ญี่ปุ่นแนะนักท่องเที่ยวเตรียมรับมืออากาศร้อนจัด

กระทู้สนทนา

รายการข่าว เที่ยวญี่ปุ่น ภูมิอากาศ สุขภาพผู้สูงอายุ ประเทศญี่ปุ่น

หน่วยงานของญี่ปุ่นแนะนำให้นักท่องเที่ยวเตรียมรับมือกับอากาศที่ร้อนจัด หากเดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน

ช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนเป็นฤดูร้อนของญี่ปุ่น ซึ่งมีเทศกาลที่น่าสนใจมากมาย เช่น การแห่เกี้ยวของศาลเจ้าต่าง ๆ และเทศกาลดอกไม้ไฟ แต่อากาศที่ร้อนจัดอาจทำให้นักท่องเที่ยวล้มป่วยและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ในปีนี้อากาศร้อนเร็วและร้อนนานกว่าปกติ บางพื้นที่อุณหภูมิทะลุเกิน 40 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดอาการลมเหตุร้อน หรือ Heatstroke ได้ ถึงแม้จะเป็นนักท่องเที่ยวจากเมืองร้อนอย่างประเทศไทยก็ตาม เพราะหน้าร้อนที่ญี่ปุ่นแตกต่างจากหน้าร้อนที่เมืองไทย

ญี่ปุ่นนอกจากจะร้อนแล้วยังชื้นด้วย ฤดูร้อนในญี่ปุ่นร้อนและชื้นมาก เวลาที่อากาศร้อน ร่างกายจะปรับอุณหภูมิภายในด้วยการขับเหงื่อ เพราะเหงื่อจะนำพาเอาความร้อนในร่างกายออกมาทำให้ร่างกายเย็นลง แต่เนื่องจากมีความชื้นสูง การขับเหงื่อทำได้ยากขึ้น ซึ่งก็ทำให้ความร้อนถูกกักเก็บไว้ในร่างกาย ไม่สามารถระบายออกมาได้ ส่งผลให้เกิดอาการลมเหตุร้อน

อาการลมเหตุร้อนเกิดขึ้นเมื่อร่างกายคนเราสูญเสียความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิของตัวเอง เพราะสัมผัสกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวเป็นเวลานาน อาการคือวิงเวียน ปวดศีรษะ และคลื่นเหียนอาเจียน หากอาการไม่หนักมากก็สามารถรักษาได้ ด้วยการให้ผู้ป่วยนอนพักในที่ที่อากาศเย็นสบาย ห่างจากแสงแดด มีลมถ่ายเทดี และให้ดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำและเกลือแร่ให้แก่ร่างกาย แต่กรณีที่อาการหนักหรือถึงขั้นขาดน้ำและหมดสติก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้

คนที่เสี่ยงจะเกิดอาการนี้คือคนที่อยู่กลางแจ้ง หรือที่เรียกว่า “เป็นลมแดด” แต่แม้แต่คนที่อยู่ในอาคารก็ล้มป่วยได้เช่นกัน หากร่างกายสะสมความร้อนไว้มากเกินไป และเหน็ดเหนื่อยจากการท่องเที่ยวมาทั้งวัน เป็นต้น

คนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือผู้สูงอายุ เพราะความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกร้อนหนาวมักลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การควบคุมอุณหภูมิในร่างกายด้วยการขับเหงื่อของผู้สูงอายุยังทำงานน้อยลง จึงเกิดอาการลมเหตุร้อนได้ง่าย

หลายคนเสียชีวิตในตอนกลางคืนช่วงที่หลับ เพราะอากาศในตอนกลางคืนช่วงฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นทั้งร้อนทั้งชื้น เพราะจากพื้นผิวถนนและกำแพงระบายความร้อนที่กักเก็บไว้ในตอนกลางวัน อุณหภูมิจึงไม่ลดลงแม้ในเวลาค่ำก็ตาม

การป้องกันไม่ให้ล้มป่วยจากความร้อนนั้น ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและหากเป็นน้ำผสมเกลือแร่ด้วยก็จะยิ่งดี นอกจากนี้ควรใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อรักษาอุณหภูมิและความชื้นภายในที่พักให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยในเวลานอน.