ต้อนรับ ‘วันแมวโลก’ เปิดความเชื่ออัศจรรย์แบบเหมียวๆ นับตั้งแต่ยุคโบราณ อียิปต์นับถือแมวดั่งเทพเจ้า ใครฆ่าถือเป็นความผิดร้ายแรงถึงชีวิต ไปจนถึงเชื่อว่าเป็นข้ารับใช้ของปิศาจ คือการสูงสุดไปถึงต่ำสุด
© ไทยรัฐออนไลน์ ภาพประกอบข่าว
วันที่ 8 สิงหาคม ของทุกปี ได้รับการประกาศให้เป็น วันแมวโลก (International Cat Day) โดยกองทุนเพื่อสวัสดิการสัตว์ระหว่างประเทศ (IFAW) มาตั้งแต่ปี 2545 เพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงจำนวนของแมวที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ รวมถึงเพื่อกระตุ้นให้คนรักแมวเฉลิมฉลองความรักและมิตรภาพที่มีต่อกัน
แมวเป็นสัตว์ที่ผูกพันกับมนุษย์มาเป็นเวลานานนับพันปี ทำให้มีการสั่งสมความเชื่อเกี่ยวกับแมวอย่างหลากหลาย มีทั้งเรื่องเรื่องดีและไม่ดีปะปนกัน ต่างวัฒนธรรมต่างความเชื่อ แต่อัศจรรย์จนไม่น่าเชื่อ นี่หรือฝีมือเจ้าเหมียว
ไล่เรียงมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ แมวเป็นตัวแทนของเทพเจ้า มีการนับถือเทวีแมว หรือจันทราเทวี เพราะเป็นมเหสีของสุริยเทพ การฆ่าแมวถือเป็นความผิดร้ายแรงถึงชีวิตกันเลยทีเดียว และหากแมวในครอบครัวไหนตาย จะมีการไว้ทุกข์ให้กับแมว และทำเป็นมัมมี่ เพราะพวกเขาเชื่อเรื่องเกี่ยวกับโลกหน้า เมื่อวิญญาณแมวตัวนั้นกลับมาอีกครั้งจะได้มีร่างให้ฟื้นคืนชีพนั่นเอง
ในประเทศญี่ปุ่นเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์นำโชค จากตำนานที่เล่าถึงหญิงชราคนหนึ่ง ซึ่งมีฐานะยากจนมาก แบ่งอาหารเท่าที่มีให้กับแมวที่เธอรัก จนกระทั่งที่สุดแล้วต้องนำแมวไปปล่อย เธอนอนร้องไห้เสียใจ ในคืนนั้นเองหญิงชราฝันเห็นแมวบอกให้ปั้นดินเหนียวเป็นรูปแมว แล้วจะมีแต่โชคลาภ เมื่อเธอปั้นแมวมักมีคนมาขอซื้อไปจนหมด ทำให้เธอสามารถนำแมวที่เธอรักกลับมาดูแลได้ดังเดิม จึงทำให้เราเห็นแมวกวักอย่างในทุกวันนี้ แมวกวักสำหรับร้านค้าจะต้องกวักมีซ้าย แต่หากเรียกความโชคดีจะต้องกวักมือขวา
ส่วนในยุโรปมีความเชื่อแปลกๆ ว่า หากนำแมวไปนอนบนท้องของหญิงที่ตั้งครรภ์อยู่ จะสามารถลบไฝ หูด หรือรอยตำหนิที่ผิวหนัง และใบหน้าของทารกที่จะเกิดมาได้ แต่หากแมวเข้าใกล้ทารกที่คลอดออกมาแล้วเชื่อกันว่าจะสูดลมหายใจของทารกไปจนหมด เพราะความอิจฉาที่ทารกเกิดใหม่ได้รับความสนใจมากกว่า และหากเลี้ยงแมวให้อยู่ดีกินดีในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว จะได้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์
นอกจากนี้ในประเทศอังกฤษยังเชื่อว่า แมวสามารถพยากรณ์สภาพอากาศได้อีกด้วย หากแมวตะกุยพรมหรือผ้าม่าน หมายความว่าในวันนั้นจะมีลมพัดแรง หากแมวจามหรือทำความสะอาดหู หมายความว่าฝนจะตก และหากแมวนอนหงายท้องหน้าเตาผิงจะเกิดแม่คะนิ้งในคืนนั้น
ในแถบยุโรปตะวันออก จะบูชายัญแมวด้วยการฝังทั้งเป็น หรือมัดแมวด้วยข้าวโพดแล้วทุบจนตายในไร่ จะทำให้ผลผลิตสมบูรณ์ และเก็บเกี่ยวได้มากขึ้น
ในประเทศมีความเชื่อถึงสาเหตุที่แมวกับหนูไม่ถูกกัน ตามตำนานเล่าว่า เทวดาต้องการกำหนดสัตว์ประจำปีนักษัตรจึงประกาศให้สรรพสัตว์เตรียมพร้อมเข้าแข่งขัน แมวไม่ได้ฟังที่เทวดาประกาศ จึงไปถามหนูว่าการแข่งขันมีขึ้นในวันใด ส่วนหนูต้องการตัดคู่แข่งจึงแกล้งบอกวันผิด ทำให้แมวพลาดการเป็นสัญลักษณ์ปีนักษัตร และผูกใจเจ็บกับหนูนับแต่นั้นเป็นต้นมา
นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออื่นๆ อย่างแมว 9 ชีวิต ที่มาจากการเอาตัวรอดได้อย่างไม่น่าเชื่อของแมว หรือเป็นข้ารับใช้ของปิศาจ เพราะแมวดูเป็นสัตว์ที่มีความลึกลับ และมักจะเป็นสัตว์เลี้ยงของหญิงสาวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดในช่วงยุคกลาง ยิ่งส่งเสริมความเชื่อว่าแมวมีพลังอำนาจมืด
ส่วนความเชื่อเกี่ยวกับแมวของไทย เชื่อกันว่าหากแมวกระโดดข้ามโลงศพของใครจะทำให้ฟื้นจากความตาย และกลายเป็นผีที่ดุร้าย แต่ตามตำราโบราณของไทยสามารถเลี้ยงไว้ได้ เพราะแมวที่ดำ "เลี้ยงไว้จะดีเป็นเศรษฐีมีทรัพย์หลาย” แต่ห้ามเลี้ยง แมวขาว “จักเกิดโกลี มักอัปปรีศรีเสาอยู่โรยรา อย่าเลี้ยงไว้บ่มีดี เอาไปเสียจงไกลตา”
แมวเรียกฝน หรือก็คือ “พิธีแห่นางแมว” ซึ่งเป็นความเชื่อของเกษตรกรไทยทั้งแถบภาคกลางและภาคอีสาน ส่วนใหญ่จะแห่กันในช่วงฝนแล้ง โดยมีความเชื่อกันว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีอำนาจลึกลับ ซึ่งสามารถติดต่อกับธรรมชาติได้ โดยทั่วไปนิยมใช้แมวสีสวาดเพศเมีย มาใส่ในกรงแบกหาม พร้อมกับร้องรำกันไปทั่วทั้งหมู่บ้าน เมื่อผ่านไปที่ไหนก็จะสาดน้ำใส่แมว
‘แมว’ สัตว์เลี้ยงสุดน่ารักที่อยู่กับมนุษย์มานานแสนนาน แถมมีนิสัยเย่อหยิ่ง เดาใจไม่ได้ ไม่แปลกเลยที่หลายวัฒนธรรมจะเชื่อกันว่า แมวมีพลังลึกลับเหนือธรรมชาติ แต่หากความเชื่อไหนที่ทำร้ายทารุณแมว ไม่ควรสืบทอด และหันมารักเพื่อนร่วมโลกที่มอบความสดใสและเสียงหัวเราะมาอย่างยาวนาน เมี้ยว~
ไทยรัฐออนไลน์
ต้อนรับ ‘วันแมวโลก’ เปิดความเชื่อแสนอัศจรรย์แบบเหมียวๆ
วันที่ 8 สิงหาคม ของทุกปี ได้รับการประกาศให้เป็น วันแมวโลก (International Cat Day) โดยกองทุนเพื่อสวัสดิการสัตว์ระหว่างประเทศ (IFAW) มาตั้งแต่ปี 2545 เพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงจำนวนของแมวที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ รวมถึงเพื่อกระตุ้นให้คนรักแมวเฉลิมฉลองความรักและมิตรภาพที่มีต่อกัน
แมวเป็นสัตว์ที่ผูกพันกับมนุษย์มาเป็นเวลานานนับพันปี ทำให้มีการสั่งสมความเชื่อเกี่ยวกับแมวอย่างหลากหลาย มีทั้งเรื่องเรื่องดีและไม่ดีปะปนกัน ต่างวัฒนธรรมต่างความเชื่อ แต่อัศจรรย์จนไม่น่าเชื่อ นี่หรือฝีมือเจ้าเหมียว
ไล่เรียงมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ แมวเป็นตัวแทนของเทพเจ้า มีการนับถือเทวีแมว หรือจันทราเทวี เพราะเป็นมเหสีของสุริยเทพ การฆ่าแมวถือเป็นความผิดร้ายแรงถึงชีวิตกันเลยทีเดียว และหากแมวในครอบครัวไหนตาย จะมีการไว้ทุกข์ให้กับแมว และทำเป็นมัมมี่ เพราะพวกเขาเชื่อเรื่องเกี่ยวกับโลกหน้า เมื่อวิญญาณแมวตัวนั้นกลับมาอีกครั้งจะได้มีร่างให้ฟื้นคืนชีพนั่นเอง
ในประเทศญี่ปุ่นเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์นำโชค จากตำนานที่เล่าถึงหญิงชราคนหนึ่ง ซึ่งมีฐานะยากจนมาก แบ่งอาหารเท่าที่มีให้กับแมวที่เธอรัก จนกระทั่งที่สุดแล้วต้องนำแมวไปปล่อย เธอนอนร้องไห้เสียใจ ในคืนนั้นเองหญิงชราฝันเห็นแมวบอกให้ปั้นดินเหนียวเป็นรูปแมว แล้วจะมีแต่โชคลาภ เมื่อเธอปั้นแมวมักมีคนมาขอซื้อไปจนหมด ทำให้เธอสามารถนำแมวที่เธอรักกลับมาดูแลได้ดังเดิม จึงทำให้เราเห็นแมวกวักอย่างในทุกวันนี้ แมวกวักสำหรับร้านค้าจะต้องกวักมีซ้าย แต่หากเรียกความโชคดีจะต้องกวักมือขวา
ส่วนในยุโรปมีความเชื่อแปลกๆ ว่า หากนำแมวไปนอนบนท้องของหญิงที่ตั้งครรภ์อยู่ จะสามารถลบไฝ หูด หรือรอยตำหนิที่ผิวหนัง และใบหน้าของทารกที่จะเกิดมาได้ แต่หากแมวเข้าใกล้ทารกที่คลอดออกมาแล้วเชื่อกันว่าจะสูดลมหายใจของทารกไปจนหมด เพราะความอิจฉาที่ทารกเกิดใหม่ได้รับความสนใจมากกว่า และหากเลี้ยงแมวให้อยู่ดีกินดีในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว จะได้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์
นอกจากนี้ในประเทศอังกฤษยังเชื่อว่า แมวสามารถพยากรณ์สภาพอากาศได้อีกด้วย หากแมวตะกุยพรมหรือผ้าม่าน หมายความว่าในวันนั้นจะมีลมพัดแรง หากแมวจามหรือทำความสะอาดหู หมายความว่าฝนจะตก และหากแมวนอนหงายท้องหน้าเตาผิงจะเกิดแม่คะนิ้งในคืนนั้น
ในแถบยุโรปตะวันออก จะบูชายัญแมวด้วยการฝังทั้งเป็น หรือมัดแมวด้วยข้าวโพดแล้วทุบจนตายในไร่ จะทำให้ผลผลิตสมบูรณ์ และเก็บเกี่ยวได้มากขึ้น
ในประเทศมีความเชื่อถึงสาเหตุที่แมวกับหนูไม่ถูกกัน ตามตำนานเล่าว่า เทวดาต้องการกำหนดสัตว์ประจำปีนักษัตรจึงประกาศให้สรรพสัตว์เตรียมพร้อมเข้าแข่งขัน แมวไม่ได้ฟังที่เทวดาประกาศ จึงไปถามหนูว่าการแข่งขันมีขึ้นในวันใด ส่วนหนูต้องการตัดคู่แข่งจึงแกล้งบอกวันผิด ทำให้แมวพลาดการเป็นสัญลักษณ์ปีนักษัตร และผูกใจเจ็บกับหนูนับแต่นั้นเป็นต้นมา
นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออื่นๆ อย่างแมว 9 ชีวิต ที่มาจากการเอาตัวรอดได้อย่างไม่น่าเชื่อของแมว หรือเป็นข้ารับใช้ของปิศาจ เพราะแมวดูเป็นสัตว์ที่มีความลึกลับ และมักจะเป็นสัตว์เลี้ยงของหญิงสาวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดในช่วงยุคกลาง ยิ่งส่งเสริมความเชื่อว่าแมวมีพลังอำนาจมืด
ส่วนความเชื่อเกี่ยวกับแมวของไทย เชื่อกันว่าหากแมวกระโดดข้ามโลงศพของใครจะทำให้ฟื้นจากความตาย และกลายเป็นผีที่ดุร้าย แต่ตามตำราโบราณของไทยสามารถเลี้ยงไว้ได้ เพราะแมวที่ดำ "เลี้ยงไว้จะดีเป็นเศรษฐีมีทรัพย์หลาย” แต่ห้ามเลี้ยง แมวขาว “จักเกิดโกลี มักอัปปรีศรีเสาอยู่โรยรา อย่าเลี้ยงไว้บ่มีดี เอาไปเสียจงไกลตา”
แมวเรียกฝน หรือก็คือ “พิธีแห่นางแมว” ซึ่งเป็นความเชื่อของเกษตรกรไทยทั้งแถบภาคกลางและภาคอีสาน ส่วนใหญ่จะแห่กันในช่วงฝนแล้ง โดยมีความเชื่อกันว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีอำนาจลึกลับ ซึ่งสามารถติดต่อกับธรรมชาติได้ โดยทั่วไปนิยมใช้แมวสีสวาดเพศเมีย มาใส่ในกรงแบกหาม พร้อมกับร้องรำกันไปทั่วทั้งหมู่บ้าน เมื่อผ่านไปที่ไหนก็จะสาดน้ำใส่แมว
‘แมว’ สัตว์เลี้ยงสุดน่ารักที่อยู่กับมนุษย์มานานแสนนาน แถมมีนิสัยเย่อหยิ่ง เดาใจไม่ได้ ไม่แปลกเลยที่หลายวัฒนธรรมจะเชื่อกันว่า แมวมีพลังลึกลับเหนือธรรมชาติ แต่หากความเชื่อไหนที่ทำร้ายทารุณแมว ไม่ควรสืบทอด และหันมารักเพื่อนร่วมโลกที่มอบความสดใสและเสียงหัวเราะมาอย่างยาวนาน เมี้ยว~
ไทยรัฐออนไลน์