อนาคตเราอยู่ตรงไหน ช่วยคิดหน่อยค่ะ!!!!! แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว

เรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนแต่งงานอยู่กินกันมา3ปี หลังแต่งงานแฟนก็มาอยู่กับครอบครัวเราที่บ้าน บ้านเราทำธุรกิจรับเหมาเล็กๆ
รายได้ของแฟนเรา15,000บาทเบี้ยขยันถ้าทำได้3,000บาท(แฟนเราเรียนไม่จบม.3)ค่าใช้จ่ายรถบิ๊กไบท์4,000บ./ด.ให้ที่บ้าน5,000บ./ด.
เหลือใช้ส่วนตัว6,000-9,000บ./ด.แล้วแต่เดือนไหนได้เบี้ยขยันเงินนี้ก็ใช้จ่ายทั่วไปเช่นค่าโทรศัพท์ค่ากินข้าวนอกบ้านค่าบุหรี่ของใช้ส่วนตัวส่วนรายได้ของเราขายของออนไลน์ได้40,000+บาททำงานที่บ้านธุรกิจของพ่อทำบิลต่างๆเงินเดือน15,000บาท(เราจบป.ตรี)ค่าใช้จ่ายรถยนต์9,500บ./ด.(รถจะหมดเดือนกันยายนนี้ดีใจ)ซื้อบ้านเอื้ออาทรไว4,500บ./ด.(แต่ไม่มีคนอยู่ว่าจะให้เค้าเช่าแล้วคะแต่ยังไม่ได้ให้ใครเช่า)เราค่อนข้างเป็นคนเก็บออมมีเงินเก็บ
เรื่องของเรื่องคือ 2-3 เดือนที่ผ่านมาแฟนได้หาซื้ออาคารพาณิชย์เพราะอยากให้พ่อมีหน้าร้านตัดอลูมิเนียมและให้พ่อแม่พี่น้องมาอยู่และเจออาคารถูกใจทำเรื่องกำลังจะผ่าน แต่ก่อนซื้อเราเคยบอกว่าอยากให้ใช้แค่ชื่อเค้าคนเดียวซื้อจะผ่านก็ต้องเป็นแค่ชื่อแฟนคนเดียวเราไม่อยากกู้ร่วมเรากลัวมีปัญหา เค้าขอร้องให้เรากู้ร่วมแล้วใช้ชื่อเราด้วย สรุปคือผ่านเพราะชื่อเราเป็นคนซื้อ แต่ประเด็นคือมันอยู่ตรงที่เงินผ่อนเดือนละ14000ตรงนี้เค้าบอกเค้าจะเอาเงินเดือนเค้าทั้งหมดผ่อนเองแต่เราก็ยังงงกับเค้าว่าถ้าเอาเงินเดือนทั้งหมดมาส่ง แล้วค่าใช้จ่ายอื่นต้องเป็นของเราหรอแล้วอีกอย่างบ้านเอื้ออาทรที่เราซื้อไว้ เราเคยบอกให้แฟนเอาพ่อแม่พี่น้องเค้ามาอยู่ได้เลยเราให้เค้าอยู่โดยที่เราจะส่งเอง(ปัจจุบันครอบครัวแฟนเช่าบ้านอยู่)แม่แฟนบอกว่าไม่มาอยู่หรอกบ้านเป็นชื่อเรากลัวเราไล่เค้า เราถามแฟนว่าเราเป็นคนแบบนั้นหรอ ที่เราเลือกแต่งงานกับแฟนเพราะเค้าดูแลเราดีมากๆ เข้าที่เรื่องอาคารพาณิชย์ต่อที่ผ่านได้ก็เพราะชื่อเรามั้ยแล้วทำไมแม่แฟนถึงจะยอมมาอยู่ทั้งที่ก็มีชื่อเราเหมือนกันอีกอย่างเรามองว่ามันคือภาระใหญ่ของเราถึงแม้แฟนเราจะบอกว่าเค้าจะส่งแต่รายได้เค้ามันมีแค่น้อยนิดจะส่งยังไง เรายังไม่กล้าคุยรายละเอียดกับแฟนเราไม่อยากได้ภาระนี้เลยเราจะคุยกับแฟนยังไงดี เรื่องผ่านแต่เรายังไม่ไปทำสัญญาถ้าไม่ไปทำก็โดนยึดมัดจำ แต่อีกใจเราก็คิดว่าเค้าอยากให้ครอบครัวเค้าสบายโดยที่ทำให้เราคิดมากแบบนี้หรอ การให้ความจริงเราทั้ง2ฝ่ายควรให้เท่าๆกันถ้าฝ่าใดฝ่ายหนึ่งให้มากหรือน้อยไปมันจะดูไม่แฟร์และทำให้คิดมากเราคิดแบบนั้นคิดรวมๆแล้วถ้าได้อาคารนี้มาเงินเดือนแฟนผ่อนก็จริงค่าใช้จ่ายอื่นของเค้าเช่นค่ากินข้าวนอกบ้านค่าบุหรี่อื่นๆของเค้าต้องกลายเป็นของเราแล้วถ้าวันหนึ่งเรามีลูกด้วยกันละ อาคารผ่อนอย่างน้อยก็15-20ปี อนาคตของเราของลูกอยู่ตรงไหนเราเคยคุยเรื่องว่าถ้าเรามีลูกเค้าจะให้อะไรลูกได้บ้างถ้าลูกอยากได้ของเล่นสักชิ้น เค้าบอกมันเป็นเรื่องของอนาคต เราคิดมากไปมั้ย ช่วยเราคิดทีคะเราควรทำยังไง สมมติฐานของเราตอนนี้คือ
1.ซื้ออาคารสำเร็จพ่อแม่พี่น้องน้องมาอยู่ในที่ดีกว่าเดิมเค้าแฮปปี้ เราลำบากใจ พ่อเค้าเปิดร้านอลูมิเนียมลงทุนทำรายได้หรืออาจจะขาดทุนต่อเดือนก็มีความเป็นไปได้เพราะธุรกิจมีความเสี่ยง เงินเดือนแฟนเกือบทั้งหมดมาผ่อนอาคาร ถ้าพ่อเปิดร้านอลูมิเนียมแล้วไม่มีรายได้ก็ต้องพึ่งพาจากแฟนเราอีกนั่นหมายถึงเราต้องรัภาระตรงนี้ แต่ถ้ามีรายได้ก็น่าจะดีขึ้น แม่เค้าเป็นแม่บ้านไม่ได้ทำงาน พี่สาวเค้ามีครบครัวใช้ชีวิตกับครอบครัวเค้า และน้องเค้าทำงานได้ที่ละเดือนเปลี่ยนงานไปเรื่อย ขอเงินพ่อแท่ใช้อยู่น้องเค้าอายุรุ่นเดียวกับเรา
2.ไม่ซื้ออาคาร เราก็ไม่ลำบากใจ อมทุกข์
ช่วยแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ทีคะ รู้สึกอึดอัดมาก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่