กาลครั้งหนึ่ง..เมื่อผมกลายเป็น"หมา" จากความรัก?(ของเพื่อน)..

..
การเอาเรื่องของเพื่อนมาเผา เป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม
แต่คิดว่า เมื่อเรื่องลักษณะนี้ เป็นบทเรียนให้แก่เรา
ก็อาจเป็นบทเรียน เป็นตัวอย่างให้คนอื่น ๆ ได้บ้าง
(เป็นเรื่องที่เกิดนานแล้ว อาจมีตกหล่นบ้างครับ
อาศัยความจำล้วน ๆ ..)

เป็นเรื่องของเพื่อน(ชาย)สมัยมัธยม ให้ชื่อว่า "นายA"

หลังจากจบมัธยม ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน จนวันหนึ่งนายA
ก็นัดผมไปเจอ ไปเดินเล่นห้าง ก็ปกติตามประสาเพื่อน
จนตอนแยกย้าย กลับมาถึงบ้านแล้ว นายAก็โทรมาหา
(เพิ่งจะเจอกัน จะโทรมาทำไม?)

นายA ถามผมว่า "ผู้หญิง" ที่มากับนายA วันนี้ คิดว่าไง?
แล้วก็เฉลยว่านั่นน่ะ "เป็นกิ๊ก" ของมันเอง(ตัวมันมีแฟน)
และต่อด้วยเรื่องเล่า น้ำเสียงโอ้อวด.. สรุปสั้น ๆ ได้ว่า

- สาวคนนี้น่ะ มาชอบมันเอง มันไม่ต้องทำอะไรเลย..
(ประมาณว่า โชว์ว่า ตูหล่อ ตูเสน่ห์แรง ว่างั้นเถอะ)

- สาวคนนี้ยังซิง.. และมันนี่แหละ เป็นคนเปิด-ิง..
เอาสด..ใช้แ-ก..นอกเอา..
(น้ำเสียงแลดูภูมิใจมาก.. แต่ผมคนฟังนี่แบบ..
คิดว่า ตูจะปลาบปลื้มไปกับเอ็งด้วยมั้งเนี้ย..)

ผมก็ฟังเพื่อนโม้ไปเรื่อย.. จนมันพอใจ(แล้วมั้ง)
ก็วางสายไป.. ซึ่งผมไม่ได้รู้สึกดีไปกับเรื่องนี้เลย..
ตลอดเรื่องเล่า ไม่มีแม้เศษเสี้ยวความรู้สึกผิดที่มัน
ควรจะต้องมี(อย่างยิ่ง)ต่อแฟนมันเองเลย..

และนั่นทำผมให้นึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้..
ตอนที่ นายA เลิกกับ แฟนเก่า
(ซึ่งก็อวดไว้อีกแหละว่า สาวมารักมาจีบมันเอง)
มันเอ่ยปากกับผม ตอนนั้นไว้ว่า..

ผมจะเอาหรือเปล่า แฟนเก่ามันคนนี้ ถ้าผมไม่
คิดมากเรื่องที่ว่า เป็นผู้หญิงที่ผ่านมันมาก่อน..
มันจะ(หวังดี?)ช่วยแนะนำให้ผมเอง(โสด)..

ซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกโกรธในใจ.. ทำไมพูดเหมือน
แฟนเก่า ผู้หญิงเป็นเหมือนสิ่งของ อย่างงั้นฟะ..
ยิ่งมาฟังมันเล่าแบบนั้น ซ้ำมาอีก ยิ่งรู้สึกชัดเจน
ว่าเพื่อนเรามัน.. มีนิสัยสันดานในเรื่องผู้หญิงยังไง..

ด้วยตอนนั้นผมก็ละอ่อนเรื่องความรัก.. ก็ไม่ได้
ตอบโต้หรืออะไรไป ฟัง ๆ ให้จบ ๆ ไป.. ก็คิดว่า
เรื่องคงจบแค่นั้น.. ยังไงก็ไม่ค่อยได้เจอได้คุย
เจอกันนี่ก็เหมือนแค่จะโชว์เรื่อง กิ๊ก แค่นั้นละ..

แต่แล้ว "แฟนสาวของนายA" (แฟน ณ ขณะนั้น)
ก็โทรมาหาผม.. เพราะต้องการ "หลักฐาน" ว่า
นายAแอบมีกิ๊ก จากปากของเพื่อนนายA ซึ่งผม
ดันเป็นคนที่เธอเลือก.. ..เวรแล้วไหมละ..

แฟนสาวนายA คนนี้ ผมเคยเจอครั้งเดียว และเธอ
ก็ไม่ได้คุยกับผม "แม้แต่คำเดียว" ในตอนที่เจอกัน
แต่มาตอนนี้เธอดันเลือกจะโทรหาผม เพื่อเค้นหา
เรื่องที่เธอสงสัยว่า นายAแอบมีกิ๊กจริงไหม..

แล้วผมดันไปรู้อีกว่า มันมีกิ๊กซะด้วยนี่สิ..
ผมก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ.. ซึ่ง เธอก็เหมือนไม่เชื่อ
คือ เธอพอรู้มาบ้าง แต่ไม่ชัด เธออยากรู้ชัด ๆ ว่า
นายAกับกิ๊กน่ะ "ได้กันไปหรือยัง?" (..เวร..)

เท่าที่จำได้.. ผมก็ทำเป็นว่า รู้ไม่ต่างจากที่เธอรู้
ก็ฟังเธอระบายนั่นนี่ เพราะด้วยความรู้สึกเห็นใจ
(ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องอะไรของเราเลย..) ..แต่ ๆ ..

ความเห็นใจ..เริ่มเปลี่ยนไปเป็นรำคาญ.. คือ เธอ
โทรมาถี่ คุยเรื่องซ้ำ ๆ วน ๆ ให้ผมฟัง อยู่นั่นละ..
ผมจึงให้คำตอบ ที่เธอพยายามให้หลุดจากปากผม
เพื่อให้จบ ๆ กันไปซะที.. ผมก็เลยเอ่ยปากไปว่า..

"นายA กับ กิ๊กสาว คนนั้นน่ะ ได้เสียกันไปแล้ว"

ก็เพื่อนเรามันเล่ามาซะขนาดนั้น.. แต่ผมก็ไม่ได้
ขยี้เพื่อนด้วยการบอกว่า มันเล่าไว้ว่ายังไงละนะ..
แค่บอกว่า เขาได้กันแล้ว นอกจากนี้ไปคุยกันเอง..

จากนั้นไม่นาน.. แฟนสาวนายA ก็โทรมาหาผม
เพื่อ "ต่อว่าผม" เพราะเมื่อเธอไปคุยกับนายA
"นายA ปฏิเสธ ยืนยันว่า มันไม่ได้มีอะไรกับกิ๊ก.."
ซึ่ง แฟนนายA เธอก็.."เชื่อผัว" จึงมาโกรธใส่ผม
"ผม กลายเป็น หมา"
กลายเป็นตัวร้ายที่ทำความรักของเธอสั่นคลอน..

ตอนนั้นผมก็ไม่ได้โกรธกลับ แต่มันเป็นความรู้สึก
ที่..ว่างเปล่า.. บอกเธอไปว่า ไม่ต้องติดต่อผมอีก
ผมคงไม่ได้รู้อะไร ไม่มีอะไรที่เธอจะรู้ได้จากผมแล้ว
ซึ่งเธอก็หายไป.. เป็นเบอร์นายA เพื่อนเราแทนที่
โทรมาหาผม ยิก ๆ แต่ผมไม่รับ.. ไม่รู้จะพูดอะไร..

และเรื่องราวก็เงียบหาย.. ผมกับนายA ก็ไม่ได้
ติดต่อกันหลังจากเหตุการณ์นั้น.. ต่างก็ปล่อยให้
เรื่องราวในตอนนั้นจางหายไปกับกาลเวลา..

จนหลายปีต่อมา (ก็น่าจะเกือบ ๆ 10ปี เห็นจะได้)
เจอกันอีกที นายA ก็กำลังจะแต่งงาน ..แต่..
ไม่ใช่กับ แฟนสาว ที่ต่อว่าผมตอนนั้น..
ไม่ใช่กับ กิ๊กสาว ที่มันเล่าว่า ได้เปิด-ิง..
แต่เป็นผู้หญิงอีกคน.. ที่ผมก็ไม่รู้รายละเอียดอะไร..

ด้วยการเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อน ที่นานที
จะมีผมไปร่วมด้วย (คนอื่น ๆ เขาติดต่อกันตลอด)
ผมก็ไม่ค่อยอยากคุยกับนายA ไม่รู้มันติดใจจำได้
มากน้อยแค่ไหน.. และมันก็กำลังจะแต่งงานด้วย..

แต่ผมได้ "..กลิ่น.." กลิ่นที่ไม่ดีเท่าไหร่ กับงานแต่ง
ที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเพื่อน ๆ
ผมแสดงออกอ้อม ๆ โดยการไม่ไปงานแต่ง นายA
เพราะผมรู้สึกว่า นี่อาจไม่ใช่เรื่องที่น่าไปร่วมยินดี..
มีสัญญาณที่ผมรู้สึกได้ว่า คงไม่ใช่รักที่ยั่งยืน..
(ส่วนตัวผม ไม่ชอบไปร่วมยินดีกับอะไร ปลอม ๆ..)

แล้วผลลัพธ์ก็ออกมา.. นายA แต่งงานได้ราว 2ปี
"ก็เลิกรา" โดยลูกสาววัย 2ขวบ..อยู่กับเมียแต่ง..
สาเหตุหลัก ๆ ที่จบสัมพันธ์ คือ นายA ถูกจับได้ว่า
"มีกิ๊ก" ซึ่งนายA ก็ปฏิเสธว่า ไม่ได้มีอะไรกับสาว
ที่เมียแต่งกล่าวหาว่า เป็นกิ๊กกับนายA

..หลังจากเลิกเมียแต่ง นายAก็ได้เป็นแฟนกับสาว
ที่ตัวมันปฏิเสธว่า ไม่ได้มีอะไรนั่นแหละ.. แต่มัน
ก็ไม่ได้ดูสำนึกว่า เรื่องที่เกิดเป็นความผิดมันนะ
มันเล่าให้ เพื่อน ๆ ฟัง ทำนองว่า เมียแต่ง..แย่..
(ขอละรายละเอียด.. เอาเป็นว่า มันไม่ผิดละกัน)

มันขอมุ่งเป็นพ่อที่ดีของลูก..
โดยการตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อลูก ..แต่..
จะส่งให้ลูกแต่ละทีก็ไม่สบายใจ กลัวเงิน
ลูกไม่ได้ใช้เต็มที่ อดีตเมียจะเบียดบังเงินมัน..
(แต่ลูกมัน อดีตเมียเลี้ยง.. และก็ไม่เคยได้ยิน
ว่ามันพยายามเอาลูกมาเลี้ยงเอง.. อาจเพราะ
ไม่จดทะเบียนสมรส.. สิทธิเลยอยู่ที่แม่มั้ง..
อันนี้ผมก็ไม่รู้รายละเอียด เล่าเท่าที่เห็น ๆ )

ไม่นาน..มันก็เลิกกับสาว ที่ทำให้มันเลิกกับเมียแต่ง
(มันว่า ผู้หญิงเป็นฝ่ายเลิกไป) ..เหงาเลยเพื่อนผม..
ไม่หรอก..ตอนนี้มันก็มีแฟนใหม่ เป็นแฟนคนปัจจุบัน..
โดยที่มันยังอาลัยกับสาวคนที่ทำหย่าเมีย คนนี้อยู่..

เรื่องราวของ นายA ช่วงตั้งแต่แต่งงานนี่ ผมรู้อ้อม ๆ
จากเพื่อนอีกคน แต่ก็พอที่จะเห็นภาพชีวิตของมัน..

ถึงอย่างที่เล่ามาก็เถอะ นายA ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการ
เข้าสังคมแต่อย่างใด ก็ยังมีคนรักคนชอบ ซะมาก
อาจเพราะไม่มีใครมารู้ลึก ๆ แบบนี้ หรือไม่เห็นเป็น
เรื่องสำคัญอะไร.. ในฐานะเพื่อนก็ไม่ได้อยากเห็น
เวรกรรมอะไรหรอก แต่ก็ถือเป็นบทเรียนให้ตระหนัก
กับเรื่องความรัก ชีวิตคู่ ให้กับตัวผมเองอย่างตราตรึง...

(ที่ตลก คือ นายA มักทำเป็นหวังดี ห่วงเรื่องผม
ว่าจะไปเจอดราม่าเรื่องผู้หญิง อย่างงั้นอย่างงี้..
แต่ผมเอง มีดราม่าเรื่องรัก แค่ครั้งเดียว ใน10กว่าปี
แล้วก็โสดสนิท ส่วนนายA ก็อย่างที่เล่ามา เช่นนั้น...)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่