ฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่นนับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีสีสันและได้รับความสนใจทั้งจากนักท่องเที่ยว นักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือต่างชาติ เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนของปี 2560 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศของช่วงเวลาดังกล่าวเป็นครั้งแรก จึงอยากมาแบ่งปันสำหรับคนนิยมชมชอบบรรยากาศ หรือคนที่กำลังวางแผนในการไปเที่ยวชม โดยการเดินทางหลักๆ แบ่งออกเป็น คาวากูชิ เกียวโต และโตเกียว
ตอนที่ 1 ฟูจิซังกับเมเปิ้ลแดง ส้ม เหลือง เขียว ณ ทะเลสาบคาวากูชิ
เนื่องจากไฟล์ทที่เดินทางมามีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อย ต้องเสียเวลาบินกลับไปเปลี่ยนเครื่องกว่าจะเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะก็เกือบเที่ยง และกว่าจะทำธุระ แลก JR Pass และอะไรต่างๆ เสร็จก็เสียเวลาไปทีเดียว ทำให้แผนเลื่อนออกไป ผมเดินทางมาถึงคาวากูชิก็มืดแล้ว วันแรกจึงยังไม่มีอะไร เช้าวันใหม่ผมขอให้ทางโรงแรมนัดแท็กซี่ไว้ให้ตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปยังจุดที่เรียกว่า Momiji tunnel แต่ด้วยความที่มันยังมืดอยู่ผมมองไม่เห็นจุดที่จะถ่ายรูป แต่สิ่งที่สัมผัสได้คืออากาศที่หนาวและเย็นยะเยือกสำหรับมนุษย์ที่มาจากใกล้ๆกับเส้นศูนย์สูตรอย่างผม และอีกสิ่งที่รู้สึกได้คือเสียงคนคุยกัน ดังออกมาจากแนวต้นไม้ พอผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่ามีเหล่าบรรดาช่างภาพหลายสิบคนที่มาจับจองพื้นที่ตั้งกล้องรอถ่ายแสงอาทิตย์ ฟูจิคู่กับใบเมเปิ้ลตามจุดที่คิดว่าน่าจะได้มุมที่สวยๆ พอแสงอาทิตย์เริ่มแตะขอบฟ้าก็เริ่มเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นใบไม้แดง มันสวยอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ เสียงชัตเตอร์จากคนอื่นๆ ยังคงดังต่อเนื่อง

ผมย้ายมุมถ่ายอยู่บริเวณนั้นวนไปวนมา ซักพักก็มีลุงช่างภาพชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเดินมาเรียกผมให้ไปดูมุมที่เขากำลังถ่าย พร้อมกับพูดประมาณว่าให้ผมย้ายไปถ่ายในจุดที่เขากำลังถ่ายอยู่น่ะครับ (ผมคิดว่าประมาณนั้นนะ)

หลังจากถ่ายเสร็จ ตาลุงคนนั้นก็ขับรถออก ปล่อยให้ผมยืนงงกับมุมฟูจิมุงหลังคาด้วยเมเปิ้ลแดง

ซูมเข้าไปดูใกล้บ้างว่าข้างบนอากาศดีมั้ย

ผมเดินย้อนกลับมาเพื่อไปจุดที่เขาเรียกว่า Maple corridor

ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปมาเรื่อยๆ ยิ่งโดนแดดยิ่งสวยครับ (แล้วผมจะตื่นมาแต่เช้าเพื่อ..) บริเวณสวน Oishi

เดินมาเรื่อยๆ ครับ

อากาศดี เดินได้สบายๆ ไม่เหนื่อยเลยครับ

จนมาถึงจุด Maple corridor

คนยังไม่เยอะเท่าไหร่

ถ่ายมุมสูงบ้าง

ส้ม แดง เหลือง เขียว เพลินมากๆ ครับ



ช่วงบ่ายๆ ผมย้ายจุดไปที่เจดีย์แดงครับ

จำนวนคนมากจนไม่มีที่สอดแทรกเข้าไปยังมุมมหาชนได้ ต้องถ่ายอยู่รอบๆ เพื่อรอเสียบ ฮ่าๆๆ

ในที่สุดก็ได้มา ฮ่า

ผมอยู่ที่นี่จนมืดครับ อยากบอกว่าหนาวมาก ใครที่จะมาต้องเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วยนะครับ

เช้าวันต่อมา ผมตื่นไม่เช้าเหมือนเมื่อวานนะครับ วันนี้จะไปยังอีกจุดหนึ่งบริเวณเชิงสะพานที่ข้ามทะเลสาบน่ะครับ แต่วันนี้โชคไม่เข้าข้างผมเท่าไหร่ ท้องฟ้ามีเมฆเยอะมาก

รอแล้วรอ แสงพระอาทิตย์ก็ยังไม่ส่องมา

ทำให้มุมมหาชนมุมนี้ได้ภาพมาไม่ตรงตามที่ตั้งใจไว้เลย

แต่ก็ต้องขอขอบคุณน้ำใจนักท่องเที่ยวและช่างภาพคนอื่นด้วยนะครับที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำ ฮ่าๆ

ถ้ามีแดด มุมนี้นะ

ส่งท้าย

สุดท้ายก็ต้องร่ำลาคุณฟูจิและเมืองคาวากูจิ ไว้มีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง ขอบคุณบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ ให้มนุษย์อย่างเราได้ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติ และเก็บไว้ในความทรงจำ
Japan autumn 2017 : When the leaf is going down. #1
ตอนที่ 1 ฟูจิซังกับเมเปิ้ลแดง ส้ม เหลือง เขียว ณ ทะเลสาบคาวากูชิ
เนื่องจากไฟล์ทที่เดินทางมามีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อย ต้องเสียเวลาบินกลับไปเปลี่ยนเครื่องกว่าจะเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะก็เกือบเที่ยง และกว่าจะทำธุระ แลก JR Pass และอะไรต่างๆ เสร็จก็เสียเวลาไปทีเดียว ทำให้แผนเลื่อนออกไป ผมเดินทางมาถึงคาวากูชิก็มืดแล้ว วันแรกจึงยังไม่มีอะไร เช้าวันใหม่ผมขอให้ทางโรงแรมนัดแท็กซี่ไว้ให้ตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปยังจุดที่เรียกว่า Momiji tunnel แต่ด้วยความที่มันยังมืดอยู่ผมมองไม่เห็นจุดที่จะถ่ายรูป แต่สิ่งที่สัมผัสได้คืออากาศที่หนาวและเย็นยะเยือกสำหรับมนุษย์ที่มาจากใกล้ๆกับเส้นศูนย์สูตรอย่างผม และอีกสิ่งที่รู้สึกได้คือเสียงคนคุยกัน ดังออกมาจากแนวต้นไม้ พอผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่ามีเหล่าบรรดาช่างภาพหลายสิบคนที่มาจับจองพื้นที่ตั้งกล้องรอถ่ายแสงอาทิตย์ ฟูจิคู่กับใบเมเปิ้ลตามจุดที่คิดว่าน่าจะได้มุมที่สวยๆ พอแสงอาทิตย์เริ่มแตะขอบฟ้าก็เริ่มเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปมาเรื่อยๆ ยิ่งโดนแดดยิ่งสวยครับ (แล้วผมจะตื่นมาแต่เช้าเพื่อ..) บริเวณสวน Oishi
เดินมาเรื่อยๆ ครับ
อากาศดี เดินได้สบายๆ ไม่เหนื่อยเลยครับ
จนมาถึงจุด Maple corridor
คนยังไม่เยอะเท่าไหร่
ถ่ายมุมสูงบ้าง
ส้ม แดง เหลือง เขียว เพลินมากๆ ครับ
ช่วงบ่ายๆ ผมย้ายจุดไปที่เจดีย์แดงครับ
จำนวนคนมากจนไม่มีที่สอดแทรกเข้าไปยังมุมมหาชนได้ ต้องถ่ายอยู่รอบๆ เพื่อรอเสียบ ฮ่าๆๆ
ในที่สุดก็ได้มา ฮ่า
ผมอยู่ที่นี่จนมืดครับ อยากบอกว่าหนาวมาก ใครที่จะมาต้องเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วยนะครับ
เช้าวันต่อมา ผมตื่นไม่เช้าเหมือนเมื่อวานนะครับ วันนี้จะไปยังอีกจุดหนึ่งบริเวณเชิงสะพานที่ข้ามทะเลสาบน่ะครับ แต่วันนี้โชคไม่เข้าข้างผมเท่าไหร่ ท้องฟ้ามีเมฆเยอะมาก
รอแล้วรอ แสงพระอาทิตย์ก็ยังไม่ส่องมา
ทำให้มุมมหาชนมุมนี้ได้ภาพมาไม่ตรงตามที่ตั้งใจไว้เลย
แต่ก็ต้องขอขอบคุณน้ำใจนักท่องเที่ยวและช่างภาพคนอื่นด้วยนะครับที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำ ฮ่าๆ
ถ้ามีแดด มุมนี้นะ
ส่งท้าย
สุดท้ายก็ต้องร่ำลาคุณฟูจิและเมืองคาวากูจิ ไว้มีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง ขอบคุณบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ ให้มนุษย์อย่างเราได้ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติ และเก็บไว้ในความทรงจำ