12 สิงหาคม 2003 เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นั่งอยู่บนรถคันเดียวกัน ที่กำลังขับตรงไปโอลด์แทรฟฟอร์ด
วันนี้ แมนฯยูไนเต็ด จะเปิดตัว โรนัลโด้ เป็นครั้งแรกให้สื่อมวลชนอังกฤษได้รู้จัก
ดาวเตะโปรตุเกส วัย 18 ปีคนนี้ เพิ่งย้ายมาจากสปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าแพงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของผู้เล่นดาวรุ่ง
ระหว่างอยู่บนรถ เฟอร์กี้ ถามขึ้นมาว่า "คริสเตียโน่ นายจะใส่เสื้อเบอร์อะไร"
โรนัลโด้ตอบกลับว่า ขอเบอร์ 28 ได้ไหมที่ยังว่างอยู่ เพราะตอนอยู่สปอร์ติ้ง ลิสบอน เขาก็ใส่เบอร์นี้
"ไม่" เฟอร์กี้สวนกลับมา
"เบอร์ของนายกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือเบอร์ 7"
---------------------------------------------
ย้อนกลับไปก่อนนั้น 7 วัน ... อังคารที่ 5 สิงหาคม 2003
ที่ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีนัดคุยกับ ฮอร์เก้ เมนเดส เอเยนต์ส่วนตัวของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะวัย 18 ปี ที่มีเสียงร่ำลือว่ามีพรสวรรค์สูงมาก
ตลอดการคุยกันสองชั่วโมง เมนเดส บอกเฟอร์กี้ว่า สปอร์ติ้ง ลิสบอน ต้นสังกัด พร้อมขายโรนัลโด้ แต่ต้องการเงิน 12.24 ล้านปอนด์ (17 ล้านยูโร)
ตัวเลขนี้ ทำให้เฟอร์กี้ลังเลใจ เพราะในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ไม่เคยมีนักเตะอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่แพงขนาดนี้ มันเป็นราคาที่เอาเรื่องเหมือนกัน
นอกจากนั้น ถ้าคิดดีๆ โรนัลโด้เหลือสัญญากับสปอร์ติ้ง แค่ 1 ปี บางทีแมนฯยูไนเต็ด อาจจะรอดูเชิง ให้นักเตะหมดสัญญาไปเอง แล้วค่อยเซ็นฟรีก็ยังได้ ไม่ต้องเสียค่าตัวอะไรเลย นี่ก็เป็นแผนที่น่าสนใจ
ในวันนั้น จึงไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆเกิดขึ้น แมนฯยูไนเต็ด ขอเวลาตัดสินใจก่อน
2 วันต่อมา ... พฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม
ทีมปีศาจแดง ลงสนามเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่น กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คนที่แมนฯยูไนเต็ด เพิ่งไปเจรจาซื้อขายมาแบบสดๆร้อนๆ ลงเล่นเป็นปีกซ้ายให้กับเจ้าถิ่น โดยคนที่ทำหน้าที่ประกบเขาโดยตรง คือจอห์น โอเช ซึ่งเป็นแบ็กขวา
เกมนัดนั้น น้อยคนจะจำสกอร์ได้ เพราะไฮไลท์สำคัญไม่ได้อยู่ที่ผลการแข่งขัน แต่อยู่ที่ฟอร์มของเด็ก 18 ที่ชื่อโรนัลโด้
เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างมหัศจรรย์ ความเร็วในการเลี้ยงจัดจ้าน มีพลังในการยิงไกล และที่สำคัญความสามารถเฉพาะตัวเหลือกิน ลูกทริกสับขา ไขว้หลอก ตอกส้น มันเนียนตาเอามากๆ
จอห์น โอเช โดนหลอกแล้ว หลอกเล่า จนหัวทิ่มหัวตำไม่รู้กี่ครั้ง
"โถ่พระเจ้า จอห์น ประกบมันให้แน่น อย่าให้หลุดไปได้เซ่!" เฟอร์กี้ ตะโกนออกมาจากซุ้มม้านั่งสำรอง
แต่ถึงจะตะโกนบอกอย่างไร จอห์น โอเช ก็โดนเผาเละอยู่ดี
รอย คีน เผยว่า จบเกมจอห์น โอเช ควรไปหาหมอ เพราะคงโดนหลอกจนมึนหัว วิงเวียนศีรษะไปหมดแล้ว ส่วน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็บอกว่า เขาอยากส่งเครื่องช่วยหายใจให้ โอเช เพราะดูอาการแล้วคงหมดสภาพน่าดู
หลังจบครึ่งแรก เฟอร์กี้ บอกสตาฟฟ์ ให้ไปตาม ปีเตอร์ เคนย่อน ซีอีโอของสโมสร ที่นั่งอยู่บนบ็อกซ์วีไอพีมาให้เดี๋ยวนี้
"อเล็กซ์ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?" เคนย่อนถามเมื่อมาถึง
"เราจะไม่ออกไปจากสนามแห่งนี้ ถ้าเราไม่ได้เซ็นเจ้าเด็กคนนี้ไปด้วย"
"เขาเก่งขนาดนั้นเลยหรอ?" เคนย่อนสงสัย
"จอห์น โอเช มันจะเป็นไมเกรนตายอยู่แล้วเนี่ยะ จัดการเซ็นสัญญาเขาให้ได้!"
ในครึ่งหลังของเกมนั้น สปอร์ติ้ง ลิสบอนเล่นได้ดี ก่อนคว้าชัยได้สบายๆ ด้วยสกอร์ 3-1
ส่วนโรนัลโด้นั้น ทุกนาทีที่ลงสนาม เขาเล่นได้อย่างเหลือเชื่อ มันยิ่งทำให้ ทีมใหญ่ทั่วยุโรป พร้อมแล้วที่จะไล่ล่าซื้อตัวมาร่วมทีมให้ได้
ที่สนามโชเซ่ อัลวาลาเด้ บ้านของสปอร์ติ้ง ลิสบอนในวันนั้นมีซิกี้ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการกีฬาของบาร์เซโลน่าไปชมเกมด้วย บาร์ซ่าตอนนี้เตรียมรุก ปิดบัญชีดึงโรนัลโด้มาให้ได้
ขณะที่เรอัล มาดริด ไม่ต้องพูดถึง เล็งโรนัลโด้เอาไว้เป็นปีแล้ว มีการส่งแมวมองมาเช็กฟอร์มแล้วหลายหน
สองทีมจากสเปน พวกเขาเอาแน่ๆ ซึ่งมันก็แปลว่า แมนฯยูไนเต็ด รู้แล้วว่าพวกเขาช้าไม่ได้
"เรอัล มาดริด พร้อมจ่ายทันที 8 ล้านปอนด์" เคนย่อนรีบคาบข่าวมาบอกเฟอร์กี้
ทีมปีศาจแดงกำลังเสียเปรียบ อย่าลืมว่า ที่เรอัล มาดริด มีคาร์ลอส เคยรอซ กุนซือชาวโปรตุเกสคุมอยู่ ยิ่งมีสิทธิชักจูงนักเตะชาติเดียวกันไปร่วมทีมได้ง่าย
การเจรจาต่อรอง เต็มไปด้วยความเข้มข้น หลายๆทีมยื่นข้อเสนอให้สปอร์ติ้ง ลิสบอนพิจารณากันเป็นพัลวัน
ในขณะเดียวกัน ตอนนี้นักเตะปีศาจแดงที่แข่งจบเกมไปแล้ว ทุกคนอาบน้ำ แต่งตัว เดินขึ้นมายังรถบัสครบเรียบร้อย แต่เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง รถก็ยังไม่ออกเสียที
นั่นเพราะเฟอร์กี้ ทำอย่างที่เขาพูด "เขาจะไม่ออกจากสนาม โดยที่ไม่ได้เซ็นสัญญาโรนัลโด้" ดังนั้น นักเตะในทีมก็ต้องรอ จนกว่าการเจรจาสิ้นสุด
มีนักเตะบางคนในทีมบ่นโอดโอยที่ต้องนั่งรอบนรถเฉยๆ แต่ในเมื่อมันคือประกาศิตของเฟอร์กูสัน สุดท้าย รถบัสก็ต้องจอดอยู่แบบนั้น
กลับมาที่ สถานการณ์ซื้อขาย ตอนนี้ เฟอร์กูสัน รู้ดีกว่า โรนัลโด้ คือเพชรเม็ดงาม ดังนั้นมันไม่ใช่เวลาที่จะมาหวงเงินอีกแล้ว ราคา 12.24 ล้านปอนด์ ก็ต้องยอมจ่าย
เมื่อตัดสินใจพร้อมจ่ายเงิน ขั้นต่อไป คือโน้มน้าวให้ตัวนักเตะมาอยู่ปีศาจแดงให้ได้ เขาจะพูดอย่างไร ให้นักเตะปฏิเสธข้อเสนอจากทีมอื่นทั้งหมด และเลือกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วิธีที่เฟอร์กี้ทำ เขาตัดสินใจเข้าไปคุยกับโรนัลโด้ตรงๆที่ห้องแต่งตัว ไม่ต้องผ่านใครทั้งนั้น เขาต้องการบอกความรู้สึกตรงๆด้วยตัวเอง
"ฟังนะ ฉันต้องการนายเดี๋ยวนี้"
"ฉันไม่การันตีว่านายจะได้ลงตัวจริงทุกนัด แต่นายจะได้อยู่กับทีมชุดใหญ่ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา แต่ฉันสัญญาว่าจะดูแลนายให้ดีที่สุด"
สำหรับโรนัลโด้ เขาตัดสินใจได้เด็ดขาดตอนนั้น ว่าจะมาอยู่แมนฯยูไนเต็ด เพราะการที่ผู้จัดการทีมระดับโลก มาพูดกับเด็ก 18 ปี แบบนี้ มันทำให้เขามั่นใจว่า นี่คือสโมสรที่เขาจะฝากชีวิตไว้ได้
เมื่อการเจรจาเสร็จสิ้น เฟอร์กูสัน เดินขึ้นมายังรถบัส มีนักเตะตะโกนถามว่า "บอส เราได้ตัวเขามั้ย"
เฟอร์กูสัน ไม่ตอบ เพียงแค่ยิ้มเท่านั้น
แต่แค่รอยยิ้มมันก็ทำให้ทุกคนได้รู้ว่า เด็ก 18 ที่พวกเขาเพิ่งปะทะด้วยไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา จะมาเป็นสมาชิกใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
------------------------------------
สำหรับโรนัลโด้ ในช่วงปีแรก ที่ย้ายมาอยู่อังกฤษ เขาต้องต่อสู้กับเสียงวิจารณ์มากมาย
โดนหาว่า มีแต่เทคนิคอย่างเดียว แต่ไร้ความเฉียบคมบ้าง บางคนก็หาว่าเขาเป็นของปลอมทำเหมือน บางคนก็บอกว่าระดับฝีเท้ายังไม่ถึง
แต่แม้จะโดนรุมด่าขนาดไหน คนคนหนึ่ง ที่มั่นใจในตัวโรนัลโด้เสมอมา คือเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้ คือจะดูแลโรนัลโด้ให้ดีที่สุด
ดูแลในที่นี้ ไม่ใช่แค่เรื่องฟอร์มการเล่น แต่ดูแลจิตใจของนักเตะด้วย
เฟอร์กี้ให้ความเชื่อใจโรนัลโด้ มากชนิดที่ตัวโรนัลโด้เอง ยังไม่กล้าเชื่อใจตัวเองขนาดนั้น
เริ่มแรกสุดเขามอบเบอร์ 7 ที่เคยเป็นของเดวิด เบ็คแฮม ให้ทันที ซึ่งเป็นเบอร์ในตำนาน ทั้งๆที่ตัวโรนัลโด้เอง ยังไม่มั่นใจว่า ดีพอจะใส่เบอร์ 7 หรือไม่ เขาอุตส่าห์เลือกเบอร์ 28 จะได้เพลย์เซฟ แต่เฟอร์กี้ไม่ยอม
รวมถึง เรื่องที่โรนัลโด้ ซ้อมร่วมกับทีมไม่ถึง 1 สัปดาห์ แต่เฟอร์กี้ ส่งลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรก พบโบลตันทันที มีคนตั้งคำถามเยอะมาก ว่าเด็ก 18 อย่างโรนัลโด้ พร้อมแล้วหรือ แต่เฟอร์กี้ไม่แคร์
ขณะที่สตาฟฟ์คนอื่นๆ แนะนำให้แมนฯยูไนเต็ด ส่งตัวโรนัลโด้ กลับไปสปอร์ติ้ง ลิสบอนแบบยืมตัวก่อน 1 ปี เพื่อโอกาสลงเล่นที่มากขึ้น แต่เฟอร์กูสัน กลับยืนยันว่า นักเตะจะอยู่กับทีมชุดใหญ่ ไม่ให้ใครยืมตัวทั้งสิ้น
ทีละนิด ทีละนิด มันทำให้โรนัลโด้ ค่อยๆสร้างความมั่นใจขึ้นมา
ด้วยพรสวรรค์ที่มีอยู่แล้ว บวกกับความเชื่อใจเต็มร้อยจากผู้จัดการทีม มันทำให้เขาก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้
และมาจนวันนี้ คงไม่มีใครในโลก ไม่รู้จักชายที่ชื่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ จริงไหม
----------------------
บทสรุปของเรื่องนี้ คือ ต่อให้เป็นอัจฉริยะมาจากไหน ก็ต้องการความเชื่อใจจากใครสักคนอยู่ดี
ทุกคน มีช่วงเวลาอ่อนแอ และช่วงไม่มั่นใจกันทั้งนั้น แต่ถ้ามีใครคนหนึ่ง อยู่เคียงข้างเสมอ และคอยบอกว่า "ทำได้" "กูรู้ว่าทำได้" อะไรๆมันก็ง่ายขึ้น
โรนัลโด้ โชคดี มีเฟอร์กี้ ที่เชื่อมั่นในตัวเขาเสมอ
แล้วคุณล่ะครับ มีเฟอร์กี้ ของตัวเองบ้างหรือเปล่า ?
#Ronaldo #AlexFerguson #ManchesterUnited #MUFC

เครดิต จากเพจ วิเคราะห์บอลจริงจัง
https://www.facebook.com/jingjungfootball/
พอดีเห็นกระทู้แนะนำเป็นเรื่องนี้ แต่จำได้ว่าเคยอ่านแล้วและเซฟเก็บไว้ด้วยเลยขอมาแปะนะคนับ
5 สิงหาคม ปฏิบัติการ ล่าเบอร์ 7
วันนี้ แมนฯยูไนเต็ด จะเปิดตัว โรนัลโด้ เป็นครั้งแรกให้สื่อมวลชนอังกฤษได้รู้จัก
ดาวเตะโปรตุเกส วัย 18 ปีคนนี้ เพิ่งย้ายมาจากสปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าแพงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของผู้เล่นดาวรุ่ง
ระหว่างอยู่บนรถ เฟอร์กี้ ถามขึ้นมาว่า "คริสเตียโน่ นายจะใส่เสื้อเบอร์อะไร"
โรนัลโด้ตอบกลับว่า ขอเบอร์ 28 ได้ไหมที่ยังว่างอยู่ เพราะตอนอยู่สปอร์ติ้ง ลิสบอน เขาก็ใส่เบอร์นี้
"ไม่" เฟอร์กี้สวนกลับมา
"เบอร์ของนายกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือเบอร์ 7"
---------------------------------------------
ย้อนกลับไปก่อนนั้น 7 วัน ... อังคารที่ 5 สิงหาคม 2003
ที่ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีนัดคุยกับ ฮอร์เก้ เมนเดส เอเยนต์ส่วนตัวของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะวัย 18 ปี ที่มีเสียงร่ำลือว่ามีพรสวรรค์สูงมาก
ตลอดการคุยกันสองชั่วโมง เมนเดส บอกเฟอร์กี้ว่า สปอร์ติ้ง ลิสบอน ต้นสังกัด พร้อมขายโรนัลโด้ แต่ต้องการเงิน 12.24 ล้านปอนด์ (17 ล้านยูโร)
ตัวเลขนี้ ทำให้เฟอร์กี้ลังเลใจ เพราะในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ไม่เคยมีนักเตะอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่แพงขนาดนี้ มันเป็นราคาที่เอาเรื่องเหมือนกัน
นอกจากนั้น ถ้าคิดดีๆ โรนัลโด้เหลือสัญญากับสปอร์ติ้ง แค่ 1 ปี บางทีแมนฯยูไนเต็ด อาจจะรอดูเชิง ให้นักเตะหมดสัญญาไปเอง แล้วค่อยเซ็นฟรีก็ยังได้ ไม่ต้องเสียค่าตัวอะไรเลย นี่ก็เป็นแผนที่น่าสนใจ
ในวันนั้น จึงไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆเกิดขึ้น แมนฯยูไนเต็ด ขอเวลาตัดสินใจก่อน
2 วันต่อมา ... พฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม
ทีมปีศาจแดง ลงสนามเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่น กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คนที่แมนฯยูไนเต็ด เพิ่งไปเจรจาซื้อขายมาแบบสดๆร้อนๆ ลงเล่นเป็นปีกซ้ายให้กับเจ้าถิ่น โดยคนที่ทำหน้าที่ประกบเขาโดยตรง คือจอห์น โอเช ซึ่งเป็นแบ็กขวา
เกมนัดนั้น น้อยคนจะจำสกอร์ได้ เพราะไฮไลท์สำคัญไม่ได้อยู่ที่ผลการแข่งขัน แต่อยู่ที่ฟอร์มของเด็ก 18 ที่ชื่อโรนัลโด้
เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างมหัศจรรย์ ความเร็วในการเลี้ยงจัดจ้าน มีพลังในการยิงไกล และที่สำคัญความสามารถเฉพาะตัวเหลือกิน ลูกทริกสับขา ไขว้หลอก ตอกส้น มันเนียนตาเอามากๆ
จอห์น โอเช โดนหลอกแล้ว หลอกเล่า จนหัวทิ่มหัวตำไม่รู้กี่ครั้ง
"โถ่พระเจ้า จอห์น ประกบมันให้แน่น อย่าให้หลุดไปได้เซ่!" เฟอร์กี้ ตะโกนออกมาจากซุ้มม้านั่งสำรอง
แต่ถึงจะตะโกนบอกอย่างไร จอห์น โอเช ก็โดนเผาเละอยู่ดี
รอย คีน เผยว่า จบเกมจอห์น โอเช ควรไปหาหมอ เพราะคงโดนหลอกจนมึนหัว วิงเวียนศีรษะไปหมดแล้ว ส่วน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็บอกว่า เขาอยากส่งเครื่องช่วยหายใจให้ โอเช เพราะดูอาการแล้วคงหมดสภาพน่าดู
หลังจบครึ่งแรก เฟอร์กี้ บอกสตาฟฟ์ ให้ไปตาม ปีเตอร์ เคนย่อน ซีอีโอของสโมสร ที่นั่งอยู่บนบ็อกซ์วีไอพีมาให้เดี๋ยวนี้
"อเล็กซ์ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?" เคนย่อนถามเมื่อมาถึง
"เราจะไม่ออกไปจากสนามแห่งนี้ ถ้าเราไม่ได้เซ็นเจ้าเด็กคนนี้ไปด้วย"
"เขาเก่งขนาดนั้นเลยหรอ?" เคนย่อนสงสัย
"จอห์น โอเช มันจะเป็นไมเกรนตายอยู่แล้วเนี่ยะ จัดการเซ็นสัญญาเขาให้ได้!"
ในครึ่งหลังของเกมนั้น สปอร์ติ้ง ลิสบอนเล่นได้ดี ก่อนคว้าชัยได้สบายๆ ด้วยสกอร์ 3-1
ส่วนโรนัลโด้นั้น ทุกนาทีที่ลงสนาม เขาเล่นได้อย่างเหลือเชื่อ มันยิ่งทำให้ ทีมใหญ่ทั่วยุโรป พร้อมแล้วที่จะไล่ล่าซื้อตัวมาร่วมทีมให้ได้
ที่สนามโชเซ่ อัลวาลาเด้ บ้านของสปอร์ติ้ง ลิสบอนในวันนั้นมีซิกี้ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการกีฬาของบาร์เซโลน่าไปชมเกมด้วย บาร์ซ่าตอนนี้เตรียมรุก ปิดบัญชีดึงโรนัลโด้มาให้ได้
ขณะที่เรอัล มาดริด ไม่ต้องพูดถึง เล็งโรนัลโด้เอาไว้เป็นปีแล้ว มีการส่งแมวมองมาเช็กฟอร์มแล้วหลายหน
สองทีมจากสเปน พวกเขาเอาแน่ๆ ซึ่งมันก็แปลว่า แมนฯยูไนเต็ด รู้แล้วว่าพวกเขาช้าไม่ได้
"เรอัล มาดริด พร้อมจ่ายทันที 8 ล้านปอนด์" เคนย่อนรีบคาบข่าวมาบอกเฟอร์กี้
ทีมปีศาจแดงกำลังเสียเปรียบ อย่าลืมว่า ที่เรอัล มาดริด มีคาร์ลอส เคยรอซ กุนซือชาวโปรตุเกสคุมอยู่ ยิ่งมีสิทธิชักจูงนักเตะชาติเดียวกันไปร่วมทีมได้ง่าย
การเจรจาต่อรอง เต็มไปด้วยความเข้มข้น หลายๆทีมยื่นข้อเสนอให้สปอร์ติ้ง ลิสบอนพิจารณากันเป็นพัลวัน
ในขณะเดียวกัน ตอนนี้นักเตะปีศาจแดงที่แข่งจบเกมไปแล้ว ทุกคนอาบน้ำ แต่งตัว เดินขึ้นมายังรถบัสครบเรียบร้อย แต่เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง รถก็ยังไม่ออกเสียที
นั่นเพราะเฟอร์กี้ ทำอย่างที่เขาพูด "เขาจะไม่ออกจากสนาม โดยที่ไม่ได้เซ็นสัญญาโรนัลโด้" ดังนั้น นักเตะในทีมก็ต้องรอ จนกว่าการเจรจาสิ้นสุด
มีนักเตะบางคนในทีมบ่นโอดโอยที่ต้องนั่งรอบนรถเฉยๆ แต่ในเมื่อมันคือประกาศิตของเฟอร์กูสัน สุดท้าย รถบัสก็ต้องจอดอยู่แบบนั้น
กลับมาที่ สถานการณ์ซื้อขาย ตอนนี้ เฟอร์กูสัน รู้ดีกว่า โรนัลโด้ คือเพชรเม็ดงาม ดังนั้นมันไม่ใช่เวลาที่จะมาหวงเงินอีกแล้ว ราคา 12.24 ล้านปอนด์ ก็ต้องยอมจ่าย
เมื่อตัดสินใจพร้อมจ่ายเงิน ขั้นต่อไป คือโน้มน้าวให้ตัวนักเตะมาอยู่ปีศาจแดงให้ได้ เขาจะพูดอย่างไร ให้นักเตะปฏิเสธข้อเสนอจากทีมอื่นทั้งหมด และเลือกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วิธีที่เฟอร์กี้ทำ เขาตัดสินใจเข้าไปคุยกับโรนัลโด้ตรงๆที่ห้องแต่งตัว ไม่ต้องผ่านใครทั้งนั้น เขาต้องการบอกความรู้สึกตรงๆด้วยตัวเอง
"ฟังนะ ฉันต้องการนายเดี๋ยวนี้"
"ฉันไม่การันตีว่านายจะได้ลงตัวจริงทุกนัด แต่นายจะได้อยู่กับทีมชุดใหญ่ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา แต่ฉันสัญญาว่าจะดูแลนายให้ดีที่สุด"
สำหรับโรนัลโด้ เขาตัดสินใจได้เด็ดขาดตอนนั้น ว่าจะมาอยู่แมนฯยูไนเต็ด เพราะการที่ผู้จัดการทีมระดับโลก มาพูดกับเด็ก 18 ปี แบบนี้ มันทำให้เขามั่นใจว่า นี่คือสโมสรที่เขาจะฝากชีวิตไว้ได้
เมื่อการเจรจาเสร็จสิ้น เฟอร์กูสัน เดินขึ้นมายังรถบัส มีนักเตะตะโกนถามว่า "บอส เราได้ตัวเขามั้ย"
เฟอร์กูสัน ไม่ตอบ เพียงแค่ยิ้มเท่านั้น
แต่แค่รอยยิ้มมันก็ทำให้ทุกคนได้รู้ว่า เด็ก 18 ที่พวกเขาเพิ่งปะทะด้วยไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา จะมาเป็นสมาชิกใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
------------------------------------
สำหรับโรนัลโด้ ในช่วงปีแรก ที่ย้ายมาอยู่อังกฤษ เขาต้องต่อสู้กับเสียงวิจารณ์มากมาย
โดนหาว่า มีแต่เทคนิคอย่างเดียว แต่ไร้ความเฉียบคมบ้าง บางคนก็หาว่าเขาเป็นของปลอมทำเหมือน บางคนก็บอกว่าระดับฝีเท้ายังไม่ถึง
แต่แม้จะโดนรุมด่าขนาดไหน คนคนหนึ่ง ที่มั่นใจในตัวโรนัลโด้เสมอมา คือเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้ คือจะดูแลโรนัลโด้ให้ดีที่สุด
ดูแลในที่นี้ ไม่ใช่แค่เรื่องฟอร์มการเล่น แต่ดูแลจิตใจของนักเตะด้วย
เฟอร์กี้ให้ความเชื่อใจโรนัลโด้ มากชนิดที่ตัวโรนัลโด้เอง ยังไม่กล้าเชื่อใจตัวเองขนาดนั้น
เริ่มแรกสุดเขามอบเบอร์ 7 ที่เคยเป็นของเดวิด เบ็คแฮม ให้ทันที ซึ่งเป็นเบอร์ในตำนาน ทั้งๆที่ตัวโรนัลโด้เอง ยังไม่มั่นใจว่า ดีพอจะใส่เบอร์ 7 หรือไม่ เขาอุตส่าห์เลือกเบอร์ 28 จะได้เพลย์เซฟ แต่เฟอร์กี้ไม่ยอม
รวมถึง เรื่องที่โรนัลโด้ ซ้อมร่วมกับทีมไม่ถึง 1 สัปดาห์ แต่เฟอร์กี้ ส่งลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรก พบโบลตันทันที มีคนตั้งคำถามเยอะมาก ว่าเด็ก 18 อย่างโรนัลโด้ พร้อมแล้วหรือ แต่เฟอร์กี้ไม่แคร์
ขณะที่สตาฟฟ์คนอื่นๆ แนะนำให้แมนฯยูไนเต็ด ส่งตัวโรนัลโด้ กลับไปสปอร์ติ้ง ลิสบอนแบบยืมตัวก่อน 1 ปี เพื่อโอกาสลงเล่นที่มากขึ้น แต่เฟอร์กูสัน กลับยืนยันว่า นักเตะจะอยู่กับทีมชุดใหญ่ ไม่ให้ใครยืมตัวทั้งสิ้น
ทีละนิด ทีละนิด มันทำให้โรนัลโด้ ค่อยๆสร้างความมั่นใจขึ้นมา
ด้วยพรสวรรค์ที่มีอยู่แล้ว บวกกับความเชื่อใจเต็มร้อยจากผู้จัดการทีม มันทำให้เขาก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้
และมาจนวันนี้ คงไม่มีใครในโลก ไม่รู้จักชายที่ชื่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ จริงไหม
----------------------
บทสรุปของเรื่องนี้ คือ ต่อให้เป็นอัจฉริยะมาจากไหน ก็ต้องการความเชื่อใจจากใครสักคนอยู่ดี
ทุกคน มีช่วงเวลาอ่อนแอ และช่วงไม่มั่นใจกันทั้งนั้น แต่ถ้ามีใครคนหนึ่ง อยู่เคียงข้างเสมอ และคอยบอกว่า "ทำได้" "กูรู้ว่าทำได้" อะไรๆมันก็ง่ายขึ้น
โรนัลโด้ โชคดี มีเฟอร์กี้ ที่เชื่อมั่นในตัวเขาเสมอ
แล้วคุณล่ะครับ มีเฟอร์กี้ ของตัวเองบ้างหรือเปล่า ?
#Ronaldo #AlexFerguson #ManchesterUnited #MUFC
เครดิต จากเพจ วิเคราะห์บอลจริงจัง
https://www.facebook.com/jingjungfootball/
พอดีเห็นกระทู้แนะนำเป็นเรื่องนี้ แต่จำได้ว่าเคยอ่านแล้วและเซฟเก็บไว้ด้วยเลยขอมาแปะนะคนับ