เวลาที่คนรักจากเราไป ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ก็จะยังเสียใจ และคิดถึงเสมอ ผมเป็นอีก 1 คนที่เป็นเช่นนั่น
ผมไม่คิดว่า "โรคมะเร็ง" จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของผม ผมไม่คิดว่า อาการฉี่ไม่ออก ฉี่เป็นเลือดของพ่อ จะทำให้เราเจอเนิ้อร้าย
ที่เริ่มก่อตัว อุดตันบริเวณท่อปัสสาวะ พ่อไม่เคยบอกคนในครอบครัว แม่ ผม พี่สาว เลยสักนิด จนถึงวันที่ปวดหนักจนทนไม่ไหว
ทางโรงพยาบาล ได้แจ้งกับแม่ของผมว่า "มีเนื้องอกเกิดขึ้นบริเวณท่อปัสสาวะ เนื้องอกดันผนังท่อปัสสาวะจนทำให้เลือดออก เบื้องต้นจะต้องทำการขูดท่อปัสสาวะเอาเนื้องอกออก และเอาชิ้นเนื้อที่ขูด นำไปตรวจว่ามีเชื่อมะเร็ง"
ช่วงเวลา 2 อาทิตย์ แม่ พี่สาว ผม และ พ่อ ลุ้นกับผลตรวจที่จะออกมา ขอพรไหว้พระ บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สรุป....เนื้อที่งอกออกมา คือ "มะเร็ง"
หมอแนะนำให้รักษา ไม่ควรนิ่งเฉย แต่ด้วยอายุของพ่อที่มาก ร่างกายที่เสื่อมโทรม ทำงานหนักมาทั้งชีวิต จึงทำได้แค่รักษาตามอาการ
เดือนตุลาคม 2560
-เริ่มทำการรักษา
เดือนพฤศจิกายน 2560
-เจอเพิ่ม บริเวณปอด มะเร็งกระจายทั่วปอด //พ่อ-แม่ยังรู้ พี่สาวกับผมเท่านั่นที่รู้ และหมอบอกว่า "พ่อจะอยู่ได้อีก 6 เดือน"
เร็วไปไหม? เร็วเกินไปนะหมอ ทำไม!! หมอพูดแบบนี้? ในใจของผมมีคำถามมากมาย ความรู้สึกที่เหมือนโลกทั้งใบจะแตก ร้องไห้เป็นอาทิตย์ ต้องโกหกพ่อและแม่ให้สบายใจ สู้ๆ นะพ่อ เดียวก็หาย
เดือนเมษายน 2561
-จะครบ 6 เดือนแล้ว อิอิ ดีใจจัง พ่อยังไม่มีอาการของคนที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง แต่ความดีใจต้องผมก็ดับลง พี่สาวบอกว่า "เจอเพิ่มในกระเพาะ" ผมเริ่มทำใจ แต่ก็ไม่ได้ผลเท่าไร ฮ่าๆๆ คุยกับใครก็ร้องไห้ นอนไม่หลับ จะนอนก็ร้องไห้
เดือนพฤษภาคม 2561
-พ่อเริ่มมีอาการปวด ถึงปวดมาก จนหมอต้องให้ มอร์ฟีนทั้งแบบน้ำ และเม็ด พ่อเริ่มมีอาการเบลอ นอนคุยกับผ้าม่าน กราบลูก ขอบคุณลูกที่มาดูแล กอดแม่ สั่งลา *ความรู้สึกของผมล้มละลายไปแล้วครับ
เดือนมิถุนายน 2561
- 1 มิถุนายน 2561 ผมรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล (ผมทำงานอยู่กรุงเทพ) สิ่งที่ผมเห็น คือผู้ชายแก่ๆ ชายที่ผมรักสุดหัวใจ ร่างกายชูบผอมนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง ผมรีบเข้าไปกอด กระซิบบอกพ่อ "พ่อ....มาแล้วนะ สู้ๆ พ่อ" พ่อไม่ได้ลืมตามามองแต่ก็ขยับแขนรับรู้
- 2 มิถุนายน 2561 อาการของพ่อวันนี้ ไม่ต่างจากวันที่ 1 มิถุนายน 2561 พ่อยังรู้สึกตัวบ้าง แต่ไม่ค่อยขยับ และมีแผลก้นทับบริเวณก้น
- 3 มิถุนายน 2561 ผมได้นิมนต์พระเพื่อนมาที่โรงพยาบาล พระเพื่อนได้เจอพ่อ พ่อได้ทำบุญ ได้ถวายสังฆทาน ผมเชื่อ พ่อรับรู้ได้
เวลา 21.00 พ่อก็จากเราไปอย่างสงบครับ
- 4 มิถุนายน 2561 พ่อน่าจะหมดทุกข์ พ่อนอนยิ้ม สวนเสื้อตัวโปรดสีชมพู กางแกงขายาวสีดำ ต้องเท้าสานสีน้ำตาล และหมวก flat
แม่ พี่สาว พวกเราได้ดูแลพ่ออย่างเต็ม วันที่พ่อจากพวกเราไป(ติดเชื้อในกระแสเลือด) ใช้เวลาแค่ 3วัน (หลังจากที่พ่อเข้าโรงพยาบาล)
พ่อไม่ต้องทรมาน พ่อไม่ต้องโดนผ่า พ่อไม่ต้องทนกินอาหารจืดๆ ไม่อร่อย
ผมพยายามที่จะไม่ร้องไห้ พ่อจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา ถ้าพ่อสามารถรับรู้ได้ จะรู้ว่าพวกเรา "รักและคิดถึง" เสมอ
ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดได้อ่าน การได้ดูแลเอาใจใส่กันและกัน จะทำให้เรามีความสุขครับ
คิดถึง....พ่อ
ผมไม่คิดว่า "โรคมะเร็ง" จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของผม ผมไม่คิดว่า อาการฉี่ไม่ออก ฉี่เป็นเลือดของพ่อ จะทำให้เราเจอเนิ้อร้าย
ที่เริ่มก่อตัว อุดตันบริเวณท่อปัสสาวะ พ่อไม่เคยบอกคนในครอบครัว แม่ ผม พี่สาว เลยสักนิด จนถึงวันที่ปวดหนักจนทนไม่ไหว
ทางโรงพยาบาล ได้แจ้งกับแม่ของผมว่า "มีเนื้องอกเกิดขึ้นบริเวณท่อปัสสาวะ เนื้องอกดันผนังท่อปัสสาวะจนทำให้เลือดออก เบื้องต้นจะต้องทำการขูดท่อปัสสาวะเอาเนื้องอกออก และเอาชิ้นเนื้อที่ขูด นำไปตรวจว่ามีเชื่อมะเร็ง"
ช่วงเวลา 2 อาทิตย์ แม่ พี่สาว ผม และ พ่อ ลุ้นกับผลตรวจที่จะออกมา ขอพรไหว้พระ บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สรุป....เนื้อที่งอกออกมา คือ "มะเร็ง"
หมอแนะนำให้รักษา ไม่ควรนิ่งเฉย แต่ด้วยอายุของพ่อที่มาก ร่างกายที่เสื่อมโทรม ทำงานหนักมาทั้งชีวิต จึงทำได้แค่รักษาตามอาการ
เดือนตุลาคม 2560
-เริ่มทำการรักษา
เดือนพฤศจิกายน 2560
-เจอเพิ่ม บริเวณปอด มะเร็งกระจายทั่วปอด //พ่อ-แม่ยังรู้ พี่สาวกับผมเท่านั่นที่รู้ และหมอบอกว่า "พ่อจะอยู่ได้อีก 6 เดือน"
เร็วไปไหม? เร็วเกินไปนะหมอ ทำไม!! หมอพูดแบบนี้? ในใจของผมมีคำถามมากมาย ความรู้สึกที่เหมือนโลกทั้งใบจะแตก ร้องไห้เป็นอาทิตย์ ต้องโกหกพ่อและแม่ให้สบายใจ สู้ๆ นะพ่อ เดียวก็หาย
เดือนเมษายน 2561
-จะครบ 6 เดือนแล้ว อิอิ ดีใจจัง พ่อยังไม่มีอาการของคนที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง แต่ความดีใจต้องผมก็ดับลง พี่สาวบอกว่า "เจอเพิ่มในกระเพาะ" ผมเริ่มทำใจ แต่ก็ไม่ได้ผลเท่าไร ฮ่าๆๆ คุยกับใครก็ร้องไห้ นอนไม่หลับ จะนอนก็ร้องไห้
เดือนพฤษภาคม 2561
-พ่อเริ่มมีอาการปวด ถึงปวดมาก จนหมอต้องให้ มอร์ฟีนทั้งแบบน้ำ และเม็ด พ่อเริ่มมีอาการเบลอ นอนคุยกับผ้าม่าน กราบลูก ขอบคุณลูกที่มาดูแล กอดแม่ สั่งลา *ความรู้สึกของผมล้มละลายไปแล้วครับ
เดือนมิถุนายน 2561
- 1 มิถุนายน 2561 ผมรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล (ผมทำงานอยู่กรุงเทพ) สิ่งที่ผมเห็น คือผู้ชายแก่ๆ ชายที่ผมรักสุดหัวใจ ร่างกายชูบผอมนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง ผมรีบเข้าไปกอด กระซิบบอกพ่อ "พ่อ....มาแล้วนะ สู้ๆ พ่อ" พ่อไม่ได้ลืมตามามองแต่ก็ขยับแขนรับรู้
- 2 มิถุนายน 2561 อาการของพ่อวันนี้ ไม่ต่างจากวันที่ 1 มิถุนายน 2561 พ่อยังรู้สึกตัวบ้าง แต่ไม่ค่อยขยับ และมีแผลก้นทับบริเวณก้น
- 3 มิถุนายน 2561 ผมได้นิมนต์พระเพื่อนมาที่โรงพยาบาล พระเพื่อนได้เจอพ่อ พ่อได้ทำบุญ ได้ถวายสังฆทาน ผมเชื่อ พ่อรับรู้ได้
เวลา 21.00 พ่อก็จากเราไปอย่างสงบครับ
- 4 มิถุนายน 2561 พ่อน่าจะหมดทุกข์ พ่อนอนยิ้ม สวนเสื้อตัวโปรดสีชมพู กางแกงขายาวสีดำ ต้องเท้าสานสีน้ำตาล และหมวก flat
แม่ พี่สาว พวกเราได้ดูแลพ่ออย่างเต็ม วันที่พ่อจากพวกเราไป(ติดเชื้อในกระแสเลือด) ใช้เวลาแค่ 3วัน (หลังจากที่พ่อเข้าโรงพยาบาล)
พ่อไม่ต้องทรมาน พ่อไม่ต้องโดนผ่า พ่อไม่ต้องทนกินอาหารจืดๆ ไม่อร่อย
ผมพยายามที่จะไม่ร้องไห้ พ่อจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา ถ้าพ่อสามารถรับรู้ได้ จะรู้ว่าพวกเรา "รักและคิดถึง" เสมอ
ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดได้อ่าน การได้ดูแลเอาใจใส่กันและกัน จะทำให้เรามีความสุขครับ