การให้ทาน ขั้นสูงสุด สามารถบรรลุโสดาบันได้ ถึงอรหันต์ ธรรมะมากยิ่งกว่าเม็ดทราย

การให้ทาน แบบการปัฏิบัติ ถวายชีวิตแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ให้ด้วยวัตถุ ให้ด้วยการอภัย ให้ด้วยปัญญา  เมื่อเรานั่งสมาธิในท่ามกลางธรรมชาติ  จิตที่ชักฟอกด้วยการให้ โดยไม่ตัวของเราแล้ว  ให้ได้แม้แต่ชีวิต    สมาธิจะทรงตัวได้เร็วทำให้มีสติ   ศีลก็จะเกิด  ภาวนาก็จะตามมา แต่ก็อย่าหลงเพราะมันเป็นกฏไตรลักษณ์ เรานั่งสมาธิเพื่อให้มีสติ เอาไว้ตามดูจิต  ตามทันจิต ตามรู้ ว่ามันเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ ดับ   ถ้าเราตามรู้สติบ่อยๆ จิตมันจะไม่หลอกเราเลย  ตามรู้ อย่าบังคับ รู้อย่างเดียว เพราะมันเป็นธาตุที่มาประชุมกัน เราเกิดขึ้นจากธาตุ   แล้วปัญญามันจะเกิดเอง ตัวเอาชีวิตเข้าแลกด้วยนะ ตายก็ให้มันตายไป  ถ้าไม่เห็นธรรมไม่มีถอย เหมื่อยก็ลุกขึ้นยืน  ทำไปเรื่อยๆทุกวัน นอนก็สมถะ  ตื่นก็วิปัสนาก้มฐาน    ถ้ามันทุกข์อยู่ก็อย่าได้วิตก  มันเป็นไตรลักษณ์ รูปและนาม ไม่เที่ยงเรามีหน้าที่ รู้  ไม่ใช่รู้ทุกสรรพสิ่งนะและไม่ใช่รู้แบบมีการศึกษานะ   รู้ว่ามันเป็นของมันอยู่อย่างนั้น นั้นแหละคือธรรมชาติ  เราอย่าได้ไปแต่งเติม ปรุงแต่งให้เป็นกรรมเลย รู้แล้วไงว่าไม่ใช่ของเรา มันคือธรรมชาติที่ปรุงแต่งรูปและนาม  เราเป็นผู้ รู้ อย่าได้ยึด ทุกคนคือผู้ รู้ ในธรรมหรือในธรรมชาติของตัวเอง แต่จิตมันหลอกให้เราไม่รู้ มันพาเราไปหาแต่มาร ฉะนั้น จงดูจิต ว่ามันพาเราไปหาเทพ ที่เรียกว่าสุข และมารที่เรียกทุกข์ กี่ครัง อย่างน้อยท่านก็ได้พบหนทางไปนิพานแล้วหนึงก้าว เพราะรู้ ปันจุบันว่าทุกข์มาจากไหน ก็ได้ชื่อว่าบุคคลได้ทำความเพียรแล้ว  ถ้าการเผยธรรมะในครั้งนี้ขัดหลักศาสนา คำสอนของพระพุทธเจ้า ผมขอรับกรรมเพียงผู้เดียว   แต่ถ้าคือความจริงและเป็นประโยนช์ ผมขอให้ผมถูกรางวัลที่1 เพื่อเป็นพยานในการแพร่ธรรมะในครั้งนี้