คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ที่มาของพระนามนี้เข้าใจว่ามาจากพระราชพงศาวดารตอนที่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระเจ้าอุทุมพรทรงราชาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แล้ว เจ้าฟ้ากรมขุนอนุรักษ์มนตรี (พระเจ้าเอกทัศ) ซึ่งเป็นพระเชษฐาได้เสด็จมาประทับอยู่ที่พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ในพระราชวังหลวง
"ถึงณเดือน ๗ ขึ้น ๖ ค่ำ (จ.ศ. ๑๑๒๐ พ.ศ. ๒๓๐๑ ) จึงตั้งการพระราชพิธีปราบดาภิเษกณพระที่นั่งสรรเพ็ชญ์ปราสาท กรมขุนอนุรักษ์มนตรีเสด็จไปอยู่ณพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ครั้นแรมเดือน ๗ เสด็จพระราชดำเนินไปถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเชษฐาธิราชแล้ว ถึงเดือน ๘ ข้างขึ้น ก็เสด็จทรงเรือพระที่นั่งกิ่งเป็นกระบวนพยุหยาตรา ออกไปพระผนวชวัดเดิม แล้วเสด็จไปอยู่ณวัดประดู่" - พระราชพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)
ข้อความนี้อ่านเผินๆ ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องผิดธรรมเนียมมาก เพราะตามธรรมเนียมแล้วเจ้านายฝ่ายหน้าที่โสกันต์และผนวชแล้วสามารถอยู่ในพระราชวังหลวงได้จนพระชันษาไม่เกิน ๒๐ หลังจากนั้นย่อมไม่สามารถประทับในพระราชวังหลวงได้ ข้อสำคัญกว่าคือพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์เป็นมหาปราสาทซึ่งเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์เท่านั้น ไม่สามารถมีเจ้านายฝ่ายหน้าพระองค์อื่นไปประทับได้ การที่เจ้าฟ้ากรมขุนอนุรักษ์มนตรีไปประทับที่พระมหาปราสาทนั้นไม่ต่างอะไรกับแสดงออกว่าพระองค์ทรงมีสถานะไม่ต่างจากพระเจ้าแผ่นดินพระองค์หนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ พระราชพงศาวดารที่ชำระสมัยหลังจึงขยายความเหตุการณ์ตอนนี้ไปว่า
"ฝ่ายพระเชฐาธิราชกรมขุนอนุรักษมนตรีนั้น พระไทยปราถนาราชสมบัดิ มิได้เสดจ์ไปอยู่ที่อื่น เสดจ์ขึ้นอยู่บนพระธินั่งสุริยามรินทร สมเดจ์พระเจ้าแผ่นดินมิรู้ที่จะทำประการใด ด้วยร่วมพระอุทรเดียวกัน จึ่งทรงพระราชดำหริะจะยอมถวายราชสมบัดิ แลพระองค์เสดจ์ดำรงค์ราชอาณาจักรได้สิบวัน" - พระราชพงศาวดารฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน
จึงเชื่อว่าที่มาของพระนาม "สมเด็จพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์" "พระเจ้าพระที่นั่งสุริยามรินทร์" หรือ "พระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยามรินทร์" ของพระเจ้าเอกทัศ จึงมาจากเหตุนี้เองครับ บางที่อาจจะเรียกมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอทุมพรครองราชย์แล้วก็เป็นได้ โดยเรียกให้แยกจากพระเจ้าอุทุมพรตามที่ประทับ เป็นไปตามธรรมเนียมโบราณที่นิยมออกพระนามเจ้านายตามที่ประทับของเจ้านายพระองค์นั้นโดยไม่ออกพระนามโดยตรงครับ
นอกจากนี้สันนิษฐานว่าอาจจะทรงใช้พระที่นั่งองค์นี้เป็นที่ประทับเป็นประจำหลังครองราชย์อย่างกรณีพระเจ้าท้ายสระด้วย แต่ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนครับ
"ถึงณเดือน ๗ ขึ้น ๖ ค่ำ (จ.ศ. ๑๑๒๐ พ.ศ. ๒๓๐๑ ) จึงตั้งการพระราชพิธีปราบดาภิเษกณพระที่นั่งสรรเพ็ชญ์ปราสาท กรมขุนอนุรักษ์มนตรีเสด็จไปอยู่ณพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ครั้นแรมเดือน ๗ เสด็จพระราชดำเนินไปถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเชษฐาธิราชแล้ว ถึงเดือน ๘ ข้างขึ้น ก็เสด็จทรงเรือพระที่นั่งกิ่งเป็นกระบวนพยุหยาตรา ออกไปพระผนวชวัดเดิม แล้วเสด็จไปอยู่ณวัดประดู่" - พระราชพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)
ข้อความนี้อ่านเผินๆ ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องผิดธรรมเนียมมาก เพราะตามธรรมเนียมแล้วเจ้านายฝ่ายหน้าที่โสกันต์และผนวชแล้วสามารถอยู่ในพระราชวังหลวงได้จนพระชันษาไม่เกิน ๒๐ หลังจากนั้นย่อมไม่สามารถประทับในพระราชวังหลวงได้ ข้อสำคัญกว่าคือพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์เป็นมหาปราสาทซึ่งเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์เท่านั้น ไม่สามารถมีเจ้านายฝ่ายหน้าพระองค์อื่นไปประทับได้ การที่เจ้าฟ้ากรมขุนอนุรักษ์มนตรีไปประทับที่พระมหาปราสาทนั้นไม่ต่างอะไรกับแสดงออกว่าพระองค์ทรงมีสถานะไม่ต่างจากพระเจ้าแผ่นดินพระองค์หนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ พระราชพงศาวดารที่ชำระสมัยหลังจึงขยายความเหตุการณ์ตอนนี้ไปว่า
"ฝ่ายพระเชฐาธิราชกรมขุนอนุรักษมนตรีนั้น พระไทยปราถนาราชสมบัดิ มิได้เสดจ์ไปอยู่ที่อื่น เสดจ์ขึ้นอยู่บนพระธินั่งสุริยามรินทร สมเดจ์พระเจ้าแผ่นดินมิรู้ที่จะทำประการใด ด้วยร่วมพระอุทรเดียวกัน จึ่งทรงพระราชดำหริะจะยอมถวายราชสมบัดิ แลพระองค์เสดจ์ดำรงค์ราชอาณาจักรได้สิบวัน" - พระราชพงศาวดารฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน
จึงเชื่อว่าที่มาของพระนาม "สมเด็จพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์" "พระเจ้าพระที่นั่งสุริยามรินทร์" หรือ "พระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยามรินทร์" ของพระเจ้าเอกทัศ จึงมาจากเหตุนี้เองครับ บางที่อาจจะเรียกมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอทุมพรครองราชย์แล้วก็เป็นได้ โดยเรียกให้แยกจากพระเจ้าอุทุมพรตามที่ประทับ เป็นไปตามธรรมเนียมโบราณที่นิยมออกพระนามเจ้านายตามที่ประทับของเจ้านายพระองค์นั้นโดยไม่ออกพระนามโดยตรงครับ
นอกจากนี้สันนิษฐานว่าอาจจะทรงใช้พระที่นั่งองค์นี้เป็นที่ประทับเป็นประจำหลังครองราชย์อย่างกรณีพระเจ้าท้ายสระด้วย แต่ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมพระเจ้าเอกทัศถึงได้ฉายาว่า "สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์" คะ?