สวัสดีค่ะ เราเพิ่งเขียนกระทู้นี้เป็นครั้งแรก คืออยากจะเล่าเรื่องของคีลอยด์ที่เกิดขึ้นที่ ใบหู
เริ่มเรื่องเลยละกันค่ะ... คือเราเป็นคีลอยด์ที่หูมาตั้งแต่อายุ 17 เพราะเกิดจากการที่เราไปเจาะหูที่ใบหู เริ่มจากการเป็นแผลเม็ดๆนูนๆเล็ก จนโตขึ้นเรื่อยๆ ปล่อยไว้จนตอนนี้อายุ 21 แล้วค่ะ อาการที่เป็นไม่เจ็บค่ะ แต่คันมากๆๆ เราก็เลยศึกษาตามหลายๆกระทู้เยอะๆมากๆค่ะ เพื่อประกอบการตัดสินใจ จนตัดสินใจทำที่ โรงพยาบาลรามา
>>>ในส่วนต่อไป เราขอเล่าเกี่ยวกับการรักษา , การดูแลรักษา ในแบบของเรานะคะ<<< (ค่าใช้จ่ายอยู่ด้านล่างสุดค่ะ)
1. ในส่วนของเราไม่เคยไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาค่ะ เลยเริ่มจากการลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ผ่านทางเว็บไซต์
วิธีการตามเว็บไซต์นี้ค่ะ
https://med.mahidol.ac.th/mr/th/manual_th
ในส่วนของการทำตรงนี้ก็เพื่อทำบัตรโรงพยาบาลค่ะ
คือเรากรอกข้อมูลผ่านเว็บเมื่อได้เลขประจำตัวแล้วก็สามารถไปรับบัตรที่โรงพยาบาลได้เลยค่ะ
* รับบัตร รพ. ได้ที่หน่วยลงทะเบียน งานเวชระเบียนดังนี้
1. อาคาร1 ชั้น1
2. อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ ชั้น 1
เมื่อได้เลขที่เวชระเบียน(HN) เราแนะนำให้รีบโทรติดต่อไปนัดแพทย์เลยค่ะ เพราะค่อนข้างใช้เวลานาน
บัตรค่อยไปเอาได้ค่ะ ให้รีบโทรไปนัดก่อน (ในส่วนของเราเลือกในเวลาค่ะ/ค่าใช้จ่ายจะถูกที่สุด)
แต่ต้องใช้ความอดทนในการรอ เมื่อเราโทรไป ระบุไปเลยค่ะว่าจะนัดแพทย์ *แผนกผิวหนัง*
พยาบาลก็จะถามเลขเวชระเบียน (HN) เราก็บอกไป แล้วเขาจะระบุวันนัดมาให้เราค่ะ
ติดต่อที่เบอร์ 02-200-3000 หรือ 02-201-1000
เป็นเดือนเลยค่ะกว่าจะได้ไปพบแพทย์ครั้งแรก
- ในส่วนของการไปครั้งแรกก็ตื่นเต้นมาก ไปคนเดียวลองผิดลองถูก ไปที่ อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ ชั้น 2 แผนกผิวหนัง
ก่อนเอาบัตรไปยื่นต้องชั่งน้ำหนักส่วนสูง และวัดความดันค่ะ
- การพบแพทย์ครั้งแรกจะได้ตรวจเพียงเริ่มต้นค่ะ ว่าจะทำโดยวิธีไหน สำหรับเราหมอให้ผ่า
แล้วหลังจากหายต้องมาฉีดซ้ำค่ะเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก
- รอวันที่แพทย์นัดใหม่เพื่อมาผ่าตัดค่ะ ใช้เวลา 1 เดือนเลยค่ะ
2. เมื่อถึงวันผ่า.....
นี่คือสภาพหูก่อนรักษาค่ะ

ในส่วนของการผ่าไม่เจ็บเลยค่ะ เจ็บแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้นค่ะ ยาชานี่ชาในพริบตารู้สึกทุกขั้นตอนแต่ไม่เจ็บค่ะ
3.การดูแลรักษาของเรา

- แพทย์ไม่ให้โดนน้ำ ไม่ให้เปิดแผล จนกว่าจะตัดไหม คือห้ามโดนน้ำ 2 อาทิตย์ค่ะ
- อาทิตย์แรกระวังขั้นสุด ไม่ให้โดนน้ำ จริงๆแล้วถ้าโดนน้ำหรือเปียก ให้เปิดแผลได้ค่ะ
แต่ต้องทำความสะอาดแผลโดยใช้น้ำเกลือหรือเบตาดีนทุกวัน และ ปิดแผลกลับตามเดิม แต่เรานั้นคือ อาทิตย์แรกไม่เปิดเลยค่ะ
- เมื่อครบอาทิตย์ เราพลาดสระผมจนเปียก ก็เลยต้องเปิดแผลค่ะ ก็หลังจากเปิดก็ทำแผลทุกวันตามที่กล่าวไปข้อ 2 ค่ะ

รูปนี้คือ หลังจากพลาดเปียกเลยต้องเปิดแผลค่ะ เนื่องจากไม่ได้เปิดทั้งอาทิตย์ แผลเลยแห้งดีค่ะ
4. ถึงเวลาตัดไหม....

หลังตัดไหม จะให้ปิดแผลไปต่อและห้ามเปิดด้วยค่ะ ห้ามโดนน้ำอีก 3 วัน ค่ะ ในส่วนเรานั้นทิ้งไว้ 4 วัน แล้วเปิดได้เลยค่ะ

รูปนี้คือสภาพหลัง แกะออกหลังจาก 4 วันค่ะ พยาบาลบอกแผลสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ในตอนนี้ยังไม่หายดีค่ะ ยังมีนัดไปดูแผลและคงต่อด้วยฉีดเพื่อให้เกิดขึ้นซ้ำอีก แต่เราอยากมารีวิวก่อน เพื่อใครที่กำลังตัดสินใจที่จะทำอยากให้รีบไปนัดไว้ก่อนเลยค่ะ
สรุปค่าใช้จ่าย
- ในวันแรกเสียค่าปรึกษา 50 บาท ค่ะ ค่าบริการผู้ป่วยนอก (ในเวลา) ถ้านอกเวลาหรือพรีเมี่ยมก็จะแพงขึ้นไปอีกค่ะ
- วันผ่า เสียทั้งหมด 2126 บาท ค่ะ สำหรับราคาไม่สามารถระบุได้แน่นอนนะคะ ต้องแล้วแต่กรณีของแผลไป
แนะนำปรึกษาคุณหมอก่อนค่ะ แล้วแต่ความยากง่ายและขนาดของแผลค่ะ

อยากให้กระทู้นี้มีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการหาข้อมูลค่ะ ทั้งนี้ตอนนี้ยังไม่หายดี เมื่อหายดีจะมาอัพเดทให้ดูค่ะ
ใครสงสัยอะไรถามได้เลยนะค่ะยินดีตอบจ้า
[CR] รีวิว 2018 " คีลอยด์ " แผลที่ใบหู การรักษาและวิธีการดูแลค่ะ
เริ่มเรื่องเลยละกันค่ะ... คือเราเป็นคีลอยด์ที่หูมาตั้งแต่อายุ 17 เพราะเกิดจากการที่เราไปเจาะหูที่ใบหู เริ่มจากการเป็นแผลเม็ดๆนูนๆเล็ก จนโตขึ้นเรื่อยๆ ปล่อยไว้จนตอนนี้อายุ 21 แล้วค่ะ อาการที่เป็นไม่เจ็บค่ะ แต่คันมากๆๆ เราก็เลยศึกษาตามหลายๆกระทู้เยอะๆมากๆค่ะ เพื่อประกอบการตัดสินใจ จนตัดสินใจทำที่ โรงพยาบาลรามา
>>>ในส่วนต่อไป เราขอเล่าเกี่ยวกับการรักษา , การดูแลรักษา ในแบบของเรานะคะ<<< (ค่าใช้จ่ายอยู่ด้านล่างสุดค่ะ)
1. ในส่วนของเราไม่เคยไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาค่ะ เลยเริ่มจากการลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ผ่านทางเว็บไซต์
วิธีการตามเว็บไซต์นี้ค่ะ
https://med.mahidol.ac.th/mr/th/manual_th
ในส่วนของการทำตรงนี้ก็เพื่อทำบัตรโรงพยาบาลค่ะ
คือเรากรอกข้อมูลผ่านเว็บเมื่อได้เลขประจำตัวแล้วก็สามารถไปรับบัตรที่โรงพยาบาลได้เลยค่ะ
* รับบัตร รพ. ได้ที่หน่วยลงทะเบียน งานเวชระเบียนดังนี้
1. อาคาร1 ชั้น1
2. อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ ชั้น 1
เมื่อได้เลขที่เวชระเบียน(HN) เราแนะนำให้รีบโทรติดต่อไปนัดแพทย์เลยค่ะ เพราะค่อนข้างใช้เวลานาน
บัตรค่อยไปเอาได้ค่ะ ให้รีบโทรไปนัดก่อน (ในส่วนของเราเลือกในเวลาค่ะ/ค่าใช้จ่ายจะถูกที่สุด)
แต่ต้องใช้ความอดทนในการรอ เมื่อเราโทรไป ระบุไปเลยค่ะว่าจะนัดแพทย์ *แผนกผิวหนัง*
พยาบาลก็จะถามเลขเวชระเบียน (HN) เราก็บอกไป แล้วเขาจะระบุวันนัดมาให้เราค่ะ
ติดต่อที่เบอร์ 02-200-3000 หรือ 02-201-1000
เป็นเดือนเลยค่ะกว่าจะได้ไปพบแพทย์ครั้งแรก
- ในส่วนของการไปครั้งแรกก็ตื่นเต้นมาก ไปคนเดียวลองผิดลองถูก ไปที่ อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ ชั้น 2 แผนกผิวหนัง
ก่อนเอาบัตรไปยื่นต้องชั่งน้ำหนักส่วนสูง และวัดความดันค่ะ
- การพบแพทย์ครั้งแรกจะได้ตรวจเพียงเริ่มต้นค่ะ ว่าจะทำโดยวิธีไหน สำหรับเราหมอให้ผ่า
แล้วหลังจากหายต้องมาฉีดซ้ำค่ะเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก
- รอวันที่แพทย์นัดใหม่เพื่อมาผ่าตัดค่ะ ใช้เวลา 1 เดือนเลยค่ะ
2. เมื่อถึงวันผ่า.....
นี่คือสภาพหูก่อนรักษาค่ะ
3.การดูแลรักษาของเรา
- อาทิตย์แรกระวังขั้นสุด ไม่ให้โดนน้ำ จริงๆแล้วถ้าโดนน้ำหรือเปียก ให้เปิดแผลได้ค่ะ
แต่ต้องทำความสะอาดแผลโดยใช้น้ำเกลือหรือเบตาดีนทุกวัน และ ปิดแผลกลับตามเดิม แต่เรานั้นคือ อาทิตย์แรกไม่เปิดเลยค่ะ
- เมื่อครบอาทิตย์ เราพลาดสระผมจนเปียก ก็เลยต้องเปิดแผลค่ะ ก็หลังจากเปิดก็ทำแผลทุกวันตามที่กล่าวไปข้อ 2 ค่ะ
รูปนี้คือ หลังจากพลาดเปียกเลยต้องเปิดแผลค่ะ เนื่องจากไม่ได้เปิดทั้งอาทิตย์ แผลเลยแห้งดีค่ะ
4. ถึงเวลาตัดไหม....
หลังตัดไหม จะให้ปิดแผลไปต่อและห้ามเปิดด้วยค่ะ ห้ามโดนน้ำอีก 3 วัน ค่ะ ในส่วนเรานั้นทิ้งไว้ 4 วัน แล้วเปิดได้เลยค่ะ
สรุปค่าใช้จ่าย
- ในวันแรกเสียค่าปรึกษา 50 บาท ค่ะ ค่าบริการผู้ป่วยนอก (ในเวลา) ถ้านอกเวลาหรือพรีเมี่ยมก็จะแพงขึ้นไปอีกค่ะ
- วันผ่า เสียทั้งหมด 2126 บาท ค่ะ สำหรับราคาไม่สามารถระบุได้แน่นอนนะคะ ต้องแล้วแต่กรณีของแผลไป
แนะนำปรึกษาคุณหมอก่อนค่ะ แล้วแต่ความยากง่ายและขนาดของแผลค่ะ
อยากให้กระทู้นี้มีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการหาข้อมูลค่ะ ทั้งนี้ตอนนี้ยังไม่หายดี เมื่อหายดีจะมาอัพเดทให้ดูค่ะ
ใครสงสัยอะไรถามได้เลยนะค่ะยินดีตอบจ้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น