว่ามันช่วยเลยค่ะ

อีกเรื่องที่สำคัญมากๆคือ คิสเคยเข้าใจว่าออยล์ตัวนี้สารพัดประโยชน์แบบ Nuxe คือเป็นน้ำมันทาหน้าได้ด้วย ซึ่งคือมันก็ทาได้นั่นละ

แต่คิสขอขีดเส้นใต้ น้ำมันขวดส้มตัวนี้ไม่เหมาะกับการทาผิวหน้า ถ้าใครอยากจะทาก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะจริงๆมันทาได้ แค่ส่วนผสมต่างๆค่อนข้างแรงกับผิวหน้า แนะนำให้ไปใช้พวก Rose Hip Oil, Jojoba Oil, Argan Oil หรือ Moringa Oil(คิสใช้ตัว Rose Hip และ Moringa สำหรับผิวหน้า ส่วนบริเวณใกล้รอบดวงตา คิสใช้อีกตัว ไว้จะมาเจาะลึกกันให้ใน Oil Journey ของคิสค่ะ เพราะคิสใช้น้ำมันเกือบหัวจรดเท้า)

เรื่องคุณสมบัติต่างๆของออยล์ตัวนี้หาอ่านรีวิวได้ทั่วไปค่ะ หาซื้อง่าย และแพคเกจก็มีการเปลี่ยนแปลงเอาคุณสมบัติมาพิมพ์รอบกล่อง รอบขวด หลอกหลอนมาก ดูเหมือนคนสักยันต์ท่วมตัว คงกลัวคนไม่อ่านหรือไง เมื่อก่อนจะเป็นแผ่นพับค่ะ

ยังไงขอให้อย่าใช้บริเวณใกล้ตาและเลี่ยงการใช้ในสตรีตั้งครรภ์  หน้าขวดบอกว่าใช้ได้หลังเดือนที่ 4 คิสแนะนำว่า "ไม่ควรใช้เลย" แถมมีบล๊อคเกอร์หลายคนบอกว่า"คุณแม่ก็ใช้ได้" คิสบอกเลยไม่คุ้มเสี่ยง มีออยล์อีกหลายๆยี่ห้อที่คุณแม่ใช้ได้ ไปใช้ยี่ห้ออื่นเถอะค่ะ อันนี้เตือนจริงๆ เพราะคุณหมอที่ดูแลเพื่อนคิสเป็นคนแจ้งมาเอง และคิสก็มีเพื่อนเป็นแพทย์ผิวหนังด้วย


Summary

Pros:

- หาซื้อง่าย ง่ายจริงๆ ขอแค่เจอร้าน boots, watsons คุณได้ซื้อสมใจนึกแน่นอน
- มีหลายขนาดให้เลือกตามอัธยาศัย
- ราคาถูก(เมื่อเทียบกับคุณสมบัติและส่วนประกอบ)
- คุณสมบัติครอบคลุมการใช้งานทั่วตัว และใช้งานง่าย ไม่ต้องวอร์มก่อน แต่ถ้าวอร์มแล้วจะยิ่งซึมไวขึ้นค่ะ
- ผลลัพธ์ได้ตามคำที่เคลม เช่นรอยแตก รอย stretch marks ถ้าใช้ต่อเนื่องหายแน่นอน แต่ออยล์อื่นๆก็ทำได้ค่ะ(อ้าว) แต่สิ่งที่ต่างคือเนื้อ และรอยแผลเป็น Bio Oil ทำได้ดีกว่า เร็วกว่า
- เนื้อออยล์บางเบา นวดแล้วไม่หงุดหงิดใจค่ะ เนื้อเป็นแบบ dry oil
- กลิ่นไม่เหม็นน้ำมัน มีกลิ่นนะคะ แต่กลิ่นไม่ได้เหม็นค่ะ และความหอม คิสก็ว่าไม่ได้รุนแรงจนรำคาญใจ
- อายุยืนนานหมื่นๆปี เว่อร์ไปละ คืออายุเค้ายืนจริงๆค่ะ สารกันเสียคิสดูไม่เป็นนะคะว่าใส่อะไรลงไปบ้าง แต่ 3 ปีนี่สุดยอด ซื้อไซส์ใหญ่ได้เลยค่ะ คิสใช้ขวดเล็ก 60 ml เค้าประมาณ 6 เดือนหมดค่ะ ทาเฉพาะจุดบนตัวเท่านั้น คิสมีเซลลูไลท์ค่ะ

Cons:
- แพคเกจห่วยจริงๆ ควรทำเป็นขวดสเปรย์ ขวดปั๊ม ขวดอะไรก็ได้ที่ไม่ง่อยแบบนี้ แถมขวดใสอีก ไม่รู้ว่าแสงแดดจะมีผลเสียต่อเนื้อออยล์มั๊ย กี่ปีผ่านมาไม่เคยมีพัฒนาการ ขายราคาแพงขึ้นหน่อยก็ได้ แต่ขอแพคเกจที่ดี ดีอย่างเดียวคือเป็นขวดพลาสติก พกแล้วไม่กลัวแจคพอทแตก
- มีน้ำหอม แต่อย่างที่บอก กลิ่นไม่ได้หอมแบบน่ารำคาญใจค่ะ
- ไม่มี safety seal มีตรงกล่อง แต่ไม่มีด้านใน


ซื้อต่อมั๊ยละแก??

แน่ละแก ชั้นใช้มันมาสิบกว่าปี รอมันเปลี่ยนแพคเกจมาตลอด ไม่คิดว่า R&D เค้าจะพัฒนาได้ดีขนาดนี้ ย้ายคำเตือนมาพิมพ์หน้าขวดซะเลย สุดยอดนวัตกรรมค่ะ