Bonjour! (บอง จูวฮ์) สวัสดีค่า กลับมาต่อภาคจบการเที่ยวในบริเวณ Côte d'Azur ซึ่งอยู่บริเวณฝรั่งเศสตอนใต้นะคะ

ก่อนอื่นอยากจะแชร์ความรู้ภาษาฝรั่งเศสของชื่อสถานที่ที่เราไปมาค่าา
Beau (อ่านว่า โบ) = Beautiful สวย / Lieu (อ่านว่า ลิ เอ่อ) = place สถานที่
Sur (อ่านว่า ซูฮ์) = On (preposition) บน
Mer (อ่านว่า แมรฮ์) = Sea ทะเล
ดังนั้นเมืองนี้ชื่อ Beaulieu-sur-mer แปลว่า สถานที่สวยบนทะเล ก็สมชื่อเค้านะคะ สวยจริงๆ เดี๋ยวเราไปดูภาพกัน
อ้อ แล้วก็เมือง Nice อ่านว่า นีซ นะคะ อย่าอ่านว่า ไนซ์ เหมือนในภาษาอังกฤษ เพราะถ้าออกเสียงแบบนั้นคนขายตั๋วรถไฟจะบอกว่าประเทศฝรั่งเศสไม่มีเมืองนั้น ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
เหตุที่มาเที่ยวที่ Beaulieu-sur-mer และ Villefranche-sur-mer นั้นเพราะว่าเรามาเที่ยว Nice อยู่ 3 วันแบบชิลๆ
ไม่เน้นเก็น RC ใดๆ แค่ได้ลงเล่นน้ำทะเลที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ให้คลื่นนุ่มๆซัด ใช้ชีวิต slow life เป็นพอ แต่ว่า 3 วันในนีซมันก็งั้นๆ เราซุกซน เลยท่อง google map ไปซูมดูสถานที่ใกล้เคียง และพบว่า Cap Ferret ที่ Beaulieu-sur-mer มี Villa สีชมพูที่เห็นวิวทะเลสวยมากๆๆๆ พร้อม story มากมายของ Villa แห่งนี้ เราเลยมุ่งหน้าไปเมืองนั้น แต่เผอิญว่าขากลับมาต้องผ่านเมือง Villefranche-sur-mer ด้วย เลยแวะไปทานดินเนอร์ริมทะเลที่นั่นค่ะ
เอาหล่ะค่ะ เกริ่นสั้นๆแล้ว ตามมาดูภาพพร้อมคำบรรยยายใต้ภาาพได้เลยค่า
ถ้าเดินมุ่งหน้าลงทิศใต้แด่วๆๆจากสถานีรถไฟประจำเมืองนีซเลยเนี่ย เราจะผ่านสถานที่แห่งนี้ค่ะ
และนี่คือ Basilica of Our Lady of the Assumption หรือเรียกกันว่า Notre-Dame à Nice วึ่งตั้งอยู่บนถนน Jean-Médecin บริเวณ city center
ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ใหญ่สุดในเมืองนีซ สถาปัตยกรรมเป็นแบบ Néogothique

อันนี้เราเดินเล่นในเมืองนะคะ บริเวณนี้เหมือนเป็นจตุรัสเมืองชื่อ Nice Masssena ค่ะ

และนี่เราก็มาเดินซื้อของกินเล็กๆน้อยที่ตลาดนี้ค่ะ ซึ่งอยู่บริเวณ Old Town ของเมือง
มีขายทั้งของกิน ของฝากเล้กๆน้อยๆ ดอกไม้สวยๆ

อันนี้เราปีนขึ้นไปที่ Ascenseur du Château นะคะ ปีนบันไดขึ้นไปเหนื่อยพอควร แต่วิวหลักล้านพร้อมลมทะเลตึงพัดเข้าหน้าตลอดเวลา เลยทำให้มีอารมณ์ปีนขึ้นไปค่ะ ถ้าร้อนแล้วไม่มีอารมณ์นี่ต้องขอลา ฮ่าๆๆ และพอเราขึ้นไปจุดสูงสุดเราจะเห็นวิวแบบนี้
ซึ่งบริเวณนี้คืออ่าวนางฟ้า (Baie des anges โดยที่ Baie (อ่านว่า เบย์) = Bay, des (preposition) (อ่านว่า เด) = of และ anges (อ่านว่า อ๊อชซ์) = angels นางฟ้า) ประจำเมืองนีซนั่นเองค่ะ

หูว... สีร่มที่ใช้โดดนี่ตัดกับสีน้ำทะเลมากๆเลยค่ะเฮีย

จากนั้นเราก็เดินอ้อมโค้งจากบริเวณนี้ไปอีกนิดนึงเราจะพบกับ Monument aux Morts de Rauba-Capeu (อนุสาวรีย์แห่งความตายของ Rauba-Capeu)
ทำไมแปลแล้วมันฟังดูสยองขนาดนี้ แต่มันสร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ citizens ของเมือง Nice ที่ถูกฆ่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (WWI)

หลังจากเดินไปรอบๆอ่าวนางฟ้าก็มีความร้อนระดับสุด เลยปล่อยให้ Gelato เยียวยาทุกสิ่ง
Gelato วันนี้มีรสชาติพิเศษคือ สีส้มๆเหลืองเป็นรสชาติเมดิเตอร์เรเนียน รสนุ่มสดชื่น ส่วนสีฟ้าเป็นรสสาหร่าย spirulina ค่ะ fancy สุดๆ

จากนั้นเราก็ไปเล่นน้ำทะเลเหนื่อยก็ขึ้นมาทานสลัดกุ้งสดค่ะ แต่มันอร่อยตรงที่เค้าใส่ไอ้เจ้า Pomplamoose ค่ะ เป็นส้มสีแดงเข้ม หืออร่อยสดชื่นมาก

จากนั้นพระอาทิตย์ตกดิน เราก็เดินเล่นค่ะถ่ายรูปเมืองกลางคืนเล่นค่ะ

******************************************************************************************
เปิดวาร์ปไปต่อที่เมือง Beaulieu-sur-mer นะคะ ซึ่งเป็นเมืองใกล้ๆกับ Nice เราสามารถซื้อตั๋วรถไฟสดได้จากตู้กดซื้อตั๋วรถไฟ SNCF ได้ที่สถานีเลยค่ะ ตั๋วนี้เราซื้อก่อนออกเดินทางแค่ 30 นาทีเท่านั้นค่ะ เที่ยวชุกระหุกมาก ฮ่าๆๆ
อันนี้เราเดินเลาะชายหาดไปเรื่อยๆเลยนะคะ โดยที่มุ่งหน้าไปที่ Cap Ferret ดูความสวยของหาดนี้ซิค่ะ โอ้ยยย ฟิน

อดใจไม่ไหว ขอซักรูปนะคะ แต่ขอที่ร่มๆแบบมีเงาไม้หน่อยละกัน กลัวดำ แฮะๆ

สำหรับสถานที่แห่งนี้คือ Villa Ephrussi de Rothschild หรืออาจจะเรียกว่า Villa Île-de-France ค่ะ
ซึ่ง Villa แห่งนี้ตั้งอยู่บนแหลม Saint-Jean-Cap-Ferrat วิลล่านี้มี story ค่ะ
เนื่องจากมันเป็นวิลล่าของสาวฝรั่งเศสไฮโซผู้หนึ่งที่ได้เงินซื้อบ้านหลังนี้มาจากมรดกพ่อของเธอ หลังจากที่พ่อของเธอตาย
สาวไฮโซผู้นนี้ชื่อ Béatrice (เบเอ่ะทริซ) เธอผู้นี้ต่อมาได้แต่งงานกับนักธุรกิจชาวรัสเซียที่รวยมาก ทำให้เธอใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อได้สุดตัว
ของใช้ในบ้านของเธอจะเป็นศิลปะ master piece และ collection หายากในยุคสมัยนั้นๆ ไม่พอนะคะวิลล่าแห่งนี้มีวิวหลักล้านที่ไม่ว่าจะโผล่หน้าออกไปที่กระจกบานไหนๆก็ฟิ้นฟินค่ะ แต่ต่อมาเธอผู้นี้เริ่มล้มละลายเพราะติดการพนัน เธอเล่นการพนันอย่างหนักหน่วง และสาเหตุที่เลือกสร้างวิลล่าที่เมืองนี้ก็เพราะมันอยู่ใกล้เมืองโมนาโคค่ะ ซึ่งมีแห่งเล่นการพนันใหญ่อย่าง Monte Carlo และเหตุนี้นี่เองทำให้เธอกับสามีได้หย่าร้างกัน
จำได้แค่นี้ค่ะจากการฟังเค้าบรรยายมา ฮ่าๆๆ มาดูรูปความสวยวิลล่าแห่งนี้กันเลยค่า (เอามาให้ดูพอสังเขปนะคะ จะได้ไม่สปอยคนกำลังจะไป อิอิ เดี๋ยวไม่ตื่นเต้น)





ทางเข้าวิลล่านี้นะคะ มีความชมพูทั้งสีตึกและดอกไม้ สาวๆชอบแน่นอนค่ะ


ที่วิลล่านี้มีสวนด้วยนะคะ เค้าจะมีการแสดงน้ำพุทุกๆ 20 นาทีด้วย เปิดเพลงบรรเลงไปด้วย เพลินดีค่ะ
สวนอันนี้เรียกว่า Temple of Love นะคะเป็นศาลาที่มีรูปปั้นอยู่ตรงข้ามกับวิลล่าหลังงาม สวยสงบร่มเย็นมากๆค่ะ
ใครมาวิลล่าแห่งนี้อย่าลืมเดินให้รอบสวนให้ทุกๆมุมนะคะ มันสวยมากๆๆๆๆๆค่ะ มีหลายมุมให้ได้โพสท่าเกร๋ๆแน่นอน


จริงในส่วนนี้เราอัดวิดีโอเสสียเป็นส่วนใหญ่ค่ะ แต่ไม่รู้เอาลงพันทิพยังไง เลยมีรูปมาฝากพอสังเขปเพียงเท่านี้นะคะ
*******************************************************************************************
เปิดวาร์ปต่อมาที่เมือง Villfranche-sur-mer เราแวะเมืองนี้เพื่อแค่มาทานอาหารเย็นริมทะเลในเมืองเล็กๆที่คนไม่หนาแน่นเท่าเองค่ะ
มาดูภาพบรรยากาศกัน


แล้วก็บินกลับสวิสค่ะจากสนามบินที่เมืองนีซ

*******************************************************************************************
ขอบคุณที่อ่านกันจนมาจนจบนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในทริปหน้าๆค่ะ
ทริป Marseille:
https://pantip.com/topic/37930262
ทริป Cannes:
https://pantip.com/topic/37931910
ทริป Monaco:
https://pantip.com/topic/37940063
กิน + เที่ยวประเทศฝรั่งเศสที่เมือง Beaulieu-sur-mer, Villefranche-sur-mer และ Nice ใน 3 วัน (ตอนจบ: Côte d'Azur)
Bonjour! (บอง จูวฮ์) สวัสดีค่า กลับมาต่อภาคจบการเที่ยวในบริเวณ Côte d'Azur ซึ่งอยู่บริเวณฝรั่งเศสตอนใต้นะคะ
ก่อนอื่นอยากจะแชร์ความรู้ภาษาฝรั่งเศสของชื่อสถานที่ที่เราไปมาค่าา
Beau (อ่านว่า โบ) = Beautiful สวย / Lieu (อ่านว่า ลิ เอ่อ) = place สถานที่
Sur (อ่านว่า ซูฮ์) = On (preposition) บน
Mer (อ่านว่า แมรฮ์) = Sea ทะเล
ดังนั้นเมืองนี้ชื่อ Beaulieu-sur-mer แปลว่า สถานที่สวยบนทะเล ก็สมชื่อเค้านะคะ สวยจริงๆ เดี๋ยวเราไปดูภาพกัน
อ้อ แล้วก็เมือง Nice อ่านว่า นีซ นะคะ อย่าอ่านว่า ไนซ์ เหมือนในภาษาอังกฤษ เพราะถ้าออกเสียงแบบนั้นคนขายตั๋วรถไฟจะบอกว่าประเทศฝรั่งเศสไม่มีเมืองนั้น ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
เหตุที่มาเที่ยวที่ Beaulieu-sur-mer และ Villefranche-sur-mer นั้นเพราะว่าเรามาเที่ยว Nice อยู่ 3 วันแบบชิลๆ
ไม่เน้นเก็น RC ใดๆ แค่ได้ลงเล่นน้ำทะเลที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ให้คลื่นนุ่มๆซัด ใช้ชีวิต slow life เป็นพอ แต่ว่า 3 วันในนีซมันก็งั้นๆ เราซุกซน เลยท่อง google map ไปซูมดูสถานที่ใกล้เคียง และพบว่า Cap Ferret ที่ Beaulieu-sur-mer มี Villa สีชมพูที่เห็นวิวทะเลสวยมากๆๆๆ พร้อม story มากมายของ Villa แห่งนี้ เราเลยมุ่งหน้าไปเมืองนั้น แต่เผอิญว่าขากลับมาต้องผ่านเมือง Villefranche-sur-mer ด้วย เลยแวะไปทานดินเนอร์ริมทะเลที่นั่นค่ะ
เอาหล่ะค่ะ เกริ่นสั้นๆแล้ว ตามมาดูภาพพร้อมคำบรรยยายใต้ภาาพได้เลยค่า
ถ้าเดินมุ่งหน้าลงทิศใต้แด่วๆๆจากสถานีรถไฟประจำเมืองนีซเลยเนี่ย เราจะผ่านสถานที่แห่งนี้ค่ะ
และนี่คือ Basilica of Our Lady of the Assumption หรือเรียกกันว่า Notre-Dame à Nice วึ่งตั้งอยู่บนถนน Jean-Médecin บริเวณ city center
ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ใหญ่สุดในเมืองนีซ สถาปัตยกรรมเป็นแบบ Néogothique
อันนี้เราเดินเล่นในเมืองนะคะ บริเวณนี้เหมือนเป็นจตุรัสเมืองชื่อ Nice Masssena ค่ะ
และนี่เราก็มาเดินซื้อของกินเล็กๆน้อยที่ตลาดนี้ค่ะ ซึ่งอยู่บริเวณ Old Town ของเมือง
มีขายทั้งของกิน ของฝากเล้กๆน้อยๆ ดอกไม้สวยๆ
อันนี้เราปีนขึ้นไปที่ Ascenseur du Château นะคะ ปีนบันไดขึ้นไปเหนื่อยพอควร แต่วิวหลักล้านพร้อมลมทะเลตึงพัดเข้าหน้าตลอดเวลา เลยทำให้มีอารมณ์ปีนขึ้นไปค่ะ ถ้าร้อนแล้วไม่มีอารมณ์นี่ต้องขอลา ฮ่าๆๆ และพอเราขึ้นไปจุดสูงสุดเราจะเห็นวิวแบบนี้
ซึ่งบริเวณนี้คืออ่าวนางฟ้า (Baie des anges โดยที่ Baie (อ่านว่า เบย์) = Bay, des (preposition) (อ่านว่า เด) = of และ anges (อ่านว่า อ๊อชซ์) = angels นางฟ้า) ประจำเมืองนีซนั่นเองค่ะ
หูว... สีร่มที่ใช้โดดนี่ตัดกับสีน้ำทะเลมากๆเลยค่ะเฮีย
จากนั้นเราก็เดินอ้อมโค้งจากบริเวณนี้ไปอีกนิดนึงเราจะพบกับ Monument aux Morts de Rauba-Capeu (อนุสาวรีย์แห่งความตายของ Rauba-Capeu)
ทำไมแปลแล้วมันฟังดูสยองขนาดนี้ แต่มันสร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ citizens ของเมือง Nice ที่ถูกฆ่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (WWI)
หลังจากเดินไปรอบๆอ่าวนางฟ้าก็มีความร้อนระดับสุด เลยปล่อยให้ Gelato เยียวยาทุกสิ่ง
Gelato วันนี้มีรสชาติพิเศษคือ สีส้มๆเหลืองเป็นรสชาติเมดิเตอร์เรเนียน รสนุ่มสดชื่น ส่วนสีฟ้าเป็นรสสาหร่าย spirulina ค่ะ fancy สุดๆ
จากนั้นเราก็ไปเล่นน้ำทะเลเหนื่อยก็ขึ้นมาทานสลัดกุ้งสดค่ะ แต่มันอร่อยตรงที่เค้าใส่ไอ้เจ้า Pomplamoose ค่ะ เป็นส้มสีแดงเข้ม หืออร่อยสดชื่นมาก
จากนั้นพระอาทิตย์ตกดิน เราก็เดินเล่นค่ะถ่ายรูปเมืองกลางคืนเล่นค่ะ
******************************************************************************************
เปิดวาร์ปไปต่อที่เมือง Beaulieu-sur-mer นะคะ ซึ่งเป็นเมืองใกล้ๆกับ Nice เราสามารถซื้อตั๋วรถไฟสดได้จากตู้กดซื้อตั๋วรถไฟ SNCF ได้ที่สถานีเลยค่ะ ตั๋วนี้เราซื้อก่อนออกเดินทางแค่ 30 นาทีเท่านั้นค่ะ เที่ยวชุกระหุกมาก ฮ่าๆๆ
อันนี้เราเดินเลาะชายหาดไปเรื่อยๆเลยนะคะ โดยที่มุ่งหน้าไปที่ Cap Ferret ดูความสวยของหาดนี้ซิค่ะ โอ้ยยย ฟิน
อดใจไม่ไหว ขอซักรูปนะคะ แต่ขอที่ร่มๆแบบมีเงาไม้หน่อยละกัน กลัวดำ แฮะๆ
สำหรับสถานที่แห่งนี้คือ Villa Ephrussi de Rothschild หรืออาจจะเรียกว่า Villa Île-de-France ค่ะ
ซึ่ง Villa แห่งนี้ตั้งอยู่บนแหลม Saint-Jean-Cap-Ferrat วิลล่านี้มี story ค่ะ
เนื่องจากมันเป็นวิลล่าของสาวฝรั่งเศสไฮโซผู้หนึ่งที่ได้เงินซื้อบ้านหลังนี้มาจากมรดกพ่อของเธอ หลังจากที่พ่อของเธอตาย
สาวไฮโซผู้นนี้ชื่อ Béatrice (เบเอ่ะทริซ) เธอผู้นี้ต่อมาได้แต่งงานกับนักธุรกิจชาวรัสเซียที่รวยมาก ทำให้เธอใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อได้สุดตัว
ของใช้ในบ้านของเธอจะเป็นศิลปะ master piece และ collection หายากในยุคสมัยนั้นๆ ไม่พอนะคะวิลล่าแห่งนี้มีวิวหลักล้านที่ไม่ว่าจะโผล่หน้าออกไปที่กระจกบานไหนๆก็ฟิ้นฟินค่ะ แต่ต่อมาเธอผู้นี้เริ่มล้มละลายเพราะติดการพนัน เธอเล่นการพนันอย่างหนักหน่วง และสาเหตุที่เลือกสร้างวิลล่าที่เมืองนี้ก็เพราะมันอยู่ใกล้เมืองโมนาโคค่ะ ซึ่งมีแห่งเล่นการพนันใหญ่อย่าง Monte Carlo และเหตุนี้นี่เองทำให้เธอกับสามีได้หย่าร้างกัน
จำได้แค่นี้ค่ะจากการฟังเค้าบรรยายมา ฮ่าๆๆ มาดูรูปความสวยวิลล่าแห่งนี้กันเลยค่า (เอามาให้ดูพอสังเขปนะคะ จะได้ไม่สปอยคนกำลังจะไป อิอิ เดี๋ยวไม่ตื่นเต้น)
ทางเข้าวิลล่านี้นะคะ มีความชมพูทั้งสีตึกและดอกไม้ สาวๆชอบแน่นอนค่ะ
ที่วิลล่านี้มีสวนด้วยนะคะ เค้าจะมีการแสดงน้ำพุทุกๆ 20 นาทีด้วย เปิดเพลงบรรเลงไปด้วย เพลินดีค่ะ
สวนอันนี้เรียกว่า Temple of Love นะคะเป็นศาลาที่มีรูปปั้นอยู่ตรงข้ามกับวิลล่าหลังงาม สวยสงบร่มเย็นมากๆค่ะ
ใครมาวิลล่าแห่งนี้อย่าลืมเดินให้รอบสวนให้ทุกๆมุมนะคะ มันสวยมากๆๆๆๆๆค่ะ มีหลายมุมให้ได้โพสท่าเกร๋ๆแน่นอน
จริงในส่วนนี้เราอัดวิดีโอเสสียเป็นส่วนใหญ่ค่ะ แต่ไม่รู้เอาลงพันทิพยังไง เลยมีรูปมาฝากพอสังเขปเพียงเท่านี้นะคะ
*******************************************************************************************
เปิดวาร์ปต่อมาที่เมือง Villfranche-sur-mer เราแวะเมืองนี้เพื่อแค่มาทานอาหารเย็นริมทะเลในเมืองเล็กๆที่คนไม่หนาแน่นเท่าเองค่ะ
มาดูภาพบรรยากาศกัน
แล้วก็บินกลับสวิสค่ะจากสนามบินที่เมืองนีซ
*******************************************************************************************
ขอบคุณที่อ่านกันจนมาจนจบนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในทริปหน้าๆค่ะ
ทริป Marseille: https://pantip.com/topic/37930262
ทริป Cannes: https://pantip.com/topic/37931910
ทริป Monaco: https://pantip.com/topic/37940063