ใครจะไปปารีสระวังให้ดี อุทาหรณ์ !! โดนขโมยของถึงในห้องพักโรงแรม

เรื่องมีอยู่ว่า เราไปปารีสกันครั้งแรกค่ะ วันที่ 1-4/8/2018 ที่ผ่านมา ไปทั้งหมด 3 คน คือเพื่อนแฟนเราที่เป็นผู้หญิง 1 คน แล้วก็แฟนเรากับเรา เป็นทั้งหมด 3 คนค่ะ โรงแรมที่จองเอาไว้เป็นโรงแรม 3 ดาว ชื่อโรงแรมขออนุญาตไม่ปิดบังนะคะเพราะว่าจะได้เตือนภัยให้นักท่องเที่ยวคนอื่นได้ระวังกันด้วย Hotel Alexandrine Opera ค่ะ จองไว้ทั้งหมด 3 คืน สภาพแวดล้อมของโรงแรม คือโรงแรมไม่ใหญ่ค่ะ ทางเข้าจะเป็นประตูเล็กๆ ซึ่งทุกครั้งที่คนนอกจะเข้าต้องกดกริ่งเรียกพนักงานต้อนรับ ซึ่งนั่งอยุ่ตรงเคาน์เตอร์เค้าจะกดปลดล็อกให้ เราจึงสามารถเข้าไปได้ ซึ่งตอนเช็คอินเค้าแนะนำให้ฝากกุญแจทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกค่ะ และมีพนักงานเข้ากะตลอด 24 ชม. กะละ 1 คน ซึ่งเราจำได้ว่าจะเจอแต่ละกะที่เห็นวนๆกันมีอยู่ 3 คนค่ะ 1.ผู้หญิงผิวสี 2.ผุ้ชายหนุ่มผอมๆผิวขาว 3.ผู้ชายแก่อ้วนๆผิวขาว

เราเปิด 2 ห้อง เรานอนห้องเดียวกับแฟน ห้อง 11 และเพื่อนแฟนนอนห้อง 12 ค่ะ ผ่านไป 2 คืนแรกไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ด้วยความที่อ่านรีวิวในพันทิปมาเยอะ ที่เค้าเตือนกันว่าให้ระวังเวลาออกไปเดินข้างนอก หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่คนเยอะๆ หรือตามสถานีรถไฟ ให้ระวังกระเป๋าทรัพย์สิน เราระวังกันอย่างดีเลยค่ะ แต่อาจจะพลาดหน่อยตรงที่เวลาอยู่ในห้องคือด้วยความที่ปกติแล้วทุกโรงแรมจะเห็นว่าเค้ามีตู้เซฟให้ ที่นี่ก็มีค่ะ ตู้เล็กๆ เราเข้าใจว่าเค้ามีเพื่อให้ใส่ทรัพย์สินมีค่าที่ไม่ต้องการให้แม่บ้านยุ่งเกี่ยวเวลาทำความสะอาดในแต่ละวัน แต่ตลอดเวลาที่อยุ่ เราไม่ให้แม่บ้านทำความสะอาดเลยค่ะ เลยไม่ได้เก็บของเข้าเซฟ

ตลอดเวลาที่เราอยู่ที่นั่นตั้งแต่วันที่ 1 ที่ไปถึง ด้วยความที่โรงแรมห่างจากห้างลาฟาแยตแค่ 1 กิโลเท่านั้น เราจึงไปช้อปไปเดินเล่นแถวนั้นทุกวันเลยค่ะเพื่อนแฟนเราซื้อของเยอะมาก ซื้อทุกวัน ในช่วงเที่ยงเราจะไปเดินดูของเดินช้อปแล้วตอนเย็นจะไปเที่ยวสถานที่สำคัญของปารีสอื่นๆ และเราก็จะเอาของมาเก็บที่โรงแรมกันก่อน ซึ่งเราเดินเข้าเดินออกกันบ่อยพอสมควรค่ะ ฝากกุญแจทุกครั้ง พนักงานแต่ละกะ พอเห็นหน้าเรา 3 คนกดกริ่งหน้าโรงแรม เค้าถึงขั้นเตรียมกุญแจรอเลยค่ะไม่ต้องบอกเลขห้องเลย แล้ว 2 คืนแรกที่นอน เรากลับถึงโรงแรมตี 2 ทุกคืนเลยค่ะ เพราะว่าไปนั่งกินเบียร์กันมา

แล้วก็ถึงวันเกิดเรื่องค่ะ พอถึงวันที่ 3 ช่วงเที่ยงเราทำเหมือนเดิมออกไปช้อป นำของกลับมาเก็บไว้ที่โรงแรมตอน 18.00 และ 18.30 ก็ออกไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ลูฟว์กันค่ะ แต่ด้วยความที่วันที่ 4 เรามีบินกลับตอน 11.35 แต่เรามีธุระคือต้องไปทำ tax refund ของที่ซื้อมาที่สนามบิน และก็กลัวปารีสจะรถติดตอนเช้า กลัวตกเครื่องค่ะว่าง่ายๆ เลยคุยกันไว้ว่าจะออกจากโรงแรม 7 โมง ซึ่งคืนนี้เราจะกลับเร็ว หลังจากทานข้าวเสร็จจึงนั่งแท็กซี่จากลูฟว์มาที่โรงแรมค่ะ แต่แฟนเราดันอยากกินไอติมซะงั้น พอแท็กซี่จอดหน้าโรงแรม ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่งเกือบๆ 5 ทุ่ม แฟนเราจึงบอกให้เพื่อนเค้าเข้าโรงแรมไปก่อนเลย เดี๋ยวเรากับแฟนจะเดินไปหาซื้อไอติมที่มินิมาร์ท ไปประมาณครึ่งชั่วโมงได้ค่ะ พอเดินกลับมาที่โรงแรมก็งงมาก เพราะเพื่อนเค้ายังนั่งอยู่ตรงล็อบบี้อยู่เลยค่ะ คือเพื่อนแฟนเราพูด-ฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ค่ะ เค้าเล่าว่าตอนเค้ามาถึง มาขอกุญแจตรงเคาน์เตอร์พนักงานผู้ชายที่ตัวอ้วนๆแก่ๆขาวๆ ที่เข้ากะอยุ่ตอนนั้น เค้าบอกว่า one-two แต่ผู้ชายคนนั้นก้หยิบกุญแจห้อง 21 22 ให้ เหมือนถ่วงเวลา เพราะปกติเค้าจำเลขห้องเราได้อยู่แล้ว พอได้กุญแจมาเสร็จ พนักงานผู้ชายก็โทรไปหาใครไม่รู้ เค้าฟังไม่ออก และเค้าก้ไม่กล้าเดินขึ้นไปบนห้อง เพราะว่าตอนนั้นมีผู้ชายผิวสีนั่งอยู่ตรงล็อบบี้คนนึง ด้วยความที่เค้าอ่านเรื่องโจรมาเยอะลักษณะประมาณนี้ ก็เลยคิดมากกลัวว่าผู้ชายจะเดินตามขึ้นไป และในตอนนั้นก้มีผู้หญิงใส่ชุดเดรสสีดำ ผิวหน้าผิวกายเป็นกระเยอะๆ ขาว ดูแล้วเป็นคนยุโรปแน่ๆ แต่พวกเราไม่เคยเจอ เดินลงมาจากชั้นบนพูดกับเค้าประมาณว่าให้รีบขึ้นไปบนห้องแต่เค้าฟังไม่ออกว่าให้ขึ้นไปทำอะไร เค้าจึงยิ่งกลัวก็เลยบอกว่าขอรอเพื่อนก่อน ก็เลยนั่งรอเรากับแฟนอยู่ข้างล่าง

พอแฟนกับเราไปถึงผู้หญิงชุดเดรสสีดำก็เข้ามาคุยกับแฟนเราประมาณว่าให้รีบขึ้นไปดูบนห้องว่ามีอะไรหายรึป่าว ซึ่งจากลิฟต์กับบันไดถ้าเดินมาตามเลขห้อง จะถึงห้องเรา และห้องเพื่อนแฟนก็จะอยู่ถัดมา ก็เลยเข้าไปเช็คของห้องเราก่อน ผู้หญิงคนนั้นก้เดินตามขึ้นมาด้วย ปรากฎว่าพอเข้าไป พบว่ากระเป๋าสตางค์หลุยส์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่หายไปยกถุงยกกล่องเลย กระเป๋าสตางค์ผู้ชายที่ซื้อมาใหม่ยังไม่ได้ใส่อะไรเข้าไป  เงินยูโร 150 เงินไทย 300 แล้วก็พวกต่างหู นาฬิกาต่างๆของเรา ห้องโดนรื้อกระจายเลยค่ะ สภาพเหมือนละครไทยตอนโจรขึ้นบ้าน    


แป้บนึงนะคะโทรศัพท์ร้อนแล้ว เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่