
SEEN Tokyo : เราว่าถ้าคุณอยากจะเริ่มเที่ยวต่างประเทศใดสักประเทศ
เราว่ามันควรเริ่มที่ญี่ปุ่นนี้แหละ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง
ไม่ว่าจะเรื่องฟรีวีซ่า เที่ยวได้ทุกฤดู วัฒนธรรม หรือแม้แต่อาหารการกิน
.
สำหรับคนที่เคยไปมาแล้ว
คุณเคยพยายามที่จะไม่กลับมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกไหม?....
แน่นอนละ มันทำไม่ได้เว้ยยยยย ให้ตายก็ทำไม่ได้(อันนี้เว่อร์ไป555)
เหตุผลที่ต้องมาอีก เราว่าหลายๆคนคงจะตอบได้...ใช่ม่ะ
.
ถึงแม้จะเคยมาญี่ปุ่นหลายครั้ง แต่เรากลับไม่เคยเที่ยวในโตเกียวแบบจริงๆเลย
เพราะโดยปกติแล้ว เราชอบหนีไปเที่ยวนอกเมืองชมธรรมชาติมากกว่า
แต่ก็เอาว่ะ ไหนๆก็มาแล้ว ลองเที่ยวในโตเกียวแบบซะหน่อย
.
ยังไงลองมาดูโตเกียวแบบสั้นๆในมุมมองของเรากัน
รบกวนให้กำลังใจเราด้วย
https://www.facebook.com/seenima

ขอเรียกการเที่ยวโตเกียวครั้งนี้ว่า วิชา โตเกียว101 ละกัน
หลักๆมันมีอยู่แค่ 2 ข้อ

อย่างแรกเลย คุณต้องตรงเวลาเว้ย
รถไฟก็เหมือนคลาสเรียน ถ้าคุณมาช้า คุณก็ตามเพื่อนๆไม่ทันแล้ว

อย่างที่สอง ต้องขยัน...ขยันเรียนหรอ หึ!!
ขยันเดิน เดิน และก็เดินนนน เดินมันทั้งวันนนนนน
นอกจากขยันเดินแล้วต้องขยันกินด้วย มันจะได้สัมพันธ์กัน
แค่สองข้อคุณก็อยู่รอดตลอดทั้งทริปแล้ว

คาบแรกเรามาเริ่มกันที่ โอไดบะ
เดินทางมาลงสถานี Shimbashi
แล้วซื้อบัตรYurikamome แบบเหมาวัน
หรือจะไม่ซื้อก็ได้เพราะที่เที่ยวหลักๆเดินหากันได้หมด

จุดแรกลงที่สถานี Odaiba-kaihinkoen เดินเล่นในห้าง Decks
แล้วเดินต่อเรื่อยๆตามทางเดินเผื่อมาถ่ายรูปเทพีเสรีภาพ
หรือจะลงที่สถานี Daiba ก็ได้ จะได้เดินมาหาเทพีเร็วหน่อย

Diver city หรือ ตึกกันดั้มนั้นเอง
ด้านล่างลานข้างหน้าจะมี Shop
ขายกันดั้มและของที่ระลึกอยู่

สำหรับสาวกขอเรียนเชิญขึ้นไปชั้น 7 เลยครับ
สวรรค์แต้ๆ เยอะมากกกกกกกกกกกก
เงินมันต้องกระเด็นออกจริงๆวะ บอกเลย

หลังจากเดินตามจุดหลักๆครบแล้ว
ก็เกิดสงสัยว่าสุดสายของเกาะนี้จะเป็นยังไง
เราเลยนั่งรถเล่นจนสุดสายแล้วก็นั่งกลับ

เรานั่งไปๆกลับๆอยู่หลายรอบมากเพื่อที่จะถ่ายรูปมุมนี่มา
เพราะถ้านั่งตั้งแต่ต้นสาย ต้องมาแย่งชิงกับคนอื่นๆ
เลยนั่งมันตั้งแต่ปลายสายซะเลย ไม่ได้มุมนี้ให้มันรู้ไป

และก็ใช้เวลาบนเกาะแห่งนี้เพลินจนลืมดูเวลา
รู้ตัวอีกทีฟ้าก็เริ่มจะมืดแล้ว
ก็ขอเก็บภาพแสงสีตอนเย็นๆสักหน่อยก็แล้วกัน

ตอนดึกเรากลับไปเริ่มต้นที่สถานีโตเกียว
เพื่อไปกิน Tokyo Ramen street

เออ ไอราเมนสตรีท อะไรเนี่ยมันหายากเหมือนกันนะ
เพราะสถานีโตเกียวใหญ่มากกกกก
เดินผ่านทางเข้า2รอบ ถึงจะเจอ(ไม่รู้ว่าจริงๆมันหายากหรือเซ่อกันแน่555)
ส่วนร้านที่เลือกกินนะหรือระบบสุ่มเลยครับ
เอาที่มันคนน้อยๆนั้นแหละ จะได้กินเร็วๆ

และนี่คือหน้าตาราเมงที่เราเลือก
ราคา 930 เยน ไม่โหดร้ายนะ ถ้าเทียบกับรสชาติที่ได้

กระเทียมเจียวที่ทำรสชาติได้โคตรดี
ดีขนาดที่ว่า คนไม่กินกระเทียมแบบเรา
ยังต้องตักมาชิมสักหน่อย

มาต่ออีกร้านนึง หลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อร้านนี้อยู่
นั้นคือร้าน isomaru suisan คุ้นไหม
ถ้าเรียกร้านมันปูน่าจะคุ้นหูมากกว่า
มันปูคืออร่อยมากกกก ดีมากกกกก ต้องสั่งจริงๆอันนนี้
ลูกชิ้นไก่สับย่างจิ้มกับไข่สดก็ดีงาม
ร้านนี้เปิด 24ชม. หิวเมื่อไหร่ก็ไปกินได้เลย
ตอนเช็คบิลอาจจะงงๆหน่อย มันจะมีลิสอันนี้แปลกๆ มาเป็นภาษาญี่ปุ่นตอนที่เราเจอนะ
มันคือค่ากับแกล้ม จำไม่ได้ว่าเท่าไร และก็จะบอกเขาว่าไม่เอาก็ไม่ได้ด้วย กึ่งๆบังคับอะไรประมาณนั้น

สถานที่ต่อมาที่คุณควรจะไปก่อนที่เขาจะย้ายคือ
ตลาดปลาซึกิจิ (เห็นว่าจะย้ายเดือนตุลาคม)
ก่อนจะเดินทางก็กดตั๋วรถใต้ดินแบบเหมาวันมาไว้ก่อน
จะช่วยให้ประหยัดค่าเดินทางได้เยอะ

ลงรถใต้ดินมาโผล่ที่สถานี Tsukiji-Shijo Station

เดินออกมาจากสถานีจะเจอ…ไม่รู้เรียกว่าอะไร
แต่อ่านป้ายแบบผ่านๆน่าจะเป็นวัดอะไรสักอย่าง(ใครรู้ช่วยบอกที)

เดินตรงไปจะเจอ4แยก
ตามคนอื่นๆเขาไป

เราก็เดินไหลๆตามสายน้ำของมวลชนไปเรื่อยๆ

ระหว่างทางคุณจะเจอร้านขายต่างๆ
โปรดจงอย่าลังเลที่จะลอง
ซื้อไปเลย กินมันให้หมดทุกร้านที่อยากลอง
แต่มันปูอันนี้สู้ร้าน isomaru suisan ไม่ได้เลย

อีกร้านที่ควรลองคือร้านไข่หวาน มีหลายร้าน
ร้านดังๆจะเป็นร้านหัวมุมคนเยอะๆหน่อย
ส่วนเราเลือกร้านนี้เพราะคนน้อย
อากาศหนาวๆกับไข่หวานทำใหม่ๆอุ่นๆ
มันฟิลกู๊ดมากจนกินไป3ไม้

เดินเถ่ายรูปเล่นให้กระเพาะได้ย่อยสักหน่อย
ก่อนไปถล่มร้านต่อไป

มุดใต้ดินเหมือนเดิม ซื้อบัตร Day ต้องใช้ให้คุ้ม

โผล่มานี่เลยชินจูกรุ๊วววววววววว
เราจะไปล่าเนื้อ A5 ราคาสบายกระเป๋ากัน

แฮ่-

นั้นคือ….
คืออออออออออออ…
ร้านเนื้อย่าง Jiromaru (มีหลายสาาขานะ ไม่จำเป็นต้องมาสาขานี้ก็ได้ สะดวกสาขาไหนไปสาขานั้น)
เนื้อ A5 ราคา300เยน คิดเป็นเงินไทยก็90เองนะคุณ ถูกมว๊ากกกกก ถ้าเทียบกับราคาที่ไทย

ในจานจะมี A5, A4 แต่อย่าถามนะว่าส่วนไหนบ้าง
จำไม่ได้ฮะ กินมันอย่างเดียว

เวลาเราท้อ แนะนำให้เอาเนื้อไปย่าง เพราะเนื้อจะบอกให้เรา “ซู่ๆซ่าๆ ปาทังก้าปาทังกี้”
เอิ่มมมมมม....ไม่ใช่เด้อ
เอาใหม่ๆ...
แม้จะผ่านเวลามาเนิ่นนาน เสียงของเนื้อที่โดนความร้อนของกะทะ มูฟเม้นการหดตัวของกล้ามเนื้อยังคงตราตรึงในจิตใจ
รสชาติของเม็ดเกลือและพริกไทที่โรยลงไปยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น
กลิ่นที่หอมของเนื้อที่ไหม้นิดๆยังคงอยู่ในแกนจมูก
เว่อร์

ยยยยย55555555

เนี่ยย่างให้ด้านนึงสุกน้อยกว่าอีกด้านนึง
โปะลงบนข้าวสวย ฟินลื๊ม
ลืม….ลืมดูตังในกระเป๋าตอนสั่ง เข้าใจฟิวหิวจนหน้ามืดแล้วสั่งปะ
อันนั้นก็อยากลอง อันนี้ก็อยากลอง ชี้นิ้วรัวๆ
สรุปราคาออกมา อืมมมม….ราคาเท่าบุฟเฟ่ร้านอื่นเลยอ่ะ55555
ปล.1 เนื้อ A4 อร่อยกว่า A5
ปล.2 จงมีสติตอนสั่ง กินแต่พอประมาณ ไม่งั้นล้มละลายนะจ๊ะ
ปล.3 ถึงจะเป็นคนไม่กินเนื้อ แต่เจ้าจงลอง เนื้อไทยไม่กิน กินเนื้อนอกแทนก็ได้จ๊ะ

ออกจากร้านมามึนๆ เจอพี่แมวประจำถื่นเลยคุยกันซะหน่อย
พี่แมวฮะๆ ผมควรไปที่ไหนต่อดีฮะ
ก็ห้าแยกลาดพร้าวไง เจ้ามนุษย์...หยอกๆ เหมียวๆๆ

นี่ไง5แยก ชิบูย่า คนเยอะโคตร
ทั้งนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นเอง
ถ้าอยากได้มุมที่เก็บครบทั้ง5แยก
ถ่ายเป็นวิดีโอคนเดินตอนไฟแดง
คุณต้องไปที่ สตาบัค แต่คงต้องไปแย่งกับคนอื่นหน่อยนะ
ส่วนเรามีจุดมุ่งหมายอื่นที่มากกว่า5แยกนี้

Red or Blue
พี่แว่นเราเลือกไม่ถูกเลยฮะ
หน้าเครียดเชียว

ขับ Mario kart แทนก็แล้วกัน

เดินไปทางไหนก็มีแต่คน
หนีไปขึ้นที่สูงมันเลยละกัน

บัตรใต้ดินแบบวันซื้อมาแล้วโปรดใช้ให้คุ้ม
ตึก Bunkyo Civic Center นั้นตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ Kasuga Station. Toei Mita Line/Oedo Line
ตึกนี้ขึ้นฟรีนะครับ เดินหาลิฟท์แล้วกดไปที่ชั้น 25 ได้เลย
เตรียมกล้องให้พร้อมไปชมวิวโตเกียวยามเย็นกัน

เราเลือกมาเวลาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
ข้างบนนี้คนก็เลยน้อย บรรยากาศค่อนข้างเงียบ เงียบจนได้ยินแต่เสียงชัตเตอร์
จะคุยกันก็ต้องเสียงเบาๆเกรงใจคนอื่นนิดนึง
และก็บนนี้ห้ามใช้ขาตั้งกล้องนะครับ

ตึกรามบ้านช่องของเขาก็คุมโทนแล้วเป็นระเบียบดีจัง

ถ้าวันไหนโชคดีที่ฟ้าเปิด เราสามารถถ่ายเห็นภูเขาไฟฟูจิ
จากชั้น25 ของตึกนี้ได้ แต่คุณต้องใช้เลนส์โคตรเทเลนะ น่าจะ500mm+
(ไม่ใช่มุมในรูปนี้นะ 555)

บางสถานที่ ที่เคยไปมาแล้วเราก็ตัดออกไป
เพราะเราวางแพลนเที่ยวนอกโตเกียวซะเยอะ
ครั้งนี้เลยเลือกที่อยากจะไปจริงๆ ก็เลยเหลืออยู่แค่เนี่ย 555
และทั้งหมดนี้คือวิชาโตเกียว101 แบบสั้นๆของเรา
กราบบบบบบบบ.....
[CR] SEEN TOKYO : วิชาโตเกียว 101
เราว่ามันควรเริ่มที่ญี่ปุ่นนี้แหละ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง
ไม่ว่าจะเรื่องฟรีวีซ่า เที่ยวได้ทุกฤดู วัฒนธรรม หรือแม้แต่อาหารการกิน
.
สำหรับคนที่เคยไปมาแล้ว
คุณเคยพยายามที่จะไม่กลับมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกไหม?....
แน่นอนละ มันทำไม่ได้เว้ยยยยย ให้ตายก็ทำไม่ได้(อันนี้เว่อร์ไป555)
เหตุผลที่ต้องมาอีก เราว่าหลายๆคนคงจะตอบได้...ใช่ม่ะ
.
ถึงแม้จะเคยมาญี่ปุ่นหลายครั้ง แต่เรากลับไม่เคยเที่ยวในโตเกียวแบบจริงๆเลย
เพราะโดยปกติแล้ว เราชอบหนีไปเที่ยวนอกเมืองชมธรรมชาติมากกว่า
แต่ก็เอาว่ะ ไหนๆก็มาแล้ว ลองเที่ยวในโตเกียวแบบซะหน่อย
.
ยังไงลองมาดูโตเกียวแบบสั้นๆในมุมมองของเรากัน
รบกวนให้กำลังใจเราด้วย
หลักๆมันมีอยู่แค่ 2 ข้อ
รถไฟก็เหมือนคลาสเรียน ถ้าคุณมาช้า คุณก็ตามเพื่อนๆไม่ทันแล้ว
ขยันเดิน เดิน และก็เดินนนน เดินมันทั้งวันนนนนน
นอกจากขยันเดินแล้วต้องขยันกินด้วย มันจะได้สัมพันธ์กัน
แค่สองข้อคุณก็อยู่รอดตลอดทั้งทริปแล้ว
เดินทางมาลงสถานี Shimbashi
แล้วซื้อบัตรYurikamome แบบเหมาวัน
หรือจะไม่ซื้อก็ได้เพราะที่เที่ยวหลักๆเดินหากันได้หมด
แล้วเดินต่อเรื่อยๆตามทางเดินเผื่อมาถ่ายรูปเทพีเสรีภาพ
หรือจะลงที่สถานี Daiba ก็ได้ จะได้เดินมาหาเทพีเร็วหน่อย
ด้านล่างลานข้างหน้าจะมี Shop
ขายกันดั้มและของที่ระลึกอยู่
สวรรค์แต้ๆ เยอะมากกกกกกกกกกกก
เงินมันต้องกระเด็นออกจริงๆวะ บอกเลย
ก็เกิดสงสัยว่าสุดสายของเกาะนี้จะเป็นยังไง
เราเลยนั่งรถเล่นจนสุดสายแล้วก็นั่งกลับ
เพราะถ้านั่งตั้งแต่ต้นสาย ต้องมาแย่งชิงกับคนอื่นๆ
เลยนั่งมันตั้งแต่ปลายสายซะเลย ไม่ได้มุมนี้ให้มันรู้ไป
รู้ตัวอีกทีฟ้าก็เริ่มจะมืดแล้ว
ก็ขอเก็บภาพแสงสีตอนเย็นๆสักหน่อยก็แล้วกัน
เพื่อไปกิน Tokyo Ramen street
เพราะสถานีโตเกียวใหญ่มากกกกก
เดินผ่านทางเข้า2รอบ ถึงจะเจอ(ไม่รู้ว่าจริงๆมันหายากหรือเซ่อกันแน่555)
ส่วนร้านที่เลือกกินนะหรือระบบสุ่มเลยครับ
เอาที่มันคนน้อยๆนั้นแหละ จะได้กินเร็วๆ
ราคา 930 เยน ไม่โหดร้ายนะ ถ้าเทียบกับรสชาติที่ได้
ดีขนาดที่ว่า คนไม่กินกระเทียมแบบเรา
ยังต้องตักมาชิมสักหน่อย
นั้นคือร้าน isomaru suisan คุ้นไหม
ถ้าเรียกร้านมันปูน่าจะคุ้นหูมากกว่า
มันปูคืออร่อยมากกกก ดีมากกกกก ต้องสั่งจริงๆอันนนี้
ลูกชิ้นไก่สับย่างจิ้มกับไข่สดก็ดีงาม
ร้านนี้เปิด 24ชม. หิวเมื่อไหร่ก็ไปกินได้เลย
ตอนเช็คบิลอาจจะงงๆหน่อย มันจะมีลิสอันนี้แปลกๆ มาเป็นภาษาญี่ปุ่นตอนที่เราเจอนะ
มันคือค่ากับแกล้ม จำไม่ได้ว่าเท่าไร และก็จะบอกเขาว่าไม่เอาก็ไม่ได้ด้วย กึ่งๆบังคับอะไรประมาณนั้น
ตลาดปลาซึกิจิ (เห็นว่าจะย้ายเดือนตุลาคม)
ก่อนจะเดินทางก็กดตั๋วรถใต้ดินแบบเหมาวันมาไว้ก่อน
จะช่วยให้ประหยัดค่าเดินทางได้เยอะ
แต่อ่านป้ายแบบผ่านๆน่าจะเป็นวัดอะไรสักอย่าง(ใครรู้ช่วยบอกที)
ตามคนอื่นๆเขาไป
โปรดจงอย่าลังเลที่จะลอง
ซื้อไปเลย กินมันให้หมดทุกร้านที่อยากลอง
แต่มันปูอันนี้สู้ร้าน isomaru suisan ไม่ได้เลย
ร้านดังๆจะเป็นร้านหัวมุมคนเยอะๆหน่อย
ส่วนเราเลือกร้านนี้เพราะคนน้อย
อากาศหนาวๆกับไข่หวานทำใหม่ๆอุ่นๆ
มันฟิลกู๊ดมากจนกินไป3ไม้
ก่อนไปถล่มร้านต่อไป
เราจะไปล่าเนื้อ A5 ราคาสบายกระเป๋ากัน
คืออออออออออออ…
ร้านเนื้อย่าง Jiromaru (มีหลายสาาขานะ ไม่จำเป็นต้องมาสาขานี้ก็ได้ สะดวกสาขาไหนไปสาขานั้น)
เนื้อ A5 ราคา300เยน คิดเป็นเงินไทยก็90เองนะคุณ ถูกมว๊ากกกกก ถ้าเทียบกับราคาที่ไทย
จำไม่ได้ฮะ กินมันอย่างเดียว
เอิ่มมมมมม....ไม่ใช่เด้อ
เอาใหม่ๆ...
แม้จะผ่านเวลามาเนิ่นนาน เสียงของเนื้อที่โดนความร้อนของกะทะ มูฟเม้นการหดตัวของกล้ามเนื้อยังคงตราตรึงในจิตใจ
รสชาติของเม็ดเกลือและพริกไทที่โรยลงไปยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น
กลิ่นที่หอมของเนื้อที่ไหม้นิดๆยังคงอยู่ในแกนจมูก
เว่อร์
โปะลงบนข้าวสวย ฟินลื๊ม
ลืม….ลืมดูตังในกระเป๋าตอนสั่ง เข้าใจฟิวหิวจนหน้ามืดแล้วสั่งปะ
อันนั้นก็อยากลอง อันนี้ก็อยากลอง ชี้นิ้วรัวๆ
สรุปราคาออกมา อืมมมม….ราคาเท่าบุฟเฟ่ร้านอื่นเลยอ่ะ55555
ปล.1 เนื้อ A4 อร่อยกว่า A5
ปล.2 จงมีสติตอนสั่ง กินแต่พอประมาณ ไม่งั้นล้มละลายนะจ๊ะ
ปล.3 ถึงจะเป็นคนไม่กินเนื้อ แต่เจ้าจงลอง เนื้อไทยไม่กิน กินเนื้อนอกแทนก็ได้จ๊ะ
พี่แมวฮะๆ ผมควรไปที่ไหนต่อดีฮะ
ก็ห้าแยกลาดพร้าวไง เจ้ามนุษย์...หยอกๆ เหมียวๆๆ
ทั้งนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นเอง
ถ้าอยากได้มุมที่เก็บครบทั้ง5แยก
ถ่ายเป็นวิดีโอคนเดินตอนไฟแดง
คุณต้องไปที่ สตาบัค แต่คงต้องไปแย่งกับคนอื่นหน่อยนะ
ส่วนเรามีจุดมุ่งหมายอื่นที่มากกว่า5แยกนี้
พี่แว่นเราเลือกไม่ถูกเลยฮะ
หน้าเครียดเชียว
หนีไปขึ้นที่สูงมันเลยละกัน
ตึก Bunkyo Civic Center นั้นตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ Kasuga Station. Toei Mita Line/Oedo Line
ตึกนี้ขึ้นฟรีนะครับ เดินหาลิฟท์แล้วกดไปที่ชั้น 25 ได้เลย
เตรียมกล้องให้พร้อมไปชมวิวโตเกียวยามเย็นกัน
ข้างบนนี้คนก็เลยน้อย บรรยากาศค่อนข้างเงียบ เงียบจนได้ยินแต่เสียงชัตเตอร์
จะคุยกันก็ต้องเสียงเบาๆเกรงใจคนอื่นนิดนึง
และก็บนนี้ห้ามใช้ขาตั้งกล้องนะครับ
จากชั้น25 ของตึกนี้ได้ แต่คุณต้องใช้เลนส์โคตรเทเลนะ น่าจะ500mm+
(ไม่ใช่มุมในรูปนี้นะ 555)
เพราะเราวางแพลนเที่ยวนอกโตเกียวซะเยอะ
ครั้งนี้เลยเลือกที่อยากจะไปจริงๆ ก็เลยเหลืออยู่แค่เนี่ย 555
และทั้งหมดนี้คือวิชาโตเกียว101 แบบสั้นๆของเรา
กราบบบบบบบบ.....
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้