เคยมั้ย ....โรคซึมเศร้า

ช่วงนี้มีข่าวคนเป็นโรคซึมเศร้าฆ่าตัวตายเยอะ เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ตัวเองให้ฟังค่ะ

เราเป็นผู้หญิงวัย 30 กว่าที่ให้ความสำคัญกับความรักมาก ไม่ค่อยใช้เวลาอยู่กับเพื่อน อยู่คอนโดคนเดียว แล้วก็มีประวัติคนในบ้านเคยเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ

พอมีเหตุทำให้สะเทือนใจ เช่น ต้องเลิกรากับแฟน มันจะทำใจได้ยากกว่าคนปกติ

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกันที่เริ่มเป็นแบบนี้ คือ มันรู้สึกทรมานมากในชีวิตประจำวันทุกๆวัน ไม่ว่าจะตอนไปทำงาน หรือตอนกลับมาอยู่คนเดียว ตอนไปทำงานก็ไม่อยากคุยกับใคร จากที่เคยเป็นคนร่าเริงมาก ก็ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไร ประชุมก็คิดแต่เรื่องอกหัก จนไม่มีสมาธิ ไม่ว่าจะพยายามตั้งสมาธิแค่ไหน มันก็รู้สึกแย่ในทุกๆลมหายใจ

คนรอบข้างก็รู้สึก มันเหมือนมีรังสีดำมืดแผ่ขยายออกมา
จนบางครั้งไม่ไหวต้องขอกลับบ้านก่อนเป็นประจำ โรคทางใจมันกัดกินเรา ยิ่งกว่าโรคทางกายซะอีก

พอกลับไปที่คอนโด ก็จะมีอาการนั่งซึมเฉยๆ คิดไม่หยุด มีแต่ความทุกข์ ทรมาน เหมือนตกนรก ต่างกันแค่ ไม่ต้องพยายามมีสมาธิกับงานอีกแล้ว กินข้าวก็กินไม่ลง ทั้งที่รักตัวเองนะ กลัวผอม กลัวไม่สวย สมองคิดได้ทุกอย่าง อยากหาย อยากแข็งแรง แต่ร่างกายจิตใจมันไม่ฟัง กินข้าวไม่ลง ไม่อยากกินอะไร

พอจะนอนก็จะสวดมนต์นอน ทำอะไรก็ได้ให้รู้สึกดีก่อนนอน พอหลับไปก็จะฝันร้าย และสะดุ้งตื่นมาตอนตีสาม มีอาการจิตตกดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ แล้วนอนไม่หลับอีกเลย

คำถามคือ ถ้าคุณต้องอยู่กับอาการเหล่านี้ในทุกๆวัน ทุกๆวินาที คุณจะทนได้หรือไม่ เข้าใจคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเถอะค่ะ มันทรมานมากจริงๆ ยิ่งกว่าตกนรกหมกไหม้

เมื่อเราอยากหยุด อยากหาย จากอาการเหล่านี้ เราจึงหาทางออกทุกอย่างที่เป็นไปได้ อย่างแรก คือ

หากิจกรรมทำ เช่น วาดรูป ออกกำลังกาย วิ่ง ว่ายน้ำ เล่นดนตรี ไปเที่ยว นั่งสมาธิ เข้าวัด และอื่นๆ ซึ่งระหว่างที่เราทำกิจกรรมเหล่านี้ เราก็จะลืมไปชั่วขณะว่าเราทุกข์ หรือไม่ก็รู้สึกเป็นพักๆ ซึ่งมันก็ไม่หายขาด กลับมาบ้านหรือเมื่อไหร่ที่อยู่เฉยๆคนเดียวมันก็เป็นเหมือนเดิม แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เรามีความสุขในแต่ละวันได้มากขึ้น

มีครั้งนึงที่รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว จึงยอมไปพบแพทย์ เพราะคิดว่าถ้ารักษาใจตัวเองด้วยตัวเองไม่ได้ ก็กินยาเถอะ ให้ยารักษาก็ได้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดว่าแพทย์วินัจฉัยว่า เราเป็นโรคซึมเศร้า แล้วให้ยานอนหลับคู่กับยาซึมเศร้า เพราะยาซึมเศร้ามีผลข้างเคียงทำให้นอนไม่หลับ และยานอนหลับมีผลข้างเคียงทำให้เบื่ออาหาร

หลังจากกินยาไปได้สองอาทิตย์ ก็รู้สึกว่าพอละ อยากหายด้วยตัวเองมากกว่า เราทำได้และจะตั้งใจทำให้ได้

ตอนนั้น มีโอกาสได้อ่านหนังสือแนวคิดบวก และแนวจิตวิทยา ทำให้เข้าใจสมองและควบคุมความรู้สึกได้ดีขึ้น

อาการจึงดีขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องกินยา ตอนนี้พูดได้เต็มปากเลยว่าหายแล้วค่ะ

ถึงตรงนี้ อยากจะบอกทุกคนที่เจอปัญหาเดียวกันว่า ชีวิตมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น มันแค่ช่วงเวลานึงที่เราต้องก้าวผ่านไป

ไม่ว่าปัญหาของคุณจะหนักแค่ไหน หรือมีเรื่องอะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจคุณ เวลาจะเยียวยาทุกสิ่งเอง

จริงๆค่ะ ไม่มีสิ่งใดที่จะอยู่กับเราไปตลอด เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

วันที่คุณรู้สึกยอมแพ้ ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากทนแล้ว ให้คิดไกลกว่าตรงนั้น มองไกลกว่าตรงนั้น ว่าชีวิตคุณจะดีขึ้นกว่านี้ในอีกไม่ช้าแล้ว อดทน ร้องไห้ก็ได้ รู้สึกแย่ก็ร้องไห้ แล้วมันก็จะผ่านไป

ยิ่งกว่านั้น คนรอบข้างสำคัญมาก มนุษย์เกิดมาเป็นสัตว์สังคม ต้องการการยอมรับ และความเข้าอกเข้าใจ ต้องการความรัก จากคนรอบตัว กำลังใจจากคนรอบข้างจึงสำคัญ รวมถึงเวลาที่เราให้กับเค้า อยู่เป็นเพื่อนเค้า ให้เค้ารู้ว่าเค้ายังสำคัญกับโลกใบนี้ ไม่มีเหตุผลใดที่จะตัดสินใจลาโลกไป เพราะความทุกข์ที่เกิดในใจตัวเอง เอาชนะมันให้ได้ เข้าใจกลไกลของสมองแล้วใช้สติชนะอารมณ์ให้ได้ คุณจะพบความสุขทุกครั้งที่สติกลับมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่